เรื่องมันมีอยู่ว่า ด้วยความที่เรียนจบทำงานกันมาซักพัก เพื่อนฝูงที่มีก็เงียบหายหน้าหายตากันไป นานๆจะได้เจอกันที
เมื่อสภาเม้าส์บังเกิดขึ้น ก็มีมติในที่ประชุมเกิดขึ้นว่าจัดสักทริปไหม หาทริปให้หน่อยซิ บอกให้จัดมาๆ ได้! ขอมาเจ๊ก็จัดให้คร้าาาา
ว่าแต่จะไปไหนดีหล่ะ ที่เดินทางสะดวกและปลอดภัยเนื่องจากเป็นแก๊งชะนีหน้าตาดีๆทั้งนั้น (อันนี้คิดเอง5555)
ไปนี่เลยละกัน สิงคโปร์ ประเทศน่ารักๆไม่ไกลมาก การเดินทางสะดวก ว่าแล้วก็จัดการนัดรวมพล
นัดไปนัดมาได้สิริรวม สอง! อ้าววเฮ้ยยยยเพื่อนนนนนน เนื่องจากเป็นแพลนตั้งแต่ต้นปี แต่ทริปอยู่ปลายปี ก็พอเข้าใจได้ โอเคร
เอาว่ะสองก็สอง จัดการจองทริปหาตั๋วเรื่องบินซะเลย แต่สุดท้ายเราก็ไม่เดียวดายนะจ๊ะ ได้เพื่อนร่วมทริปมาเพิ่มเป็นสาวน้อยที่น่ารัก
อีกสามนาง รวมสมาชิกทั้งทริปนี้อยู่ที่ชะนีห้านางจ๊ะ
เริ่มจากการหาตั๋วเครื่องบินกันก่อนกันก่อน หนึ่งใน app ที่แนะนำเลยคือ Traveloka เราว่ามันสะดวกดี
ตรงที่เราเห็นราคาเท่าไหร่ จบที่ราคานั้นไม่มีบวกเพิ่มอีก แถมชอบมีให้ใส่โค้ชแล้วจะลดราคาอีกค่าาาา อันนี้ีดีจริงชอบมากกก
ไม่ได้ค่าโฆษณาแต่อย่างใด 55555 เราเดินทางช่วงวันที่ 1-4 ธันวาคม เป็นช่วงหยุดยาวพอดี โดยปกติตั๋วเครื่องบินจะราคาแพง
ช่วงปลายปีหรือเทศกาล แต่ดิฉันได้ตั๋วเครื่องบินรวมไปกลับอยู่ที่ประมาณ 2,800 บาท ของสายการบิน Jetstar (ไม่โหลดกระเป๋า)
สามารถถือขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 7 กก. ถือว่าเป็นราคาที่โอเค สบายใจ
เราเดินทางออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ 21.51 น. ถึงสนามบินชางกี ประเทศสิงคโปร์ 01.04 น. ใช้เวลา
เดินทางสองชั่วโมงนิดๆ เนื่องจากเดินทางกลางคืนไม่สะดวกนัก พวกเราเลยปักหลักอยู่ที่สนามบิน เพื่อรอรถไฟใต้ดิน
เข้าเมืองเปิดในตอนเช้า รถไฟเที่ยวแรกเปิด 05.00 น. เวลาของที่สิงคโปร์เร็วกว่าที่ไทยหนึ่งชั่วโมง ดังนั้นก็จะมีเวลา
งีบเล็กน้อย
"นอนเถิดนะคนดี ห้องนอนเรากว้างขวางและติดร้านกาแฟ"
เนื่องจากคุณเพื่อนหิวน้ำมาตลอดทาง ภาระกิจตามหาน้ำจึงบังเกิด ราคาน้ำเปล่าที่นี่แพงพอๆกับน้ำอัดลม
เดินไปเดินมาสุดท้ายก็เจอเซเว่นที่คุ้นเคย ซึ่งที่ดิฉันและคุณเพื่อนได้มา คือมาม่า กะชานมหนึ่งขวด ที่แปลกมากคือ
เซเว่นที่นี่ไม่มีที่กดน้ำแข็งหรือน้ำร้อนนะจ๊ะ! แล้วดิฉันจะทำยังไงกะอีมาม่าแห้งนี่ คงจะกรุบกรอบน่าดู หลังจากสปีคกับ
พนักงานซักพักก็ได้ใจความว่าให้ไปรับน้ำร้อนฟรีจาก สตาร์บัค! เป็นมาม่าที่มีความเก๋มากจริงๆ
"มาม่า 1.7 เหรียญ ประมาณ 40 บาทไทย คิดถึงมาม่า 6 บาทจัง "
"ในส่วนของยาหม่องตาเสือนั้น ก็มีเช่นกัน"
เมื่อท้องอิ่มก็กลับมางีบได้เล็กน้อย เวลา 04.30 ก็ล้างหน้าแปรงฟัน เตรียมความพร้อม รถไฟ
สำหรับเข้าเมืองจะอยู่ที่ Terminal2 โดยจะต้องผ่าน ตม. ในTerminalที่เครื่องบินลงออกมาก่อนค่อยไปหารถไฟฟ้า
เปลี่ยนสถานนีไปยังTerminal2 ตอนแรกมีความพลาดโดยขึ้นรถเปลี่ยนสถานีไปออก ตม. ตรงTerminal2 เลย (เครื่องบิน
เราจอดTerminal1) เค้าเลยบอกว่าต้องออก ตม.ที่ Terminal เดิมที่ยูมานะจ๊ะ
การเดินทางที่ประเทศสิงคโปร์แนะนำให้ซื้อบัตร EZ-link จะสะดวกมาก สามารถใช้จ่ายได้ทั้งรถไฟ รถเมล์ ร้านสะดวกซื้อ
และการเดินทางที่สะดวกและรวดเร็วที่สุดคือพวกรถไฟใต้ดิน รถแต่ละสายจะเชื่อมกันหมดเปลี่ยนขบวนได้โดยไม่ต้องแตะบัตรออก
ถ้าใช้บัตรEZ-link จะราคาถูกกว่าซื้อบัตรแบบเที่ยวเดียว ทั้งทริปนี้เราเดินทางในสิงคโปร์โดยผ่านบัตรทั้งหมด อยู่ที่ 13 SGD
"หลังจากออกมาได้สำเร็จก็มาต่อรถไฟเข้าเมืองกันเลย"
"เจ้าบัตรนี่มันช่างสะดวกเสียจริง อยากให้บ้านเราเป็นระบบบัตรเดียวแบบนี้จัง"
เราจะไปยัง Chaina town ก่อนเนื่องจากเราพักที่โรงแรม capsule pod boutique hostel ไปฝากกระเป๋าอันรุงรัง
โดยเริ่มต้นขึ้นรถไฟสายฟ้าสีเขียวจากสนามบินไปลงที่สถานนี Tanah Merah (EW4) จากนั้นไปอีกชานชาลาหนึ่งเพื่อเปลี่ยนสาย
ไปยังขบวนที่ปลายทางเป็น Joo Koon ให้ลงสถานนี Outram park (EW16) เปลี่ยนขบวนอีกครั้งไปขึ้นยังรถไฟสายสีม่วงแทน
ไปยัง China town (NE4)
ความจริงมีการเดินทางที่เร็วกว่านั้นคือนั่งรถไฟจากสถานีสนามบินไปลงยังสถานี EXPO (DT35) และจากนั้นใช้เส้นทางใหม่
Downtown Line สายสีฟ้าไปลงยังสถานี Chaina town (DT19)ได้เลย วิธีนี้ค้นพบตอนขากลับแบบพีคๆ เดี๋ยวมาเล่าให้ฟัง
แต่ถ้าใครชอบชมวิวเมืองก็วิธีแรกเลย วิธีที่สองไม่เห็นอะไรนั่งมืดๆไปดีตรงไม่ต้องเปลี่ยนหลายสถานี สบาย
"
รถไฟจะไปโคราชช ตดดังป๊าดดมาสิงคโปร์ "
"สวัสดีไชน่าทาว์ ข้ามาล้าววว วะฮะฮ่าาาา"
"บ้านเมืองสะอาดตา น่ารัก"
"เดินไปเดินมา เอ๊ะนี่มันเยาวราชรึเปล่านะ"
"โคมไฟเต็มไปหมดดด"
โรงแรมที่เราพักเป็นโรงแรมแคปซูล คือจะบอกว่าเป็นโรงแรมที่เราชอบมาก สะอาด เตียงนุ่มสบายมาก ราคาต่อคืนอยู่ที่
695 บาท เราพักที่นี่ทั้งหมด 2 คืน ตอนจองจะมีให้เลือกว่าจะเป็นห้องหญิงล้วน หรือห้องรวมก็ได้แล้วแต่ความชอบ หุหุ
โรงแรมชื่อ capsule pod boutique hostel เปิดให้เช็คอินได้เวลา 15.00 น. และเช็คเอ้าท์ 10.00 น. ดังนั้นเราจึงจะฝากของไว้
แล้วค่อยกลับมาเช็คอินในตอนเย็น
เนื่องจากกองทัพต้องเดินด้วยท้องหลังจากฝากของเรียบร้อย เราจึงมุ่งหน้าไปยังร้านก๋วยเตี๋ยวที่เราเดินผ่านมา มื้อแรกของวัน
ที่สิงคโปร์ถ้าไม่นับรวมมาม่าเมื่อคืน ก็นี่เลยก๋วยเตี๋ยวไก่ (ตอนแรกเราเข้าใจว่ามันเป็นเป็ดเพราะหนังมันแดงๆ) เป็นก๋วยเตี๋ยวที่
ให้เยอะและก็อร่อยดี นี่แอบชำเลืองหาพริกบ่นนิดนึงด้วยความเคยชิน ไม่มีจ๊ะมีแต่พริกดองก็อร่อยดี ราคามื้อนี้อยู่ที่ 4 SGD
หรือประมาณ 100 บาท (อยากรู้ราคาอะไรคิดแบบง่ายๆเอา 25 คูณไปจะได้เป็นเงินบาท)
" โรงแรมมีบริการน้ำดื่ม กาแฟ และน้ำมะม่วงเย็นฟรี อร่อยดี"
"มื้อแรกของวันประเดิมด้วย บะหมี่ ไก่ ไอ่ ไอ่"
หลังจากเติมพลังแล้วแพลนการท่องเที่ยวของเรา สถานที่เที่ยวทั้งหมดที่ไปในรอบนี้คือ
Fort Canning >>Henderson wave >>Cavenagh Bridge >>Merlion>>Helix Bridge >>
Marina bay>>Garden By The Bay>>Universal studio>>อื่นๆเท่าที่จะเก็บได้
เริ่มการเดินทางไปยัง Fort Canning โดยรถไฟใต้ดินสายสีม่วงจาก China town (NE4) ลงที่สถานี Dhoby Ghaut (NE6)
ใช้ทางออก B จากนั้นเดินข้ามถนน Penang road มาเจอ Park mall (ตอนเราไปปิดซ่อมอยู่เป็นสังกะสีกั้นๆตลอดทาง)แล้ว
เดินต่อไปทางซ้าย จะเจอป้ายบอกทางและทางเข้าอุโมง
"เดินตามหาเจ้าอุโมง นี่เองทางเข้า"
"เจอแล้วฮะ เจ้าอุโมงงง "
"เดินขึ้นมาด้านบนก็จะเป็นสวนๆ "
ต่อจาก Fort Canning >>Henderson wave เราเดินทางโดยใช้รถเมล์ การเดินทางในสิงคโปร์แนะนำให้
โหลด app ชื่อว่า citymapper จะเป็นแอฟที่สะดวกมากเราจะสามารถเช็คได้ว่าที่ที่เราจะไปมีรถอะไรผ่านบ้าง ใช้เวลากี่นาที
ใช้เส้นทางไหนเร็วที่สุด รถจะเข้ามายังสถานีในอีกกี่นาที เช็คได้หมดทั้งรถไฟใต้ดิน รถเมลล์ อันนี้คือพี่เราแนะนำมาอีกที ดีจริงๆ
รถเมล์ที่เราจะขึ้นคือสาย 175 เปิดแอฟนำทางไปเรื่อยๆ เวลาขึ้นรถเมล์ต้องแตะบัตรโดยสารทั้งขาขึ้นและขาลง
ไม่งั้นเค้าจะคิดราคาเราเต็มระยะทาง นั้นชมวิวไปเพลินๆ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที ก็จะมาถึง ทางเข้าสวน
Talok blangah อ่านว่าอะไรไม่แน่ใจเลยอ่านว่า สวนตาล็อก บ็อก บ็อก (อย่าไปถามใครด้วยชื่อนี้เชียว)
"ราชรถมารับฉันที นั่งสายอะไรดีนะ"
"App ที่บอกหน้าตาประมาณนี้ "
"ฉันยู่แห่งหนใดของโลก พี่ชายมารับฉันที"
"อ้าวสวัสดีสวนTalok blangah "
เดินผ่านสวนไปซักพักก็จะเจอทางขึ้นไปบน Henderson wave เป็นทางขึ้นเนินนิดหน่อย เอาใหม่!
เป็นทางขึ้นเขานิดหน่อยพอได้ออกกำลัง เราถึงสะพานประมานเที่ยงพอดีอากกาศร้อนและแดดจัดมาก ตัวสะพานเป็นไม้
ด้านล่างเป็นถนนวิวสวยมากกก แนะนำอยากให้มาจะได้วิวอีกแบบคือ ดี
"ถึงแล้วค่ะ สะพานรักของสองเรา อ้าว!ไม่ใช่
"วิวถนนถ่ายจากบนสะพาน"
"Hello, will you go out with me? แวะฝึกภาษาอังกฤษบ้าง "
"สะพานสวย น่านอนเล่น เอ้ยเดินเล่น"
"วิวสะพานถ่ายจากบนถนน"
ข้าวเช้าที่สะสมมาพลังกำลังจะหมด ก่อนออกเดินทางต่อต้องหาที่แวะเติมพลัง เมนูที่พี่เรารีเควสมา
ให้ นี่เลย "บักกุ๊ดเต๋" ร้านนี้เด็ดมากชื่อร้าน Old street bak kut teh อร่อยมากจริงๆทั้งแบบแห้ง แบบน้ำและผักดองก็ดีงาม
ไม่แพ้กัน เรากินที่สาขาTiong Bahru Plaza โดยนั่งรถเมล์มาจาก Henderson wave ตรงนี้จำสายรถเมล์มิได้ข้าน้อยต้องขออภัย
เราใช้ app นำทางมา นั่งมาเรื่อยๆก็จะเจอเจ้าห้างนี้พอดี สิริรวมมื้อนี้อยู่ที่ 33.7 SGD
"bak kut teh อร่อยยย"
[CR] เที่ยวสิงคโปร์ หลักพัน ความมันส์ หลักหมื่น
เรื่องมันมีอยู่ว่า ด้วยความที่เรียนจบทำงานกันมาซักพัก เพื่อนฝูงที่มีก็เงียบหายหน้าหายตากันไป นานๆจะได้เจอกันที
เมื่อสภาเม้าส์บังเกิดขึ้น ก็มีมติในที่ประชุมเกิดขึ้นว่าจัดสักทริปไหม หาทริปให้หน่อยซิ บอกให้จัดมาๆ ได้! ขอมาเจ๊ก็จัดให้คร้าาาา
ว่าแต่จะไปไหนดีหล่ะ ที่เดินทางสะดวกและปลอดภัยเนื่องจากเป็นแก๊งชะนีหน้าตาดีๆทั้งนั้น (อันนี้คิดเอง5555)
นัดไปนัดมาได้สิริรวม สอง! อ้าววเฮ้ยยยยเพื่อนนนนนน เนื่องจากเป็นแพลนตั้งแต่ต้นปี แต่ทริปอยู่ปลายปี ก็พอเข้าใจได้ โอเคร
เอาว่ะสองก็สอง จัดการจองทริปหาตั๋วเรื่องบินซะเลย แต่สุดท้ายเราก็ไม่เดียวดายนะจ๊ะ ได้เพื่อนร่วมทริปมาเพิ่มเป็นสาวน้อยที่น่ารัก
อีกสามนาง รวมสมาชิกทั้งทริปนี้อยู่ที่ชะนีห้านางจ๊ะ
ตรงที่เราเห็นราคาเท่าไหร่ จบที่ราคานั้นไม่มีบวกเพิ่มอีก แถมชอบมีให้ใส่โค้ชแล้วจะลดราคาอีกค่าาาา อันนี้ีดีจริงชอบมากกก
ไม่ได้ค่าโฆษณาแต่อย่างใด 55555 เราเดินทางช่วงวันที่ 1-4 ธันวาคม เป็นช่วงหยุดยาวพอดี โดยปกติตั๋วเครื่องบินจะราคาแพง
ช่วงปลายปีหรือเทศกาล แต่ดิฉันได้ตั๋วเครื่องบินรวมไปกลับอยู่ที่ประมาณ 2,800 บาท ของสายการบิน Jetstar (ไม่โหลดกระเป๋า)
สามารถถือขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 7 กก. ถือว่าเป็นราคาที่โอเค สบายใจ
เดินทางสองชั่วโมงนิดๆ เนื่องจากเดินทางกลางคืนไม่สะดวกนัก พวกเราเลยปักหลักอยู่ที่สนามบิน เพื่อรอรถไฟใต้ดิน
เข้าเมืองเปิดในตอนเช้า รถไฟเที่ยวแรกเปิด 05.00 น. เวลาของที่สิงคโปร์เร็วกว่าที่ไทยหนึ่งชั่วโมง ดังนั้นก็จะมีเวลา
งีบเล็กน้อย
เดินไปเดินมาสุดท้ายก็เจอเซเว่นที่คุ้นเคย ซึ่งที่ดิฉันและคุณเพื่อนได้มา คือมาม่า กะชานมหนึ่งขวด ที่แปลกมากคือ
เซเว่นที่นี่ไม่มีที่กดน้ำแข็งหรือน้ำร้อนนะจ๊ะ! แล้วดิฉันจะทำยังไงกะอีมาม่าแห้งนี่ คงจะกรุบกรอบน่าดู หลังจากสปีคกับ
พนักงานซักพักก็ได้ใจความว่าให้ไปรับน้ำร้อนฟรีจาก สตาร์บัค! เป็นมาม่าที่มีความเก๋มากจริงๆ
สำหรับเข้าเมืองจะอยู่ที่ Terminal2 โดยจะต้องผ่าน ตม. ในTerminalที่เครื่องบินลงออกมาก่อนค่อยไปหารถไฟฟ้า
เปลี่ยนสถานนีไปยังTerminal2 ตอนแรกมีความพลาดโดยขึ้นรถเปลี่ยนสถานีไปออก ตม. ตรงTerminal2 เลย (เครื่องบิน
เราจอดTerminal1) เค้าเลยบอกว่าต้องออก ตม.ที่ Terminal เดิมที่ยูมานะจ๊ะ
การเดินทางที่ประเทศสิงคโปร์แนะนำให้ซื้อบัตร EZ-link จะสะดวกมาก สามารถใช้จ่ายได้ทั้งรถไฟ รถเมล์ ร้านสะดวกซื้อ
และการเดินทางที่สะดวกและรวดเร็วที่สุดคือพวกรถไฟใต้ดิน รถแต่ละสายจะเชื่อมกันหมดเปลี่ยนขบวนได้โดยไม่ต้องแตะบัตรออก
ถ้าใช้บัตรEZ-link จะราคาถูกกว่าซื้อบัตรแบบเที่ยวเดียว ทั้งทริปนี้เราเดินทางในสิงคโปร์โดยผ่านบัตรทั้งหมด อยู่ที่ 13 SGD
"หลังจากออกมาได้สำเร็จก็มาต่อรถไฟเข้าเมืองกันเลย"
โดยเริ่มต้นขึ้นรถไฟสายฟ้าสีเขียวจากสนามบินไปลงที่สถานนี Tanah Merah (EW4) จากนั้นไปอีกชานชาลาหนึ่งเพื่อเปลี่ยนสาย
ไปยังขบวนที่ปลายทางเป็น Joo Koon ให้ลงสถานนี Outram park (EW16) เปลี่ยนขบวนอีกครั้งไปขึ้นยังรถไฟสายสีม่วงแทน
ไปยัง China town (NE4)
ความจริงมีการเดินทางที่เร็วกว่านั้นคือนั่งรถไฟจากสถานีสนามบินไปลงยังสถานี EXPO (DT35) และจากนั้นใช้เส้นทางใหม่
Downtown Line สายสีฟ้าไปลงยังสถานี Chaina town (DT19)ได้เลย วิธีนี้ค้นพบตอนขากลับแบบพีคๆ เดี๋ยวมาเล่าให้ฟัง
แต่ถ้าใครชอบชมวิวเมืองก็วิธีแรกเลย วิธีที่สองไม่เห็นอะไรนั่งมืดๆไปดีตรงไม่ต้องเปลี่ยนหลายสถานี สบาย
"รถไฟจะไปโคราชช ตดดังป๊าดดมาสิงคโปร์ "
"สวัสดีไชน่าทาว์ ข้ามาล้าววว วะฮะฮ่าาาา"
"บ้านเมืองสะอาดตา น่ารัก"
"เดินไปเดินมา เอ๊ะนี่มันเยาวราชรึเปล่านะ"
"โคมไฟเต็มไปหมดดด"
โรงแรมที่เราพักเป็นโรงแรมแคปซูล คือจะบอกว่าเป็นโรงแรมที่เราชอบมาก สะอาด เตียงนุ่มสบายมาก ราคาต่อคืนอยู่ที่
695 บาท เราพักที่นี่ทั้งหมด 2 คืน ตอนจองจะมีให้เลือกว่าจะเป็นห้องหญิงล้วน หรือห้องรวมก็ได้แล้วแต่ความชอบ หุหุ
โรงแรมชื่อ capsule pod boutique hostel เปิดให้เช็คอินได้เวลา 15.00 น. และเช็คเอ้าท์ 10.00 น. ดังนั้นเราจึงจะฝากของไว้
แล้วค่อยกลับมาเช็คอินในตอนเย็น
เนื่องจากกองทัพต้องเดินด้วยท้องหลังจากฝากของเรียบร้อย เราจึงมุ่งหน้าไปยังร้านก๋วยเตี๋ยวที่เราเดินผ่านมา มื้อแรกของวัน
ที่สิงคโปร์ถ้าไม่นับรวมมาม่าเมื่อคืน ก็นี่เลยก๋วยเตี๋ยวไก่ (ตอนแรกเราเข้าใจว่ามันเป็นเป็ดเพราะหนังมันแดงๆ) เป็นก๋วยเตี๋ยวที่
ให้เยอะและก็อร่อยดี นี่แอบชำเลืองหาพริกบ่นนิดนึงด้วยความเคยชิน ไม่มีจ๊ะมีแต่พริกดองก็อร่อยดี ราคามื้อนี้อยู่ที่ 4 SGD
หรือประมาณ 100 บาท (อยากรู้ราคาอะไรคิดแบบง่ายๆเอา 25 คูณไปจะได้เป็นเงินบาท)
" โรงแรมมีบริการน้ำดื่ม กาแฟ และน้ำมะม่วงเย็นฟรี อร่อยดี"
"มื้อแรกของวันประเดิมด้วย บะหมี่ ไก่ ไอ่ ไอ่"
Fort Canning >>Henderson wave >>Cavenagh Bridge >>Merlion>>Helix Bridge >>
Marina bay>>Garden By The Bay>>Universal studio>>อื่นๆเท่าที่จะเก็บได้
เริ่มการเดินทางไปยัง Fort Canning โดยรถไฟใต้ดินสายสีม่วงจาก China town (NE4) ลงที่สถานี Dhoby Ghaut (NE6)
ใช้ทางออก B จากนั้นเดินข้ามถนน Penang road มาเจอ Park mall (ตอนเราไปปิดซ่อมอยู่เป็นสังกะสีกั้นๆตลอดทาง)แล้ว
เดินต่อไปทางซ้าย จะเจอป้ายบอกทางและทางเข้าอุโมง
"เดินตามหาเจ้าอุโมง นี่เองทางเข้า"
"เจอแล้วฮะ เจ้าอุโมงงง "
"เดินขึ้นมาด้านบนก็จะเป็นสวนๆ "
โหลด app ชื่อว่า citymapper จะเป็นแอฟที่สะดวกมากเราจะสามารถเช็คได้ว่าที่ที่เราจะไปมีรถอะไรผ่านบ้าง ใช้เวลากี่นาที
ใช้เส้นทางไหนเร็วที่สุด รถจะเข้ามายังสถานีในอีกกี่นาที เช็คได้หมดทั้งรถไฟใต้ดิน รถเมลล์ อันนี้คือพี่เราแนะนำมาอีกที ดีจริงๆ
รถเมล์ที่เราจะขึ้นคือสาย 175 เปิดแอฟนำทางไปเรื่อยๆ เวลาขึ้นรถเมล์ต้องแตะบัตรโดยสารทั้งขาขึ้นและขาลง
ไม่งั้นเค้าจะคิดราคาเราเต็มระยะทาง นั้นชมวิวไปเพลินๆ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที ก็จะมาถึง ทางเข้าสวน
Talok blangah อ่านว่าอะไรไม่แน่ใจเลยอ่านว่า สวนตาล็อก บ็อก บ็อก (อย่าไปถามใครด้วยชื่อนี้เชียว)
"ราชรถมารับฉันที นั่งสายอะไรดีนะ"
"App ที่บอกหน้าตาประมาณนี้ "
"อ้าวสวัสดีสวนTalok blangah "
เป็นทางขึ้นเขานิดหน่อยพอได้ออกกำลัง เราถึงสะพานประมานเที่ยงพอดีอากกาศร้อนและแดดจัดมาก ตัวสะพานเป็นไม้
ด้านล่างเป็นถนนวิวสวยมากกก แนะนำอยากให้มาจะได้วิวอีกแบบคือ ดี
"วิวถนนถ่ายจากบนสะพาน"
"Hello, will you go out with me? แวะฝึกภาษาอังกฤษบ้าง "
"สะพานสวย น่านอนเล่น เอ้ยเดินเล่น"
"วิวสะพานถ่ายจากบนถนน"
ให้ นี่เลย "บักกุ๊ดเต๋" ร้านนี้เด็ดมากชื่อร้าน Old street bak kut teh อร่อยมากจริงๆทั้งแบบแห้ง แบบน้ำและผักดองก็ดีงาม
ไม่แพ้กัน เรากินที่สาขาTiong Bahru Plaza โดยนั่งรถเมล์มาจาก Henderson wave ตรงนี้จำสายรถเมล์มิได้ข้าน้อยต้องขออภัย
เราใช้ app นำทางมา นั่งมาเรื่อยๆก็จะเจอเจ้าห้างนี้พอดี สิริรวมมื้อนี้อยู่ที่ 33.7 SGD
"bak kut teh อร่อยยย"