[Europe 12 วัน 3 ประเทศ] ตอนที่ 2 : ปารีสต้องมนต์ หลงไปในพิพิธภัณฑ์ Louvre

*** ครั้งแรกของเรากับการไป Europe โดยทริปนี้ เราไปด้วยกันสามประเทศคือ เนเธอแลนด์ ฝรั่งเศส และ ปิดท้ายที่สวิสเซอร์แลนด์ *****
ช่วงที่ไปคือ ระหว่างวันที่ 4 พย. - 15 พย. ซึ่งถือเป็นช่วงเปลี่ยนฤดูจากฤดูใบไม้ร่วงเป็นฤดูหนาวพอดี



######################################################
ตอนที่ 1 : เดินเลียบคลองที่อัมสเตอร์ดัม แล้วไปขับเรือที่ Giethoorn ปิดท้ายด้วยหมู่บ้านกังหันลม https://ppantip.com/topic/37143126
ตอนที่ 2 : ปารีสต้องมนต์ หลงไปในพิพิธภัณฑ์ Louvre https://ppantip.com/topic/37148324/
ตอนที่ 3: ล่องเรือที่ Lucernce แล้วไปขึ้น Rigi กัน https://ppantip.com/topic/37207676/
#########################################################

@ 6/11/2017 : เราออกเดินทางจาก อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยรถไฟความเร็วสูง ไป ปารีส ประเทศฝรั่งเศส ใช้เวลาประมาณสามชั่วโมงนิดๆ
ก่อนไป เรา search หาข้อมูลมากมายทั้งสามประเทศ แต่ที่เรากลัวที่สุดจนแทบระแวงคือ ฝรั่งเศส นั่นเอง เพราะเสียงลือเสียงเล่าอ้างเรื่องโจรเยอะเหลือเกิน
ทริปนี้เราแลกเงินไปไม่เยอะ คิดเป็นเงินไทย ก็ ราวๆ 25,000 แบ่งเป็นยูโรครึ่งนึง และ สวิสฟรังก์อีกครึ่งนึง ตั้งใจไว้ว่าเงินที่พกไปจะเอาไปใช้สำหรับค่ากิน หรือซื้อของเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น ที่เหลือใช้บัตรเครดิตเอา การพกเงินเราก็แยก เงินออกใส่ถุงแยก แล้วเก็บในกระเป๋าคาดเอว (ทำตามคำแนะนำใน pantip เป๊ะๆ) สุดท้ายก็รอดมาอย่างปลอดภัยตลอดทริป

หลังจากหลับๆ ตื่นๆ ระหว่างนั่งรถไฟ ไปจนถึงปารีส สถานี Gard du Nord ได้เวลาลากกระเป๋า ไปตามหา metro เพื่อ เดินทางต่อไปยังโรงแรม ซึ่งอยู่ใกล้กับ สถานี Pyramid โดย metro ที่ปารีสมีถึง 14 สายด้วยกัน เราเดินวนๆ หลงๆ อยู่ซักพัก จนในที่สุด ส่งเพื่อนไปถาม ว่าไปยัง สนานี Pyramid ยังไง 555 ในที่สุดก็ได้ความว่า เราต้องนั่ง metro สาย 4 ไป 1 สถานี เพื่อจะไปเปลี่ยนเป็น metro สาย 7 (สถานี Pyramid จะมี metro สาย 7 และ 14 ผ่าน) เดินไปหยอดเหรียญ 1.9 Euro เพื่อซื้อตั๋ว โดยตั๋วเป็นแบบราคาเดียวกันหมดสำหรับทุกสถานี เดินเข้าสถานีปุ๊บ นรกเลยคะ ไม่มีบันไดเลื่อน ลิฟท์อยู่ไหน มีหรือไม่มีก็ไม่รู้ เห็นแต่บันได บันไดเต็มไปหมด ยกคะ ยกขึ้นยกลง จนอยากจะวางกระเป๋าแล้วปล่อยให้มันไหลลงไปตามบันได แล้วด้วยความที่พวกเราต้องเปลี่ยนสายรถ ความยกขึ้นลงไปมา เลยไม่จบแค่ขาขึ้นและขาลง ยังต้องยกขึ้นลงตอนเปลี่ยนสายรถด้วย คุณพระะะะ

กว่าจะถึงสถานี  Pyramid กล้ามขึ้นกันเลยทีเดียว  แง้!!! ลากกระเป๋าขึ้นสู่พื้นดินอย่างทุลักทุเล แล้วก็ได้เวลา search ว่าโรงแรมไปทางไหน โรงแรมอยู่ใกล้สถานีรถไฟมาก เดินราวๆ 300-400 เมตร ตลอดเวลาใน metro นอกจากต้องลากกระเป๋าแล้วยังต้องระวังเป้อีก อันเนื่องมาจากความหวาดระแวงว่าจะโดนล้วงกระเป๋า ประมาณว่าใครเดินกระแทกเป้นี่ถึงขั้นสะดุ้ง 555 แล้วจากอัมสเตอร์ดัมประเทศที่ผู้คนหน้าตายิ้มแย้ม เมืองสะอาดสะอ้าน มาเจอปารีสหน้าตาแต่ละคนยังกับไปโกรธใครมากันทุกคน รถไฟก็ดูเก่าๆ สกปรก แบบมีรอยขีดเขียนเต็มไปหมด (อ้อ พวกรถราง รถแทรม รถบัสในยุโรปนี่ไม่เปิดอัตโนมัติ เราต้องกดปุ่มเอง ตอนแรกๆ ก็เอ๋อเหมือนกันว่าทำไมประตูไม่เปิด ส่วนใหญ่จะเป็นปุ่มให้กด แต่มี metro บางสายที่ออกแนวคล้ายต้องดึงคันโยกเพื่อให้ประตูเปิด แบบเราจะคอยนั่งสังเกตว่าเปิดยังไง กลัวเสร่ออออ 555 )

สิ่งเดียวในปารีสที่เราต้องการมาเห็นด้วยตาคือ พิพิธภัณฑ์ Louvre บอกเพื่อนว่า หอไอเฟล ไม่เห็นไม่เป็นไร แต่ชั้นต้องเห็น พิพิธภัณฑ์ Louvre!!! เลยเลือกโรงแรมที่ใกล้แสนใกล้ ใกล้แบบระยะเดินไป พิพิธภัณฑ์ Louvre ถึงเป็นที่พัก

[Review Hotel Du Lion d'Or Louvre, Paris, France]

โรงแรมใน paris เราหานานมาก สองจิตสองใจระหว่าง airbnb กับโรงแรม โดยที่ก่อนจะจองคือเราปักหมุดเลยว่าต้องอยู่ใกล้พิพิธภัฑณ์ลูฟเท่านั้น แล้วเราก็ดันมาเจอโรงแรมนี้ใน booking.com พอดี ทำเลดีมาก เรียกว่าอยู่เขตใจกลางเมือง ใกล้ metro ใกล้ลูฟ ใกล้ opera house ใกล้ห้าง lafayette ตรงใกล้โรงแรมมี carrefour สบายสุดๆ
Location : ดีมากกกกก ใกล้ลูฟ ใกล้ metro ใกล้ห้าง ใกล้ของกิน carrefour เปิด 7 โมง ปิด 4 ทุ่ม เราก็เดินไปซื้อแซนวิช โยเกิตทุกเช้า แล้วก็ใกล้แหล่งช๊อปปิ้ง ใกล้ร้านซักผ้า
Room : สะอาดสะอ้าน ทำห้องทุกวัน เปลี่ยนผ้าเช็ดตัวใหม่ทุกวัน (เรานอนที่นี่ 3 คืน) อ้อ โรงแรมมีลิฟ ขนาดเล็ก แบบจุคนได้ 1 คน กับกระเป๋าหนึ่งใบ ทำให้ไม่ต้องลากกระเป๋าขึ้นบันได มีกาต้มน้ำ ไดร์เป่าผม และเซฟให้เก็บของมีค่า
Check in-out : ดีมากทำได้รวดเร็ว วัน check out เราเรียก uber ให้มารับที่หน้าโรงแรมเพื่อไปสถานีรถไฟ สบายยยย
คะแนน : ให้ 10 (ยังหาข้อบกพร่องไม่เจอ)


check in เรียบร้อย เอากระเป๋าไปเก็บ อ้อ ทริปนี้เรามีซักผ้าด้วย โดยเราวางแผนว่าจะซักที่ปารีส และที่อินเทอร์ลาเค่น เพราะว่านอน 3 คืน เลยมีเวลาที่ซัก เราเลยถาม reception ของโรงแรมว่ามีร้านซักผ้าหยอดเหรียญอยู่แถวนี้มั้ย เป็นโชคดีของพวกเราที่มี เลยตั้งใจว่าจะซักคืนพรุ่งนี้

เพื่อไม่ให้เสียเวลาเราเลยชวนเพื่อนเดินไปดู พิพิธภัณฑ์ Louvre ว่าอยู่ไกลจากโรงแรมแค่ไหน เดินตาม google map พบว่าก็ไม่ไกลมาก พอเห็นเท่านั้นแหละ มันเหมือนฝันที่เป็นจริง โอ้โห แบบนี้แหละที่อยากเห็น ที่เคยดูในรูป ที่เคยอ่านในหนังสือ ปลื้มปริ่ม กับพิรามิดแก้วที่อยู่ตรงหน้า



ยืนถ่ายรูปกันไปมาราวๆ เกือบชั่วโมง แล้วเราก็ทนความหนาวไม่ไหว แพ้พ่าย ชักจูงกันกลับห้อง ชาวเมืองร้อนอย่างเรา ขนาดรู้สึกว่าตัวเองจัดชุดเต็ม ก็ยังรู้สึกหนาวอยู่ดี แล้วจากที่คิดว่าอัมสเตอร์ดัมหนาวแล้ว ปารีสดันอุณหภูมิต่ำกว่าไปอีก T__T



ก่อนเข้าโรงแรม เราก็แวะซื้อโยเกิต สลัด และของกินที่คาร์ฟูร์ แต่โยเกิตมีให้เลือกน้อยกว่าที่อัมสเตอร์ดัมเยอะเลย ปิดท้ายคืนที่สามในต่างแดน ด้วยโยเกิตและมาม่าที่พกมาจากไทย 55555 (พยายามลดปริมาณของในกระเป๋า หลังจากเจอบันได metro เข้าไป)
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่