คือ เพิ่งหย่าร้างมาได้หนึ่งปี แต่อดีตสามีไม่ยอมไปไหน เพราะต้องเพิ่งป้ายยาเขา บ้านฉโนดเป็นของดิฉัน สามีติดการพนัน เล่นบอลทุกวัน ทุกวันดิฉันจะรับภาระลูกค่าใช้จ่ายทั้งหมด ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าภาษี ค่าเซล ยาต่างๆที่เอาเข้าร้าน  อดีตสามีแทบไม่รับผิดชอบใดใดเลย บ้านราคาสองล้านสอง ดิฉันเป็นคนดาวน์ และผ่อน หลังจากนั้นสามีกู้สหกรณ์มาจ่ายค่าบ้านเจ็ดแสน เหลืออีกสี่แสน ดิฉันเอาที่ดินเปล่าเข้าธนาคารได้เงินมาสี่แสนกว่าเอามาปิดบ้านจนหมด จริงๆที่บ้านไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน ทุกวันจะจ่ายเงินให้อดีตสามีกินวันละสองร้อย เสื้อผ้า ค่าไฟค่าน้ำดิฉันรับผิดชอบหมด ที่เขาอ้างว่าไม่รับผิดชอบในครอบครัว เพราะเขากู้หนี้มาจ่ายค่าบ้านเจ็ดแสน เงินเขาไม่เหลือ จริงๆแล้วเขาไปเอาเงินสินเชื่อมาทุกธนาคาร บัตรเครดิตทุกธนาคาร และกู้เงินสินเชื่อธนวัตอีกหนึ่งล้าน  เขาก็เลยต้องไปหยิบยืมคนอื่นๆ อ้างว่ามาเลี้ยงดูครอบครัว เลี้ยงลูก เอามาเกือบทั้งอำเภอ แต่จริงๆคือเอาไปเล่นบอล พยามขอร้องเขาให้เลิก แต่เขาไม่ยอมเลิก ล่าสุดไปเอาหนี้นอกระบบมาสิบเจ้า ขอร้องให้เลิกยืมเงินคนอื่น เพราะเราทำการค้า คนอื่นจะมองไม่ดี จะเสียลูกค้า กลายเป็นว่า อดีตสามีว่าเราหน้าบาง ใครๆเขาก็เป็นกัน ท้ายสุด ดิฉันตัดสินใจจะขายบ้าน แบ่งให้อดีตสามีใช้หนี้ และดิฉันจะย้ายกลับไปอยู่กับพ่อแม่ เลี้ยงลูกคนเดียว ความรู้มีด้านภาษา จะค้าขายด้วยตนเอง คิดว่าเป็นความคิดที่ดีไหมคะ เพราะเครียดมากกับอดีตสามีเป็นอย่างนี้ กังวลคนอื่นจะคิดว่าอดีตสามียังอยู่ด้วยกัน คงมีนิสัยเหมือนกัน [ธุรกิจดีมากๆคะ ถ้าขายบ้านก็เสียดาย ดิฉันคุมกิจการทุกอย่างคะ ]