ขออนุญาตเล่าเลยนะคะ
1.สามีและดิฉันเป็นลูกค้า ธ.สีเขียว มาตั้งแต่ปี 45 เริ้มกู้มาครั้งแรก 3.5 แสน แล้วก็สับเปลี่ยนหมุนเวียนไปเรื่อยๆ ไม่เคยผิดนัดเลยแม้แต่ครั้งเดียว
2.ต่อมาเมื่อสองปีก่อนเราอยากได้ที่ทางไว้สำหรับทำกิจการเลยยื่นกู้เป็นเงินก้อนใหญ่ ครั้งแรกวิ่งกับแบ็งค์สีเขียวแบ็งค์เดิมแต่รอไม่ไหวเลยวิ่งอีกแบงค์นึงจึงได้ที่มาสมใจปราถนา ตอนนั้นทั้งเงินที่แบ็งค์ให้มาและเงินเก็บเกือบทั้งหมดจึงทุ่มไปกับงานขยายและตกแต่งกิจการ
3.หลังจากนั้น ช่วงกลางปี 58 ก็พยายามขอโอดีกับแบ็งค์สีเขียวแบ็งค์เดิม(เพราะมีหลักทรัพย์เราอยู่ในนั้นราคาประเมินเมือปี 57 ก็ 1.2 ล้านแล้ว) รออยู่ 6-7 เดือน ทางแบ็งค์ก็ไม่มีคำตอบว่าได้หรือไม่ได้ หนำซ้ำเค้ายังเปลี่ยนสินเชื่อไป 2 คน แล้วเรื่องก็เงียบไป
4.แต่เราก็สามารถประคับประคองให้ธุรกิจอยู่ได้มาเรื่อยๆทั้งที่แทบจะไม่มีเงินสำรองเลยอีกทั้งก็เศรษฐกิจเริ่มแย่ลงเป็นอย่างมาก ต่อมามีอยู่เดือนนึงปลายปี 59 แฟนดิฉันพลาด เงินขาดส่งแบ็งค์ไป 3 หมื่น ขอหยิบยืมใครก็ไม่ได้ แต่ต่อมาเราก็พยามหาเงินมาจ่ายเป็นปกติได้จนหมด แต่ทางแบ็งค์ไม่ได้แจ้งเราว่ามีค่าปรับล่าช้าค้างอยู่ อยู่มาอีกเกือบปีเราถึงทราบว่าสามีติดบูโรแล้ว
5.หลังจากนั้นพอเงินหมุนไม่ทันเล็กๆน้อยๆเราก็เริ่มรู้จักกับน้องๆที่ให้บริการเงินกู้รายวัน เราก็ใช้บริการแล้วก็สามารถเคลียร์คืนได้ไม่มีปัญหาใดๆทั้งสิ้น
ุ6.จนเมื่อประมาณสามเดือนที่ผ่านมาเราพลาดจึงเผลอหยิบยืมน้องๆที่ให้กู้รายวันมาเป็นเงินก้อนใหญ่ ส่งดอกอยู่ 4 -5 พันบาทต่อวัน ทุกๆวัน ได้เงินมาเยอะก็ส่งต้นบ้าง ขึ้นๆลง ไม่เคยตุกติก แต่ด้วยที่ต้องจ่ายดอกทุกวันเลยเคลียร์ต้นไม่จบซักที
ส่งมาถึงทุกวันนี้ แต่ตอนนี้ชักจะไม่ไหวแล้วค่ะ ทั้งดิฉันและสามีเครียดมากๆ ทำยังไงดีค่ะ มีหลักทรัพย์ที่ติดแล็งสีเขียวเช็คล่าสุดเหลือหนี้อยู่ 4.1 แสน (ราคาประเมินเมื่อปีกลางปี57 1.2 ล้าน) รายได้ในกิจการประมาณ 2-2.5 แสนบาท/เดือน ใครพอจะช่วยได้บ้าง ขอคำแนะนำหรือขอความช่วยเหลือด้วยค่า ส่งรายเดือนก็ยังดี หรือมีวิธีอื่นบ้างขอคำแนะนำด้วยค่ะ
ช่วยด้วยค่ะ จ่ายไม่ไหวแล้ว
1.สามีและดิฉันเป็นลูกค้า ธ.สีเขียว มาตั้งแต่ปี 45 เริ้มกู้มาครั้งแรก 3.5 แสน แล้วก็สับเปลี่ยนหมุนเวียนไปเรื่อยๆ ไม่เคยผิดนัดเลยแม้แต่ครั้งเดียว
2.ต่อมาเมื่อสองปีก่อนเราอยากได้ที่ทางไว้สำหรับทำกิจการเลยยื่นกู้เป็นเงินก้อนใหญ่ ครั้งแรกวิ่งกับแบ็งค์สีเขียวแบ็งค์เดิมแต่รอไม่ไหวเลยวิ่งอีกแบงค์นึงจึงได้ที่มาสมใจปราถนา ตอนนั้นทั้งเงินที่แบ็งค์ให้มาและเงินเก็บเกือบทั้งหมดจึงทุ่มไปกับงานขยายและตกแต่งกิจการ
3.หลังจากนั้น ช่วงกลางปี 58 ก็พยายามขอโอดีกับแบ็งค์สีเขียวแบ็งค์เดิม(เพราะมีหลักทรัพย์เราอยู่ในนั้นราคาประเมินเมือปี 57 ก็ 1.2 ล้านแล้ว) รออยู่ 6-7 เดือน ทางแบ็งค์ก็ไม่มีคำตอบว่าได้หรือไม่ได้ หนำซ้ำเค้ายังเปลี่ยนสินเชื่อไป 2 คน แล้วเรื่องก็เงียบไป
4.แต่เราก็สามารถประคับประคองให้ธุรกิจอยู่ได้มาเรื่อยๆทั้งที่แทบจะไม่มีเงินสำรองเลยอีกทั้งก็เศรษฐกิจเริ่มแย่ลงเป็นอย่างมาก ต่อมามีอยู่เดือนนึงปลายปี 59 แฟนดิฉันพลาด เงินขาดส่งแบ็งค์ไป 3 หมื่น ขอหยิบยืมใครก็ไม่ได้ แต่ต่อมาเราก็พยามหาเงินมาจ่ายเป็นปกติได้จนหมด แต่ทางแบ็งค์ไม่ได้แจ้งเราว่ามีค่าปรับล่าช้าค้างอยู่ อยู่มาอีกเกือบปีเราถึงทราบว่าสามีติดบูโรแล้ว
5.หลังจากนั้นพอเงินหมุนไม่ทันเล็กๆน้อยๆเราก็เริ่มรู้จักกับน้องๆที่ให้บริการเงินกู้รายวัน เราก็ใช้บริการแล้วก็สามารถเคลียร์คืนได้ไม่มีปัญหาใดๆทั้งสิ้น
ุ6.จนเมื่อประมาณสามเดือนที่ผ่านมาเราพลาดจึงเผลอหยิบยืมน้องๆที่ให้กู้รายวันมาเป็นเงินก้อนใหญ่ ส่งดอกอยู่ 4 -5 พันบาทต่อวัน ทุกๆวัน ได้เงินมาเยอะก็ส่งต้นบ้าง ขึ้นๆลง ไม่เคยตุกติก แต่ด้วยที่ต้องจ่ายดอกทุกวันเลยเคลียร์ต้นไม่จบซักที
ส่งมาถึงทุกวันนี้ แต่ตอนนี้ชักจะไม่ไหวแล้วค่ะ ทั้งดิฉันและสามีเครียดมากๆ ทำยังไงดีค่ะ มีหลักทรัพย์ที่ติดแล็งสีเขียวเช็คล่าสุดเหลือหนี้อยู่ 4.1 แสน (ราคาประเมินเมื่อปีกลางปี57 1.2 ล้าน) รายได้ในกิจการประมาณ 2-2.5 แสนบาท/เดือน ใครพอจะช่วยได้บ้าง ขอคำแนะนำหรือขอความช่วยเหลือด้วยค่า ส่งรายเดือนก็ยังดี หรือมีวิธีอื่นบ้างขอคำแนะนำด้วยค่ะ