วิชัยและศุภนันท์ทำได้ !!!!
ยื่นศาลขอตั้งพรรคพวกตัวเองเป็นประธานกรรมการ ทั้งๆที่บอร์ดเถื่อนผิดกฎหมายยังดื้อนั่งบริหารIFEC โดยไม่ยอมเรียกประชุมผู้ถือหุ้น อ้างเหตุผลเบี้ยวหนี้หุ้นกู้ 3,000 ล้านบาทว่าเป็นเพราะไม่มีประธานบริษัท ก.ล.ต. ผิดที่สั่งปลดหมอวิชัยทำให้IFEC เดินหน้าต่อไม่ได้
ที่แสบสันต์ที่สุดคือ IFEC โดยนายศุภนันท์ ฤิทธิไพโรจน์แถลงว่าได้ฟ้องเจ้าหนี้หุ้นกู้ที่จัดการประชุมผู้ถือหุ้นกู้เพื่อหาแนวทางทวงหนี้จาก IFEC
นับเป็นข้อหาพิศดารและเป็นครั้งแรกที่ลูกหนี้กล้าฟ้องเจ้าหนี้ที่หาหนทางมาทวงหนี้จากลูกหนี้
ขอคารวะกับความทนทานของนายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ ก.ล.ต.ที่มีความอดทนต่อการกระทำของนายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์และพวก !!!
- 5 ธ.ค. 60 - บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) หรือ IFEC ชี้แจงแนวทางการดำเนินการปฏิบัติหน้าที่ของบริษัท ตามแนวทางการปรับโครงสร้างหนี้ต่อผู้ถือหุ้นกู้ว่า ตามที่บริษัทฯ ได้ออกตราสารหนี้ประเภทหุ้นกู้ ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกันและไม่มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และหรือผู้ลงทุนรายใหญ่ จํานวน 3,000 ล้านบาท ซึ่งครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2560 โดยเบื้องต้นบริษัทได้ดําเนินการชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้บางส่วนแล้ว จำนวน 4,083,289.38 บาท ในวันที่ 7 สิงหาคม 2560 โดยแบ่งชำระตามสัดส่วนที่เท่ากัน
อย่างไรก็ตามสืบเนื่องจากการที่บริษัทไม่สามารถเรียกประชุมใดๆ ได้ ทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถดำเนินการตามแนวทางการปรับโครงสร้างหนี้ต่อผู้ถือหุ้นกู้ตามที่บริษัทได้เคยเเจ้งไปเเล้วนั้นฯ แต่กลับมีกลุ่มบุคคลแอบอ้างเป็นตลาดทุนมาดำเนินการจัดการนัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ.2560 แสดงเจตนาให้ผู้ถือหุ้นกู้เข้าใจผิดว่าการจัดประชุมครั้งนี้ได้ถูกจัดขึ้นโดยตลาดทุน ซึ่งการประชุมดังกล่าวก่อให้เกิดความเสียหาย ความเข้าใจผิด คลาดเคลื่อนหรือข้อสงสัยแตกออกไปในหลายทิศทาง เเละส่งผลกระทบต่อความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องของผู้ถือหุ้นกู้ ต่อบริษัท ถือเป็นการนัดประชุมไม่ชอบด้วยวิธีปฏิบัติ และไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งเป็นการจัดการประชุมโดยบุคคลอื่นซึ่งไม่ใช่บริษัทเป็นผู้ดำเนินการ ทั้งนี้บริษัทมิได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด เพื่อรักษาความถูกต้องจึงมีการดำเนินคดีทางกฎหมายกับกลุ่มบุคคลดังกล่าวแล้ว
วิทยุพลังงาน
ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ไขข้อขัดข้องดังกล่าว โดยบริษัทได้ดำเนินการยื่นคำร้องขอให้ศาลแต่งตั้งผู้แทนชั่วคราวหรือผู้แทนเฉพาะกาล
เป็นผู้แทนบริษัททำหน้าที่ประธานกรรมการเป็นการชั่วคราว เพื่อแก้ไขข้อขัดข้องดังกล่าวแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างขั้นตอนรอการพิจารณาทางศาล หากมีคำสั่งศาลแต่งตั้งผู้แทนชั่วคราวหรือผู้แทนเฉพาะกาล บริษัทจะได้สามารถดำเนินการจัดการประชุมคณะกรรมการบริษัทเป็นการต่อไป เพื่อที่จะเรียกประชุมผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติการปรับโครงสร้างหนี้ตามแนวทางที่เคยนำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ของบริษัทในเวลาอันสมควร
ทั้งนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งในส่วนของปัญหาเรื่องหนี้สิน แผนการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ซึ่งทางบริษัทได้มีการวางแนวทางการแก้ไขปัญหาต่างๆ ไว้แล้ว โดยเพียงรอเวลาที่บริษัทจะสามารถดำเนินการต่อไปได้ตามผลของกฎหมาย ทั้งในเรื่องของการชำระหนี้และการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ให้การดำเนินการปฏิบัติตามขั้นตอนนั้นเป็นการถูกต้องและชอบด้วยกฎหมาย
อย่างไรก็ตามบริษัทได้แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของบริษัทและสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้นเป็นสำคัญทั้งยังให้ผู้ถือหุ้นได้รับสิทธิและความเสมอภาคและไม่ได้มีเจตนาที่จะไม่ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติตามกฎหมาย แต่อย่างใด อีกทั้งบริษัทให้ความสำคัญกับเจ้าหนี้ทุกราย และตระหนักถึงปัญหาของหนี้สินของบริษัทเพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์ของเจ้าหนี้
http://m.thansettakij.com/content/238879
สุดยอดลูกหนี้ IFEC ฟ้องเจ้าหนี้หุ้นกู้ที่บังอาจจัดประชุมเพื่อหาแนวทางทวงหนี้ 5555 !!!!
ยื่นศาลขอตั้งพรรคพวกตัวเองเป็นประธานกรรมการ ทั้งๆที่บอร์ดเถื่อนผิดกฎหมายยังดื้อนั่งบริหารIFEC โดยไม่ยอมเรียกประชุมผู้ถือหุ้น อ้างเหตุผลเบี้ยวหนี้หุ้นกู้ 3,000 ล้านบาทว่าเป็นเพราะไม่มีประธานบริษัท ก.ล.ต. ผิดที่สั่งปลดหมอวิชัยทำให้IFEC เดินหน้าต่อไม่ได้
ที่แสบสันต์ที่สุดคือ IFEC โดยนายศุภนันท์ ฤิทธิไพโรจน์แถลงว่าได้ฟ้องเจ้าหนี้หุ้นกู้ที่จัดการประชุมผู้ถือหุ้นกู้เพื่อหาแนวทางทวงหนี้จาก IFEC
นับเป็นข้อหาพิศดารและเป็นครั้งแรกที่ลูกหนี้กล้าฟ้องเจ้าหนี้ที่หาหนทางมาทวงหนี้จากลูกหนี้
ขอคารวะกับความทนทานของนายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ ก.ล.ต.ที่มีความอดทนต่อการกระทำของนายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์และพวก !!!
- 5 ธ.ค. 60 - บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) หรือ IFEC ชี้แจงแนวทางการดำเนินการปฏิบัติหน้าที่ของบริษัท ตามแนวทางการปรับโครงสร้างหนี้ต่อผู้ถือหุ้นกู้ว่า ตามที่บริษัทฯ ได้ออกตราสารหนี้ประเภทหุ้นกู้ ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกันและไม่มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และหรือผู้ลงทุนรายใหญ่ จํานวน 3,000 ล้านบาท ซึ่งครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2560 โดยเบื้องต้นบริษัทได้ดําเนินการชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้บางส่วนแล้ว จำนวน 4,083,289.38 บาท ในวันที่ 7 สิงหาคม 2560 โดยแบ่งชำระตามสัดส่วนที่เท่ากัน
อย่างไรก็ตามสืบเนื่องจากการที่บริษัทไม่สามารถเรียกประชุมใดๆ ได้ ทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถดำเนินการตามแนวทางการปรับโครงสร้างหนี้ต่อผู้ถือหุ้นกู้ตามที่บริษัทได้เคยเเจ้งไปเเล้วนั้นฯ แต่กลับมีกลุ่มบุคคลแอบอ้างเป็นตลาดทุนมาดำเนินการจัดการนัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ.2560 แสดงเจตนาให้ผู้ถือหุ้นกู้เข้าใจผิดว่าการจัดประชุมครั้งนี้ได้ถูกจัดขึ้นโดยตลาดทุน ซึ่งการประชุมดังกล่าวก่อให้เกิดความเสียหาย ความเข้าใจผิด คลาดเคลื่อนหรือข้อสงสัยแตกออกไปในหลายทิศทาง เเละส่งผลกระทบต่อความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องของผู้ถือหุ้นกู้ ต่อบริษัท ถือเป็นการนัดประชุมไม่ชอบด้วยวิธีปฏิบัติ และไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งเป็นการจัดการประชุมโดยบุคคลอื่นซึ่งไม่ใช่บริษัทเป็นผู้ดำเนินการ ทั้งนี้บริษัทมิได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด เพื่อรักษาความถูกต้องจึงมีการดำเนินคดีทางกฎหมายกับกลุ่มบุคคลดังกล่าวแล้ว
วิทยุพลังงาน
ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ไขข้อขัดข้องดังกล่าว โดยบริษัทได้ดำเนินการยื่นคำร้องขอให้ศาลแต่งตั้งผู้แทนชั่วคราวหรือผู้แทนเฉพาะกาล
เป็นผู้แทนบริษัททำหน้าที่ประธานกรรมการเป็นการชั่วคราว เพื่อแก้ไขข้อขัดข้องดังกล่าวแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างขั้นตอนรอการพิจารณาทางศาล หากมีคำสั่งศาลแต่งตั้งผู้แทนชั่วคราวหรือผู้แทนเฉพาะกาล บริษัทจะได้สามารถดำเนินการจัดการประชุมคณะกรรมการบริษัทเป็นการต่อไป เพื่อที่จะเรียกประชุมผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติการปรับโครงสร้างหนี้ตามแนวทางที่เคยนำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ของบริษัทในเวลาอันสมควร
ทั้งนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งในส่วนของปัญหาเรื่องหนี้สิน แผนการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ซึ่งทางบริษัทได้มีการวางแนวทางการแก้ไขปัญหาต่างๆ ไว้แล้ว โดยเพียงรอเวลาที่บริษัทจะสามารถดำเนินการต่อไปได้ตามผลของกฎหมาย ทั้งในเรื่องของการชำระหนี้และการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ให้การดำเนินการปฏิบัติตามขั้นตอนนั้นเป็นการถูกต้องและชอบด้วยกฎหมาย
อย่างไรก็ตามบริษัทได้แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของบริษัทและสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้นเป็นสำคัญทั้งยังให้ผู้ถือหุ้นได้รับสิทธิและความเสมอภาคและไม่ได้มีเจตนาที่จะไม่ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติตามกฎหมาย แต่อย่างใด อีกทั้งบริษัทให้ความสำคัญกับเจ้าหนี้ทุกราย และตระหนักถึงปัญหาของหนี้สินของบริษัทเพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์ของเจ้าหนี้
http://m.thansettakij.com/content/238879