คำเตือนบทความต่อไปนี้ไม่สามรถหาเเหล่งอ้างอิงที่ถูกต้อง 100 เปอร์เซ็นได้โปรดใช้วิจารณญาณ
(การระบุจำเเนกจะอ้างอิงตามโมเดลหลัก)
ประวัติเต็ม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://en.wikipedia.org/wiki/LeMat_Revolver
ปืนลูกโม่ระบบ Single Action บรรจุกระสุนแบบ percussion cap ซึ่งเป็นระบบที่ใช้ในปืนลูกโม่ยุคแรกสุดการบรรจุกระสุนมีดินปืนแก๊ปและหัวกระสุนแยกออกจากกันแนะนำให้ดูสารคดีเกี่ยวกับอาวุธปืนลูกโม่หรือปืนพกยุคแรกก่อนที่จะมาอ่านสารานุกรมปืนตอนนี้นะครับ.
ปืนลูกโม่ LeMat ออกแบบโดย Jean Alexandre LeMat คุณหมอชาวฝรั่งเศสผู้ย้ายมาอยู่ในสหรัฐปืนลูกโม่ของเขาได้เข้าประจำการในกองทัพสมาพันธรัฐอเมริกา(ฝ่ายใต้)ในสงครามกลางเมืองอเมริกา ปืนลูกโม่ชนิดนี้มีจุดเด่นที่ไม่เหมือนปืนลูกโม่ที่มีอยู่ทั่วไปในสมัยนั้นนั่นก็คือมันมีการบรรจุกระสุนได้ถึง 9 นัดและมีอีก 1 ลำกล้องที่เป็นปืนลูกซองขนาด 20ga เอาไว้ใต้ลำกล้องยิงด้วยการมีหัวนกสับ 2 ชิ้นในนกสับตัวเดียว เป็นแนวคิดที่ค่อนข้างจะก้าวหน้ามากเพราะปืนลูกโม่ส่วนใหญ่ในสมัยนั้นจะบรรจุกระสุนได้แค่ 5 หรือ 6 นัดเท่านั้นแต่ปืนรุ่นนี้บรรจุกระสุนได้ถึง 10 นัด หลังจากสงครามกลางเมืองอเมริกายุติลงปืนลูกโม่รุ่นนี้ก็ได้ถูกลดการผลิตลงอย่างมากเพราะไม่มีกองทัพไหนสั่งซื้อไปใช้เลยนอกจากฝรั่งเศสประเทศบ้านเกิดของผู้ออกแบบแต่อย่างไรก็ตามในทุกวันนี้บริษัท Uberti and Pietta อิตาลียังคงผลิต reproduction LeMat แบบเป็นปืนสั้งทำเฉพาะ
1. LeMat 1861 ขนาดกระสุน .42 Ball หรือ .36 Ball/ 20 gauge. ปืนลูกโม่รุ่นแรกทุกกระบอกจะมีการติดตั้งก้านบรรจุเอาไว้กับตัวปืนเพื่อช่วยในการบรรจุกระสุนอย่างที่เห็นในภาพ
มีหัวนกสับ 2 ชิ้นในนกสับตัวเดียว
2. Baby LeMat ประจำการในกองทัพเรือสมาพันธรัฐ
3. LeMat รุ่นปืนเล็กยาว
4. Pinfire รุ่นนี้เป็นรุ่นที่พัฒนาขึ้นมาทีหลังจากรุ่นแรกมันใช้กระสุนแบบ Pinfire ซึ่งมันก็เหมือนกับกระสุนแบบทั่วไปที่เรารู้จักกันแต่กระสุนชนิดนี้แก็ปที่เรียกกันว่าจอกระทบแตกนั้นจะไม่ได้อยู่ที่ตูดกระสุนแต่จะอยู่ที่ด้านข้างแทนเพราะลักษณะการสับลงของนกสับปืนลูกโม่ในสมัยนั้นไม่ใช่แบบใชัในปืนลูกโม่ที่เราเห็นกันทุกวันนี้
กระสุนแบบ Pinfire
5. LeMat 1869 centerfire - 11mm / 20 gauge. รุ่นนี้เป็นแบบใช้กระสุนครบนัดแบบที่เรารู้จักกันดีและบรรจุได้ง่ายกว่ารุ่นที่แล้วมาอย่างมากและเป็นรุ่นสุดท้ายแล้วในปืนลูกโม่ที่ได้รับการพัฒนาก่อนจะเลิกผลิตไปอย่างสิ้นเชิง
6. LeMat 1861 .44cal/20 gauge reproduction โดย Uberti and Pietta อิตาลี
7. Westworld LeMat 1861 made by Uberti and Pietta
นี่คือปืนลูกโม่ที่ Ed Harris ที่ใช้ในซีรี่นวนิยายวิทยาศาสตร์ชื่อดังเรื่อง West World ปืนกระบอกนี้พิเศษตรงที่ว่ามันมีเอกลักษณ์คือรูปทรงเป็นแบบ 1861 รุ่นแรกแต่ว่ามีการดัดแปลงให้ใช้กระสุน .38 ครบนัดแบบยุคสมัยใหม่รวมถึงกระสุนลูกซองที่อยู่ใต้ลำกล้องด้วยกลายเป็นปืนเอกลักษณ์ประจำตัวของตัวละคร The Man in Black ที่หลายคนรู้จักกันดี
สวัสดีครับ
สารานุกรมปืนตอนที่ 60 LeMat ปืนลูกโม่สมาพันธรัฐอเมริกา
(การระบุจำเเนกจะอ้างอิงตามโมเดลหลัก)
ประวัติเต็ม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ปืนลูกโม่ระบบ Single Action บรรจุกระสุนแบบ percussion cap ซึ่งเป็นระบบที่ใช้ในปืนลูกโม่ยุคแรกสุดการบรรจุกระสุนมีดินปืนแก๊ปและหัวกระสุนแยกออกจากกันแนะนำให้ดูสารคดีเกี่ยวกับอาวุธปืนลูกโม่หรือปืนพกยุคแรกก่อนที่จะมาอ่านสารานุกรมปืนตอนนี้นะครับ.
ปืนลูกโม่ LeMat ออกแบบโดย Jean Alexandre LeMat คุณหมอชาวฝรั่งเศสผู้ย้ายมาอยู่ในสหรัฐปืนลูกโม่ของเขาได้เข้าประจำการในกองทัพสมาพันธรัฐอเมริกา(ฝ่ายใต้)ในสงครามกลางเมืองอเมริกา ปืนลูกโม่ชนิดนี้มีจุดเด่นที่ไม่เหมือนปืนลูกโม่ที่มีอยู่ทั่วไปในสมัยนั้นนั่นก็คือมันมีการบรรจุกระสุนได้ถึง 9 นัดและมีอีก 1 ลำกล้องที่เป็นปืนลูกซองขนาด 20ga เอาไว้ใต้ลำกล้องยิงด้วยการมีหัวนกสับ 2 ชิ้นในนกสับตัวเดียว เป็นแนวคิดที่ค่อนข้างจะก้าวหน้ามากเพราะปืนลูกโม่ส่วนใหญ่ในสมัยนั้นจะบรรจุกระสุนได้แค่ 5 หรือ 6 นัดเท่านั้นแต่ปืนรุ่นนี้บรรจุกระสุนได้ถึง 10 นัด หลังจากสงครามกลางเมืองอเมริกายุติลงปืนลูกโม่รุ่นนี้ก็ได้ถูกลดการผลิตลงอย่างมากเพราะไม่มีกองทัพไหนสั่งซื้อไปใช้เลยนอกจากฝรั่งเศสประเทศบ้านเกิดของผู้ออกแบบแต่อย่างไรก็ตามในทุกวันนี้บริษัท Uberti and Pietta อิตาลียังคงผลิต reproduction LeMat แบบเป็นปืนสั้งทำเฉพาะ
1. LeMat 1861 ขนาดกระสุน .42 Ball หรือ .36 Ball/ 20 gauge. ปืนลูกโม่รุ่นแรกทุกกระบอกจะมีการติดตั้งก้านบรรจุเอาไว้กับตัวปืนเพื่อช่วยในการบรรจุกระสุนอย่างที่เห็นในภาพ
มีหัวนกสับ 2 ชิ้นในนกสับตัวเดียว
2. Baby LeMat ประจำการในกองทัพเรือสมาพันธรัฐ
3. LeMat รุ่นปืนเล็กยาว
4. Pinfire รุ่นนี้เป็นรุ่นที่พัฒนาขึ้นมาทีหลังจากรุ่นแรกมันใช้กระสุนแบบ Pinfire ซึ่งมันก็เหมือนกับกระสุนแบบทั่วไปที่เรารู้จักกันแต่กระสุนชนิดนี้แก็ปที่เรียกกันว่าจอกระทบแตกนั้นจะไม่ได้อยู่ที่ตูดกระสุนแต่จะอยู่ที่ด้านข้างแทนเพราะลักษณะการสับลงของนกสับปืนลูกโม่ในสมัยนั้นไม่ใช่แบบใชัในปืนลูกโม่ที่เราเห็นกันทุกวันนี้
กระสุนแบบ Pinfire
5. LeMat 1869 centerfire - 11mm / 20 gauge. รุ่นนี้เป็นแบบใช้กระสุนครบนัดแบบที่เรารู้จักกันดีและบรรจุได้ง่ายกว่ารุ่นที่แล้วมาอย่างมากและเป็นรุ่นสุดท้ายแล้วในปืนลูกโม่ที่ได้รับการพัฒนาก่อนจะเลิกผลิตไปอย่างสิ้นเชิง
6. LeMat 1861 .44cal/20 gauge reproduction โดย Uberti and Pietta อิตาลี
7. Westworld LeMat 1861 made by Uberti and Pietta
นี่คือปืนลูกโม่ที่ Ed Harris ที่ใช้ในซีรี่นวนิยายวิทยาศาสตร์ชื่อดังเรื่อง West World ปืนกระบอกนี้พิเศษตรงที่ว่ามันมีเอกลักษณ์คือรูปทรงเป็นแบบ 1861 รุ่นแรกแต่ว่ามีการดัดแปลงให้ใช้กระสุน .38 ครบนัดแบบยุคสมัยใหม่รวมถึงกระสุนลูกซองที่อยู่ใต้ลำกล้องด้วยกลายเป็นปืนเอกลักษณ์ประจำตัวของตัวละคร The Man in Black ที่หลายคนรู้จักกันดี