[SR] รีวิว โรงแรมอัมพวาน่านอน By Girl Like Travel


#อัมพวาน่านอน ชื่อนี้เป็นชื่อที่ใครหลายคนคงเคยได้ยิน และผ่านหูกันมาบ้างเมื่อนึกถึงที่พักย่านตลาดน้ำอัมพวา
อัมพวาน่านอน เป็นโรงแรมที่เรียงร้อยมนต์เสน่ห์ความเป็นอัมพวาไว้ให้แขกผู้มาเข้าพักได้สัมผัสและเข้าถึงความเป็นอัมพวาอย่างลึกซึ้ง ด้วยการออกแบบและการตกแต่งอย่างพิถีพิถัน ทุกๆ อย่างต้องคำนึงถึงความเป็นอัมพวา และกลมกลืนกับชุมชนท้องถิ่น เพื่อให้เกิดการอนุรักษ์ และอยู่คู่กับชุมชนริมน้ำแห่งนี้อย่าง ยั่งยืน

โรงแรมอัมพวาน่านอน โดดเด่นในเรื่องขอที่ตั้ง ซึ่งอยู่ใจกลางตลาดน้ำอัมพวา สามารถเดินไปเที่ยวตลาดน้ำได้เพียง 2 นาทีถึง ห่างจากตัวตลาดเพียง 100 เมตร มีที่จอดรถไว้บริการสำหรับแขกผู้เข้าพักมีเซเว่นตั้งอยู่ด้านหน้าของโรงแรม

ตัวอาคารเป็นสีเทาออกน้ำตาล อันเป็นสีของเมล็ดกาแฟ เนื่องจากเดิม สถานที่แห่งนี้ เคยเป็นโรงกาแฟของครอบครัวเจ้าของโรงแรมมาก่อน สีของโรงแรมจึงมีกลิ่นอายของความเป็นกาแฟ
อีกประการหนึ่ง คือ หากให้ทุกคนหลับตา แล้วนึกถึงอัมพวา สิ่งแรกที่ทุกคนนึกถึง คงไม่พ้นสีน้ำตาล ของบ้านไม้ต่างๆ ริมน้ำ

ชื่อ อัมพวาน่านอน มีที่มา เนื่องจาก อ.อัมพวา และจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นจังหวัดที่อยู่ใกล้กรุงเทพมาก ใช้เวลาเดินทางเพียง 1 ชม. ก็ถึง ผู้คนจึงนิยมมาเที่ยวแบบ one day trip ไปเช้าเย็นกลับ ผู้บริหารจึงมีแนวคิดว่า อัมพวาไม่น่าเที่ยวอย่างเดียวนะ แต่อัมพวาน่านอนด้วยเช่นกัน

อัมพวาจะน่านอนขนาดไหนตามมาดูกันเลยค่ะ

เมื่อจอดรถแล้ว เดินขึ้นโรงแรมมา จะเจอกับเคาท์เตอร์เช็คอิน มีพนักงานต้อนรับคอยต้อนรับอย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง ช่วงนี้ ทางโรงแรมมีการจัดและตกแต่งโรงแรมเป็นธีมคริตมาส เนื่องจากเข้าใกล้ช่วงเทศกาลแล้ว


ห้องโถง ล็อบบี้ ออกแบบเปิดโล่ง โปร่งสบาย มีสายลมเย็นตามธรรมชาติพัดสบายๆ ตลอด เนื่องจากโรงแรมออกแบบ สไตล์ Modern Tropical คือ การออกแบบบ้านที่ปลูกในเขตร้อน มีการยกใต้ถุนสูงเพื่อรับลม อากาศถ่ายเท ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านของตัวเอง


ห้องนั่งเล่นของโรงแรม ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้แทบทั้งหมด เพื่อให้คงกลิ่นอายความเป็นอัมพวา


มีมุมพักผ่อนสำหรับลูกค้าเยอะมากๆ


มีมุมสำหรับฮิปเตอร์ให้ได้ถ่ายรูป เก็บภาพความประทับใจได้หลายมุม


พักผ่อนชิลๆ กับวันเบาๆ สบายๆ ผ่อนคลาย เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนชาร์ทแบตให้ตัวเองเป็นอย่างยิ่ง


มุมถ่ายรูปเก๋ๆ ก่อนที่เราจะขึ้นลิฟท์ ไปชั้นที่ 2


เมื่อขึ้นมาชั้นที่ 2 ในส่วนของ Terrace ห้องโถงกลางของแต่ละชั้น จะออกแบบเป็นมุมพักผ่อน ที่ตกแต่งไม่เหมือนกันเลยสักชั้น เป็นมุมที่ให้คนในครอบครัวได้มานั่งพูดคุยสังสรรค์กัน


มุมสบายๆ หลีกหนีความวุ่นวายจากเมืองกรุงมาชาร์ทพลัง


ห้องแรกที่เราจะพามาชม คือ ห้อง Deluxe ซึ่งอยู่ที่ชั้น 2 ห้องนี้เป็นโทนสีแดง มีความสวยงามมากๆ ห้องพักส่วนใหญ่ในชั้น 2 จะทาด้วยโทนสีของฤดูร้อน อย่างเช่น สีแดง สีส้ม สีเหลือง ให้อารมณ์ความสนุกสนาน ครึกครื้น สำหรับเรา ชอบห้องสีแดงที่สุด


สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้อง และเฟอร์นิเจอร์ ก็ยังคงเป็นแบบไม้เช่นเดิม ไม่หลุดคอนเซ็ป


กล่องนี้เป็นกล่องใส่ ชากาแฟ เป็นคอมพลิเมนทาลี่ของโรงแรม


ห้องที่ 2 เป็นห้องเตียงใหญ่ สีขาว ตัวห้องกว้างขวางและสะอาดสะอ้าน สิ่งที่จะไม่พูดถึงเลยไม่ได้คือ เตียงนอน อันหนานุ่มของที่นี่ เพราะได้รับการกล่าวขวัญถึงมาช้านานว่า จนใครหลายๆ คนใฝ่ฝันอยากมาสัมผัส และทิ้งตัวลงนอน ว่าเป็นเตียงดูดวิญญาณ เพราะถ้ามานอนที่นี่แล้ว เชื่อเลยว่าจะไม่อยากตื่นกันเลยทีเดียว สมชื่อกับคำว่านอน


ไม่ต้องดูโทรทัศน์แล้ว นอนเลยดีกว่า


ของประดับตกแต่งชิ้นพิเศษอีกอย่างหนึ่งของโรงแรมคือ ภาพวาดลายเส้น บอกเล่าเรื่องราวความเป็นอัมพวา ที่วาดจากสถาปนิก ผู้ออกแบบโรงแรม แต่ละภาพที่ประดับตกแต่งในโรงแรม จะไม่ซ้ำกันเลยสักภาพในแต่ละห้อง


สำหรับห้องต่อมานี่ เป็นห้องพักสำหรับ 4 คน เหมาะกับผู้ที่มาเป็นครอบครัวและกลุ่มเพื่อนฝูงมานอนกัน ห้องนี่เมื่อเปิดประตูเข้ามาและจะเจอกับห้องนั่งเล่นก่อน และจะมี 2 ห้องนอนภายในห้องเดียวกัน


ห้องนอน ภานในห้อง Two Bedroom Suite


อีก 1 ห้องนอน


ห้องทุกห้องจะมีระเบียงให้ออกไปนั่งเล่นชมบรรยากาศ


ห้อง Suite จะมีอยู่ทุกชั้น และทุกมุมของตัวตึก


มุมครอบครัว


การออกแบบและตกแต่งห้องพักจะเป็นสไตล์ลอฟท์


ภาพที่ประดับตกแต่งในห้อง ก็บอกแล้วว่าแต่ละห้องออกแบบไม่เหมือนกัน


ห้องอาบน้ำที่นี่จะเป็นแบบ Shower สะอาดสะอ้านดี


ห้องสีส้ม ของชั้น 2 มองออกไปตรงระเบียงจะเห็นบานสไลด์สีน้ำตาล บานนี้สามารถเลื่อนไปมาได้ เอาไว้บังแดด


ยังคงอยู่กันที่ชั้น 2 ห้องสีส้มก็ถ่ายรูปสวยนร้า


ที่นี่มีลิฟท์ แต่เราจะเดินบันไดขึ้นชมแต่ละชั้น โทนสีของแต่ละชั้นจะไม่เหมือนกันจริงๆ เมื่อขึ้นมาชั้นที่ 3 จะเป็นโทนสีของฤดูฝน


Terrace ของชั้น 3 ตกแต่งด้วยเก้าอี้รูปหัวใจ


ห้องชั้น 3 จะเป็นโทนสีของฤดูฝน ได้แก่สีเขียวเข้ม สีเขียวอ่อน สีฟ้า ให้ความรู้สึก เย็นสบาย สดชื่นของความเป็นฤดูฝน


ห้องนี้ จริงๆ เป็นสีเขียวอ่อนนะ


สบู่ใบไม้ออแกนิค หอมมาก ผลิตจากน้ำแร่ธรรมชาติ ลองใช้แล้วหน้านุ่มมาก


ระเบียงของห้องปูด้วยหญ้าเทียม บานสไลด์สีน้ำตาลที่บอกว่าเลื่อนไปมาได้ อันนี้ ได้แนวทราบคิดการออกแบบมาว่า ในยามค่ำคืน ถ้าผู้เข้าพัก เลื่อนบานสไลด์ไปมา แสงไฟสีส้มอมเหลืองจากในห้องที่ลอดผ่านซี่ไม้ จะส่องแสงวิบวับ ให้คนภายนอกเห็น เสมือนแสงของหิ่งห้อยอัมพวา


มาต่อกันที่ชั้น ที่ 4 Terrace นั่งเล่นส่วนกลางของชั้นนี้


ป้ายบอกหมายเลขห้อง กิ้บเก๋ไม่เหมือนใคร จะเป็นอสงไฟ ส่งผาดไปบนเพดาน ในยามค่ำคืนจะสวยมาก เพื่อให้สามารถมองเห็นหมายเลขห้องได้ แม้ยืนอยู่ในที่ไกล


สำหรับชั้น 4 ห้องแรกที่เราจะพาไปชม เป็นห้อง Suite สำหรับ 4 คน เปิดประตูเข้าไปชมกันเลย


ห้องนี้มี 2 ห้องนอนในห้องเดียวกัน และมี 1 ห้องนั่งเล่นอยู่ตรงกลาง โทนสีของห้องนี้เป็นสีม่วง สำหรับโทนสีของชั้น 4 จะเป็นสีของฤดูหนาว ได้แก่สีน้ำเงิน สีม่วง สีขียวเข้ม ให้ความรู้สุขุม นุ่มลึก ของความเป็นฤดูหนาว


ห้องนั่งเล่น ภายในห้อง Suite


ห้องนอนสีม่วง ของห้อง Suite


2 ห้องนอนในห้องเดียวกัน ใครมาเป็นครอบครัวแนะนำห้องนี้เลย


ห้องน้ำของห้อง Suite จะแยกเป็น 1 ห้องอาบน้ำ และ 1 ห้องสุขา สะดวกสะบาย ไม่ต้องแย่งกันใช้


ห้องนอน Deluxe สีน้ำเงิน สวยมาก ถ่ายรูปขึ้นสุดๆ


ทิ้งตัวลงนอน ถ่ายรูปเช็คอินกัน


ห้องโทนสีม่วง เตียงใหญ่ก็มีนะ


ห้องน้ำ อ่างล้างหน้าจะมาอยู่ด้านนอก


มองจากมุมสูง ด้านหลังโรงแรม ตรงนี้คือทางไปตลาดน้ำ โรงแรมอยู่ติดตลาดน้ำมาก เรียกได้ว่ามีตลาดน้ำอัมพวาอยู่หลังบ้านกันเลยทีเดียว ที่เห็นหลังคาขาวๆ และสีน้ำตาลตรงนั้น คือตลาดน้ำอัมพวาทั้งหมด


กลับลงมาที่ชั้นล่าง


เราจะพาไปชมห้องอาหารกัน แต่แวะถ่ายรูปสักแป็บนึง


ประดับตกแต่งด้วยต้นไม้เล็ก เพื่อให้ความรู้สึกร่มรื่น
ชื่อสินค้า:   รีวิว โรงแรมอัมพวาน่านอน By Girl Like Travel
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่