อยากมาเล่าประสบการณ์รักษาแม่จากอาการภูมิแพ้ผิวหนังโดยพยายามพึ่งพายาให้น้อยที่สุด
โปรดใช้วิจารณญาณ ศึกษาหาข้อมูล รวมทั้งปรึกษาแพทย์ เพราะแต่ละคนเป็นไม่เหมือนกันนะคะ ^^
เริ่มจาก สิบกว่าปีที่แล้ว แม่เป็นภูมิแพ้อากาศ ต้องไปหาหมอและฉีดยากระตุ้นภูมิคุ้มกันทุกอาทิตย์และค่อยๆ ลดความถี่ลง ทำแบบนี้อยู่เป็นปีๆ จนในที่สุดก็ไม่ต้องไปแล้ว แต่ก็ยังกลับมาเป็นบ้าง เพราะเราก็หลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมในกทม.ไม่ได้
หลังจากนั้นแม่เป็นพวกผื่นตามแขน ไปรักษาที่รพ.แผนกผิวหนัง ได้ยาพวกสเตียรอยด์มาทา หายบ้าง แต่ก็ยังขึ้นเรื่อยๆ วนเวียนอยู่อย่างนี้อีกหลายปี
หมอบางที่ก็บอกทายาไปได้เรื่อยๆ หายก็หยุด บางท่านแนะนำให้ทาแค่ 7 วันไม่หายให้กลับมา แต่ยอมรับผิดว่าละเลย ไม่ได้กลับไปหาหมอเมื่อครบ 7 วัน ยังคงทายารักษาเองไปเรื่อยๆ
จนวันหนึ่ง แม่มีเม็ดผื่นขึ้นเต็มท้อง หลัง และขา พีคและช็อกมาก มีคำถามมากมายเต็มไปหมด เครียดมาก
เลยเริ่มศึกษาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตว่าแม่เป็นอะไร สรุปได้เองว่าเป็นโรคภูมิแพ้ผิวหนังเรื้อรัง ส่วนที่ตัวและขามีลักษณะเหมือนผื่นกุหลาบ
วิธีรักษาทางการแพทย์แผนปัจจุบันก็คือการกินยาและทายา ซึ่งมันก็คือวิธีที่แม่ใช้อยู่หลายปีแล้วไม่หายสักที กลับเป็นมากกว่าเดิมอีก
เลยตัดสินใจว่าพอแล้ว ไม่หาหมอแล้ว และขอให้แม่เลิกยาทาทุกอย่างทันที !!!
(ที่จริงแล้ว ควรไปให้หมอวินิจฉัยก่อน หรือตรวจร่างกายเต็มรูปแบบเลย ว่าไม่ได้เป็นโรคที่อันตรายก่อนก็ดีค่ะเพื่อความสบายใจ และไม่ทำให้โรคแย่ลง แต่เราตอนนั้นรู้สึกแอนตี้แรง เลยไม่ได้พาไปค่ะ)
ยาทาต่างๆ ที่หมอให้มา มีสเตียรอยด์ทั้งหมด ส่วนยาเม็ดเป็นพวกแก้แพ้
สาเหตุที่ไม่ใช้สเตียรอยด์
เพราะว่าเป็นยาใช้เฉพาะจุด ควรใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์
ไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน หากใช้ต่อเนื่องอาจจะทำให้ร่างกายเคยชินที่มียามารักษา จนไม่ยอมต่อสู้ด้วยตนเอง (ยาแก้แพ้ก็เช่นกัน)
บางคนใช้แล้วหายก็ดีเลยค่ะ แต่แม่เราใช้มาหลายปีแล้ว เราคิดว่าพอแล้วดีกว่าค่ะ ใครกลัวว่ายาที่ใช้มีสเตียรอยด์มั้ยลองดูรายชื่อนี้นะคะ
และข้อมูลอื่นๆ เกี่ยวกับสเตียรอยด์ที่เว็บนี้ได้ค่ะ
http://www.steroidsocial.org/steroid1.html
ต่อไปเป็นพวกข้อมูลที่เราศึกษานะคะ
สาเหตุของการเป็นโรคภูมิแพ้ผิวหนัง
1. ภายใน: ร่างกายไม่แข็งแรง มีปัญหาเรื่องการขับถ่าย ทำให้ร่างกายสะสมพิษไว้มาก เมื่อพิษไม่ขับพร้อมอุจจาระ จึงขับออกทางส่วนที่ใหญ่ที่สุดของร่างกายคือ ผิวหนัง
2. ภายนอก: สิ่งที่เราแพ้ อันนี้ต้องสังเกตเองว่าแต่ละวันใช้อะไร กินอะไรไป แล้วทำให้เกิดการแพ้ค่ะ
วิธีการรักษา
1 เปลี่ยนวิถีชีวิตตัวเอง ไม่มีอะไรสำคัญเท่ากับการทำให้ร่างกายแข็งแรง เพราะร่างกายที่แข็งแรงจะต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ และต้องมีวินัยมากๆ ถ้าคุณทำไม่ได้ คุณไม่มีทางหายจากโรคใดใดในชีวิตที่ยั่งยืน ถ้าไม่พร้อมทำพื้นฐานเหล่านี้ เลิกอ่านข้ออื่นไปเลยค่ะ
1.1. ดื่มน้ำ ตื่นเช้ามาค่อยๆดื่มน้ำ 1 ขวดเลย ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องไต อาจผสมเกลือปลายช้อนชา เพื่อกระตุ้นให้ภายในทำงาน และขับถ่ายตั้งแต่เช้า (แม่เราไม่ถ่ายทุกวันจากการทำแบบนี้ แต่ถือว่าถ่ายมากขึ้น ช่วงแรกอุจจาระสีดำปี๋เลยค่ะ) และดื่มน้ำบ่อยๆ ทั้งวัน
1.2. การกิน กินผักให้เยอะมากๆ เพื่อช่วยการขับถ่าย และผลไม้ที่ไม่หวานมาก*
เราทำน้ำปั่นผักผลไม้ให้แม่เลย กินหลังดื่มน้ำเกลือ และก่อนอาหารกลางวัน เย็น (หรือเช้า-เย็นก็ได้)
งดอาหารที่อาจทำให้แพ้ : ถั่วลิสง เผือก หน่อไม้ นม ขนมปัง *น้ำตาล อาหารทะเล (ยกเว้นปลา)
***น้ำตาล เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้แผลต่างๆ หายช้าค่ะ เราได้น้ำตาลจากการกินข้าวอยู่แล้ว ไม่ควรรับเพิ่มมากจนเกินไป****
1.3 การนอน นอนให้เพียงพอ รู้ๆกันอยู่แล้วว่าร่างกายซ่อมแซมตัวเองตอนเราหลับ
1.4 ออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง แม่เราเป็นผื่นที่คอด้วย ซึ่งพอโดนเหงื่อจะคันมาก เลยออกกำลังกายโดยไปเดินที่สวนประมาณ 30-40นาที พอเหงื่อออกรีบใช้ผ้าซับทันที ออกกำลังกายเสร็จเอาผ้าชุบน้ำเช็ดเบาๆค่ะ การหายใจเข้าออกยาวๆก็ช่วยฟอกเลือดได้ดีค่ะ
1.5 ไม่เครียด จริงๆ เราเครียดมาก และเราก็รู้ว่าแม่เครียด แต่ต้องให้กำลังใจกัน เราติดตามถ่ายรูปอาการและจัดอัลบั้ม ตั้งชื่อว่ารักษาด้วยใจ พอดีขึ้นก็ต้องชม เอาภาพให้เขาดู เขาจะได้มีกำลังใจค่ะ
1.6 ห้ามเกา!! อันนี้ห้ามยากมาก คนมันคันมันก็เกา เราจะเป็นเหมือนเรดาร์เลย เห็นแม่เกาปุ๊บเรียกชื่อปั๊บ ทำไมห้ามเกา เพราะพอเกาแล้วเกิดแผล สิ่งสกปรกจะเข้าไปได้ง่ายและทำให้แผลอักเสบ แผลขยายตัว และทำให้รักษายากขึ้นไปอีกค่ะคุณผู้ชมมม T^T
ภาพนี้เราวาดเอาไว้ส่งต่อให้เพื่อนๆ และญาติพี่น้องในไลน์ค่ะ ><
2. ถึงแม้จะไม่ใช้ยา แต่เราก็อยากหาครีมอย่างอื่นทาด้วย เพื่อให้แผลหายไวขึ้น รายชื่อเหล่านี้คือครีมและยาที่ปราศจากสเตียรอยด์ค่ะ
2.1. น้ำเกลือ ชุบสำลีโปะแผลไว้สัก 5 นาที ฆ่าเชื้อโรค
2.2. Burnova ว่านหางจระเข้ ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น
2.3. SUDO Cream - แม่ๆ ชอบไว้ทาแก้ผื่นผ้าอ้อมเด็กค่ะ ครีมเป็นแป้งๆทาแล้วหนักหน่อย
2.4. Ezerra ครีมหมีม่วง เขาว่าช่วยเรื่องแผลอักเสบได้ค่ะ
2.5. Puffguin / Vasaline ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น
2.6. Systral Cream ผสมยาแก้แพ้ ใช้ตอนคันมากๆ แต่ใช่แป๊บเดียวค่ะ ไม่ควรใช้ต่อเนื่อง
2.7. พลูจีนอล ครีมไทย กลิ่นแรงมาก แต่ช่วยแก้คันได้ พอทาแล้วจะแดงหน่อยนะคะ
2.8. Cetaphil ใช้ที่เป็นครีมอาบน้ำและโลชั่นค่ะ เลือกที่ไม่มีน้ำหอม
ไม่ได้ใช้ทุกอย่างพร้อมกันนะคะ สลับๆ กันไป เพราะแม่ชอบบอกว่าผิวแม่ชินง่าย ใช้อันนี้ไปสักพักไม่เห็นผลก็เปลี่ยนอันค่ะ ส่วนใหญ่จะทาจากที่บางเบาไปเข้มข้นค่ะ
โลชั่น > ว่านหางจระเข้ > Sudocream
ระหว่างการรักษามีทั้งดีขึ้น และแย่ลง เพราะเมื่อถูกกระตุ้นจากอากาศ เหงื่อ ควันธูป ก็จะเห่อขึ้นมาอีก ต้องใช้เวลา ความอดทน และมีวินัย จนตอนนี้ 5 เดือนแล้ว เรียกได้ว่าอยู่ในระยะปลอดภัยค่ะ
เราคัดรูปมานะคะ จริงๆ ถ่ายเกือบทุกวันเลยค่ะ ซึ่งคิดว่าเป็นวิธีที่ดีมากๆ ทำให้เราเห็นว่าแผลดีขึ้นหรือแย่ลง ใช้อะไรแล้วยิ่งแพ้ ใช้อะไรแล้วดีค่ะ
ที่หลัง
ที่ลำตัว
ที่คอ
อัพเดทล่าสุด ไปตรวจสุขภาพประจำปีมาแล้ว ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ผื่นที่ยังมีให้เห็นบ้าง คุณหมอบอกเป็นภูมิแพ้ผิวหนังทั่วไป และให้ยาทาผสมสเตียรอยด์มาอีก แต่แม่ไม่ใช้ค่ะ เน้นทาครีมบำรุงไม่ให้ผิวแห้ง และรักษาสุขภาพจากภายในตามธรรมชาติดีกว่า
ขอบคุณข้อมูลต่างๆ และคำแนะนำจาก
พี่ฉิน เพจ No Sebderm เซ็บเดิร์ม หายได้ >>
https://www.facebook.com/No-Sebderm-เซ็บเดิร์ม-หายได้-463320630422857/
กลุ่ม CSA ตระกร้าปันผัก ที่เราสมัครให้เขามาส่งผัก Organic ทุกสัปดาห์ และสั่งน้ำยาซักผ้าจากธรรมชาติ >>
https://www.facebook.com/HealthMeDelivery/
รวมไปถึงกำลังใจจากเพื่อน ครอบครัว และทุกคนรอบข้าง
ยังไงตอนนี้ก็ต้องดูแลตัวเองและคุณแม่ต่อไปเรื่อยๆ ไม่งั้นอาจจะเป็นอีกได้
ขอให้รีวิวครั้งนี้เป็นประโยชน์ ทำให้ทุกคนหันมาดูแลสุขภาพตัวเองมากขึ้นก่อนจะไม่สบาย
ใครเป็นโรคภูมิแพ้ผิวหนังมานานแต่ไม่หายสักที ลองวิธีทางเลือกนี้ดูและมาแบ่งปันกันได้นะคะ
ขอให้ทุกคนสุขภาพดีค่ะ
วันที่ยื่นคำขาดให้แม่เลิกใช้สเตียรอยด์ เพื่อรักษาภูมิแพ้ผิวหนัง
โปรดใช้วิจารณญาณ ศึกษาหาข้อมูล รวมทั้งปรึกษาแพทย์ เพราะแต่ละคนเป็นไม่เหมือนกันนะคะ ^^
เริ่มจาก สิบกว่าปีที่แล้ว แม่เป็นภูมิแพ้อากาศ ต้องไปหาหมอและฉีดยากระตุ้นภูมิคุ้มกันทุกอาทิตย์และค่อยๆ ลดความถี่ลง ทำแบบนี้อยู่เป็นปีๆ จนในที่สุดก็ไม่ต้องไปแล้ว แต่ก็ยังกลับมาเป็นบ้าง เพราะเราก็หลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมในกทม.ไม่ได้
หลังจากนั้นแม่เป็นพวกผื่นตามแขน ไปรักษาที่รพ.แผนกผิวหนัง ได้ยาพวกสเตียรอยด์มาทา หายบ้าง แต่ก็ยังขึ้นเรื่อยๆ วนเวียนอยู่อย่างนี้อีกหลายปี
หมอบางที่ก็บอกทายาไปได้เรื่อยๆ หายก็หยุด บางท่านแนะนำให้ทาแค่ 7 วันไม่หายให้กลับมา แต่ยอมรับผิดว่าละเลย ไม่ได้กลับไปหาหมอเมื่อครบ 7 วัน ยังคงทายารักษาเองไปเรื่อยๆ
จนวันหนึ่ง แม่มีเม็ดผื่นขึ้นเต็มท้อง หลัง และขา พีคและช็อกมาก มีคำถามมากมายเต็มไปหมด เครียดมาก
เลยเริ่มศึกษาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตว่าแม่เป็นอะไร สรุปได้เองว่าเป็นโรคภูมิแพ้ผิวหนังเรื้อรัง ส่วนที่ตัวและขามีลักษณะเหมือนผื่นกุหลาบ
วิธีรักษาทางการแพทย์แผนปัจจุบันก็คือการกินยาและทายา ซึ่งมันก็คือวิธีที่แม่ใช้อยู่หลายปีแล้วไม่หายสักที กลับเป็นมากกว่าเดิมอีก
เลยตัดสินใจว่าพอแล้ว ไม่หาหมอแล้ว และขอให้แม่เลิกยาทาทุกอย่างทันที !!!
(ที่จริงแล้ว ควรไปให้หมอวินิจฉัยก่อน หรือตรวจร่างกายเต็มรูปแบบเลย ว่าไม่ได้เป็นโรคที่อันตรายก่อนก็ดีค่ะเพื่อความสบายใจ และไม่ทำให้โรคแย่ลง แต่เราตอนนั้นรู้สึกแอนตี้แรง เลยไม่ได้พาไปค่ะ)
ยาทาต่างๆ ที่หมอให้มา มีสเตียรอยด์ทั้งหมด ส่วนยาเม็ดเป็นพวกแก้แพ้
สาเหตุที่ไม่ใช้สเตียรอยด์
เพราะว่าเป็นยาใช้เฉพาะจุด ควรใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์
ไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน หากใช้ต่อเนื่องอาจจะทำให้ร่างกายเคยชินที่มียามารักษา จนไม่ยอมต่อสู้ด้วยตนเอง (ยาแก้แพ้ก็เช่นกัน)
บางคนใช้แล้วหายก็ดีเลยค่ะ แต่แม่เราใช้มาหลายปีแล้ว เราคิดว่าพอแล้วดีกว่าค่ะ ใครกลัวว่ายาที่ใช้มีสเตียรอยด์มั้ยลองดูรายชื่อนี้นะคะ
และข้อมูลอื่นๆ เกี่ยวกับสเตียรอยด์ที่เว็บนี้ได้ค่ะ http://www.steroidsocial.org/steroid1.html
ต่อไปเป็นพวกข้อมูลที่เราศึกษานะคะ
สาเหตุของการเป็นโรคภูมิแพ้ผิวหนัง
1. ภายใน: ร่างกายไม่แข็งแรง มีปัญหาเรื่องการขับถ่าย ทำให้ร่างกายสะสมพิษไว้มาก เมื่อพิษไม่ขับพร้อมอุจจาระ จึงขับออกทางส่วนที่ใหญ่ที่สุดของร่างกายคือ ผิวหนัง
2. ภายนอก: สิ่งที่เราแพ้ อันนี้ต้องสังเกตเองว่าแต่ละวันใช้อะไร กินอะไรไป แล้วทำให้เกิดการแพ้ค่ะ
วิธีการรักษา
1 เปลี่ยนวิถีชีวิตตัวเอง ไม่มีอะไรสำคัญเท่ากับการทำให้ร่างกายแข็งแรง เพราะร่างกายที่แข็งแรงจะต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ และต้องมีวินัยมากๆ ถ้าคุณทำไม่ได้ คุณไม่มีทางหายจากโรคใดใดในชีวิตที่ยั่งยืน ถ้าไม่พร้อมทำพื้นฐานเหล่านี้ เลิกอ่านข้ออื่นไปเลยค่ะ
1.1. ดื่มน้ำ ตื่นเช้ามาค่อยๆดื่มน้ำ 1 ขวดเลย ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องไต อาจผสมเกลือปลายช้อนชา เพื่อกระตุ้นให้ภายในทำงาน และขับถ่ายตั้งแต่เช้า (แม่เราไม่ถ่ายทุกวันจากการทำแบบนี้ แต่ถือว่าถ่ายมากขึ้น ช่วงแรกอุจจาระสีดำปี๋เลยค่ะ) และดื่มน้ำบ่อยๆ ทั้งวัน
1.2. การกิน กินผักให้เยอะมากๆ เพื่อช่วยการขับถ่าย และผลไม้ที่ไม่หวานมาก*
เราทำน้ำปั่นผักผลไม้ให้แม่เลย กินหลังดื่มน้ำเกลือ และก่อนอาหารกลางวัน เย็น (หรือเช้า-เย็นก็ได้)
งดอาหารที่อาจทำให้แพ้ : ถั่วลิสง เผือก หน่อไม้ นม ขนมปัง *น้ำตาล อาหารทะเล (ยกเว้นปลา)
***น้ำตาล เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้แผลต่างๆ หายช้าค่ะ เราได้น้ำตาลจากการกินข้าวอยู่แล้ว ไม่ควรรับเพิ่มมากจนเกินไป****
1.3 การนอน นอนให้เพียงพอ รู้ๆกันอยู่แล้วว่าร่างกายซ่อมแซมตัวเองตอนเราหลับ
1.4 ออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง แม่เราเป็นผื่นที่คอด้วย ซึ่งพอโดนเหงื่อจะคันมาก เลยออกกำลังกายโดยไปเดินที่สวนประมาณ 30-40นาที พอเหงื่อออกรีบใช้ผ้าซับทันที ออกกำลังกายเสร็จเอาผ้าชุบน้ำเช็ดเบาๆค่ะ การหายใจเข้าออกยาวๆก็ช่วยฟอกเลือดได้ดีค่ะ
1.5 ไม่เครียด จริงๆ เราเครียดมาก และเราก็รู้ว่าแม่เครียด แต่ต้องให้กำลังใจกัน เราติดตามถ่ายรูปอาการและจัดอัลบั้ม ตั้งชื่อว่ารักษาด้วยใจ พอดีขึ้นก็ต้องชม เอาภาพให้เขาดู เขาจะได้มีกำลังใจค่ะ
1.6 ห้ามเกา!! อันนี้ห้ามยากมาก คนมันคันมันก็เกา เราจะเป็นเหมือนเรดาร์เลย เห็นแม่เกาปุ๊บเรียกชื่อปั๊บ ทำไมห้ามเกา เพราะพอเกาแล้วเกิดแผล สิ่งสกปรกจะเข้าไปได้ง่ายและทำให้แผลอักเสบ แผลขยายตัว และทำให้รักษายากขึ้นไปอีกค่ะคุณผู้ชมมม T^T
ภาพนี้เราวาดเอาไว้ส่งต่อให้เพื่อนๆ และญาติพี่น้องในไลน์ค่ะ ><
2. ถึงแม้จะไม่ใช้ยา แต่เราก็อยากหาครีมอย่างอื่นทาด้วย เพื่อให้แผลหายไวขึ้น รายชื่อเหล่านี้คือครีมและยาที่ปราศจากสเตียรอยด์ค่ะ
2.1. น้ำเกลือ ชุบสำลีโปะแผลไว้สัก 5 นาที ฆ่าเชื้อโรค
2.2. Burnova ว่านหางจระเข้ ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น
2.3. SUDO Cream - แม่ๆ ชอบไว้ทาแก้ผื่นผ้าอ้อมเด็กค่ะ ครีมเป็นแป้งๆทาแล้วหนักหน่อย
2.4. Ezerra ครีมหมีม่วง เขาว่าช่วยเรื่องแผลอักเสบได้ค่ะ
2.5. Puffguin / Vasaline ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น
2.6. Systral Cream ผสมยาแก้แพ้ ใช้ตอนคันมากๆ แต่ใช่แป๊บเดียวค่ะ ไม่ควรใช้ต่อเนื่อง
2.7. พลูจีนอล ครีมไทย กลิ่นแรงมาก แต่ช่วยแก้คันได้ พอทาแล้วจะแดงหน่อยนะคะ
2.8. Cetaphil ใช้ที่เป็นครีมอาบน้ำและโลชั่นค่ะ เลือกที่ไม่มีน้ำหอม
ไม่ได้ใช้ทุกอย่างพร้อมกันนะคะ สลับๆ กันไป เพราะแม่ชอบบอกว่าผิวแม่ชินง่าย ใช้อันนี้ไปสักพักไม่เห็นผลก็เปลี่ยนอันค่ะ ส่วนใหญ่จะทาจากที่บางเบาไปเข้มข้นค่ะ
โลชั่น > ว่านหางจระเข้ > Sudocream
ระหว่างการรักษามีทั้งดีขึ้น และแย่ลง เพราะเมื่อถูกกระตุ้นจากอากาศ เหงื่อ ควันธูป ก็จะเห่อขึ้นมาอีก ต้องใช้เวลา ความอดทน และมีวินัย จนตอนนี้ 5 เดือนแล้ว เรียกได้ว่าอยู่ในระยะปลอดภัยค่ะ
เราคัดรูปมานะคะ จริงๆ ถ่ายเกือบทุกวันเลยค่ะ ซึ่งคิดว่าเป็นวิธีที่ดีมากๆ ทำให้เราเห็นว่าแผลดีขึ้นหรือแย่ลง ใช้อะไรแล้วยิ่งแพ้ ใช้อะไรแล้วดีค่ะ
ที่หลัง
ที่ลำตัว
ที่คอ
อัพเดทล่าสุด ไปตรวจสุขภาพประจำปีมาแล้ว ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ผื่นที่ยังมีให้เห็นบ้าง คุณหมอบอกเป็นภูมิแพ้ผิวหนังทั่วไป และให้ยาทาผสมสเตียรอยด์มาอีก แต่แม่ไม่ใช้ค่ะ เน้นทาครีมบำรุงไม่ให้ผิวแห้ง และรักษาสุขภาพจากภายในตามธรรมชาติดีกว่า
ขอบคุณข้อมูลต่างๆ และคำแนะนำจาก
พี่ฉิน เพจ No Sebderm เซ็บเดิร์ม หายได้ >> https://www.facebook.com/No-Sebderm-เซ็บเดิร์ม-หายได้-463320630422857/
กลุ่ม CSA ตระกร้าปันผัก ที่เราสมัครให้เขามาส่งผัก Organic ทุกสัปดาห์ และสั่งน้ำยาซักผ้าจากธรรมชาติ >> https://www.facebook.com/HealthMeDelivery/
รวมไปถึงกำลังใจจากเพื่อน ครอบครัว และทุกคนรอบข้าง
ยังไงตอนนี้ก็ต้องดูแลตัวเองและคุณแม่ต่อไปเรื่อยๆ ไม่งั้นอาจจะเป็นอีกได้
ขอให้รีวิวครั้งนี้เป็นประโยชน์ ทำให้ทุกคนหันมาดูแลสุขภาพตัวเองมากขึ้นก่อนจะไม่สบาย
ใครเป็นโรคภูมิแพ้ผิวหนังมานานแต่ไม่หายสักที ลองวิธีทางเลือกนี้ดูและมาแบ่งปันกันได้นะคะ
ขอให้ทุกคนสุขภาพดีค่ะ