เมื่อฉันจบใหม่แต่ได้เงินเดือน 49k

สวัสดีค่ะ วันนี้เราอยากแชร์มาประสบการณ์เรียนและหางานให้พี่ๆน้องๆในพันทิป หวังว่าเรื่องของเราจะเป็นประโยชน์หรือแรงบัลดาลใจในการเรียนและทำงานให้ใครหลายคนได้ค่ะ

    ก่อนอื่นขอบอกข้อมูลคร่าวๆของตัวเองนะคะ เราเป็นคนเชียงใหม่ ตอนม.ปลายเคยไปเรียนที่ญี่ปุ่นมา 3 ปี แล้วกลับมาเรียนมนุษฯญี่ปุ่นที่ม.เอกชน มีใบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น N2 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ และได้เกียรตินิยมอันดับ 1 ส่วนภาษาอังกฤษเราก็พอได้เนื่องจากชอบส่วนตัวค่ะ

    เราใช้เวลา 3 ปีครึ่งในการเรียนจบป.ตรี เพราะเลือกที่จะไม่ฝึกงาน สาเหตุที่ไม่ฝึกเพราะมีประสบการณ์ทำงานอยู่แล้วคือเป็นครูสอนภาษาญี่ปุ่น (พาร์ททาม) ช่วงก่อนจบเราก็เริ่มหางาน เราเลือกส่งเรซูเม่ไปที่บริษัทที่เราสนใจ 4-5 ที่ ซึ่งเป็นโรงงานแถวถาคตะวันออกหมดเลย ตำแหน่งที่สมัครคือ ล่ามภาษาญี่ปุ่นค่ะ แต่เราได้ไปสัมภาษณ์แค่บริษัทเดียว เพราะวันสัมภาษณ์ที่เขากำหนดมาตรงกับวันที่เราว่าง (ช่วงที่ไปสัมภาษณ์เป็นช่วงสอบไฟนอลพอดี)

     วันที่เราไปก็มีพี่ๆคนอื่นๆไปสัมภาษณ์ด้วย น่าจะอายุประมาณ 30 กันแล้ว เป็นผู้ใหญ่วัยทำงาน (ทุกคนดู professional มาก TT) ทุกคนต้องทำข้อสอบภาษาญี่ปุ่น, ภาษาอังกฤษ และสัมภาษณ์กับคนญี่ปุ่น 4-5 คน ตอนเราสัมภาษณ์ก็ใช้เวลาประมาณ 10 นาที เขาถามถามเรื่องทั่วๆไป เช่น จบจากไหน ทำไมถึงมาทำงานที่นี่ เป็นล่ามยากนะคิดว่าทำได้ไหม ฯลฯ เราก็ตอบไปเรื่อยๆใช้ภาษาง่ายๆ แต่เน้นพูดเสียงดังฟังชัด ตอนนั้นรู้สึกกดดันเพราะว่าข้อสอบภาษาญี่ปุ่นที่ทำก่อนสัมภาษณ์ก็ยากในระดับนึง ยิ่งข้อสอบภาษาอังกฤษก็ยากจนปวดหัว เพราะไม่เหมือนกับข้อสอบทั่วไป แต่ต้องใช้การวิเคราะห์หาข้อที่ถูก  

      หลังจากสัมภาษณ์เสร็จต้องรอผล 1-2 สัปดาห์ แต่บอกตรงๆเลยค่ะว่าคิดตั้งแต่ตอนนั้นว่ายังไงตัวเองก็ไม่ผ่าน เพราะเราคิดว่าเป็นเด็กจบใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์ โปรไฟล์คงจะสู้พี่ๆคนอื่นไม่ได้ ก็บอกกับที่บ้านตามตรงว่าคงไม่ได้งานที่นี่ เขาก็บอกว่าไม่เป็นไร และแนะนำว่าถ้าไม่ได้งานก็เรียนต่อป.โทก็ได้

      พอกลับเชียงใหม่มาเราก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้อีกเลย ระหว่างนี้ก็มีบริษัทอื่นติดต่อมา แต่เราก็ไม่ได้ไปสัมภาษณ์ เพราะคิดว่าตัวเองยังไม่พร้อม กะว่าจะเรียนต่อป.โทดีกว่า จนผ่านไป 1 สัปดาห์ บริษัทก็โทรมาแจ้งผลว่าเราผ่าน เราอึ้งเล็กน้อย บริษัทบอกว่าคำนวณเงินเดือนของเราแล้วจะได้อยู่ที่ 49k ตอนนั้นอึ้งไปอีกเพราะมันเยอะมากกกเกินคาด (เราเขียนใน resume ว่าต้องการ 30k) แต่ตอนนั้นเราตอบไปว่าขอตัดสินใจก่อน แล้วจะโทรไปให้คำตอบพรุ่งนี้

       หลังจากวางสายก็รีบบอกครอบครัวและเพื่อนสนิท ตอนนั้นดีใจมากที่ได้เงินเดือนสูง แต่ก็กดดันมากเช่นกัน เพราะคิดว่างานที่ทำก็คงต้องหนักและยากไปตามเงินเดือนที่ได้ แถมยังต้องไปอยู่ไกลบ้านคนเดียว ตอนนั้นสับสันไปหมดว่าควรไปหรือไม่ไปดี แต่เราโชคดีที่มีครอบครัวและเพื่อนให้คำปรึกษาและกำลังใจว่านี่คือโอกาสที่ดีที่ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้

      วันรุ่งขึ้นเราจึงตัดสินใจโทรไปบอกบริษัทว่าตกลงจะทำงานและขอเริ่มงานกลางเดือนธค.นี้ เราไม่รู้หรอกว่าตอนทำงานจะเป็นยังไงบ้าง สังคมที่ทำงานจะเป็นยังไง คงต้องปรับตัวและเรียนรู้อะไรอีกหลายอย่าง แต่ก็จะสู้และอดทน อยากจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการทำงานให้ได้มากที่สุดค่ะ

       สุดท้ายเราต้องการจะบอกเพื่อนๆหรือน้องๆที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ว่า เราไม่ได้เป็นเด็กเรียน เราใช้ชีวิตปกติ เที่ยวเล่นกับเพื่อน แต่เราต้องรู้จักรับผิดชอบหน้าที่ของตนเองให้ดีเสมอ work hard, play hard คือคติที่เราใช้ และไม่ว่าเราจะเรียนจบจากที่ไหนการตั้งใจเรียนและเก็บเกี่ยวความรู้ในคาบเรียนจะส่งผลให้เรามีอนาคตที่ดีและนำไปใช้ในการทำงานได้จริง และอยากแนะนำน้องๆให้เลือกเรียนภาษาที่ 3 ด้วย จะทำได้ให้เปรียบในการทำงานในอนาคต เพราะในปัจจุบันบริษัทส่วนใหญ่จะพิจารณาเราจากผลการเรียน ความรู้ด้านต่างๆ ยิ่งถ้ามีเกียรตินิยม หรือเกียรติบัตรต่างๆ ก็จะยิ่งได้รับการพิจารมากขึ้น และสุดท้ายเหนือกว่าการเรียนเก่งคือต้องเป็นคนดีด้วยค่ะ  ขอให้ทุกคนสู้ๆนะคะ หากใครมีคำถาม หรือพี่ๆที่ต้องการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการทำงานเรายินดีตอบและรับฟังค่ะ  

แก้ไขเพิ่มเติม
1. ตำแหน่งงานที่เราทำคือล่ามคอนแทรค ประจำแผนก QA ขอคำแนะนำจากพี่ๆด้วยนะคะ

2. เหตุผลที่เราเลือกสัมภาษณ์แค่บริษัทเดียวแล้วตกลงทำงานเลยเพราะว่าเราคิดว่าบริษัทนี้มั่นคง และพอใจในเงินเดือนกับสวัสดิการ ส่วนตำแหน่งล่ามคอนแทรคมีพี่ๆหลายคนเป็นห่วงเรื่องสัญญาจ้าง เราได้เข้าใจและโอเคในจุดนี้ เพราะเราต้องการทำงานในระยะสั้นเพื่อหาประสบการณ์ก่อนที่จะกลับไปทำงานที่บ้านค่ะ

3. เราเคยลงเรียน class ล่ามธุรกิจที่มหาลัย ดังนั้นคำศัพท์เกี่ยวกับโรงงานเราพอได้ในระดับหนึ่ง และโชคดีที่เคยเรียนเกี่ยวกับแผนก QA ด้วย แต่พอไปทำงานจริงก็คิดว่ามีศัพท์เฉพาะและปัญหาอีกหลายอย่างที่ต้องเรียนรู้ แล้วเราจะมาอัพเดตชีวิตการทำงานอีกครั้งหลังจากที่ได้ไปทำงานแล้วนะคะ

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณสำหรับทุกคำชม และคำแนะนำล่วงหน้าค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่