เรามีเมทคนนึง ก่อนเข้าได้ทำการตกลงเรื่องต่างๆไว้แล้ว ขอเกริ่นก่อนว่าตอนแรกที่คุยนางพูดดีมากเข้าใจเราทุกอย่างบอกเป็นคนง่ายๆกินง่ายๆ อะไรก็ได้ พอเริ่มเข้ามาอยู่1-3เดือนแรกลายยังไม่ออกเท่าไหร่ต่อมา ตอนแรกคือนางไม่มีแฟน ละตอนหลังมานางมีแฟน นางคุยโทรศัพจนถึงตี2-3เกือบทุกวัน ส่วนใหญ่จะทุกวัน โดยส่วนตัวเป็นคนนอนไม่เกินเที่ยงคืนครึ่ง พอนางคุยโทรศัพก็คุยเสียงดังเราก็นอนไม่หลับแรกๆยังไม่พูดอะไรเพราะคิดว่าเดี๋ยวก็คงมีจิตสำนึกบ้าง แต่ก็ไม่เลย ต่อมาก็เลยพูดไปว่าเรานอนไม่หลับ นางก็คุยเบาให้น่ะแต่ก็เหมือนเสียงได้ยินอยู่แต่ไม่ดังเท่าเดิม และมีอยู่วันนึงนางเลยออกไปคุยนอกระเบียงแต่ก็มานั่งติดประตูระเบียงแล้วคุยเสียงดังกว่าตอนอยู่ในห้องอีก เรานอนไม่หลับและรู้สึกว่าสุขภาพแย่มาก เราก็พยายามจะไม่อะไร แล้วมีอยู่วันนึงเราหาหูฟังไม่เจอ เราเลยถามว่าเห็นหูฟังเราไหม นางก็บอกอยู่แถวโต๊ะนั่นละ(โต๊ะนาง) เราก็หาไม่เจอเลยถามไปอีกรอบ นางเหวี่ยงกับมาว่าก็อยู่แถวนั่นก็หาเอาดิ เราก็งงว่าเอาของเราไปใช้โดยไม่ขอแล้วยังจะมาพูดไม่ดีกับเราเหมือนว่าเราผิดอีก. เพื่อนในกลุ่มเราเลยไปพูดกับนางให้ว่าจะใช้อะไรให้ขอเราก่อน นางตอบกับเพื่อนว่าไม่อะมันไม่ว่าไรหรอก เรานี่โมโหสุดขีด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ไม่ว่านางจะใช้อะไรของในห้องที่เป็นของเรานางไม่เคยขอยืม แต่เคยขอยืมแค่1-2ครั้ง นอกนั้นหยิบเอง และก็มีอีกเรื่องนึงคือ นางเอาของเราไปทิ้งคือแปรงสีฟัน เราโมโหมาก (เรามีแปรงสีฟัน2อันนะ) เราก็ถามนางว่าเห็นแปรงเราไหม นางบอกทิ้งไปแล้วนึกว่าของเพื่อน เรางงมากเราไม่เคยพาเพื่อนมานอนห้อง นิสัยอีกหลายๆอย่างที่เหมือนกับว่าที่บ้านไม่เคยสั่งสอนมาเราก็ได้แต่ทำใจ อยากจะหาวิธีรับมือ กับคนแบบนี้ให้รู้ว่าไม่ควรมาทำนิสัยแย่ๆกับคนอื่น ปล.ที่ไม่อยากอยู่คนเดียวเพราะค่าใช้จ่ายสูงมาก เกรงใจที่บ้าน แต่ก็ไม่อยากอยู่กับนางอีกแล้ว. ปล.ขอเพิ่มอีกนิดคือ เวลาไปกินข้าวแล้วนางไม่ถูกใจจะดึงหน้าใส่ หรือถ้าไปกินข้าวที่ร้านอื่นๆที่นางไม่เคยกินนางจะอารมเสียมาก แต่เราก็งงว่ามันขัดกับตอนแรกที่พูดอย่างสิ้นเชิงเลยว่าง่ายๆอะไรก็ได้
เมทนรกเคยเจอมา ควรจะทำไงดีค่ะ