ผมไม่ไหวแล้วครับ นั่งเสียใจ ร้องไห้อยู่คนเดียวมานานพอสมควร
ไปหาเพื่อน ไปหากิจกรรมทำ ก็ไม่หายสักที ทำทุกอย่างแล้ว เท่าที่ผมจะทำได้ จึงขอตั้งกระทู้ระบายความรู้สึกครับ
(เรื่องนี้ ผมจะเล่าตามที่ผมเจอ และสุดท้ายมาดูกันว่า มันหักมุมยังไงนะครับ)
ผมคบกับแฟนผมมาประมาณเกือบ 4 ปี ปีที่ 1 - 2 ก็รักกันดี คบกันปกติ
ใช้ชีวิตชนิดที่เรียกว่า ปาท่องโก๋เลย ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด
Background ของเธอคือ พ่อแม่ แยกทางกันต่างไปมีครอบครัวใหม่
เธออาศัยอยู่กับยายของเธอ เธอเป็นคนจังหวัดภาคเหนือ ซึ่งผมขอไม่พาดพิงนะครับ
ยายของเธอ มีอาชีพเป็นแม่บ้านใน มหาลัยแห่งหนึ่ง ทำความสะอาดห้องน้ำ เก็บโต๊ะเก้าอี้
ยายของเธอ มีนิสัยเหมือนชาวบ้านทั่ว ๆ ไป ที่ชอบเล่นหวย เล่นการพนัน
และหลานเธอ ก็คือคนที่ผมคบ
เมื่อผมเริ่มคบกับเธอ เธอกับยาย ก็บอกผมว่า อยากให้เธอมีห้องที่สามารถอยู่คนเดียวได้
เพราะเธออาศัยอยู่กับยายมานาน ผมจึงไปเช่าห้องให้เธออยู่ใกล้ ๆ ยายเธอ
เผื่อมีเรื่องอะไรจะได้ช่วยเหลือกันได้
ผมคบจนเธอเรียนจบระดับ ปวช. และไปฝึกงาน ช่วงนั้น น่าจะผ่านมาสักสองปีแล้วที่คบกัน
ผมพบว่า เธอกับยาย แอบไปเล่นการพนัน ที่บ่อนใหญ่แห่งหนึ่งย่านวงศ์สว่าง (ปัจจุบันน่าจะโดนตำรวจจับ ปิดไปแล้ว)
บ่อนนี้เป็นบ่อนที่มีการเล่นการพนันทุกรูปแบบ และแฟนผม ไปเล่นเกือบทุกคืน จนถึงเช้า ค่อยกลับมานอน
ขาดเรียนบ้าง ขาดการฝึกงานบ้าง ผมก็เครียดสิครับ
ผมเองเสียใจมาก เพราะผมไม่ชอบเรื่องการพนัน
อาชีพผมเป็นนักดนตรี และอยู่เบื้องหลังการทำเพลง และงานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เว็บไซด์ สถานีวิทยุ ฯลฯ
ผมขอร้องให้เธอเลิก แต่เธอก็แบ่งรับแบ่งสู้ ไม่ตอบรับ ไม่ปฏิเสธ
ผมกราบเท้าเธอเลย เพื่อขอให้เธอเลิก เธอแอบถ่ายรูปผมตอนกราบเท้า ส่งให้เพื่อน ๆ เธอดู (ผมรู้สึกแย่มากในตอนนั้น)
ตั้งแต่นั้นมา เราทะเลาะกันบ่อยขึ้นเรื่องเล่นการพนัน
ทุกครั้ง ผมท้อแท้ และมีความรู้สึกลึก ๆ ว่า สงสัยจะไปต่อกันไม่ได้
จนวันนึง เธอมาบอกผมว่า เธอเลิกเล่นละ ผมก็ดีใจมาก
นิสัยส่วนตัวผม ผมเป็นคนไม่ชอบจับผิดใคร ใช้ชีวิตเรียบง่าย สบาย ๆ ว่าง ๆ ก็ชวนไปดูหนัง
ผมค่อนข้างมีเวลาให้เธอเยอะมาก เพราะผมเป็นคนทำงานน้อยแต่ได้เงินคุ้มค่า จึงใช้เวลาทั้งหมดไปกับการตามใจเธอ
ไม่ว่าเธออยากกินอะไร ผมพาไปหมด อยากไปเที่ยวไหนไกล ๆ ผมพาไปได้เลย
อาชีพผม ต้องได้ไปเที่ยวฟรี ๆ อยู่แล้ว แถมห้องพักที่พัก บางทีก็เป็นห้องพักระดับ VIP หลักหมื่น หลักแสน ก็เคยไปกันมาแล้ว
เพราะฉะนั้น เธอจะมีความสุขมากที่ผมพาเธอไปเที่ยว เราถ่ายรูปกันแหลกจริง ๆ จนบางคนอิจฉาว่า พรีเว็ดดิ้ง กันหรือไง
แต่.... เชื่อไหมครับ เธอไม่เคยโพสต์รูปผมลงเฟสบุ๊คเธอเลย เธอให้เหตุผลว่า ที่บ้านเธอ (ทางภาคเหนือ)
ชอบเม้า ชอบนินทา เธอยังไม่อยากให้ใครรู้ นอกจากยายเธอว่าคบกับผม
ผมไม่เคยสงสัยในพฤติกรรมแบบนี้
ผมเป็นคนซื่อสัตย์มาก ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เล่นการพนัน และไม่ยอมเจ้าชู้เด็ดขาด
เพราะแค่ถ้าผมไปยุ่งกับคนอื่น แล้วผมนึกถึงใบหน้าเธอที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย ผมก็ทำไม่ลงแล้วครับ
ฉะนั้น ผมจึงเป็นคนไม่มีความลับใด ๆ ทั้งสิ้น
โทรศัพท์ผม เธอจะเอาไปดู ไปเล่นทั้งวันทั้งคืน ก็เชิญเลย เพราะผมไม่มีความลับ ไม่มีนอกใจ
แถมนิสัยผมไม่ชอบแอบไปดูโทรศัพท์เธอด้วย เพราะผมไม่ใช่คนชอบจับผิด ผมมั่นใจว่า ถ้าผิด เรื่องมันจะแดงขึ้นมาเอง
ต่อมา... ไม่นานนัก พักหลัง ๆ เธอชอบไล่ผมให้กลับมานอนบ้าน
แล้วเธอก็บอกผมว่า จะเอายายมานอนด้วย เพราะเธอต้องไปทำธุระโน่น นี่ นั่น ตามแต่เธอจะสรรหาเหตุผล
ผมรู้ว่าลึก ๆ ต้องมีอะไร แต่ด้วยความที่ผมเป็นคน "ช่างมัน" ใครทำอะไรได้อย่างนั้น
ผมจึงตามใจเธอบ่อย ๆ ก็กลับมานอนบ้าน บ่อยขึ้น จนวันนึงเกิดเหตุการณ์ที่บ้านผม โดนล็อคจากด้านใน เปิดประตูไม่ได้
ผมจึงโทรไปหาเธอ เพื่อขอไปนอนห้องเธอ เพราะผมไม่มีที่ไปแล้ว เธอไม่รับสาย (เธอเคยให้เหตุผลว่า เปิดสั่น และไว้ปลายเท้า บางทีไม่รู้)
การไม่รับสายของเธอ จึงเป็นเรื่องปกติ สำหรับผม (ผมก็คิดอยู่ครับว่า เธอเล่นการพนันอีกแน่ ๆ เลย แต่ถ้าเป็นการพนัน เดี๋ยวผมจะค่อย ๆ ปรับเธอ)
ผมจึงขับรถไปหาเธอที่ห้อง พอเข้าห้องไป ปรากฏว่า ไม่มีคนอยู่ในห้องเลยครับ
ผมร้องไห้เลย เพราะนี่เราโดนหลอกมานานเป็นปีนะ แล้วผมก็เลยโทรหาเพื่อน
ปรึกษาเพื่อนว่าจะเอาไงดี ระหว่างนั้น ผมแอบเห็นโทรศัพท์ของยายเธอ วางอยู่บนโต๊ะ
ผมเลยหยิบมาเปิดไล่ ๆ ดูทุกอย่างในโทรศัพท์ ปรากฏว่า.....
มีการติดต่อ ผู้ชายคนนึง ที่เป็นแฟนเก่าเธอ เธอเคยเล่าให้ผมฟังว่า คบกันที่ต่างจังหวัด ก่อนย้ายมาอยู่กรุงเทพ
ติดต่อกันผ่านไลน์ในโทรศัพท์ยาย ตั้งแต่เดือน พค. ถึง สค. ปี 60
ก็เท่ากับว่า ผมโดน สองเด้งละ เรื่องการพนัน เรื่องแฟนเก่า แต่ผมสงสัยว่า ทำไมต้องเป็นเครื่องยาย
พอเธอกลับมา เธอรับสารภาพ และขอโทษผมเป็นการใหญ่ ผมก็เลยทำสองอย่างครับ
อย่างแรกคือ ผมบอกเธอว่า ต่อไป ถ้าจะไปเล่นไพ่ ให้บอกผมตรง ๆ ผมไม่อยากให้เธอโกหกผมอีก ผมยอมให้เธอไป แต่อย่าไปบ่อยนัก มันไม่ดี
อย่างที่สองคือ ผมถามเธอว่า ทำไมเครื่องยาย ถึงมีการติดต่อแฟนเก่าอยู่ เธอบอกว่า ยายเธอเม็มเบอร์ไว้ เธอไม่เกี่ยว มันก็ขึ้นไลน์สิ
แต่ผมเถียงเธอว่า เป็นการโทรออกผ่านไลน์ด้วยนี่นะ เธอก็ใช้น้ำเสียงยืนยันหนักแน่นว่า เธอเกลียดแฟนเก่า ไม่มีวันติดต่อหรอก
ผมก็ไม่อยากทะเลาะ เพราะทะเลาะกันบ่อยจนผมเบื่อละ ก็เลยปล่อยผ่าน ๆ ไป แต่ยังเก็บความสงสัยไว้ตลอดมา....
เดือน สิงหา เดือนกันยา เดือนตุลา เป็นเดือนที่ผมเริ่มรุ้สึกว่า แฟนผมเปลี่ยนไปมาก
ไม่มีเวลาให้ผมแล้ว ขอไปเล่นไพ่ลูกเดียว ไปทั้งคืน กลับตอนเช้า (แฟนผมไม่ทำงานครับ และเริ่มเรียนระดับ ปวส. แต่เรียนแค่วันอาทิตย์)
ด้วยความที่เราอยู่ด้วยกันบ่อย แต่พักหลัง ๆ เธอไม่ค่อยอยากอยู่กับผม อยากอยู่แต่กับไพ่ และ ยาย
ผมเลยทะเลาะกันจริงจังละ เพราะว่า แม้กระทั่งวันเกิดผม เธอยังไม่มีเวลาให้ผมเลย ผมว่า มันเกินไปหน่อยละ
ผมเลยคิดว่า ถ้าขืนเล่นไพ่อย่างนี้ต่อไป ผมแย่แน่ ๆ สู้ผมถอนตัวออกมาดีกว่า ก็คือคิดจะเลิก
แต่ในใจลึก ๆ ก็หวังว่า เธอจะรักผม แล้วกลับมาง้อผม และเปลี่ยนนิสัยเธอได้
ผมห่างเธอมา 1 สัปดาห์.... เหมือนฟ้าฟาดลงหัวใจ เหมือนมีดกรีดหัวใจผม เหมือนผมโดนกระทืบหัวใจ
เมื่อมีคน ๆ นึง ที่เธอสนิทด้วย ส่งข้อมูลทั้งหมด มาให้ผม เป็นรูปถ่าย การพูดคุยแชท ฯลฯ
นั่นคือ เธอแอบคบ คน ๆ นึง ที่เรียนกับเธอ ซึ่งในแชทนั้น ที่ผมอ่านคือ เธอหลงไหลผู้ชายคนนี้มาก
ผมร้องไห้ฟูมฟาย และไม่นึกว่า ผมจะโดนแบบนี้ นี่มันเป็นกรรมอะไรของผมกันแน่
ผมดูแลเธอด้วยชีวิต ผมยอมตายแทนเธอได้ ผมสามารถให้เงินเธอจนหมดกระเป๋า ไม่เหลือแม้แต่บาทเดียว ก็เคยทำ
เพื่อพิสูจน์ว่า ผมรักเธอ เธอคือคนที่ผมอยากให้มาจับมือผม ในยามที่ผมสิ้นลมหายใจ (ถ้าผมต้องตายก่อน)
ในที่สุดผมก็รู้ว่า วันครบรอบวันเกิด ครบรอบวันที่เราคบกัน เธอไปเที่ยวกับชายคนใหม่ตลอด
เป็นผู้ชายที่เรียนห้องเดียวกับเธอในวันอาทิตย์
ผมได้สอบถามไปยังเพื่อนของเธอ ที่ส่งความลับนี้มาให้ ว่า เราไม่รู้จักกัน ทำไมต้องส่งมาให้ผมด้วย
เขาบอกว่า การกระทำแบบนี้ มันน่าเกลียด เขารับไม่ได้จริง ๆ และเขาเห็นเฟสผม เห็นผมอยู่ตลอดเวลาว่า ผมรักเธอแค่ไหน
เขาบอกว่า เขาสงสารผมจริง ๆ ไม่รู้จะช่วยยังไง ก็คงช่วยได้คือ มอบความจริงทุกอย่างให้ผมรู้ และให้ผมตัดสินใจซะ
(ผมไม่รู้ว่า ลึก ๆ จะมีเหตุผลอื่นหรือไม่ แต่ผมไม่สนใจแล้ว ผมสนใจแค่ว่า ผมโดนซะแล้วครับ)
หลังจากนั้น ผมเป็นซึมเศร้าทันที หายใจไม่ออก ต้องไปหาหมอ
หมอบอกว่า ผมเป็น panic disorder และซึมเศร้า มีโอกาสฆ่าตัวตายสูงมาก
ผมต้องทานยาทีหมอจัดให้ เพื่อลดอาการใจสั่นหวิว ตลอดเวลา เศร้า กินข้าวไม่ได้ นอนไม่ได้ ผอมลงไป 4 โล ใน 1 สัปดาห์
ผมตัดสินใจ โทรไปหาเธอ หลังจากที่ผมไปหาหมอ และผมเริ่มตั้งสติ บอกตัวเองว่า ผมต้องใจเย็น
ผมต้องล้วงข้อมูลจากเธอมาให้ได้มากที่สุด เพื่อที่ผมจะได้เจ็บทีเดียว แล้วจบมันซะ
เธอดีใจที่ผมโทรไป แล้วขอให้ผมไปอยู่กับเธอ 3 วัน
เป็น 3 วันที่ ผมทรมานมาก ผมบอกเธอว่า ผมรู้แล้วว่าเธอ มีคนอื่นนะ ช่วยเล่าให้ผมฟังหน่อย
เธอบอกว่า เธอโดนคนนี้จีบมาพักนึง (เวลาเธอเล่า แววตาเธอ มีความสุขมาก ผมรู้เลยว่า ผมต้องออกจากชีวิตเธอแล้ว)
เธอบอกถึงข้อดีของชายคนนี้ว่า บ้านรวย ผุ้ชายทำงานทุกวัน ทำกับเพื่อนแม่ของเขา
ข้อเสียของผู้ชายคนนี้คือ ไม่มีเวลาให้เหมือนผม กว่าจะได้เจอกัน ก็ต้องรอวันที่ไปเรียน
เธอเริ่มเบื่อ ๆ อยากจะกลับมาคบผม (เธอพูดแบบเหมือนผมไม่เจ็บว่ะ หน้าตายมาก เหมือนเรื่องธรรมดา)
เธอพูดอะไรหลาย ๆ อย่าง แต่เธอชอบด่าผมว่า ผมโทรมเกินไป เธอรับไม่ได้ ถ้ายังโทรมแบบนี้อีก เธอไม่ชอบ
ผมบอกว่า ผมโดนขนาดนี้ จะให้ผมหล่อเป็นหมาก เป็น ณเดชน์เลยเหรอ มันก็ต้องเศร้า โทรมเป็นเรื่องธรรมดา
ผมถามว่า ทำไมเธอต้องปิดบังผมด้วย เธอก็ไม่ตอบ สิ่งที่ผมได้จากเธอในการกลับไปอยู่กับเธอสามวันคือ
แววตาของเธอ ที่หลงใหลผู้ชายคนใหม่ อย่างหัวปักหัวปำ นั่นคือสิ่งที่ผมแน่ใจ
แล้วผมก็กลับมาบ้านตัวเอง แต่เธอบอกว่า ไม่นานหรอก เธอจะกลับมาคบผมเหมือนเดิม
ตอนนั้น ผมทำอะไรไม่ถูกแต่ก็คอย wait and see ไปเรื่อย ๆ ผมคิดอย่างนั้น
พอผมกลับมาบ้าน เธอก็ส่งแชทไลน์มาว่า เธอไปเล่นไพ่นะ เล่นทั้งคืนถึง สิบโมงเช้า ผมก็ไม่ว่าอะไรเพราะผมเหนื่อยมาก
และพอผ่านไปอีกวัน เธอบอกว่า เธอรักผมนะ ส่งสติ๊กเกอร์ไลน์รัก ๆ มาหาผมเต็มไปหมด แล้วบอกว่า วันนึงเราจะกลับมาอยู่ด้วยกัน
เธอส่งมายามค่ำคืน แล้วบ่นว่า นอนไม่หลับเลย คิดถึงผม
ผมสงสัยมากกกก เลยถามไปว่า นอนกับใคร เธอบอกว่า นอนกับยาย ผมบอกว่า งั้นช่วยถ่ายรูปให้ดูหน่อย
ปกติ ผมเองจะถูกเธอสั่งให้ถ่ายรูปเมื่อถึงบ้านเสมอ ผมเลย ขอเธอบ้าง
คราวนี้เธอโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เป็นอีกคนนึงเลย ด่าผมเสียหาย (ปกติเธอชอบด่าแรง ๆ อยู่แล้ว)
ผมใจเย็นแล้วบอกเธอว่า ถ่ายเถอะ จะได้ไปนอน เธอจนมุม เลยยอมรับกับผมว่า เดินทางไปเชียงใหม่กับแฟนใหม่สองคน
ตอนนี้ถึงพิษณุโลกแล้ว แล้วเธอก็เปิดกล้องให้ดู.....
อ่านถึงตรงนี้ รู้สึกยังไงกันบ้างครับ ผมตอนนี้ พิมพ์ไปน้ำตาไหลไป
แฟนผม กำลังจะไปเอากับคนอื่น ที่เชียงใหม่ครับ และผมก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากน้ำตาไหล
พอผมรู้แบบนี้ ผมก็เลยตัดสินใจ ยุติทุกอย่าง บล๊อกไลน์ ลบเพื่อนในไลน์ บล๊อกเฟส
บล๊อกเบอร์โทร และผมจะไม่กลับไปคบอีกแล้ว จนถึง วันนี้.... วันนี้ที่ผมพิมพ์อยู่นี่แหละครับ....
เมื่อน้ำลด ตอก็ย่อมผุด
ผมเริ่มรู้ความจริง ๆ ด้านอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งผมขอเล่าตั้งแต่ต้น ที่เป็นความจริงอีกด้าน ที่ผมไม่เคยรู้เลย
เมื่อผมเลิกกับคน ๆ นี้ ทำให้ทุกคนที่อยู่รอบตัวผม เริ่มเข้ามาเปิดใจคุยกับผมทีละคน และได้ข้อมูลชัดเจน ตรงกันหลายต่อหลายคน
(ผมเป็นคนที่มีเพื่อนดี ๆ และรักผมอยู่พอสมควร แต่เขาไม่อยากเข้ามายุ่ง เมื่อรู้ว่าผมเลิกเด็ดขาด ข้อมูลจึงหลั่งไหลเข้ามา)
ก่อนที่ผมจะคบเธอ ผมเคยเห็น ผู้ชายกลุ่มนึง สิบกว่าคน จะมารุมกระทืบใครไม่รู้
ที่แท้ ก็คือ จะมากระทืบเธอ นั่นเอง เพราะเธอคบซ้อนหลายคน
(ตอนนั้น ผมยังไม่รู้จัก ยังไม่ได้จีบเธอเป็นแฟน แค่เคยเห็น ๆ หน้ากัน)
เธอคบคนที่เป็นนักเรียนด้วยกัน และแอบคบ คนที่ทำงานแล้ว ในบริษัทแห่งหนึ่ง
และได้ไปพัทยากัน สองต่อสอง ซึ่งเรื่องนี้ผมเคยได้ยินมา แต่เธอเคยบอกว่า ไปกับยาย ไม่มีอะไร
(ผมเคยไปกับยายเธอเหมือนกัน แต่ก็มีอะไรข้าง ๆ ยายเธอเลย)
(คิดว่า เรื่องการเสียตัวสำหรับเธอ คงเป็นเรื่องปกติ ไปแล้ว)
เมื่อผมมาคบเธอในช่วงแรก ๆ ผมเห็นเธอแชทหาคน ๆ นึง ใช้คำว่า "คุณตาขา"
เธอมักจะขอเงิน คุณตาขา อยู่เสมอ ผมเคยถามว่า คุณตาคนนี้เป็นใคร
เธอตอบว่า เป็นญาติเธอที่ต่างจังหวัด
เธอขอเงินได้ทีละหมื่น และมีการพากันไปซื้อโน๊ตบุ๊ค ราว ๆ สองหมื่น ซึ่งผมเป็นคนเอามาลงโปรแกรมให้เอง
ในที่สุด คุณตาคนนี้ คือ อาจารย์ในมหาลัย ที่ยายเธอทำงานอยู่ และยายเธอ ก็คงเสนอหลานเธอให้อาจารย์คนนี้
ได้ยินมาว่า หมดเป็นแสน ๆ ถ้าไม่ได้เคยมีอะไรกัน เขาจะให้ขนาดนี้เหรอ
นี่คือ การคบซ้อนในขณะที่คบกับผมอยู่ด้วย แต่ผมไม่เคยเอะใจ
(อ่านต่อใน rep ต่อไปนะครับ)
แฟนผมมีชู้ ดูแล้วก็เรื่องธรรมดาเกิดได้กับทุกคน แต่เรื่องของผมสุด ๆ กว่าที่คิดครับ
ไปหาเพื่อน ไปหากิจกรรมทำ ก็ไม่หายสักที ทำทุกอย่างแล้ว เท่าที่ผมจะทำได้ จึงขอตั้งกระทู้ระบายความรู้สึกครับ
(เรื่องนี้ ผมจะเล่าตามที่ผมเจอ และสุดท้ายมาดูกันว่า มันหักมุมยังไงนะครับ)
ผมคบกับแฟนผมมาประมาณเกือบ 4 ปี ปีที่ 1 - 2 ก็รักกันดี คบกันปกติ
ใช้ชีวิตชนิดที่เรียกว่า ปาท่องโก๋เลย ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด
Background ของเธอคือ พ่อแม่ แยกทางกันต่างไปมีครอบครัวใหม่
เธออาศัยอยู่กับยายของเธอ เธอเป็นคนจังหวัดภาคเหนือ ซึ่งผมขอไม่พาดพิงนะครับ
ยายของเธอ มีอาชีพเป็นแม่บ้านใน มหาลัยแห่งหนึ่ง ทำความสะอาดห้องน้ำ เก็บโต๊ะเก้าอี้
ยายของเธอ มีนิสัยเหมือนชาวบ้านทั่ว ๆ ไป ที่ชอบเล่นหวย เล่นการพนัน
และหลานเธอ ก็คือคนที่ผมคบ
เมื่อผมเริ่มคบกับเธอ เธอกับยาย ก็บอกผมว่า อยากให้เธอมีห้องที่สามารถอยู่คนเดียวได้
เพราะเธออาศัยอยู่กับยายมานาน ผมจึงไปเช่าห้องให้เธออยู่ใกล้ ๆ ยายเธอ
เผื่อมีเรื่องอะไรจะได้ช่วยเหลือกันได้
ผมคบจนเธอเรียนจบระดับ ปวช. และไปฝึกงาน ช่วงนั้น น่าจะผ่านมาสักสองปีแล้วที่คบกัน
ผมพบว่า เธอกับยาย แอบไปเล่นการพนัน ที่บ่อนใหญ่แห่งหนึ่งย่านวงศ์สว่าง (ปัจจุบันน่าจะโดนตำรวจจับ ปิดไปแล้ว)
บ่อนนี้เป็นบ่อนที่มีการเล่นการพนันทุกรูปแบบ และแฟนผม ไปเล่นเกือบทุกคืน จนถึงเช้า ค่อยกลับมานอน
ขาดเรียนบ้าง ขาดการฝึกงานบ้าง ผมก็เครียดสิครับ
ผมเองเสียใจมาก เพราะผมไม่ชอบเรื่องการพนัน
อาชีพผมเป็นนักดนตรี และอยู่เบื้องหลังการทำเพลง และงานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เว็บไซด์ สถานีวิทยุ ฯลฯ
ผมขอร้องให้เธอเลิก แต่เธอก็แบ่งรับแบ่งสู้ ไม่ตอบรับ ไม่ปฏิเสธ
ผมกราบเท้าเธอเลย เพื่อขอให้เธอเลิก เธอแอบถ่ายรูปผมตอนกราบเท้า ส่งให้เพื่อน ๆ เธอดู (ผมรู้สึกแย่มากในตอนนั้น)
ตั้งแต่นั้นมา เราทะเลาะกันบ่อยขึ้นเรื่องเล่นการพนัน
ทุกครั้ง ผมท้อแท้ และมีความรู้สึกลึก ๆ ว่า สงสัยจะไปต่อกันไม่ได้
จนวันนึง เธอมาบอกผมว่า เธอเลิกเล่นละ ผมก็ดีใจมาก
นิสัยส่วนตัวผม ผมเป็นคนไม่ชอบจับผิดใคร ใช้ชีวิตเรียบง่าย สบาย ๆ ว่าง ๆ ก็ชวนไปดูหนัง
ผมค่อนข้างมีเวลาให้เธอเยอะมาก เพราะผมเป็นคนทำงานน้อยแต่ได้เงินคุ้มค่า จึงใช้เวลาทั้งหมดไปกับการตามใจเธอ
ไม่ว่าเธออยากกินอะไร ผมพาไปหมด อยากไปเที่ยวไหนไกล ๆ ผมพาไปได้เลย
อาชีพผม ต้องได้ไปเที่ยวฟรี ๆ อยู่แล้ว แถมห้องพักที่พัก บางทีก็เป็นห้องพักระดับ VIP หลักหมื่น หลักแสน ก็เคยไปกันมาแล้ว
เพราะฉะนั้น เธอจะมีความสุขมากที่ผมพาเธอไปเที่ยว เราถ่ายรูปกันแหลกจริง ๆ จนบางคนอิจฉาว่า พรีเว็ดดิ้ง กันหรือไง
แต่.... เชื่อไหมครับ เธอไม่เคยโพสต์รูปผมลงเฟสบุ๊คเธอเลย เธอให้เหตุผลว่า ที่บ้านเธอ (ทางภาคเหนือ)
ชอบเม้า ชอบนินทา เธอยังไม่อยากให้ใครรู้ นอกจากยายเธอว่าคบกับผม
ผมไม่เคยสงสัยในพฤติกรรมแบบนี้
ผมเป็นคนซื่อสัตย์มาก ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เล่นการพนัน และไม่ยอมเจ้าชู้เด็ดขาด
เพราะแค่ถ้าผมไปยุ่งกับคนอื่น แล้วผมนึกถึงใบหน้าเธอที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย ผมก็ทำไม่ลงแล้วครับ
ฉะนั้น ผมจึงเป็นคนไม่มีความลับใด ๆ ทั้งสิ้น
โทรศัพท์ผม เธอจะเอาไปดู ไปเล่นทั้งวันทั้งคืน ก็เชิญเลย เพราะผมไม่มีความลับ ไม่มีนอกใจ
แถมนิสัยผมไม่ชอบแอบไปดูโทรศัพท์เธอด้วย เพราะผมไม่ใช่คนชอบจับผิด ผมมั่นใจว่า ถ้าผิด เรื่องมันจะแดงขึ้นมาเอง
ต่อมา... ไม่นานนัก พักหลัง ๆ เธอชอบไล่ผมให้กลับมานอนบ้าน
แล้วเธอก็บอกผมว่า จะเอายายมานอนด้วย เพราะเธอต้องไปทำธุระโน่น นี่ นั่น ตามแต่เธอจะสรรหาเหตุผล
ผมรู้ว่าลึก ๆ ต้องมีอะไร แต่ด้วยความที่ผมเป็นคน "ช่างมัน" ใครทำอะไรได้อย่างนั้น
ผมจึงตามใจเธอบ่อย ๆ ก็กลับมานอนบ้าน บ่อยขึ้น จนวันนึงเกิดเหตุการณ์ที่บ้านผม โดนล็อคจากด้านใน เปิดประตูไม่ได้
ผมจึงโทรไปหาเธอ เพื่อขอไปนอนห้องเธอ เพราะผมไม่มีที่ไปแล้ว เธอไม่รับสาย (เธอเคยให้เหตุผลว่า เปิดสั่น และไว้ปลายเท้า บางทีไม่รู้)
การไม่รับสายของเธอ จึงเป็นเรื่องปกติ สำหรับผม (ผมก็คิดอยู่ครับว่า เธอเล่นการพนันอีกแน่ ๆ เลย แต่ถ้าเป็นการพนัน เดี๋ยวผมจะค่อย ๆ ปรับเธอ)
ผมจึงขับรถไปหาเธอที่ห้อง พอเข้าห้องไป ปรากฏว่า ไม่มีคนอยู่ในห้องเลยครับ
ผมร้องไห้เลย เพราะนี่เราโดนหลอกมานานเป็นปีนะ แล้วผมก็เลยโทรหาเพื่อน
ปรึกษาเพื่อนว่าจะเอาไงดี ระหว่างนั้น ผมแอบเห็นโทรศัพท์ของยายเธอ วางอยู่บนโต๊ะ
ผมเลยหยิบมาเปิดไล่ ๆ ดูทุกอย่างในโทรศัพท์ ปรากฏว่า.....
มีการติดต่อ ผู้ชายคนนึง ที่เป็นแฟนเก่าเธอ เธอเคยเล่าให้ผมฟังว่า คบกันที่ต่างจังหวัด ก่อนย้ายมาอยู่กรุงเทพ
ติดต่อกันผ่านไลน์ในโทรศัพท์ยาย ตั้งแต่เดือน พค. ถึง สค. ปี 60
ก็เท่ากับว่า ผมโดน สองเด้งละ เรื่องการพนัน เรื่องแฟนเก่า แต่ผมสงสัยว่า ทำไมต้องเป็นเครื่องยาย
พอเธอกลับมา เธอรับสารภาพ และขอโทษผมเป็นการใหญ่ ผมก็เลยทำสองอย่างครับ
อย่างแรกคือ ผมบอกเธอว่า ต่อไป ถ้าจะไปเล่นไพ่ ให้บอกผมตรง ๆ ผมไม่อยากให้เธอโกหกผมอีก ผมยอมให้เธอไป แต่อย่าไปบ่อยนัก มันไม่ดี
อย่างที่สองคือ ผมถามเธอว่า ทำไมเครื่องยาย ถึงมีการติดต่อแฟนเก่าอยู่ เธอบอกว่า ยายเธอเม็มเบอร์ไว้ เธอไม่เกี่ยว มันก็ขึ้นไลน์สิ
แต่ผมเถียงเธอว่า เป็นการโทรออกผ่านไลน์ด้วยนี่นะ เธอก็ใช้น้ำเสียงยืนยันหนักแน่นว่า เธอเกลียดแฟนเก่า ไม่มีวันติดต่อหรอก
ผมก็ไม่อยากทะเลาะ เพราะทะเลาะกันบ่อยจนผมเบื่อละ ก็เลยปล่อยผ่าน ๆ ไป แต่ยังเก็บความสงสัยไว้ตลอดมา....
เดือน สิงหา เดือนกันยา เดือนตุลา เป็นเดือนที่ผมเริ่มรุ้สึกว่า แฟนผมเปลี่ยนไปมาก
ไม่มีเวลาให้ผมแล้ว ขอไปเล่นไพ่ลูกเดียว ไปทั้งคืน กลับตอนเช้า (แฟนผมไม่ทำงานครับ และเริ่มเรียนระดับ ปวส. แต่เรียนแค่วันอาทิตย์)
ด้วยความที่เราอยู่ด้วยกันบ่อย แต่พักหลัง ๆ เธอไม่ค่อยอยากอยู่กับผม อยากอยู่แต่กับไพ่ และ ยาย
ผมเลยทะเลาะกันจริงจังละ เพราะว่า แม้กระทั่งวันเกิดผม เธอยังไม่มีเวลาให้ผมเลย ผมว่า มันเกินไปหน่อยละ
ผมเลยคิดว่า ถ้าขืนเล่นไพ่อย่างนี้ต่อไป ผมแย่แน่ ๆ สู้ผมถอนตัวออกมาดีกว่า ก็คือคิดจะเลิก
แต่ในใจลึก ๆ ก็หวังว่า เธอจะรักผม แล้วกลับมาง้อผม และเปลี่ยนนิสัยเธอได้
ผมห่างเธอมา 1 สัปดาห์.... เหมือนฟ้าฟาดลงหัวใจ เหมือนมีดกรีดหัวใจผม เหมือนผมโดนกระทืบหัวใจ
เมื่อมีคน ๆ นึง ที่เธอสนิทด้วย ส่งข้อมูลทั้งหมด มาให้ผม เป็นรูปถ่าย การพูดคุยแชท ฯลฯ
นั่นคือ เธอแอบคบ คน ๆ นึง ที่เรียนกับเธอ ซึ่งในแชทนั้น ที่ผมอ่านคือ เธอหลงไหลผู้ชายคนนี้มาก
ผมร้องไห้ฟูมฟาย และไม่นึกว่า ผมจะโดนแบบนี้ นี่มันเป็นกรรมอะไรของผมกันแน่
ผมดูแลเธอด้วยชีวิต ผมยอมตายแทนเธอได้ ผมสามารถให้เงินเธอจนหมดกระเป๋า ไม่เหลือแม้แต่บาทเดียว ก็เคยทำ
เพื่อพิสูจน์ว่า ผมรักเธอ เธอคือคนที่ผมอยากให้มาจับมือผม ในยามที่ผมสิ้นลมหายใจ (ถ้าผมต้องตายก่อน)
ในที่สุดผมก็รู้ว่า วันครบรอบวันเกิด ครบรอบวันที่เราคบกัน เธอไปเที่ยวกับชายคนใหม่ตลอด
เป็นผู้ชายที่เรียนห้องเดียวกับเธอในวันอาทิตย์
ผมได้สอบถามไปยังเพื่อนของเธอ ที่ส่งความลับนี้มาให้ ว่า เราไม่รู้จักกัน ทำไมต้องส่งมาให้ผมด้วย
เขาบอกว่า การกระทำแบบนี้ มันน่าเกลียด เขารับไม่ได้จริง ๆ และเขาเห็นเฟสผม เห็นผมอยู่ตลอดเวลาว่า ผมรักเธอแค่ไหน
เขาบอกว่า เขาสงสารผมจริง ๆ ไม่รู้จะช่วยยังไง ก็คงช่วยได้คือ มอบความจริงทุกอย่างให้ผมรู้ และให้ผมตัดสินใจซะ
(ผมไม่รู้ว่า ลึก ๆ จะมีเหตุผลอื่นหรือไม่ แต่ผมไม่สนใจแล้ว ผมสนใจแค่ว่า ผมโดนซะแล้วครับ)
หลังจากนั้น ผมเป็นซึมเศร้าทันที หายใจไม่ออก ต้องไปหาหมอ
หมอบอกว่า ผมเป็น panic disorder และซึมเศร้า มีโอกาสฆ่าตัวตายสูงมาก
ผมต้องทานยาทีหมอจัดให้ เพื่อลดอาการใจสั่นหวิว ตลอดเวลา เศร้า กินข้าวไม่ได้ นอนไม่ได้ ผอมลงไป 4 โล ใน 1 สัปดาห์
ผมตัดสินใจ โทรไปหาเธอ หลังจากที่ผมไปหาหมอ และผมเริ่มตั้งสติ บอกตัวเองว่า ผมต้องใจเย็น
ผมต้องล้วงข้อมูลจากเธอมาให้ได้มากที่สุด เพื่อที่ผมจะได้เจ็บทีเดียว แล้วจบมันซะ
เธอดีใจที่ผมโทรไป แล้วขอให้ผมไปอยู่กับเธอ 3 วัน
เป็น 3 วันที่ ผมทรมานมาก ผมบอกเธอว่า ผมรู้แล้วว่าเธอ มีคนอื่นนะ ช่วยเล่าให้ผมฟังหน่อย
เธอบอกว่า เธอโดนคนนี้จีบมาพักนึง (เวลาเธอเล่า แววตาเธอ มีความสุขมาก ผมรู้เลยว่า ผมต้องออกจากชีวิตเธอแล้ว)
เธอบอกถึงข้อดีของชายคนนี้ว่า บ้านรวย ผุ้ชายทำงานทุกวัน ทำกับเพื่อนแม่ของเขา
ข้อเสียของผู้ชายคนนี้คือ ไม่มีเวลาให้เหมือนผม กว่าจะได้เจอกัน ก็ต้องรอวันที่ไปเรียน
เธอเริ่มเบื่อ ๆ อยากจะกลับมาคบผม (เธอพูดแบบเหมือนผมไม่เจ็บว่ะ หน้าตายมาก เหมือนเรื่องธรรมดา)
เธอพูดอะไรหลาย ๆ อย่าง แต่เธอชอบด่าผมว่า ผมโทรมเกินไป เธอรับไม่ได้ ถ้ายังโทรมแบบนี้อีก เธอไม่ชอบ
ผมบอกว่า ผมโดนขนาดนี้ จะให้ผมหล่อเป็นหมาก เป็น ณเดชน์เลยเหรอ มันก็ต้องเศร้า โทรมเป็นเรื่องธรรมดา
ผมถามว่า ทำไมเธอต้องปิดบังผมด้วย เธอก็ไม่ตอบ สิ่งที่ผมได้จากเธอในการกลับไปอยู่กับเธอสามวันคือ
แววตาของเธอ ที่หลงใหลผู้ชายคนใหม่ อย่างหัวปักหัวปำ นั่นคือสิ่งที่ผมแน่ใจ
แล้วผมก็กลับมาบ้านตัวเอง แต่เธอบอกว่า ไม่นานหรอก เธอจะกลับมาคบผมเหมือนเดิม
ตอนนั้น ผมทำอะไรไม่ถูกแต่ก็คอย wait and see ไปเรื่อย ๆ ผมคิดอย่างนั้น
พอผมกลับมาบ้าน เธอก็ส่งแชทไลน์มาว่า เธอไปเล่นไพ่นะ เล่นทั้งคืนถึง สิบโมงเช้า ผมก็ไม่ว่าอะไรเพราะผมเหนื่อยมาก
และพอผ่านไปอีกวัน เธอบอกว่า เธอรักผมนะ ส่งสติ๊กเกอร์ไลน์รัก ๆ มาหาผมเต็มไปหมด แล้วบอกว่า วันนึงเราจะกลับมาอยู่ด้วยกัน
เธอส่งมายามค่ำคืน แล้วบ่นว่า นอนไม่หลับเลย คิดถึงผม
ผมสงสัยมากกกก เลยถามไปว่า นอนกับใคร เธอบอกว่า นอนกับยาย ผมบอกว่า งั้นช่วยถ่ายรูปให้ดูหน่อย
ปกติ ผมเองจะถูกเธอสั่งให้ถ่ายรูปเมื่อถึงบ้านเสมอ ผมเลย ขอเธอบ้าง
คราวนี้เธอโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เป็นอีกคนนึงเลย ด่าผมเสียหาย (ปกติเธอชอบด่าแรง ๆ อยู่แล้ว)
ผมใจเย็นแล้วบอกเธอว่า ถ่ายเถอะ จะได้ไปนอน เธอจนมุม เลยยอมรับกับผมว่า เดินทางไปเชียงใหม่กับแฟนใหม่สองคน
ตอนนี้ถึงพิษณุโลกแล้ว แล้วเธอก็เปิดกล้องให้ดู.....
อ่านถึงตรงนี้ รู้สึกยังไงกันบ้างครับ ผมตอนนี้ พิมพ์ไปน้ำตาไหลไป
แฟนผม กำลังจะไปเอากับคนอื่น ที่เชียงใหม่ครับ และผมก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากน้ำตาไหล
พอผมรู้แบบนี้ ผมก็เลยตัดสินใจ ยุติทุกอย่าง บล๊อกไลน์ ลบเพื่อนในไลน์ บล๊อกเฟส
บล๊อกเบอร์โทร และผมจะไม่กลับไปคบอีกแล้ว จนถึง วันนี้.... วันนี้ที่ผมพิมพ์อยู่นี่แหละครับ....
เมื่อน้ำลด ตอก็ย่อมผุด
ผมเริ่มรู้ความจริง ๆ ด้านอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งผมขอเล่าตั้งแต่ต้น ที่เป็นความจริงอีกด้าน ที่ผมไม่เคยรู้เลย
เมื่อผมเลิกกับคน ๆ นี้ ทำให้ทุกคนที่อยู่รอบตัวผม เริ่มเข้ามาเปิดใจคุยกับผมทีละคน และได้ข้อมูลชัดเจน ตรงกันหลายต่อหลายคน
(ผมเป็นคนที่มีเพื่อนดี ๆ และรักผมอยู่พอสมควร แต่เขาไม่อยากเข้ามายุ่ง เมื่อรู้ว่าผมเลิกเด็ดขาด ข้อมูลจึงหลั่งไหลเข้ามา)
ก่อนที่ผมจะคบเธอ ผมเคยเห็น ผู้ชายกลุ่มนึง สิบกว่าคน จะมารุมกระทืบใครไม่รู้
ที่แท้ ก็คือ จะมากระทืบเธอ นั่นเอง เพราะเธอคบซ้อนหลายคน
(ตอนนั้น ผมยังไม่รู้จัก ยังไม่ได้จีบเธอเป็นแฟน แค่เคยเห็น ๆ หน้ากัน)
เธอคบคนที่เป็นนักเรียนด้วยกัน และแอบคบ คนที่ทำงานแล้ว ในบริษัทแห่งหนึ่ง
และได้ไปพัทยากัน สองต่อสอง ซึ่งเรื่องนี้ผมเคยได้ยินมา แต่เธอเคยบอกว่า ไปกับยาย ไม่มีอะไร
(ผมเคยไปกับยายเธอเหมือนกัน แต่ก็มีอะไรข้าง ๆ ยายเธอเลย)
(คิดว่า เรื่องการเสียตัวสำหรับเธอ คงเป็นเรื่องปกติ ไปแล้ว)
เมื่อผมมาคบเธอในช่วงแรก ๆ ผมเห็นเธอแชทหาคน ๆ นึง ใช้คำว่า "คุณตาขา"
เธอมักจะขอเงิน คุณตาขา อยู่เสมอ ผมเคยถามว่า คุณตาคนนี้เป็นใคร
เธอตอบว่า เป็นญาติเธอที่ต่างจังหวัด
เธอขอเงินได้ทีละหมื่น และมีการพากันไปซื้อโน๊ตบุ๊ค ราว ๆ สองหมื่น ซึ่งผมเป็นคนเอามาลงโปรแกรมให้เอง
ในที่สุด คุณตาคนนี้ คือ อาจารย์ในมหาลัย ที่ยายเธอทำงานอยู่ และยายเธอ ก็คงเสนอหลานเธอให้อาจารย์คนนี้
ได้ยินมาว่า หมดเป็นแสน ๆ ถ้าไม่ได้เคยมีอะไรกัน เขาจะให้ขนาดนี้เหรอ
นี่คือ การคบซ้อนในขณะที่คบกับผมอยู่ด้วย แต่ผมไม่เคยเอะใจ
(อ่านต่อใน rep ต่อไปนะครับ)