JK Air นี่ใช่ใช่สายการบินใหม่นะคะ ก็เจ้เกียวแห่ง เชิดชัยแอร์นี่แหละค่ะ
สำหรับการจองก็ง๊ายๆ ไป TTM ค่าตั๋ว 230 มีค่าออกตั๋ว 20 เป็น 250 บาท ไม่บานปลาย

ตื่นตี 3 ออกจากบ้านรามอินทรารสไฟฟ้าสายสีชมพู ตอนตี 4 โดยกราบแทกซี่ เอ๊ยยGrabCar มีpro ได้ลดไปหน่อยจ่ายไป ร้อยกว่า
4.30 ถึงเอกะมาอิ เอ้ยยย เอกมัย Ekamai อ่านเป็นภาษาญี่ปุ่นเลยกรู

Boarding pass เจ้เกียวแอร์ไลน์ ไม่ต้องเชคอิน แครี่ย์ออน10โล  พนังงานของ JK Air ก็จะป้าๆ แนวๆเดียวกับเจ้าของบริษัท ป้าไม่พอ ดุมากกกก ชี้ให้โยนของลงใต้เครื่อง หนูละกลัวเลย

เดินไป 7-11 หาซื้ออะไรมาเผื่อประทังชีวิต เดินไปขึ้นรถรอบตี 5 บนรถแอบมองลงมาเป็นป้ากำลังป้อนโจ๊กลุง น่ารักดี (จริงๆแอบเป้ปากมองบน 75 องศาอิจฉาป้า)
รถออก แอร์ (รุ่นป้าดุๆคนเดิมก็เดินมาแจกน้ำขวด) ก็นอนๆไป นั่งๆ ไป จนวะ transit ที่จันทบุรี Terminal


เท่านั้นแหละคร่า
ฝรั่งคนนี้ขึ้นมา แล้วทำให้การเดินทางครั้งนี้เปลี่ยนไป
"Cheers ไม่อาบน่ำมากี่สัปดาห์พูด"
เจ้ข้างๆหนูก็ตัดช่องน้อยหนีไปนั่งอีกฝั่ง หยิบโป๊ยเซียนมาดม แล้วหันมายิ้มอ่อนให้เรา (แง่)


เมากลิ่นสาย ฝ  มาจนถึงตราดประมาณ 10.30- 11 .00
ระหว่างรอก็หาอะไรกินเบาๆ Amazing Thailand มาถึงตราดต้องโดน ชมพู่ ถุงละ20 ชมพู่ลูกครึ่ง ไม่ใช่พันธ์แต่เป็นปริมาณ
ขากลับได้ยินพนง เชิดชัยก็บ่นว่าโดนฝรั่งลูกละ 50 บาท คนขายนี่ไม่ธรรมดานะคะ นางไม่ใช่คนไทย โดนฟันหัวแบะกันระนาวเลยคะ

11.30 นั่งspeedcar จากบขส  ตอนแรกนึกว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงโว้ยนั่งคนเดียวชิลๆ
ก็มีแวะรับคนตามทางมาเรื่อยๆ จนเต็มค่ะ

12.00 มาถึงท่าเรือ
นี่จะมีเรืออยู่3เจ้า Express บุญศิริ แต่ นี่จองผ่านPrincess ไปกลับ600บาท จ่ายเงินมาล่วงหน้า ถ้าจองแยกมันเที่ยวละ 350 บาท  ซึ่งราคานี้รวมรถรับส่งฟรีตลอดค่ะ จากบขส-ท่าเรือแหลมศอก จากท่าเรืออ่าวสลัด-ที่พัก รวมถึงขากลับก็รับจากที่พักไปส่งบขส ให้ครบเลยนับว่าคุ้ม เพราะถ้าเหมารถจากบขส มาท่าเรือเองรอบละ 250-300 บาท
12.30 เรือออก



14.30 ก็ถึงเกาะกูด กลิ่นปลาเค็มโช ก็เลยก้มดมนึกว่าปลาเค็มเรา อ่าวไม่ใช่ ก็มีชาวบ้านตากกุ้งแห้งไว้ ขากลับเป็นถุงละ 3 ขีด 250 บาท แต่ไม่ได้ซื้อ

ก็นั่งรถสองแถวไปที่พักที่จองไว้ คือ Siam Beach

อันนี้จองผ่าน Traveloka มา (ปกติจอง Agoda กะ booking แต่นี่นอกใจเพราะมันมี pro แล้วถูกว่าทุกเวป)
ต้องจองผ่าน app มือถือแล้วรอตอนมีส่วนลดนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ตัดภาพมาที่กระท่อมของเรา คือจองผ่าน traveloka ครั้งแรก ราคาห้องคืนละ 1,200 บาท สำหรับ2คนรวมอาหารเช้า ใช้code ลดไปเสร็จสรรพน่าจะคืนละ 900 ทำใจไว้แล้วว่าจะมาเจอกับสิงสาราสัตว์ กบ เขียด แมลง อะไรก็ตามอย่ามีตุ๊กแก กับงูพอ ทั้งๆที่จริงๆเปนคนกลัวแมลงมากๆ สำหรับจอยคุ้มทุกนาทีที่เดินทางมาสิริรวมก็ 7-10 ชั่วโมง ห้องพักแบบ H1-10 และ 16-17คือbeach front ห้องเบอร์ 1,4,8,9คือวิวสวยมากๆ
ห้องพัดลม ไม่มีทีวี นี่แหละที่เราต้องการ คือเป็นการ escape จริงๆ ประหนึ่งมาออกค่ายวิปัสนาก็ไม่เชิง คือยังสบายเพราะห้องน้ำส่วนตัว มีมุ้งมาให้ดูเก๋ๆ exotic ค่ำๆถึงรู้ยุงที่นี่ตัวเท่าต่อแล้วกัดโคตรเจ็บ


คือติดทะเลแบบสุดๆค่ะ


รวมเวลาที่ตื่นนอน ออกจากบ้านและเดินทางก็13 ชั่วโมง
นี่มาอ่าวไทยหรือข้ามแปซิฟิก
เห็นน้ำทะเลแล้วเผลอกริ๊ดดังมาก ห้องไม่แพงเท่าโซเนวาแต่วิวอลังไม่แพ้เลย กริ๊ด วิวจากหน้าห้อง


อาหารค่ำก็สั่งยำวุ้นเว้น กระเทียมทะเลราดข้าว น้ำแตงโมปั่น สิริรวม 270 เอาไปเลย 300 ไม่ต้องทอน อาหารนี่ส่วนตัวคิดว่าราคาถูกกว่าสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆมากๆ กินเสร็จ อาบน้ำนอนตอน2 ทุ่มเป็นเด็กอนุบาลเลยค่ะ

ตื่นตั้งแต่ตี 4 มั้ง รอให้สว่างสักพัก เช้ามาวิวก็จะประมาณนี้ ห่างไกลคำว่าหรูหราแต่ใกล้ชิดทะเลมากๆ น้ำขึ้นให้รีบตด

ล้างหน้าแปรงฟันแต่ไม่ต้องอาบน้ำ ที่นี่เช้าไม่มีใครอาบน้ำกันทุกคนลงทะเลค่ะ แต่ก็ลงก็หาอะไรแหลกหน่อย ไหนค่าห้องหลักร้อยจะมีอะไรให้แหลก
เหยยยยย ในส่วนของอาหารเช้าดีเกินราคาที่จ่ายไปจริงๆ
ไม่เยอะไม่หรู แต่อร่อย  ที่เริ่ดคือเครื่องชงกาแฟเค้ามีชานม รักที่นี่ว่ะ อะไรดีเกินคุ้มกว่าแฟลตปลาทองขนาดนี้


จุดเริ่มต้นของการมาเที่ยวเกาะกูดคนเดียวคือ สองสามเดือนที่แล้ว ดูเรื่อง Eat Pray Love แล้วเกิดความอยากเป็นJulia Robert คือในหนังฉากที่นางเอกอยู่กระท่อมกลางทุ่งนาที่บาหลี การเดินทางคนเดียวบางครั้งเหมือนเป็นการให้เวลาตัวเอง ให้เราได้อยู่กับตัวเอง และบางครั้งมันทำให้เรานึกถึงบางสิ่งที่มองข้ามไปได้ หรือพูดอีกอย่างการอยู่คนเดียวช่วยเยียวยาจิตใจเราได้


ก่อนมา2วันน้องสาว ถามแน่ใจแล้วเหรอ อาานเรื่องหลอนพันทิปยัง "ผีเขมรที่เกาะกูด"

คือก็มั่นใจมาตลอดจนน้องทัก เล่าให้พี่ที่ทำงานฟัง พี่ก็ปลอบโดยการบอกว่า"ใช่ๆ พี่เคยไป พี่ก็เจอ" เปิดgoogle ก็มีคนรีวิวผีเกาะกูดจริงๆ

นั่งสองแถวเจอคนท้องถิ่น พี่เค้าก็บอกว่าถึงโรงแรมแล้วขอธูปไหว้เจ้าที่ด้วยนะ

เอาแล้ววววว ขนาดคนเกาะบอก

สรุปหลับปุ๋ย นอนฟังเสียงคลื่นสลับเสียงจั๊กจั่น

กินข้าวเย็นเสร็จเห็นศาลพระพรหม เลยจุดธูปไหว้

ดีใจที่นอกจากได้อยู่กะตัวเองแล้วยังก้าวข้ามสิ่งที่มองไม่เห็นได้ ไม่ใช่ผี แต่เป็น"ความกลัว" นั่นเอง ก่อนมาแม่ก็ว่า ที่ทำงานก็ตกใจ ใครๆก็ไม่เชื่อ

อิบร้าจะไปทะเลคนเดียว ไม่ใช่พัทยาหัวหินแต่เป็นเกาะกูดเลยนะคะแก

อยากบอกว่านี่เป็น one of the best 2017 เลยค่ะ ดีใจที่ตัดสินใจมา แล้วเดี่ยวจะกลับมาอีกแน่นอนเดือนมีนา