ทริปนี้ไปกับ "สมาคมประชาสัมพันธ์โรงแรมแห่งประเทศไทย" ที่จัดกิจกรรมแบบ "วันเดย์ทริป ไปเช้าเย็นกลับ" เพื่อไปดูสถานที่ท่องเที่ยวเปิดใหม่ของอัมพวา คือ “โครงการชูชัยบุรี ศรีอัมพวา” ห่างจากตลาดน้ำอัมพวาเพียง 800 เมตรเท่านั้นสามารถเดินทางตามทางเดินริมแม่น้ำที่เชื่อมต่อกันได้ ตัวโครงการดูแล้วโดดเด่นเป็นสง่ายิ่งใหญ่ตระการตาอลังการงานสร้าง นับได้ว่าเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ที่จะยืนอยู่คู่กับตลาดน้ำอัมพวา ความทันสมัยที่หล่อหลอมเข้ากับอดีตได้อย่างลงตัว การเยี่ยมชมโครงการครั้งนี้จะชมตั้งแต่ห้องแรกไปจนถึงส่วนพิพิธภัณฑ์ที่ไม่เคยเปิดให้เข้าชมมาก่อนด้วย (ช่วงนี้คนไทยเข้าชมฟรี)
ภายในโครงการประกอบด้วย อาคารชินบัญชร, อาคาพรหมพิมาน, อาคารชัยนครา, อาคารมั่งมีศรีสุขและเรือนไทยไชยราฏราช 200 ปี รวมถึงลานแห่งศรัทธาที่ได้นำเทวรูป พระแม่อุมาเทวี, พระศิวะ, พระพิฆเนศวร เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้กราบไหว้ขอพร และในช่วงค่ำมีการแสดงประกอบแสงสีเสียงสุด อลังการอีกด้วย หากใครมาอย่ารีบกลับจนกว่าการแสดงจะจบ
เมื่อเดินทางไปถึงที่โครงการฯ หลังจากที่จอดรถเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็เดินไปที่ยังตัวของโครงการซึ่งติดอยู่กับแม่น้ำ เข้าไปชม "อาคารชินบัญชร" ก่อนซึ่งเป็นอาคารที่อยู่ด้านหน้าสุด และเป็นต้อนรับแขกที่จะเข้ามาพักที่นี่ ตัวอาคารเป็นสถาปัยตยกรรมแปดเหลี่ยม ด้านในตกแต่งหรูหราอลังการสไตล์วิกทอเรีย เป็นสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลมาจากสถาปัตยกรรมยุโรป ผสมกับไทยประยุกต์ ก่ออิฐ ถือปูน ทั้งหมดทาด้วยสีครีมอ่อนหลังคาสีแดง และหลังคาเป็นทรงไทยประยุกต์ มีลวดลายตามหน้าต่าง และช่องลมซึ่งฉลุเป็นลายงดงาม ภายในอาคารจะแบ่งเป็นห้องชุดต่างๆ ตกแต่งด้วยสีฟ้า เขียว ชมพู งาช้าง และสีลูกพีช (ชมพูอมส้ม) ยอดโดมของอาคาร มี Sky Light Dome ช่องแสง ธรรมชาติ
ต่อมาออกจากอาคาร "อาคารชินบัญชร" แล้วก็มุ่งหน้าไปยังลานสักการะ ที่เริ่มด้วย ลานรัก-ลานศรัทธา ประกอบด้วยประติมากรรม พระศิวะ พระแม่อุมาเทวี พระพิฆเณศ ให้ประชาชนได้สักการะขอพร มีหอระฆังรักสำหรับแขวนมาลัยรัก เดินไปอีกหน่อยฝั่งทางออกจะมีโซนที่จัดตกแต่งสำหรับการพักผ่อนและถ่ายรูปกับศิลปะวัตถุมากมาย
มาถึง เรือนไทยไชยนาฏราช 200 ปี เรือนหลังนี้เป็นเรือนเก่าสถาปัตยกรรม บ้านทรงไทยยุครัตนโกสินทร์ ที่สถาปนาขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๓๒๕ รับสืบทอดวัฒนธรรมการสร้างเรือนมาจาก อาณาจักรศรีอยุธยาไม่ผิดเพี้ยน ประกอบด้วยเรือน 3 ห้อง บันไดขึ้นลงทางด้านหน้า ใช้เป็นเวทีการแสดงร่ายรำ นาฏศิลป์ และดนตรี ให้เราได้ชมผ่อนอารมณ์ไปกับนาฏลีลายามเย็น
ชั้นล่างและชั้นบนของอาคารเป็นพื้นที่จัดแสดงศิลปะวัตถุ และโบราณวัตถุล้ำค่าหาชมได้ยาก หน้ากากและเครื่องทรงรวมทั้งศาสตราวุธที่เห็นในชั้นล่างเคลือบด้วยทอง ส่วนชั้นบนเป็นห้องแสดงโบราณวัตถุที่ไม่ค่อยได้พบเห็นกันง่ายๆ วัตถุที่นำมาแสดงแต่ละชิ้นล้วนประเมินค่าไม่ได้ เสมือนเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมๆ และยังมีอีกหลายชิ้นที่ยังไม่ได้เปิดให้เข้าชมกันในวันนี้
อีกส่วนหนึ่งคืออาคารที่ทางโครงการได้จัดสรรแบ่งส่วนให้เป็นที่ขายของที่ระลึก สามารถเลือกซื้อเลือกหาของฝาก จัดจำหน่ายขนมหวานแบบไทยๆ โบราณหาทานยากหลายชนิดเลยทีเดียว และเครื่องดื่มร้อน-เย็น ที่พลาดไม่ได้เลยคือไอติมโบราณมีหลายรสมาก
ส่วนด้านบนเป็นโรงแรม มีห้องพักอยู่หลายห้อง แต่ละห้องตกแต่งอย่างสวยงาม แต่พื้นที่หากเทียบกับโรงแรมในระดับนี้แล้วอาจดูแคบไปหน่อย แต่ยังคงความเป็นวิคทอเรียอยู่ ทั้งห้องซูพีเรีย ห้องแฟมิลี่ และห้องคอนเน็ค
หลังจากที่ได้เยี่ยมชมโครงการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ออกเดินทางไปทำกิจกรรม "ไหว้พระทางน้ำ" และละวัดเป็นวัดวัดชื่อดังของอัมพวา อาทิ วัดภุมรินทร์กุฎีทอง และวัดบางกุ้ง เห็นในโปรแกรมมี 3 วัด แต่ด้วยที่ว่าอากาศร้อนเกินบรรยายเลยลดเหลือแค่ 2 วัดเท่านั้น ต่อจากนั้นก็มุ่งหน้ากลับสู่โครงการเหมือนเดิมเพื่อรอการแสดงนาฎศิลป์ของช่วงค่ำต่อไป
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโครงการชูชัยบุรี ศรีอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ที่เบอร์โทรศัพท์. 034-129-900 หรือ เยี่ยมชมที่เว็บไซต์ : www.chuchaiburi.com
[SR] ชูชัยบุรี ศรีอัมพวา เที่ยวตลาดน้ำอัมพวาแบบวันเดย์ทริป
ทริปนี้ไปกับ "สมาคมประชาสัมพันธ์โรงแรมแห่งประเทศไทย" ที่จัดกิจกรรมแบบ "วันเดย์ทริป ไปเช้าเย็นกลับ" เพื่อไปดูสถานที่ท่องเที่ยวเปิดใหม่ของอัมพวา คือ “โครงการชูชัยบุรี ศรีอัมพวา” ห่างจากตลาดน้ำอัมพวาเพียง 800 เมตรเท่านั้นสามารถเดินทางตามทางเดินริมแม่น้ำที่เชื่อมต่อกันได้ ตัวโครงการดูแล้วโดดเด่นเป็นสง่ายิ่งใหญ่ตระการตาอลังการงานสร้าง นับได้ว่าเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ที่จะยืนอยู่คู่กับตลาดน้ำอัมพวา ความทันสมัยที่หล่อหลอมเข้ากับอดีตได้อย่างลงตัว การเยี่ยมชมโครงการครั้งนี้จะชมตั้งแต่ห้องแรกไปจนถึงส่วนพิพิธภัณฑ์ที่ไม่เคยเปิดให้เข้าชมมาก่อนด้วย (ช่วงนี้คนไทยเข้าชมฟรี)
ภายในโครงการประกอบด้วย อาคารชินบัญชร, อาคาพรหมพิมาน, อาคารชัยนครา, อาคารมั่งมีศรีสุขและเรือนไทยไชยราฏราช 200 ปี รวมถึงลานแห่งศรัทธาที่ได้นำเทวรูป พระแม่อุมาเทวี, พระศิวะ, พระพิฆเนศวร เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้กราบไหว้ขอพร และในช่วงค่ำมีการแสดงประกอบแสงสีเสียงสุด อลังการอีกด้วย หากใครมาอย่ารีบกลับจนกว่าการแสดงจะจบ
เมื่อเดินทางไปถึงที่โครงการฯ หลังจากที่จอดรถเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็เดินไปที่ยังตัวของโครงการซึ่งติดอยู่กับแม่น้ำ เข้าไปชม "อาคารชินบัญชร" ก่อนซึ่งเป็นอาคารที่อยู่ด้านหน้าสุด และเป็นต้อนรับแขกที่จะเข้ามาพักที่นี่ ตัวอาคารเป็นสถาปัยตยกรรมแปดเหลี่ยม ด้านในตกแต่งหรูหราอลังการสไตล์วิกทอเรีย เป็นสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลมาจากสถาปัตยกรรมยุโรป ผสมกับไทยประยุกต์ ก่ออิฐ ถือปูน ทั้งหมดทาด้วยสีครีมอ่อนหลังคาสีแดง และหลังคาเป็นทรงไทยประยุกต์ มีลวดลายตามหน้าต่าง และช่องลมซึ่งฉลุเป็นลายงดงาม ภายในอาคารจะแบ่งเป็นห้องชุดต่างๆ ตกแต่งด้วยสีฟ้า เขียว ชมพู งาช้าง และสีลูกพีช (ชมพูอมส้ม) ยอดโดมของอาคาร มี Sky Light Dome ช่องแสง ธรรมชาติ
ต่อมาออกจากอาคาร "อาคารชินบัญชร" แล้วก็มุ่งหน้าไปยังลานสักการะ ที่เริ่มด้วย ลานรัก-ลานศรัทธา ประกอบด้วยประติมากรรม พระศิวะ พระแม่อุมาเทวี พระพิฆเณศ ให้ประชาชนได้สักการะขอพร มีหอระฆังรักสำหรับแขวนมาลัยรัก เดินไปอีกหน่อยฝั่งทางออกจะมีโซนที่จัดตกแต่งสำหรับการพักผ่อนและถ่ายรูปกับศิลปะวัตถุมากมาย
มาถึง เรือนไทยไชยนาฏราช 200 ปี เรือนหลังนี้เป็นเรือนเก่าสถาปัตยกรรม บ้านทรงไทยยุครัตนโกสินทร์ ที่สถาปนาขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๓๒๕ รับสืบทอดวัฒนธรรมการสร้างเรือนมาจาก อาณาจักรศรีอยุธยาไม่ผิดเพี้ยน ประกอบด้วยเรือน 3 ห้อง บันไดขึ้นลงทางด้านหน้า ใช้เป็นเวทีการแสดงร่ายรำ นาฏศิลป์ และดนตรี ให้เราได้ชมผ่อนอารมณ์ไปกับนาฏลีลายามเย็น
ชั้นล่างและชั้นบนของอาคารเป็นพื้นที่จัดแสดงศิลปะวัตถุ และโบราณวัตถุล้ำค่าหาชมได้ยาก หน้ากากและเครื่องทรงรวมทั้งศาสตราวุธที่เห็นในชั้นล่างเคลือบด้วยทอง ส่วนชั้นบนเป็นห้องแสดงโบราณวัตถุที่ไม่ค่อยได้พบเห็นกันง่ายๆ วัตถุที่นำมาแสดงแต่ละชิ้นล้วนประเมินค่าไม่ได้ เสมือนเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมๆ และยังมีอีกหลายชิ้นที่ยังไม่ได้เปิดให้เข้าชมกันในวันนี้
อีกส่วนหนึ่งคืออาคารที่ทางโครงการได้จัดสรรแบ่งส่วนให้เป็นที่ขายของที่ระลึก สามารถเลือกซื้อเลือกหาของฝาก จัดจำหน่ายขนมหวานแบบไทยๆ โบราณหาทานยากหลายชนิดเลยทีเดียว และเครื่องดื่มร้อน-เย็น ที่พลาดไม่ได้เลยคือไอติมโบราณมีหลายรสมาก
ส่วนด้านบนเป็นโรงแรม มีห้องพักอยู่หลายห้อง แต่ละห้องตกแต่งอย่างสวยงาม แต่พื้นที่หากเทียบกับโรงแรมในระดับนี้แล้วอาจดูแคบไปหน่อย แต่ยังคงความเป็นวิคทอเรียอยู่ ทั้งห้องซูพีเรีย ห้องแฟมิลี่ และห้องคอนเน็ค
หลังจากที่ได้เยี่ยมชมโครงการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ออกเดินทางไปทำกิจกรรม "ไหว้พระทางน้ำ" และละวัดเป็นวัดวัดชื่อดังของอัมพวา อาทิ วัดภุมรินทร์กุฎีทอง และวัดบางกุ้ง เห็นในโปรแกรมมี 3 วัด แต่ด้วยที่ว่าอากาศร้อนเกินบรรยายเลยลดเหลือแค่ 2 วัดเท่านั้น ต่อจากนั้นก็มุ่งหน้ากลับสู่โครงการเหมือนเดิมเพื่อรอการแสดงนาฎศิลป์ของช่วงค่ำต่อไป
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโครงการชูชัยบุรี ศรีอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ที่เบอร์โทรศัพท์. 034-129-900 หรือ เยี่ยมชมที่เว็บไซต์ : www.chuchaiburi.com