ขอบอกก่อนนะคะ ว่าขออนุญาติแฟนคลับบังทัน และแฟนคลับวงอื่นๆ ไม่ไปตั้งในคลับ bts น้าาา อาจรบกวนใครไปต้องขออภัยด้วยเน้อ เพราะเราไม่ได้แค่ต้องการให้เฉพาะแฟนคลับบังทันอ่านเท่านั้นค่ะ อยากให้เพื่อนๆที่มีใจรักเคป็อปหลายๆท่านได้อ่านด้วยกัน ใครไม่ชอบกด X เลยน้าา จะได้ไม่ดราม่าน้าาา
ออกตัวอีกทีว่า เราไม่ใช่ อาร์มี่นะคะ ที่ว่าไม่ใช่ เพราะเพิ่งรู้จักบังทันเมื่อกลางปี2017 นี่เอง มันน้อยเหลือเกินถ้าเทียบกับการเดบิวส์ที่ยาวนาน สี่ปีกว่าๆของบังทันคะ คอนสักคอนก็ไม่เคยไปดู TT ไม่รู้ไปอยู่ไหนมา
เราเคยตั้งกระทู้เกี่ยวกับบังทันไปเมื่อตอนรู้จักบังทันได้เดือนเดียว5555 และตอนนี้ทุกอย่างมันน่าประทับใจมากขึ้นเรื่อยๆเลยค่ะ ขนาดเพิ่งมาตามยังภาคภูมิใจเหลือเกินแล้วอาร์มี่ที่อยู่มาแต่แรก จะไม่ภูมิใจไม่รักได้ยังไงเนอะๆ
เราเป็นติ่งมาสิบกว่าปีแล้วค่ะ ไม่ต้องเดาอายุนะคะ 5555 เอาเป็นว่า เราโตมากับ sj snsd bigbang สมัยแรกๆนู้นเลย อิอิ
เราเป็นติ่งจำพวกที่อิงกับค่ายใหญ่คะ อันนี้ยอมรับว่าตามเฉพาะค่ายใหญ่สามค่าย เพราะอยู่มานานแต่ดั้งแต่เดิม เลยไม่คิดย้ายไปไหน
อีกเพราะศิลปินหน้าใหม่เยอะเหลือเกิน ยิ่งช่วง ปี2012เป็นต้นมา เราเข้าวัยทำงาน เวลาไม่มีไปนั่งตามเหมือนสมัยเรียน วงรุ่นน้องค่ายใหญ่ๆออกมา
เราก็ตามกันไป แต่ไม่ได้เป็นแฟนคลับวงไหนเลย ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน ค่ายใหญ่มาจัดคอนก็ไปตลอดค่ะ สิบกว่าปีที่ผ่านมาเสียค่าบัตรคอนไปเยอะมาก555 แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังไม่อินจนไปเป็นแฟนคลับวงไหนสักวงสักที เหมือนมันยังไม่ใช่ เราชอบเป็นคนๆไปอะคะ บางทีวงๆนึง เราไปคอนแต่ไปเพราะเมมเบอร์คนนั้นแค่คนเดียว มันฟินนะแต่ไม่สุด มันเป็นความรู้สึกว่าชอบเค้าก็ต้องชอบเพื่อนเค้าด้วย5555
ค่ายอื่นเราไม่ตามเลยค่ะ แต่ถ้ามีเพลงฮิตมาก็แค่ตามไปดูไลฟ์ในยูทูป โหลดเพลงฟัง แค่นั้น อย่าง เกิร์ลเดย์ เพลงสองเพลง เอพิ้งค์ บลาๆๆๆ ส่วนมาก
จะเป็นเกิร์ลกรุ๊ปค่ะ บอยแบนด์ ถ้าไม่ใช่ค่ายใหญ่เราร้างไปเลย
จนมาปีนี้ เราได้รู้จักบังทันค่ะ จากพันทิปนี่แหละ ตอนนั้นนอนเปื่อยๆ เลยเปิดพันทิปแบบ งงๆ 5555 ตอนนั้นเปิดเจอ KPOP วงไหนใครดังแค่ไหนบ้าง ฝั่งชาย สามอันดับของแต่ละคอมเม้น
ไม่ต่างจากกันเท่าไหร่คะ แต่ไม่ต้องบอกกันก้อคงเดาได้เนอะ อันดับ1กับ 3 นี่จากค่ายใหญ่เรารู้จักแล้วค่ะ (จุดๆนี้ เราอิงจาก กระทู้เก่าๆเน้อ ไม่ดราม่าน้าาา ) อันดับสองนี่สิ เคยได้ยินแต่ชื่อแต่กลับไม่เคยฟังเพลงวงๆนี้เลย นั่นก็คือบังทันค่ะ
เริ่มแรกคือ ไปหาฟังแบบ สุ่มๆเพลงมา เพลงเเรก Blood sweat and tear เปิดแบบ งงๆค่ะ ไม่รู้คนนี้ใคร ไม่รู้จักว่าชื่ออะไร ไม่รู้อะไรเลยจริงๆค่ะ แต่เพลงนั้น จีมินคือสิ่งเดียวที่โดดเด่นเหลือเกิน ดูจบปุ๊ปเปิดอากู๋เลย เสิร์ซเลย ประวัติวง บีทีเอส 5555
ในส่วนของตัวเมมเบอร์ ความชื่นชอบ ทุกอย่างเราเคยบอกในกระทู้ก่อนหน้านี้ไปแล้วค่ะ แต่พอได้ฟังเพลง ได้รู้จัก จากความชื่นชอบ
ที่คิดว่าแค่เฉพาะตัวศิลปิน ก็คืบคลานกลายเป็นหลงในเพลงของบังทันค่ะ เราฟังเคป็อปมานาน บังทันคือวงที่อยู่ตรงกลางที่แท้จริงระหว่างความเป็นวงแร็ปและวงป็อป ซึ่งพูดได้เต็มปากว่ายังไม่มีในค่ายไหนที่กล้าจะดึงเอาทุกอย่างมาผสมกันหมดในวงแค่วงเดียวแบบนี้
บางวงเน้นร้อง บางวงเน้นแร็ป บางวงเน้นเพอร์ฟอร์มแมนซ์ ที่ผ่านมา วงๆนึงต้องมีพาร์ทร้อง พาร์ทแร็พ และทุกคนเต้นได้ มันจึงสมบูรณ์ แต่ส่วนเนื้อร้องจะค่อนข้างแล้วแต่เอกลักษณ์เฉพาะวงว่าเน้น อะไร วงไหนเน้นแร็พก็จะมีพาร์ทแร็พเยอะหน่อย เต้นกับร้องก็จะน้อย บางวงเน้นเต้นเน้นแสดงโชว์เน้นร้อง แร็พก็อาจจะมีแค่ช่วงสั้นๆ แต่บังทันคือวงที่เน้นร้องเน้นแร็พเน้นเต้นเน้นเพอร์ฟอร์มแมนซ์ ในอัตราส่วนที่แทบจะเท่ากัน แต่ช่วงแรกๆอาจจะเอียงๆไปทางแร็พซะมากกว่าหน่อย ด้วยความที่ปูทางมาสายแร็พ สกิลการแร็พของคนที่เป็นแร็พเปอร์เลยค่อนข้างแข็งแรงกว่าวงอื่นที่วางมาเพื่อเป็นวงป็อปอย่างชัดเจน
สกิลการร้องพัฒนาเห็นชัดมากค่ะ จนตอนนี้ โวคอลบังทันค่อนข้างเเข็งแรงค่ะ และน่าจะพัฒนาไปได้อีกเยอะทีเดียว ส่วนเต้นและการแสดงโชว์อันนี้ มันพัฒนาไปแบบ คาดไม่ถึงค่ะ คาดไม่ถึงในที่นี้หมายถึง เดาทางไม่ออก ว่าจะมาในรูปแบบไหน บังทันฉีกกฏการโชว์เดิมๆให้ประหลาดใจได้ทุกเวที อันนี้ยกความดีความชอบให้ทีมงานบิ๊กฮิตแรงๆค่า
เพลงของบังทัน เราชอบความหมายมันค่ะ เพลงบางเพลงเราอ่านคำแปลแล้วจุกเลยก็มี แบบ เห้ย มันใช่!!!!! เเล้วพอมันใช่ เราวนมาฟังเพลงๆนั้น มันทำให้อินค่ะ เนื้อหาเพลงแต่ละเพลงก็หลากหลายไม่ซ้ำแนวเท่าไหร่ สะท้อนสังคมดีจริงๆ บางทีก็สะใจเหลือเกิน ยกตัวอย่างท่อนนี้ของmic drop
''Haters gon’ hate
คนเกลียดก็จะเอาแต่เกลียด
Players gon’ play
ผู้เล่นก็ต้องเล่นต่อไป
Live a life man
ใช้ชีวิตของพวกเราไปเถอะ
Good luck
โชคดีนะ''
ที่ชอบอีกอันคือเพลง DOPE
''왜 해보기도 전에 죽여 걔넨 enemy enemy enemy
/ ทำไมพวกเค้าเหยียบเราโดยที่เรายังไม่ได้พยายามซะด้วยซ้ำ ทำตัวเป็นศัตรูกับเรา
왜 벌써부터 고개를 숙여 받아 energy energy energy
/ ทำไมคุณถึงแขวนคอตัวเองแล้วยอมรับมันไปแล้วล่ะ เติมพลังให้ตัวเองหน่อย
절대 마 포기 you know you not lonely
/ อย่าได้คิดจะยอมแพ้ คุณก็รู้ว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลก
너와 내 새벽은 낮보다 예뻐
/ รุ่งสางของเราต้องสวยงามกว่าวันนี้แน่
So can I get a little bit of hope? (yeah)
/ ให้ผมได้มีความหวังสักนิดได้มั้ย?''
และเนื้อเพลงโดนๆ อีกมากมายก่ายกอง เราว่ามันอินดีเวลาเหงาๆ หรือ เซ็งๆ หรือ โมโหๆมา เพลงบังทันนี่ใช้ได้ดีเลยค่ะ ปรับอารมณ์ได้ดีมาก
ต่อมาเรื่องของโชว์ค่ะ จบไปหมาดๆกับ งานมาม่า และ เมล่อน หลายๆคนคงได้ดูแล้ว หรือถ้าไม่ได้ดูลองไปดูนะคะ บังทันแสดงโชว์สองวัน แต่ต่างอารมณ์กันสิ้นเชิงเลยค่ะ อาจเพราะเพลงที่ใช้แสดงต่างกันนิดหน่อยด้วย งานสองงานนี้มันบอกอะไรได้อย่างนึงที่ จขกท สัมผัสได้ค่ะ สิ่งๆนั้นคือ ความตั้งใจของวงที่เดบิ้วมานานแต่ยังไม่หยุดพัฒนาตัวเองค่ะ มันแสดงออกมาได้โดยไม่ต้องให้ใครมานั่งบรรยายอะไรมากมาย คนดูในฮอลก็สัมผัสได้โดยที่อาร์มี่ไม่ต้องมานั่งโชว์นั่งอวยศิลปินตัวเอง มันชัดเจนจากโชว์แล้วค่ะ เดบิ้วมานาน แต่ยังรักษามาตรฐานให้ดีขึ้นๆ ไม่ยอมหยุด ไม่ยอมอยู่ตัวสักที พัฒนาขึ้นเรื่อยๆเลย
สีหน้าสีตาตอนแสดงยังมีความมุ่งมั่น ขอยกตัวอย่าง แววตาของจองกุก นะคะ ลองไปเปิดดูกันอีกสักทีถ้าไม่ได้สังเกตุ นี่คือผู้ชายที่เดมาตั้งแต่อายุยังน้อย ถามว่าตอนแรกจะรู้ไหมว่าตัวเองจะดัง ก็ไม่ แต่พอดังแล้ว แววตาในการแสดงบนเวทีน้องกินขาดมาก ความมุ่งมั่นมันเห็นได้เป็นรูปธรรมจากสายตาน้องค่ะ
แล้วไม่ใช่แค่จองกุกคนเดียว บีทีเอสเป็นแบบนี้ทุกคน ความตั้งใจความมุ่งมั่น เหมือนวงที่เพิ่งเดใหม่ยังแสดงออกมาเสมอทั้งที่เดมานานแล้ว นั่นคือเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงยังพัฒนาได้เรื่อยๆ เพราะความตั้งใจที่จะไปต่อ ยังไม่หมดไฟง่ายๆแน่นอนค่ะวงๆนี้
อ้อ อีเรื่องที่เราประทับใจมาก ปกติแล้ว แฟนคลับจะทราบกันดีว่า จองกุก จะไม่อัพทวิตเตอร์สักเท่าไหร่ แต่เมื่อวันที่เป็นวันสำคัญที่พวกเขาได้รับรางวัลใหญ่ จองกุก อัพภาพๆนี้พร้อมข้อความว่า
ขอบคุณ เครดิตภาพจากทิตเตอร์นะคะ พอดีตอนแคปไม่ได้แคปชื่อมา ต้องขออภัยด้วยจริงๆคะ
มันคงเป็นเรื่องปกติสำหรับคนอื่นๆ แต่สำหรับเรา เราไม่รู้หรอกว่า ณ นาทีนั้นบนเวทีน้องรู้สึกยังไง น้องเจ็บป่วยรึป่าว เพราะน้องเองไม่ใช่คนที่จะมาแสดงออกว่าตัวเองเป็นอะไรเท่าไหร่ แต่ข้อความที่เขียนมา ถ้าวันนั้นน้องไม่สบายจริงๆ มันสื่อให้อาร์มี่รู้เลยว่า อาร์มี่สำคัญกับน้องขนาดไหน
ไม่ใช่เพราะน้องจำเป็นต้องขึ้นไปแสดงโชว์เพื่อแฟนๆนะ ที่หมายถึงคือ น้องตั้งใจจะพูดว่า ต่อให้ต้องร่างพังไปในวันนี้ แต่ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย นั่นแสดงว่า น้องต้องการกำลังใจและความรักจากอาร์มี่มากๆ เพราะความเจ็บปวดของน้องจะไม่มีเลยถ้าอาร์มี่ยังอยู่ตรงนี้ ข้อความแบบนี้ถ้ามาจากคนอื่น เราจะเฉยๆนะ แต่นี้มาจากจองกุก คนที่ไม่ค่อยจะพูดจะทำอะไรแบบนี้สักเท่าไหร่ มันเลยดูเป็นสิ่งที่ลึกซึ้งและจริงใจมากๆ ที่เรารับรู้ได้จากน้องค่ะ
เรื่องอีกเรื่องที่ประทับใจเหลือเกินตลอดเวลาที่ได้ตามมาไม่นาน คือ ความสัมพันธ์ของเมมเบอร์ค่ะ เราดู bon voyage season2 แล้วประทับใจมากจริงๆ
เราคิดเอาเองนะว่า บังทันเริ่มมาจากวงที่ไม่มีอะไร เค้าลำบากมาด้วยกันมาก และเป็นระยะเวลานาน กว่าจะถึงจุดนี้ สิ่งที่จะปลอบใจตัวเองในช่วงเวลาที่ยังเป็นวงโนเนมคือ เมมเบอร์ที่อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขในตอนนั้น ตอนที่ยังต้องนอนแบบแออัด ตอนที่ยังออกไปไหนก็ไม่มีใครรู้จัก ขึ้นโชว์ก็แพ้ ไม่เคยได้รางวัลใหญ่ ต้องซ้อมหนัก ต้องเหนื่อย มันเป็นแบบนั้นมานานมาก ผิดหวังมาหลายต่อหลายครั้ง กับการนั่งมองวงอื่น ค่ายอื่น เขาดังกันไปวงแล้ววงเล่า เชื่อว่าความสัมพันธ์ที่ผ่านสิ่งเหล่านั้นมาด้วยกันมันคงทำให้เมมเบอร์รักกันมากอย่างที่เห็นทุกวันนี้ พวกเขามีเงินมากขึ้น แต่ก็ยังสนิทกัน ดูแลกัน ใส่ใจกัน และจับมือกันแน่นมากขึ้นเรื่อยๆ อีกอย่าง เพราะทุกคนในวงรักกัน ใส่ใจกันไม่ใช่แค่เฉพาะตอนหน้ากล้องเท่านั้น ความรักความผูกพันธ์ที่เขามีต่อกันมันเป็นเหมือนครอบครัวๆนึง และความรักนั้นมันจึงแผ่ไปสู่แฟนคลับที่ชื่อว่าอาร์มี่ค่ะ อาร์มี่จึงเป็นเหมือนครอบครัวใหญ่ของบังทันไปด้วย
การพูดถึงบังทันในวันที่พวกเขาประสบความสำเร็จแล้ว ใครๆก็ออกมาพูดได้ค่ะ แต่กว่าจะมาถึงจุดๆนี้ บังทันผ่านอะไรมามากมายๆจริงๆ
สำหรับวงที่มาจากค่ายเล็กๆ จินตนาการไม่ออกเลยค่ะ ว่าต้องลำบากแค่ไหน ต้องอดทนแค่ไหน กว่าจะได้มาออกทีวีรายการเพลงสักรายการนึง เด็กๆ ต้องเจออะไรมากันบ้าง การกินการนอนต้องลำบากกันแค่ไหน โดนดูถูกโดนสบประมาทมาเท่าไหร่ แต่สิ่งเหล่านั้นมันไม่ได้สำคัญเท่ากับวันนี้ที่พวกเขาดังแล้ว แต่พวกเขากลับไม่เคยลืมตัวเลย คนที่โดนสบประมาทส่วนมากถ้าบังเอิญโด่งดังก็มักจะทำตัวให้จมไม่ลง ทั้งๆที่วันนึงอาจต้องกลับไปเป็นวงที่ไม่ดังอีกก็ได้ แต่บังทันกลับใช้ชีวิตแบบเดิมใช้ชีวิตแบบที่เคยเป็นมา ถึงแม้ในวันที่ดังแล้วก็ยังรักกัน ยังดีกับแฟนคลับและไม่ดูถูกใคร ยังพัฒนาตังเองไปเรือย ความโชคดีของอาร์มี่ที่มีมากกว่าวงอื่นๆคือ ไม่ใช่แค่การเป็นแฟนคลับศิลปินที่มีชื่อเสียง แต่คือการเป็นแฟนคลับศิลปินที่เป็นคนดีและมีความสามารถจริงๆค่ะ
ตอนแรก เรารู้จักวงนี้ แบบ ไม่ได้ตั้งใจ แต่การรู้จักบังทัน มันสะท้อนให้เห็นอะไรหลายๆอย่างค่ะ ความพยายามของเด็กที่เริ่มจากศูนย์ ในขณะที่ผู้ใหญ่อย่างเราเทียบไม่ได้เลย พวกเขาเติบโตมาด้วยกัน มีชื่อเสียงมาด้วยกันแต่ยังไม่เคยลืมว่ามีวันนี้มาได้เพราะใคร นั่นคือสิ่งที่ทำให้เห็นว่า ทำไมเราจึงควรสนับสนุนเด็กทั้งเจ็ดคนนี้ อีกอย่างถ้าความสามารถดีๆ ของเด็กพวกนี้ถูกละเลยไป เราเองค่ะที่จะมานั่งเสียใจที่เราจับมือกับพวกเค้าไว้ไม่แน่นพอ
[ BTS ] หลงมารู้จักแบบ งงๆ แต่สิ่งที่ได้รับมากลับประทับใจและมีคุณค่าเหลือเกิน
ออกตัวอีกทีว่า เราไม่ใช่ อาร์มี่นะคะ ที่ว่าไม่ใช่ เพราะเพิ่งรู้จักบังทันเมื่อกลางปี2017 นี่เอง มันน้อยเหลือเกินถ้าเทียบกับการเดบิวส์ที่ยาวนาน สี่ปีกว่าๆของบังทันคะ คอนสักคอนก็ไม่เคยไปดู TT ไม่รู้ไปอยู่ไหนมา
เราเคยตั้งกระทู้เกี่ยวกับบังทันไปเมื่อตอนรู้จักบังทันได้เดือนเดียว5555 และตอนนี้ทุกอย่างมันน่าประทับใจมากขึ้นเรื่อยๆเลยค่ะ ขนาดเพิ่งมาตามยังภาคภูมิใจเหลือเกินแล้วอาร์มี่ที่อยู่มาแต่แรก จะไม่ภูมิใจไม่รักได้ยังไงเนอะๆ
เราเป็นติ่งมาสิบกว่าปีแล้วค่ะ ไม่ต้องเดาอายุนะคะ 5555 เอาเป็นว่า เราโตมากับ sj snsd bigbang สมัยแรกๆนู้นเลย อิอิ
เราเป็นติ่งจำพวกที่อิงกับค่ายใหญ่คะ อันนี้ยอมรับว่าตามเฉพาะค่ายใหญ่สามค่าย เพราะอยู่มานานแต่ดั้งแต่เดิม เลยไม่คิดย้ายไปไหน
อีกเพราะศิลปินหน้าใหม่เยอะเหลือเกิน ยิ่งช่วง ปี2012เป็นต้นมา เราเข้าวัยทำงาน เวลาไม่มีไปนั่งตามเหมือนสมัยเรียน วงรุ่นน้องค่ายใหญ่ๆออกมา
เราก็ตามกันไป แต่ไม่ได้เป็นแฟนคลับวงไหนเลย ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน ค่ายใหญ่มาจัดคอนก็ไปตลอดค่ะ สิบกว่าปีที่ผ่านมาเสียค่าบัตรคอนไปเยอะมาก555 แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังไม่อินจนไปเป็นแฟนคลับวงไหนสักวงสักที เหมือนมันยังไม่ใช่ เราชอบเป็นคนๆไปอะคะ บางทีวงๆนึง เราไปคอนแต่ไปเพราะเมมเบอร์คนนั้นแค่คนเดียว มันฟินนะแต่ไม่สุด มันเป็นความรู้สึกว่าชอบเค้าก็ต้องชอบเพื่อนเค้าด้วย5555
ค่ายอื่นเราไม่ตามเลยค่ะ แต่ถ้ามีเพลงฮิตมาก็แค่ตามไปดูไลฟ์ในยูทูป โหลดเพลงฟัง แค่นั้น อย่าง เกิร์ลเดย์ เพลงสองเพลง เอพิ้งค์ บลาๆๆๆ ส่วนมาก
จะเป็นเกิร์ลกรุ๊ปค่ะ บอยแบนด์ ถ้าไม่ใช่ค่ายใหญ่เราร้างไปเลย
จนมาปีนี้ เราได้รู้จักบังทันค่ะ จากพันทิปนี่แหละ ตอนนั้นนอนเปื่อยๆ เลยเปิดพันทิปแบบ งงๆ 5555 ตอนนั้นเปิดเจอ KPOP วงไหนใครดังแค่ไหนบ้าง ฝั่งชาย สามอันดับของแต่ละคอมเม้น
ไม่ต่างจากกันเท่าไหร่คะ แต่ไม่ต้องบอกกันก้อคงเดาได้เนอะ อันดับ1กับ 3 นี่จากค่ายใหญ่เรารู้จักแล้วค่ะ (จุดๆนี้ เราอิงจาก กระทู้เก่าๆเน้อ ไม่ดราม่าน้าาา ) อันดับสองนี่สิ เคยได้ยินแต่ชื่อแต่กลับไม่เคยฟังเพลงวงๆนี้เลย นั่นก็คือบังทันค่ะ
เริ่มแรกคือ ไปหาฟังแบบ สุ่มๆเพลงมา เพลงเเรก Blood sweat and tear เปิดแบบ งงๆค่ะ ไม่รู้คนนี้ใคร ไม่รู้จักว่าชื่ออะไร ไม่รู้อะไรเลยจริงๆค่ะ แต่เพลงนั้น จีมินคือสิ่งเดียวที่โดดเด่นเหลือเกิน ดูจบปุ๊ปเปิดอากู๋เลย เสิร์ซเลย ประวัติวง บีทีเอส 5555
ในส่วนของตัวเมมเบอร์ ความชื่นชอบ ทุกอย่างเราเคยบอกในกระทู้ก่อนหน้านี้ไปแล้วค่ะ แต่พอได้ฟังเพลง ได้รู้จัก จากความชื่นชอบ
ที่คิดว่าแค่เฉพาะตัวศิลปิน ก็คืบคลานกลายเป็นหลงในเพลงของบังทันค่ะ เราฟังเคป็อปมานาน บังทันคือวงที่อยู่ตรงกลางที่แท้จริงระหว่างความเป็นวงแร็ปและวงป็อป ซึ่งพูดได้เต็มปากว่ายังไม่มีในค่ายไหนที่กล้าจะดึงเอาทุกอย่างมาผสมกันหมดในวงแค่วงเดียวแบบนี้
บางวงเน้นร้อง บางวงเน้นแร็ป บางวงเน้นเพอร์ฟอร์มแมนซ์ ที่ผ่านมา วงๆนึงต้องมีพาร์ทร้อง พาร์ทแร็พ และทุกคนเต้นได้ มันจึงสมบูรณ์ แต่ส่วนเนื้อร้องจะค่อนข้างแล้วแต่เอกลักษณ์เฉพาะวงว่าเน้น อะไร วงไหนเน้นแร็พก็จะมีพาร์ทแร็พเยอะหน่อย เต้นกับร้องก็จะน้อย บางวงเน้นเต้นเน้นแสดงโชว์เน้นร้อง แร็พก็อาจจะมีแค่ช่วงสั้นๆ แต่บังทันคือวงที่เน้นร้องเน้นแร็พเน้นเต้นเน้นเพอร์ฟอร์มแมนซ์ ในอัตราส่วนที่แทบจะเท่ากัน แต่ช่วงแรกๆอาจจะเอียงๆไปทางแร็พซะมากกว่าหน่อย ด้วยความที่ปูทางมาสายแร็พ สกิลการแร็พของคนที่เป็นแร็พเปอร์เลยค่อนข้างแข็งแรงกว่าวงอื่นที่วางมาเพื่อเป็นวงป็อปอย่างชัดเจน
สกิลการร้องพัฒนาเห็นชัดมากค่ะ จนตอนนี้ โวคอลบังทันค่อนข้างเเข็งแรงค่ะ และน่าจะพัฒนาไปได้อีกเยอะทีเดียว ส่วนเต้นและการแสดงโชว์อันนี้ มันพัฒนาไปแบบ คาดไม่ถึงค่ะ คาดไม่ถึงในที่นี้หมายถึง เดาทางไม่ออก ว่าจะมาในรูปแบบไหน บังทันฉีกกฏการโชว์เดิมๆให้ประหลาดใจได้ทุกเวที อันนี้ยกความดีความชอบให้ทีมงานบิ๊กฮิตแรงๆค่า
เพลงของบังทัน เราชอบความหมายมันค่ะ เพลงบางเพลงเราอ่านคำแปลแล้วจุกเลยก็มี แบบ เห้ย มันใช่!!!!! เเล้วพอมันใช่ เราวนมาฟังเพลงๆนั้น มันทำให้อินค่ะ เนื้อหาเพลงแต่ละเพลงก็หลากหลายไม่ซ้ำแนวเท่าไหร่ สะท้อนสังคมดีจริงๆ บางทีก็สะใจเหลือเกิน ยกตัวอย่างท่อนนี้ของmic drop
คนเกลียดก็จะเอาแต่เกลียด
Players gon’ play
ผู้เล่นก็ต้องเล่นต่อไป
Live a life man
ใช้ชีวิตของพวกเราไปเถอะ
Good luck
โชคดีนะ''
ที่ชอบอีกอันคือเพลง DOPE
/ ทำไมพวกเค้าเหยียบเราโดยที่เรายังไม่ได้พยายามซะด้วยซ้ำ ทำตัวเป็นศัตรูกับเรา
왜 벌써부터 고개를 숙여 받아 energy energy energy
/ ทำไมคุณถึงแขวนคอตัวเองแล้วยอมรับมันไปแล้วล่ะ เติมพลังให้ตัวเองหน่อย
절대 마 포기 you know you not lonely
/ อย่าได้คิดจะยอมแพ้ คุณก็รู้ว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลก
너와 내 새벽은 낮보다 예뻐
/ รุ่งสางของเราต้องสวยงามกว่าวันนี้แน่
So can I get a little bit of hope? (yeah)
/ ให้ผมได้มีความหวังสักนิดได้มั้ย?''
และเนื้อเพลงโดนๆ อีกมากมายก่ายกอง เราว่ามันอินดีเวลาเหงาๆ หรือ เซ็งๆ หรือ โมโหๆมา เพลงบังทันนี่ใช้ได้ดีเลยค่ะ ปรับอารมณ์ได้ดีมาก
ต่อมาเรื่องของโชว์ค่ะ จบไปหมาดๆกับ งานมาม่า และ เมล่อน หลายๆคนคงได้ดูแล้ว หรือถ้าไม่ได้ดูลองไปดูนะคะ บังทันแสดงโชว์สองวัน แต่ต่างอารมณ์กันสิ้นเชิงเลยค่ะ อาจเพราะเพลงที่ใช้แสดงต่างกันนิดหน่อยด้วย งานสองงานนี้มันบอกอะไรได้อย่างนึงที่ จขกท สัมผัสได้ค่ะ สิ่งๆนั้นคือ ความตั้งใจของวงที่เดบิ้วมานานแต่ยังไม่หยุดพัฒนาตัวเองค่ะ มันแสดงออกมาได้โดยไม่ต้องให้ใครมานั่งบรรยายอะไรมากมาย คนดูในฮอลก็สัมผัสได้โดยที่อาร์มี่ไม่ต้องมานั่งโชว์นั่งอวยศิลปินตัวเอง มันชัดเจนจากโชว์แล้วค่ะ เดบิ้วมานาน แต่ยังรักษามาตรฐานให้ดีขึ้นๆ ไม่ยอมหยุด ไม่ยอมอยู่ตัวสักที พัฒนาขึ้นเรื่อยๆเลย
สีหน้าสีตาตอนแสดงยังมีความมุ่งมั่น ขอยกตัวอย่าง แววตาของจองกุก นะคะ ลองไปเปิดดูกันอีกสักทีถ้าไม่ได้สังเกตุ นี่คือผู้ชายที่เดมาตั้งแต่อายุยังน้อย ถามว่าตอนแรกจะรู้ไหมว่าตัวเองจะดัง ก็ไม่ แต่พอดังแล้ว แววตาในการแสดงบนเวทีน้องกินขาดมาก ความมุ่งมั่นมันเห็นได้เป็นรูปธรรมจากสายตาน้องค่ะ
แล้วไม่ใช่แค่จองกุกคนเดียว บีทีเอสเป็นแบบนี้ทุกคน ความตั้งใจความมุ่งมั่น เหมือนวงที่เพิ่งเดใหม่ยังแสดงออกมาเสมอทั้งที่เดมานานแล้ว นั่นคือเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงยังพัฒนาได้เรื่อยๆ เพราะความตั้งใจที่จะไปต่อ ยังไม่หมดไฟง่ายๆแน่นอนค่ะวงๆนี้
อ้อ อีเรื่องที่เราประทับใจมาก ปกติแล้ว แฟนคลับจะทราบกันดีว่า จองกุก จะไม่อัพทวิตเตอร์สักเท่าไหร่ แต่เมื่อวันที่เป็นวันสำคัญที่พวกเขาได้รับรางวัลใหญ่ จองกุก อัพภาพๆนี้พร้อมข้อความว่า
ขอบคุณ เครดิตภาพจากทิตเตอร์นะคะ พอดีตอนแคปไม่ได้แคปชื่อมา ต้องขออภัยด้วยจริงๆคะ
มันคงเป็นเรื่องปกติสำหรับคนอื่นๆ แต่สำหรับเรา เราไม่รู้หรอกว่า ณ นาทีนั้นบนเวทีน้องรู้สึกยังไง น้องเจ็บป่วยรึป่าว เพราะน้องเองไม่ใช่คนที่จะมาแสดงออกว่าตัวเองเป็นอะไรเท่าไหร่ แต่ข้อความที่เขียนมา ถ้าวันนั้นน้องไม่สบายจริงๆ มันสื่อให้อาร์มี่รู้เลยว่า อาร์มี่สำคัญกับน้องขนาดไหน
ไม่ใช่เพราะน้องจำเป็นต้องขึ้นไปแสดงโชว์เพื่อแฟนๆนะ ที่หมายถึงคือ น้องตั้งใจจะพูดว่า ต่อให้ต้องร่างพังไปในวันนี้ แต่ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย นั่นแสดงว่า น้องต้องการกำลังใจและความรักจากอาร์มี่มากๆ เพราะความเจ็บปวดของน้องจะไม่มีเลยถ้าอาร์มี่ยังอยู่ตรงนี้ ข้อความแบบนี้ถ้ามาจากคนอื่น เราจะเฉยๆนะ แต่นี้มาจากจองกุก คนที่ไม่ค่อยจะพูดจะทำอะไรแบบนี้สักเท่าไหร่ มันเลยดูเป็นสิ่งที่ลึกซึ้งและจริงใจมากๆ ที่เรารับรู้ได้จากน้องค่ะ
เรื่องอีกเรื่องที่ประทับใจเหลือเกินตลอดเวลาที่ได้ตามมาไม่นาน คือ ความสัมพันธ์ของเมมเบอร์ค่ะ เราดู bon voyage season2 แล้วประทับใจมากจริงๆ
เราคิดเอาเองนะว่า บังทันเริ่มมาจากวงที่ไม่มีอะไร เค้าลำบากมาด้วยกันมาก และเป็นระยะเวลานาน กว่าจะถึงจุดนี้ สิ่งที่จะปลอบใจตัวเองในช่วงเวลาที่ยังเป็นวงโนเนมคือ เมมเบอร์ที่อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขในตอนนั้น ตอนที่ยังต้องนอนแบบแออัด ตอนที่ยังออกไปไหนก็ไม่มีใครรู้จัก ขึ้นโชว์ก็แพ้ ไม่เคยได้รางวัลใหญ่ ต้องซ้อมหนัก ต้องเหนื่อย มันเป็นแบบนั้นมานานมาก ผิดหวังมาหลายต่อหลายครั้ง กับการนั่งมองวงอื่น ค่ายอื่น เขาดังกันไปวงแล้ววงเล่า เชื่อว่าความสัมพันธ์ที่ผ่านสิ่งเหล่านั้นมาด้วยกันมันคงทำให้เมมเบอร์รักกันมากอย่างที่เห็นทุกวันนี้ พวกเขามีเงินมากขึ้น แต่ก็ยังสนิทกัน ดูแลกัน ใส่ใจกัน และจับมือกันแน่นมากขึ้นเรื่อยๆ อีกอย่าง เพราะทุกคนในวงรักกัน ใส่ใจกันไม่ใช่แค่เฉพาะตอนหน้ากล้องเท่านั้น ความรักความผูกพันธ์ที่เขามีต่อกันมันเป็นเหมือนครอบครัวๆนึง และความรักนั้นมันจึงแผ่ไปสู่แฟนคลับที่ชื่อว่าอาร์มี่ค่ะ อาร์มี่จึงเป็นเหมือนครอบครัวใหญ่ของบังทันไปด้วย
การพูดถึงบังทันในวันที่พวกเขาประสบความสำเร็จแล้ว ใครๆก็ออกมาพูดได้ค่ะ แต่กว่าจะมาถึงจุดๆนี้ บังทันผ่านอะไรมามากมายๆจริงๆ
สำหรับวงที่มาจากค่ายเล็กๆ จินตนาการไม่ออกเลยค่ะ ว่าต้องลำบากแค่ไหน ต้องอดทนแค่ไหน กว่าจะได้มาออกทีวีรายการเพลงสักรายการนึง เด็กๆ ต้องเจออะไรมากันบ้าง การกินการนอนต้องลำบากกันแค่ไหน โดนดูถูกโดนสบประมาทมาเท่าไหร่ แต่สิ่งเหล่านั้นมันไม่ได้สำคัญเท่ากับวันนี้ที่พวกเขาดังแล้ว แต่พวกเขากลับไม่เคยลืมตัวเลย คนที่โดนสบประมาทส่วนมากถ้าบังเอิญโด่งดังก็มักจะทำตัวให้จมไม่ลง ทั้งๆที่วันนึงอาจต้องกลับไปเป็นวงที่ไม่ดังอีกก็ได้ แต่บังทันกลับใช้ชีวิตแบบเดิมใช้ชีวิตแบบที่เคยเป็นมา ถึงแม้ในวันที่ดังแล้วก็ยังรักกัน ยังดีกับแฟนคลับและไม่ดูถูกใคร ยังพัฒนาตังเองไปเรือย ความโชคดีของอาร์มี่ที่มีมากกว่าวงอื่นๆคือ ไม่ใช่แค่การเป็นแฟนคลับศิลปินที่มีชื่อเสียง แต่คือการเป็นแฟนคลับศิลปินที่เป็นคนดีและมีความสามารถจริงๆค่ะ
ตอนแรก เรารู้จักวงนี้ แบบ ไม่ได้ตั้งใจ แต่การรู้จักบังทัน มันสะท้อนให้เห็นอะไรหลายๆอย่างค่ะ ความพยายามของเด็กที่เริ่มจากศูนย์ ในขณะที่ผู้ใหญ่อย่างเราเทียบไม่ได้เลย พวกเขาเติบโตมาด้วยกัน มีชื่อเสียงมาด้วยกันแต่ยังไม่เคยลืมว่ามีวันนี้มาได้เพราะใคร นั่นคือสิ่งที่ทำให้เห็นว่า ทำไมเราจึงควรสนับสนุนเด็กทั้งเจ็ดคนนี้ อีกอย่างถ้าความสามารถดีๆ ของเด็กพวกนี้ถูกละเลยไป เราเองค่ะที่จะมานั่งเสียใจที่เราจับมือกับพวกเค้าไว้ไม่แน่นพอ