โดนเพื่อนแทงข้างหลังแอบคบกับแฟนเรา + วิธีรับมือกับอาการอกหัก

กะทู้แรกเราเลยค่ะ  ถึงตอนนี้เรื่องผ่านมาก็ 8 เดือนเต็มละ (วันนี้ที่ตั้งกะทู้คือวันที่เคยเป็นวันครบรอบ) ทั้งครบรอบเป็นแฟนและครบรอบเลิกกันค่ะ555  เพราะเขาบอกเลิกเราวันครบรอบพอดี ... กะทู้นี้เรากะว่าอยากระบายเฉยๆอ่าค่ะ  อยากเอาสิ่งที่มันอัดอั้นตันใจออกมาให้หมดเลย  รวมถึงเอาไว้เป็นอุทาหรณ์ได้สำหรับใครหลายๆคน  และรวมถึงแนวทางที่เราใช้เยียวตัวเองหลังจากเจอเรื่องแย่ๆแบบนี้  (เพราะตอนเราอกหักเราหาวิธีจัดการกับวิธีอกหักในเว็บนี่แหละค่ะ จึงคิดว่าเอาประสบการณ์ตรงของตัวเองมาแชร์ด้วยดีกว่า เผื่อจะมีคนมองหามันเหมือนกับเรา)

ก็นะ เรื่องมันมีอยู่ว่า เราและแฟน คบกันตั้งแต่ปี 1 ค่ะ  เขาเป็นแฟนคนแรกของเราเลยนะ เราโสดมาตลอด 18 ปี จนเข้ามหาลัยนี่แหละ ที่บ้านอนุญาตให้มีแฟนได้  อีนี่ก็เก็บกดไง มีซะเลย!!!555555 (อันนี้หยอกนะค่ะ หรือใครหลงเชื่อไปซะแล้ว)  ...เรากะแฟนเป็นแฟนกันตั้งแต่เมื่อไหร่ เราก็งงๆ เอาเป็นว่าเขาเป็นคนใจดีและดีกับเรา เอาใจเรา มีความเจ้าชาย และตอนปี 1 เราเข้า รพ.บ่อย ด้วยความที่เรียนมหาลัยไกลบ้าน เขาจึงกลายเป็นที่พึ่ง บวกกับเขาแสดงความเป็นห่วงเรา ไม่สบายก็พาไปหาหมอ ดูแล เทคแคร์เราดีมากๆ (มันเหมือนในนิยายมาก แต่มันเปนเรื่องจิงนะค่ะ)  ครั้งนึงเราไม่สบายหนักมาก เขาพาเราไปหาหมอ ตอนตี 3 เรารู้สึกตัวอีกทีนอนเสียบสายน้ำเกลืออยู่ และคนแรกที่เจอหน้าคือ” เขา” เพื่อนเราที่ไปด้วยที่ รพ บอกเราว่า เขาอยู่เฝ้าเราตั้งแต่ตี 3 จนเช้าเลย เขาเปนคนดำเนินการต่างๆระหว่างหมอตรวจทั้งหมด ...วินาทีนั้น เราโคตรซาบซึ้งใน ผช.คนนี้เลยค่ะ (อย่าว่าเราน้ำเน่านะ^^’) ผช.ที่ไม่รุ้จักกันมาก่อน และดูแลเราถึงขนาดนี้ โหยย เจ้าชายของชั้น!!! 5555555 จากนั้นมา เขาก็เริ่มเข้ามาในชีวิตเรื่อยๆและบอกว่าจะดูแลเราเองนะ แล้วเราสองคนก็ตกลงเป็นแฟนกัน

ทั้งหมดที่เล่ามา คือช่วงที่เรามาเรียนซัมเมอร์ปรับพื้นฐานก่อนที่จะเป็นน้องใหม่เต็มตัวนะค่ะ  พค-กค คือช่วงที่คบหาดูใจ  และตกลงคบกัน เดือน สค ...แล้วก็เปิดเทอมปี 1 เทอม 1 มันก็จะมีช่วงที่ประชุมผู้ปกครอง วันนั้นนั่นเองเราถือโอกาสแนะนำเขาให้กับที่บ้านรู้จัก และเขาก็เข้ากันได้ดีกับคนที่บ้านค่ะ ที่บ้านเราตื่นเต้นกันมาก ลูกสาวมีแฟน5555 เห่อค่ะ เพราะเราไม่เคยมีแฟนอย่างที่บอก ก็สีสันครอบครัวค่ะ แล้วที่บ้านก็ยินดีด้วยและฝากฝังเราไว้กับเขา วันนั้นเขินมาก เขาตกปากรับคำแม่และน้าเรา ว่าจะดูแลเรา  ตอนนั้นเราหลงเขามากเลยขอบอก เราแพ้ ผช ที่สุภาพ อ่อนโยน และมีความมั่นใจ เปนผู้นำ เทือกๆนี้มาก^^’

ก็หลังจากนั้น เราก็ช่วยกันเรียนค่ะ เรากับเขาเรียกได้ว่าช่วงแรกคือศีลเสมอกัน ต่างคนต่างให้เกียรติกันค่ะ เราจะทำอะไรเราจะนึกถึงและแคร์ความรู้สึกเขาเสมอ และเขาก็ดูแลเราอย่างดีเช่นกัน ตอนเช้ารับกินข้าว เที่ยงรับกินข้าว เย็นรับกินข้าว เพราะเราร่างกายไม่แข็งแรงเขาเลยกำชับให้กินข้าวครบสามมื้อทุกวัน คอยเป็นธุระพาไปซื้อของ หรืออื่นๆ เพราะมายุ่ มหาลัยเราไม่มีรถ  ฯลฯ  เรียกได้ว่าเขารับผิดชอบเราได้ทุกอย่างค่ะ  เข้าปี 1 เทอม 2 ด้วยความที่เราเรียนกันคนละสาขา วิชาเรียนจึงเริ่มแยกกัน หลังๆเรียนหนักขึ้น ทั้งคู่เลยมีบ้างบางมื้อที่เราไม่ได้กินข้าวกัน ตอนแรกงดมื้อเช้า หลังๆงดมื้อเที่ยง จนลามมาเป็นมื้อเย็นด้วยบางมื้อที่เราเรียนเลิกดึกๆ เรก็ให้เขาหาอะไรกินก่อนไม่ต้องรอ  แต่วันหยุดเราก็ไปกินข้าว ดูหนัง เดินห้างด้วยกันปกติ ตามประสาคนเป็นแฟนค่ะ เราสองคนรักกันดี จนหลายๆคนพากันบอกว่า แฟนเราดี เทคแคร์ ตอนนั้นเราภูมิใจนะค่ะ  และดีใจที่ทุกๆวันเรามีเขาอยู่ข้างๆ

------------------------------------------------------------------------ ต่อ นะค่ะ --------------------------------------------------------------------

ในระหว่างช่วงปี 1 เทอม 2 นี้นี่เองค่ะ (มค-พค)  ...โดยนิสัยเราและเขา เวลาเขาพาเราไปไหน เขาก็จะแนะนำเราให้เพื่อนเขา และเราก็แนะนำเขาให้เพื่อนเราเช่นกัน นั่นจึงทำให้เราและเขาสนิทกับเพื่อนๆของทั้งสองฝ่าย และใครๆเขาก็รู้ว่าสองคนนี้เป็นแฟนกัน (เรียกว่าทั้ง มอก็ว่าได้) ด้วยความที่เรารู้จักคนเยอะ ทั้งในคณะและต่างคณะ จุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่ 3 จึงเริ่มต้นขึ้น...

วันนึงที่เพื่อนสนิทของเรา "ขนมปัง"  (นามแฝง) แนะนำเพื่อนสนิทของนางให้เรารู้จัก เป็นเพื่อนต่างคณะ ขอใช้นามแฝงว่า "ออย" **ยืมชื่อมาจากฮอร์โมน**  ออยกับขนมปังหนะเขาเป็นเพื่อนแก๊งส์อนุบาลเลยนะ คบมาเรื่อยๆ สนิทกันมากๆ พอมหาลัยก็ได้มาเรียนที่เดียวกันอีก แลดูพรมลิขิต ^^' เขามีแก๊งส์ของพวกเขา ซึ่งขนมปังก็แนะนำให้เรารู้จักหมดแหละ จนเราเริ่มสนิทกับออยเพื่อนของเพื่อนสนิทเราคนนี้มากขึ้น รู้สึกถูกชะตาอะ เขาเป็นคนน่ารัก นิสัยดี แต่งตัวเก่ง แต่งหน้าเก่ง แต่เราก็เข้าถึงได้แค่เบื้องต้นนะ ก็โดยรวมเขาเป็นคนดี เปนเพื่อนที่ดีของเราเลยแหละ ตั้งแต่นั้นมา เวลาเรากับแฟนและ ขนมปังเพื่อนสนิทเราไปไหน เราก็จะชวนออยไปด้วยตลอด ไปทะเลกัน ไปกินหมูกระทะ ...จนเราไว้ใจมากสุดๆ (สนิทถึงขั้นล้อชื่อพ่อแม่กัน) เราสร้างกลุ่มไลน์ไว้ติดต่อกัน ในกลุ่มมี เรา แฟนเรา ขนมปัง และออย (เล่านิดนึงก่อน เดี๋ยวงงว่าทำไมชีวิตเราต้องมีเพื่อนมาอยู่ด้วยตลอด ทำไมไม่ใช่แค่เรากับแฟน  คือ แฟนเรากับขนมปังอะสนิทกันอยู่ละเพราะเราเป็นคนอ่อนแอ >< คุณหนูปัญญาอ่อน ที่ช่วยเหลืออะไรตัวเองไม่ค่อยได้แถมร่างกายยังไม่แข็งแรงอีก **แลดูดราม่า555  เราเป็นแบบนั้นจิงๆค่ะตอนนั้น เป็นคนอ่อนต่อโลก ไม่ทันคน มีขนมปังกับแฟนนี่แหละที่คอยบอกคอยเตือน ให้เราทันโลก ...น่าจะเรียกได้ว่า เป็นที่น่าเอ็นดู หรือเป็นภาระก็ไม่รู้ แฟนเราและขนมปังจึงสนิทกันมากเพราะต้องดูแลเรา พาไปหาหมอ บลาๆๆ) จนมี ออย เพิ่มเข้ามานี่แหละ! ออย ก็เป็นคนที่มาเป็นธุระเรื่องเราแทนแฟนเราให้ด้วยนะ อย่างพาเราไปส่ง บขส. เวลากลับบ้าน อะไรแบบนี้

เวลาผ่านไปจนวันสงกรานต์ เมษา ตอนนั้นก็ยังปี 1 เทอม 2 อยู่ มหาลัยก็หยุดให้เที่ยวสงกรานต์ พอดีมีเพื่อนเรามาจากต่างจังหวัดมาเที่ยวด้วยก็จัดการนัดรวมเพื่อน ขับรถเที่ยวสงกรานต์กันในเมือง มี เรา แฟนเรา เพื่อนเรา2คน และออย  ส่วนขนมปังนางต้องกลับบ้านนางเลยไม่ได้อยู่เล่นด้วย(เสียใจTT)  ก็นั่นแหละเรา 5 คนก็ไปด้วยกัน เราเลยแนะนำออยให้เพื่อนเราอีก2คนนั้นรู้จัก ออยก็เข้าได้ดีกับเพื่อนเรา  ...ก็ขับรถเที่ยวรอบเมืองค่ะ เราซ้อนท้ายแฟนเรา ออยซ้อน3กันกะเพื่อนเรา รถมอไซด์สองคัน  ...ที่นี่คือมีคอนเสิร์ตด้วยตอนเย็น แฟนเราสายดนตรีค่ะ มีคอนฯต้องไปทุกที่-_-  ก็วันนั้นสนุกมากทั้งมันส์ ทั้งเปียก เราอะเต้นสนุกมากเลย^^   แต่แล้ว พอออกจากงาน เรา 5 คนก็คุยกันว่าจะไปต่อที่ไหนอีกมั้ย จังหวะนั้น ออยและแฟนเรา ก็เล่นฉีดน้ำกัน นึกภาพนั่งอยู่บนรถที่จอดปรึกษาหารือกันอ่าค่ะ ละเรานั่งซ้อนท้ายแฟน ออยซ้อนเพื่อนเรา ก็ระหว่างที่เรากับเพื่อนคุยกันว่าจะไปต่อมั้ยหรือกลับเพราะดึกแล้ว  แฟนเรากับออยก็หยอกล้อกันไปมาอย่างสนุกสนาน **เอาจริงๆคือเซ้นผู้หญิงมันบอกนะ เรารู้สึกไม่พอใจนะ  แต่เราเก็บอาการนะไม่อะไรตอนนั้น แล้วมาคุยแบบเปิดใจกับแฟนตอนหลังที่แยกย้ายกันแล้วว่า ตอนนั้นอะเรารู้สึกแบบนี้นะ เราไม่โอเคมาก แล้วแฟนเราก็บอกว่า "บ้าเหรอ นั่นเพื่อนเธอนะ" อะไรเทือกๆนี้ เราเลยเบาใจ แล้วก็รู้สึกผิดแหละที่คิดอะไรแบบนั้นไป

เรื่องแลดูไม่มีอะไรเลยนะคะ^^
จบปี 1 ขึ้นปี 2 เราและแฟนก๊ยังคบกันเหมือนเดิมค่ะ แต่มันเริ่มมีสิ่งที่เปลี่ยนไป เขาเริ่มลุกล้ำเข้ามาในชีวิตเรามากขึ้น จำกัดกรอบเรามากขึ้น ด้วยความหัวอ่อน สมัยนั้น5555 เขามีความเป็นผู้ใหญ่กว่าเรา เราเคารพเขาเหมือนเป็นคนในครอบครัวเราเลย และด้วยความที่คนที่บ้านเราไว้ใจเขา แม่เรากะเขาคุยโทรศัพท์กันบ่อย เรื่องเราและสุขภาพเรา เขาก็บอกดูแลได้ครับ ไม่ต้องห่วงอะไรเทือกๆนั้น  แม่ก็เบาใจ เราตอนนั้นก็รักและเทิดทูน5555555555 เชื่อ ไว้ใจ (เหมือนหมาอะ เอาจริงๆ) เจ้านายพาไปกินข้าว พาไปเดินเล่นเสร็จ ก็พาไปส่งกลับเข้าหอพัก กำชับว่าห้ามออกไปไหน เราก็เชื่อฟังค่ะ แต่เวลาเราอยากไปไหนเขาก็พาไปหมดนะ เราชอบไปร้านของเล่น เขาก็ไม่เคยเบื่อที่จะพาไป ...แต่ก็นั่นแหละ เขากำชับซะทุกเรื่องเลย ไปกับเพื่อนก็ไม่ได้ ช่วงนั้นเพื่อนคนอื่นๆนอยด์เราเป็นว่าเล่นเพราะเราไม่ค่อยได้ไปไหนกับเพื่อน เขาไม่ให้ไป การแต่งกายเราต้องใส่แจ็คเก็ตทุกวัน แม้อากาศเมืองไทยจะร้อนยิ้มก็ตาม เพราะเขาบอกว่าเขาหวง เราชอบก้มละไม่ระวังตัว ท่อนล่างอนุญาตแค่ขายาง วอม ตู้เสื้อผ้าเราไม่มีคำว่า collection ตามฤดูค่ะ เสื้อยืด เกงวอม ดีหน่อยก็ยีนส์ ขาดไม่ได้อีก (ตอนนั้นกุทำไปได้ยังไงวะ นี่คือความคิดหลังเลิกกัน)  
และเราเป็นคนไม่แต่งหน้า ก็ลุคเชยๆเลยหละพอบวกกับชุดที่เขาให้ใส่แล้ว^^' ชุดที่ใส่แล้วดูดีสุดคงเป็นชุด นศ.  555+ พอเป็นเช่นนั้นเราเลยยื่นข้อเสนอบ้างว่า ถ้าเราทำเราขอให้เขาไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เที่ยวกลางคืนนะ แลกกัน เขาก็ตกลง!  แต่ก็มีบ้างที่เขาขอไปสังสรรกับเพื่อนก็อนุโลมกันไป  แต่ตัดภาพมาที่เราขอไปติวหนังสือหอเพื่อนเขาไม่ให้ไปนี่สิ ...จนวันนั้นเขาไปเลี้ยง Meeting สาขา  ส่วนเรามีสอบพรุ่งนี้เช้า เราขอไปติว ตอนแรกไม่พอใจ แต่ก็พูดส่งๆเชิงประชดว่า จะไปก็ไป แต่อย่าเกิน 4 ทุ่ม เราก็โอเคได้ แต่มันติวละติดลมไง เราเลยโทรไปบอกขอต่อเวลา (อย่างกะต่อชีวิต) เขาโกรธเอามากๆ ด่าเรา จนเพื่อนเราขอคุย ตอนนั้นเราร้องไห้ เพื่อนเราเลยขอคุยด้วยกับเขาแบบ มันไม่เกินไปเหรอ (เพื่อนเราเป็นตุ๊ด) นี่เราเป็นเพื่อนกันนะ จะไม่ให้(ชื่อเรา)ไปไหนกับเพื่อนๆเลยเหรอ ..ใช่ค่ะ คือหลังๆมาเราไม่ได้ไปไหนกับเพื่อนเลย ต้องอยู่แต่กับเขาอะ แม้แต่กับขนมปัง  (ช่วงนั้นนะชั้นเลือกชายและเทเพื่อนจิงๆ55555) แต่ขอบคุณเพื่อนเรานะ มันเข้าใจกันทุกคนว่าแฟนเราเป็นแบบนั้นและ ถ้ามันก็ไม่อยากให้เราต้องมีปัญหากับแฟน ตอนนั้นเราก็ปรึกษากับเพื่อนแทบทุกวันในห้องเรียน ว่าเราเองก็อยากมีชีวิตของเราบ้าง แต่เรานึกถึงที่ผ่านมาที่เขาดีกับเรามากๆ ที่เขาดูแลเรา เขามีบุญคุญกะเรา เราเลยเป็นฝ่ายยอมทำตามทุกอย่าง เพราะเราก็รักของเราแหละ เราไม่อยากมีปัญหา

จนวันนึง เราลองสมัครทุนไป 2 ทุน เป็นทุนต่างประเทศ เราเกริ่นกับแฟนว่า ถ้าเราได้ทุนเราอาจจะซิ่วนะ ตอนนั้นเขาเศร้าๆ เขาพูดทำนองว่า "ทำไมไม่ไปเรียนตั้งแต่แรก มารู้จักกันมาเปนแฟนกันทำไม แล้วก็ไป.."  ตอนนั้นเรารู้สึกแปลกๆ งงๆกับที่เขาพูด แต่ก็บอกว่า "แหม นี่ไม่รู้จะได้มั้ยยังไม่รู้เลย"  สรุป วันประกาศ ทางมหาลัยเขาโทรมา เป็นทุน ป.ตรี ด้าน Graphics Design ของมาเลฯ ทุนครอบคลุมค่าเล่าเรียนให้ทั้งหมด แต่เราไม่อยากได้ทุนนี้ ก็รออีกทุน...  2 วันต่อมาทุนประเทศอังกฤษ โทรมา ได้ทุน!! เห้ย!!  เป็นทุนป.ตรี Animation and Graphics Design...เช่นกันค่ะ ตอนนั้น เนื้อเต้นเลย! เขาโทรมาตอนนั้นอยู่ในคาบเรียน บอกเพื่อนๆ เพื่อนดีใจด้วยกันยกใหญ่  แต่แล้ว!  พอเลิกคาบเรียนเรากับขนมปังเดินออกจากห้อง แฟนเรามารอรับไปกินข้าวอยู่ด้านนอก เราเอาให้เขาดู เขาพูดขึ้นว่า "ถ้าเราไปแล้วเขาจะอยู่กับใคร" เขาเศร้ามากๆ เราเลยกดลบเมล์ตรงนั้น ขนมปังนี่สตั้นไป 10 วิ  แล้วเราก็บอกแฟนว่า "นี่อะ ไม่ไปละ อยู่กับเธอนี่แหละ เรียนให้จบพร้อมกัน" (จ่ะ อีโลกสวย555555  //ที่แทรกคำด่านี่ไม่ใช่อะไรนะ หมั่นไส้ตัวเองตอนนั้น พอมาคิดได้ทีหลัง)

เออ ว่าแต่ อีออย หายไปเลยเนอะ^^' หลังๆมานี้ ...เห็นขนมปังก็มาเม้าส์ๆว่าออยมันมีโอปป้าเดี๋ยวนี้ ปล่อยมันๆ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หลังๆจะเริ่มดราม่า หนังไทยละนะ เออ คือไม่คิดเหมือนกันว่าจะเจอกับตัว แต่อย่างพี่จ๋า ยศสินี ผู้กับกำละครบอกอ่าแหละ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร

อ่านต่อ คห.4
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่