•    ออกตัวก่อนเลยว่าอาจจะไม่ตรงใจหลายๆ คน ขอพื้นที่เห็นต่าง พอดีเห็นน้องแชร์บทวิจารณ์จากเพจหนึ่งที่ให้คะแนนถึง 8.5 แล้วรู้สึกว่ามัน overrated จัง
•    สำหรับตัวเอง ก่อนไปดูคือคาดหวังมาก เพราะชอบ ผกก. + เทรลเลอร์ ที่ทำให้นึกถึงนิยายและซีรีส์ชุด นักสืบกาลิเลโอเรื่องหนึ่ง ที่มีการฆ่าแล้วเผาริมแม่น้ำเหมือนกัน เกี่ยวพันกับแม่ลูกและการล่วงละเมิดทางเพศเหมือนกัน แถมพระเอกก็ดันเป็นคนที่เล่นเป็น กาลิเลโอในหนังและซีรีส์อีกต่างหาก เลยอยากมาดูว่าใช่เรื่องเดียวกันมะ นี่ว่าจงใจเลยนะ
•    พอดูก็ไม่ผิดจากที่คิด คล้ายๆ ได้อินสไปเรชั่น จากนิยายฮิงาชิโนะ เคโงะ เหมือนเอาเรื่องนั้นมาบิดแล้วเขียนเป็นเรื่องใหม่ คือทีแรกเหมือนจะหลอกให้เข้าใจว่าฆ่าเพื่อช่วยสองแม่ลูกแบบเรื่องนู้นหรือเปล่า
•    ตามความเข้าใจของผม (ซึ่งอาจจะผิด) มันไม่ได้จะราโชมงโชม่อน อะไรแบบที่เพจนั้นว่าเลย หนังเฉลยตั้งแต่ฉากแรกว่าใครคือฆาตกร เพียงแค่ไม่เฉลยแรงจูงใจเท่านั้น และไอ้แรงจูงใจนี่เอง ที่หลอกคนดูและตัวละครหลักไปตลอดทั้งเรื่องจนจบ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้•    คนดูกับพระเอกประสบชะตากรรมเดียวกัน คือถูกปั่นหัวไปมา ด้วยความอคติ ความเห็นใจที่มีต่อตัวละคร ซึ่งตัวคนเดียว โดดเดี่ยว ไร้ที่พึ่ง และท่าทางแสนสุภาพ โดยการใส่ข้อมูลซ้ำๆ ว่า ผู้ตายไม่ใช่คนดี การใส่ตัวละครทนายโจทย์ที่ตรงจนเหมือนเย็นชา และเจ้าหน้าที่ทุกคนที่พยายามจะทำให้เรื่องมันจบๆ ไป และตัวละครสองแม่ลูกที่มีความน่าสงสัย
•    เป็นหนังเรื่องแรกที่อดด่าพระเอกไม่ได้ว่า ไอ่หน้าง่าว ฮีทั้งอวดฉลาด อคติ อีโก้ แพ้ไม่เป็น ทั้งที่มีตัวละครโผล่มาเตือนสติเป็นระยะๆ ทั้งพ่อ เพื่อนร่วมงาน และทนายโจทย์ รวมถึงพยานหลักฐานแวดล้อมต่างๆ แต่สงสัยมันจะดูง่ายเกินไปสำหรับฮีมั้ง ฮีเลยไม่เชื่อ แต่เลือกเชื่อปากคำของลูกความ เป็นทนายประเภท อยากจะช่วยฆาตกรให้พ้นผิด
•    หลายฉากแสดงให้เห็นว่าพระเอก เอาตัวเองไป involving กับลูกความเกินไป ซึ่งถ่ายทอดมาในรูปแบบของภาพในจินตนาการของฮีกับลูกความและน้องผู้หญิงขาเป๋ อาจจะเพราะเป็นผู้ชายที่มีลูกสาวเหมือนกัน อะไรก็เหอะ แต่ฮีมโนแจ่มสุดๆ เลยจ้า ซึ่งนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่ต่างจากเรื่อง Primal Fear หรือ Basic Instinct แต่ไม่ impact เท่า
•    เรื่องใครคือฆาตกรตัวจริง ไม่ใช่ประเด็นหลักของเรื่อง (หนังให้เราเห็นเท่าที่อยากให้เห็น) แต่นี่ เชื่อว่า (คหสต.นะ) จำเลยผิดจริง มีส่วนในการฆาตกรรมแน่ๆ จากหลักฐานหลายๆ อย่าง ทั้งฉากแรกของหนัง ภาพจากกล้องในแท็กซี่ กระเป๋าสตางค์จากผู้ตาย คือถ้าไม่ได้ทำเอง ก็ต้องร่วมกันกับน้องผู้หญิงแหละ อย่าลืมว่าหนังชื่อ ฆาตกรรมครั้งที่สาม ก่อนหน้านี้ฮีก็เคยปล้นแล้วเผาโดยไม่รู้สึกรู้สาอะไรตามที่พ่อพระเอกเล่า (ส่วนหลักฐานที่ทำให้น้องน่าสงสัย คือรองเท้าเปื้อนเลือด เรื่องของปลาทอง และการโกหกเรื่องขาเป๋ แต่น้ำตาน่ะของจริง) แต่ก็อย่างที่บอก นี่ไม่ใช่ประเด็นหลัก ประเด็นหลักคือ “อะไรที่เป็นแรงจูงใจในการฆาตกรรม” เพื่อช่วยน้องผู้หญิง เพื่อเงิน เพราะความโกรธแค้น?
•    ซึ่ง เซอร์ไพร๊สสสส์ แรงจูงใจของจำเลย คือ ไม่มีแรงจูงใจใดๆ จ้า ฮีทำเพราะคนอื่นอยากให้ฮีทำ ไม่ได้ทำเพื่อช่วยใคร หรือเพื่อความสะใจ เหมือนที่ฮีพลิกลิ้นไปมา ตามแต่ที่ทนาย เจ้าหน้าที่ หรือใคร อยากให้มันเป็นแบบนั้น ทำเพื่อเซอร์วิสคนอื่น ไม่มีสามัญสำนึกเป็นของตัวเอง (ขนาดลูกสาวมันยังต้องมารับกรรม ระหกระเหิน เพราะสิ่งที่พ่อทำ ฮีก็หาได้แคร์) ก็อย่างที่พ่อพระเอกบอกนั่นแหละ ฮีเป็นเหมือนภาชนะ ที่ใส่อะไรเข้าไปก็ได้รูปทรงอย่างนั้น ดังนั้นพระเอกจึงไม่มีทางได้ความจริงที่แท้ทรู เพราะความจริงจากปากตาแก่ฆาตกร เป็นแค่สิ่งที่พระเอกอยากจะได้ยิน ได้เห็น อยากจะให้เป็นเท่านั้นเอง เป็นแค่ Lips Service นะจ๊ะหนู
•    ฉากสุดท้าย พระเอกจึงไปยืนสึ่งตึงอยู่กลางสี่แยก เพราะรับไม่ได้ที่โดนหลอกควายสบายใจจัง จริงๆ ถ้ามีสิบล้อพุ่งมาสอยไปสักคัน จะเป็นตอนจบที่โอเคมาก และจะให้เคะแนนมากกว่านี้ กลอกตา เห้อ จบซะที

•    เรื่องการแสดงก็โอเวอร์แอ็คแบบญี่ปุ๊นญี่ปุ่นแหละ (แต่ชอบพวกฉากที่สำนักงานพระเอกนะ ผ่อนคลายดี) ภาพก็ไม่ได้อะไรสวยมาก ให้ 5.5 พอ
•    ที่ไม่ค่อยชอบ คงเพราะอ่านนิยายแปลญี่ปุ่นแนวดราม่าทริลเลอร์ ยุค สนพ เจบุ๊คส์ เยอะเกินไป พอดูเรื่องนี้แล้วมันเห็นแพทเทิร์นทั้งการดำเนินเรื่องและแอคติ้ง คือเดาทางได้หมด + รู้สึกว่าหนังยาวเกินจำเป็น ออกจะเนือยๆ ไม่มีจุดพีค นึกออกเท่านี้
ผมคิดผิดตรงไหน ชอบไม่ชอบหนังยังไง แชร์กันนะ ส่วนตัว ถ้าชอบดราม่าสืบสวน ช่วงนี้ แนะนำ Wind River