สวัสดีค่ะ
อันนี้เป็นกระทู้รีวิวเดินทางทริปแรกของเจ้าของกระทู้
ถ้าใช้คำตกหล่นไปบ้างต้องขออภัยด้วยนะคะ
หลักๆ ต้องการริวิวเรื่องเที่ยวและอยากให้ทุกคนลองดูภาษาอังกฤษของเพื่อนครีมและตัวครีมด้วยค่ะ
ว่าจริงๆแล้วเราไม่จะเป็นต้องพูดสำเนียงแป๊ะมากแค่สื่อสารแล้วทุกคนเข้าใจก็พอค่ะ ถ้าอยากร็ว่าทริปนี้ครีมไปกับเพื่อนชาติไหนบ้างกดดูที่ลิ้ง youtube ได้เลยค่ะ
วันนี้ครีมได้ทำไฟล์ทมาที่นี่ และออกมากับเพื่อลูกเรือต่างชาติที่เขาหาข้อมูลมาแล้วว่าจะทำอะไรบ้าง ทริปนี้ก็เลยง่ายขึ้นหน่อย ตอนแรกก็ตื่นเต้น นั่งแพลนว่าอยากไปที่ไหนไปทำอะไรบ้างใน Chicago และนี่คือสิ่งที่ครีมได้ทำlist และตามไปเก็บจนครบ มาเริ่มกันที่อันแรก
what’s famous here?
The Bean <Cloud Gate>, Sky deck <Willis Tower> or 360 Observatory deck ,Deep fried Pizza <Giordana,UNO> , Navy Pier , Jazz Bar
ทริปนี้ครีมเลือกที่จะใช้ UBER อีกตามเคยเพราะมันไม่แพงมาก ราคาประมาณ 27 USD จากairport เข้าเมือง
แล้วมีเพื่อนร่วมทางอีกสามคนหารกันแล้วราคาถูกกว่านั่งรถไฟฟ้าเข้าเมืองอีกค่ะ
และที่สำคัญ ก่อนออกจากโรงแรมค่ะ
Note to myself:
นามบัตรโรงแรม, แผนที่/ Google map <offline mode> และน้ำเปล่าหนึ่งขวด
ระหว่างทางที่ครีมนั่งรถแท๊กซี่ไปด้วยกัน ครีมก็ชมวิวข้างทางของต้นไม่ที่เปลี่ยนสีเพราะตอนนี้เป็นช่วงหน้าหนาวในอเมริกา ประมาณ 7 องศาค่ะ แน่นอนค่ะว่าครีมไม่ลืมที่จะหยิบบูทคู่โปรดพร้อมกับ เสื้อหนาๆหนึ่งตัว
what to do?
เราเริ่มกันที่ Millenium Park เพื่อที่จะ selfie กับ Cloud Gate <The Bean> ตอนที่ครีมไปถึงที่นั่นก็มีเด็กๆมาทัศนศึกษากัน น่ารักมากเลย คนที่นี่จะมาจากหลากหลายเชื้อชาติ ที่นี่แผนผังเมืองคือสามรถเดินไปเป็นบล็อคๆแบบไม่หลงเลยค่ะ และเราก็เดินตาม google map ที่เราได้ save แบบ offline ไว้นั่นเอง
Fun Fact: ตอนแรกครีมเข้าใจว่าอันนี้เขาเรียกกันว่า Cloud Gate แต่เพื่อนลูกเรือที่มากับครีมก็ทำหน้า งงๆแล้วถามวว่ามันคือที่ไหน พอเราเปิดรูปให้ดูทุกคนก็ร้อง อ๋อ อย่างที่บอกค่ะว่าเรามาจากหลายหลายวัฒนธรรม บางสิ่งที่เราเรียกหรือเขาเรียกก็มักจะไม่เหมือนกัน เพราะเพื่อนครีมเรียกว่า The Bean
มองลงไปเราจะเห็นลานสเก็ตน้ำแข็ง ช่วงคริสต์มาสใกล้เข้ามถึงแล้ว เหมาะมากที่จะมาเล่นค่ะ
เราก็เดินตามถนนกันมาเรื่อยๆ เพราะเราจะเดินไปที่จุด Hilight ของเรากันนั่นก็คือ skydeckchicago <Wiliis tower > Ticket price: 23 $ เขาบอกว่าเป็นตึกที่สูงเป็นอันดับสองของโลกรองมาจาก Burj Khalifa ว่ากันแล้วเราก็ตามไปดูกันค่ะว่าวิวจะสวยขนาดไหน โชคดีวันที่ไปแถวไม่ยาวแล้วแดดออกพอดี
หลังจากนั้นเราก็เดินไปต่อที่ Navy pier ท่าเรือของที่นี่ น้ำเป็นสีฟ้าอมขียว turquoise คือสวยมากค่ะ แต่ที่นี่ลมแรงมาก เมืองที่ได้รับฉายาว่าเป็น the windy city ค่ะ
ระหว่างทางเราก็จะเห็นเป็ด และก็คนพาสุนัขมาเดินเล่น ออกมาวิ่งกันบ้าง ดูเป็นlifestyleกันไปค่ะ
พอหลังจากชมวิวเสร็จเราก็เดินกลับไปหาอะไรกินที่ Millenium park กันต่อ นั่นก็คือ pizza ขึ้นชื่อของที่นี่ค่ะ จะมีอยู่2 ร้านดัง Giordano มีหลายสาขา กับ UNO มีสาขาเดียว และร้านแรกที่ทำพิซซ่าแบบ deep fried pizza ครีมเลือกร้าน Giordano ค่ะ เพราะขี้เกียจเดินหา UNO หิวมากแล้ว พิซซ่าคือดีงามมากค่ะ พิซซ่าขอบกรองบางและเครื่องแน่นหนาเหมือนเป็นพัฟประกอบกับลาวาชีสในพิซซ่าคือฟินมากค่ะ อาหารทานเล่นที่นี่ให้มาคือจานใหญ่หมด สรุปมื้อนี้กินไม่หมดค่ะ สำหรับครีมชิ้นเดียวจอดค่ะ
พอกินอิ่มเสร็จเราก็เดินไปหาร้าน jazz bar กัน ร้านนี้อยู่แถวๆตึกtrump ค่ะ สรุปเราไปร้าน HOuse of Blue เป็นดนตรีเล่นสดและการแต่งร้านก็จัดได้แปลกตาดีค่ะ
หมดแล้วค่ะสำหรับ วันเดียวก็เที่ยวครบแล้วค่ะ
one day in Chicago,USA.เที่ยวแบบแอร์แขกกับเพื่อนหลายชาติ ได้ภาษาเพิ่มด้วย
อันนี้เป็นกระทู้รีวิวเดินทางทริปแรกของเจ้าของกระทู้
ถ้าใช้คำตกหล่นไปบ้างต้องขออภัยด้วยนะคะ
หลักๆ ต้องการริวิวเรื่องเที่ยวและอยากให้ทุกคนลองดูภาษาอังกฤษของเพื่อนครีมและตัวครีมด้วยค่ะ
ว่าจริงๆแล้วเราไม่จะเป็นต้องพูดสำเนียงแป๊ะมากแค่สื่อสารแล้วทุกคนเข้าใจก็พอค่ะ ถ้าอยากร็ว่าทริปนี้ครีมไปกับเพื่อนชาติไหนบ้างกดดูที่ลิ้ง youtube ได้เลยค่ะ
วันนี้ครีมได้ทำไฟล์ทมาที่นี่ และออกมากับเพื่อลูกเรือต่างชาติที่เขาหาข้อมูลมาแล้วว่าจะทำอะไรบ้าง ทริปนี้ก็เลยง่ายขึ้นหน่อย ตอนแรกก็ตื่นเต้น นั่งแพลนว่าอยากไปที่ไหนไปทำอะไรบ้างใน Chicago และนี่คือสิ่งที่ครีมได้ทำlist และตามไปเก็บจนครบ มาเริ่มกันที่อันแรก
what’s famous here?
The Bean <Cloud Gate>, Sky deck <Willis Tower> or 360 Observatory deck ,Deep fried Pizza <Giordana,UNO> , Navy Pier , Jazz Bar
ทริปนี้ครีมเลือกที่จะใช้ UBER อีกตามเคยเพราะมันไม่แพงมาก ราคาประมาณ 27 USD จากairport เข้าเมือง
แล้วมีเพื่อนร่วมทางอีกสามคนหารกันแล้วราคาถูกกว่านั่งรถไฟฟ้าเข้าเมืองอีกค่ะ
และที่สำคัญ ก่อนออกจากโรงแรมค่ะ
Note to myself:
นามบัตรโรงแรม, แผนที่/ Google map <offline mode> และน้ำเปล่าหนึ่งขวด
ระหว่างทางที่ครีมนั่งรถแท๊กซี่ไปด้วยกัน ครีมก็ชมวิวข้างทางของต้นไม่ที่เปลี่ยนสีเพราะตอนนี้เป็นช่วงหน้าหนาวในอเมริกา ประมาณ 7 องศาค่ะ แน่นอนค่ะว่าครีมไม่ลืมที่จะหยิบบูทคู่โปรดพร้อมกับ เสื้อหนาๆหนึ่งตัว
what to do?
เราเริ่มกันที่ Millenium Park เพื่อที่จะ selfie กับ Cloud Gate <The Bean> ตอนที่ครีมไปถึงที่นั่นก็มีเด็กๆมาทัศนศึกษากัน น่ารักมากเลย คนที่นี่จะมาจากหลากหลายเชื้อชาติ ที่นี่แผนผังเมืองคือสามรถเดินไปเป็นบล็อคๆแบบไม่หลงเลยค่ะ และเราก็เดินตาม google map ที่เราได้ save แบบ offline ไว้นั่นเอง
Fun Fact: ตอนแรกครีมเข้าใจว่าอันนี้เขาเรียกกันว่า Cloud Gate แต่เพื่อนลูกเรือที่มากับครีมก็ทำหน้า งงๆแล้วถามวว่ามันคือที่ไหน พอเราเปิดรูปให้ดูทุกคนก็ร้อง อ๋อ อย่างที่บอกค่ะว่าเรามาจากหลายหลายวัฒนธรรม บางสิ่งที่เราเรียกหรือเขาเรียกก็มักจะไม่เหมือนกัน เพราะเพื่อนครีมเรียกว่า The Bean
มองลงไปเราจะเห็นลานสเก็ตน้ำแข็ง ช่วงคริสต์มาสใกล้เข้ามถึงแล้ว เหมาะมากที่จะมาเล่นค่ะ
เราก็เดินตามถนนกันมาเรื่อยๆ เพราะเราจะเดินไปที่จุด Hilight ของเรากันนั่นก็คือ skydeckchicago <Wiliis tower > Ticket price: 23 $ เขาบอกว่าเป็นตึกที่สูงเป็นอันดับสองของโลกรองมาจาก Burj Khalifa ว่ากันแล้วเราก็ตามไปดูกันค่ะว่าวิวจะสวยขนาดไหน โชคดีวันที่ไปแถวไม่ยาวแล้วแดดออกพอดี
หลังจากนั้นเราก็เดินไปต่อที่ Navy pier ท่าเรือของที่นี่ น้ำเป็นสีฟ้าอมขียว turquoise คือสวยมากค่ะ แต่ที่นี่ลมแรงมาก เมืองที่ได้รับฉายาว่าเป็น the windy city ค่ะ
ระหว่างทางเราก็จะเห็นเป็ด และก็คนพาสุนัขมาเดินเล่น ออกมาวิ่งกันบ้าง ดูเป็นlifestyleกันไปค่ะ
พอหลังจากชมวิวเสร็จเราก็เดินกลับไปหาอะไรกินที่ Millenium park กันต่อ นั่นก็คือ pizza ขึ้นชื่อของที่นี่ค่ะ จะมีอยู่2 ร้านดัง Giordano มีหลายสาขา กับ UNO มีสาขาเดียว และร้านแรกที่ทำพิซซ่าแบบ deep fried pizza ครีมเลือกร้าน Giordano ค่ะ เพราะขี้เกียจเดินหา UNO หิวมากแล้ว พิซซ่าคือดีงามมากค่ะ พิซซ่าขอบกรองบางและเครื่องแน่นหนาเหมือนเป็นพัฟประกอบกับลาวาชีสในพิซซ่าคือฟินมากค่ะ อาหารทานเล่นที่นี่ให้มาคือจานใหญ่หมด สรุปมื้อนี้กินไม่หมดค่ะ สำหรับครีมชิ้นเดียวจอดค่ะ
พอกินอิ่มเสร็จเราก็เดินไปหาร้าน jazz bar กัน ร้านนี้อยู่แถวๆตึกtrump ค่ะ สรุปเราไปร้าน HOuse of Blue เป็นดนตรีเล่นสดและการแต่งร้านก็จัดได้แปลกตาดีค่ะ
หมดแล้วค่ะสำหรับ วันเดียวก็เที่ยวครบแล้วค่ะ