ความเป็นมาของทริปนี้ใช้เวลาเตรียมตัวกันราวๆ 6 เดือนหลังจากที่ปั่นจักรยานกันมาได้ปีกว่า จากการรวมกลุ่มเพื่อนๆที่สนิทชักชวนกันมาออกกำลังกาย จนกลายเป็นการเสพติดไปแล้ว เลยคิดว่าจะไปฉลองปั่นครบ 2 ปีกันแบบสุขสุดๆ เลยมีคำถามว่าจะไปที่ไหนกันดี เนื่องจากพวกเราออกทริปกันค่อนข้างบ่อยหรือแทบทุกอาทิตย์ เลยบังเกิดการอยากไปหา "เขา" ขึ้นมาทันที โดยที่แต่ละคนแทบจะไม่ใช่สายเขาเลย แต่ทุกอย่างย่อมไม่เกินกำลังและความสามารถทริปจึงกำเนิดในบัดดล
วันที่ 1 วอร์มขาที่ดอยสุเทพเพื่อที่จะไปเผชิญความโหดร้านในวันถัดไป
วันที่ 2 จากอำเภอฮอด ปั่นยาวไปสู่ อำเภอแม่ลาน้อย 130 กิโลกับความชันราวๆ 2,450 เมตร
วันที่ 3 จากอำเภอแม่ลาน้อย ไป อำเภอขุนยวม 68 กิโลกับความชันเบาๆแค่ 1,500 เมตร
วันที่ 4 จากอำเภอขุนยวม ไป แม่ฮ่องสอน 67 กิโลเมตร เป็นทางโรลลิ่งเป็นส่วนใหญ่ความชันราวๆ 900 เมตร
วันสุดท้าย ปั่นจากแม่ฮ่องสอนไป หมู่บ้านรักไทย ระยะ 36 กิโลแต่ความชันกว่า 1,600 เมตร
พวกเราเน้นการปั่นแบบท่องเที่ยว คือเช้าปั่นไป บ่ายเที่ยว 2 ทุ่มหลับ ตี 5 ตื่น ชีวิตรักสุขภาพมากมาย เรามาเริ่มดูรูปประกอบกันเลยดีกว่าครับ
วันแรกเราเริ่มจากที่พักสุ่ดอยสุเทพ 11 กิโลกับการทำเวลาที่ดีที่สุดของพวกเรา
เธอคนนี้คือผู้หญิงที่ปั่นเร็วที่สุดในทีมเราครับ อย่าถามว่าทำเวลาได้เท่าไหร่ ผู้ชายได้แต่มองแล้วก้มหน้าก้มตาปั่นตามไป
ส่วนผู้ชายคนนี้เป็นคนที่ทำให้พวกเราอีก 11-15 คนเสียเงินซื้อจักรยานรวมๆแล้วถ้าเค้าเปิดร้านจักรยานเชื่อว่า คงเป็นร้านที่มียอดขายสูงสุดแน่นอน
สุดท้ายเวลาดีขึ้นทุกคนครับ ค่อนข้างพัฒนากันดีจัง
ก่อนกลับแวะถ่ายรูปรวมกันสักนิด ประทับใจทุกคนครับ
มีการยืดเส้นหลังปั่นให้ดูเป็นตัวอย่างกันนะครับ สีหน้านั้นคือจักจี้นะครับ ไม่ใช่เจ็บ
แวะเติมพลังกันแถวถนนนิมมาน ก่อนออกเดินทางสู่ อำเภอฮอด กันครับ
ที่พักที่ อำเภอฮอด ค่อนข้างธรรมชาติมากทุกคนชอบ และดูมีความสุขกันสุดๆ ก่อนจะเจอของจริงในวันต่อไป
วันนี้ตื่นมาด้วยความสดใส แต่ไม่รู้ว่าข้างหน้าจะโหดแค่ไหน ใจสุ้เป็นพอไม่ไหวก็เข็น
ความยากลำบากเกิดขึ้นหลังกิโลที่ 20 ทกคนคิดว่ายางแตกปั่นไปเท่าไหร่ไม่ค่อยขยับ นั่นแหละครับเค้าเรียกว่าเนินซึม 7-10% ตลอดทาง
เรามาถึงจุดพักแรกของพวกเรา สวนสนบ่อแก้ว อากาศเย็นสบายทีมงานเราเตรียมน้ำและอาหารไว้ให้ทุกคน และแจ้งว่าจุดพักต่อไปอยู่ที่กิโล 67 มีร้องโอ้ยกันเลยทีเดียว
โปรคนนี้เกือบได้เป็นดาราครับ ดั้งแหมบไปเลยต้องมาปั่นจักรยานแทน
สีสันระหว่างทาง เหนื่อยแต่ก็ยังยิ้มออกเสมอผู้หญิงทีมผมแข็งแกร่งมากกก ก ไก่ล้านตัว
ผู้ชายจะตามหลังผู้หญิงเสมอ เหมือนเราจะปกป้องเธอ แต่ในทางจักรยานเราใช้เธอลากให้เราครับ
สุดท้ายเราก้มาถึงกิโลที่ 101 หน้าอำเภอแม่สะเรียงเพื่อกินข้าวกลางวันและเตรียมไปต่อที่อำเภอแม่ลาน้อย
สุดท้ายก็ฝ่าฟันกันจนมาถึงด้วยระยะทาง 130 กิโล ความชัน 2,500 เมตร พักผ่อนกันด้วยบรรยากาศแบบนี้ครับ
เช้าวันต่อมาหลังจากเติมข้าวเช้ากันพร้อมโหลดแคลลอรี่กันพอสมควร ก้ต้องเดินทางกันต่อ แอบมีเหนื่อยกันบ้างแต่สุดท้ายก็จัดเต็มทุกคน
เราใช้เวลากันไม่นานมากก็ถึงที่ อำเภอขุนยวมกันครับระยะทาง 68 กิโลความชัน 1,500 เมตร เราออกไปเที่ยวกันต่อเพื่อไปดูดอกบัวตองที่ดอยแม่อูคอกัน
แอบมีประกวดขากันเล็กน้อยบนดอยเลย
เราออกจากที่พัก วันนี้จะเป็นวันที่สบายที่สุดของเรา โรลลิ่งกันตลอดทางรุ้สึกเหมือนได้ยาแก้ปวดมาขนานใหญ่
ร้านกาแฟที่พระธาตุดอยกองมู
คนนี้ขอพร ให้ปั่นได้เร็วขึ้นแทนที่จะขอเรื่องความรัก ปาดเหงื่อแพร๊บ
มีวันเกิดเพื่อนคนนึงพอดี เลยจัดเค้กวันเกิดเป็นออเดิฟเมือง 1 ชุดอิ่มกันทั่ว
วันสุดท้ายที่หนักหนา สุดๆสำหรับทุกคน ระยะขึ้นเขาแค่ 17 กิโลแต่ความชันทะลุไปเกือบ 1,700 เมตร
สภาพหลังขึ้นมาถึงก็จะเป็นแบบนี้เกือบทุกคนครับ
หลังจากเข้าพักเรียบร้อย พวกเราออกมากินข้าวนั่งคุยกัน เหมือนวันเวลาที่ผ่านมามันเร็วมาก 7 วันที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า สนุก ผูกพันกับเพื่อนๆที่คบกันมายาวนานกว่า 15 ปี มันทำให้เราเริ่มรุ้สึกอยากออกไปค้นหาสิ่งที่เข้ามาเติมเต็มให้เรา ความสุขแบบที่กำหนดได้ด้วยตัวเรา เติมเต็มช่องว่างทางความคิดและสิ่งต่างๆมากมาย ร่ำลากันด้วยภาพรวมที่ยิ้มแย้มกันถ้วนหน้า ติดตามพวกเราได้ใน กลุ่มจักรยานเล็กๆที่ชอบออกทริป ใครสนใจไปด้วยกันบอกได้ครับ fb: unlockedcycling
Unlockedcycling ทริป 7 วัน 6 คืนกับจักรยาน 12 คันตะลุยความชัน เชียงใหม่ - แม่ฮ่องสอน
วันที่ 1 วอร์มขาที่ดอยสุเทพเพื่อที่จะไปเผชิญความโหดร้านในวันถัดไป
วันที่ 2 จากอำเภอฮอด ปั่นยาวไปสู่ อำเภอแม่ลาน้อย 130 กิโลกับความชันราวๆ 2,450 เมตร
วันที่ 3 จากอำเภอแม่ลาน้อย ไป อำเภอขุนยวม 68 กิโลกับความชันเบาๆแค่ 1,500 เมตร
วันที่ 4 จากอำเภอขุนยวม ไป แม่ฮ่องสอน 67 กิโลเมตร เป็นทางโรลลิ่งเป็นส่วนใหญ่ความชันราวๆ 900 เมตร
วันสุดท้าย ปั่นจากแม่ฮ่องสอนไป หมู่บ้านรักไทย ระยะ 36 กิโลแต่ความชันกว่า 1,600 เมตร
พวกเราเน้นการปั่นแบบท่องเที่ยว คือเช้าปั่นไป บ่ายเที่ยว 2 ทุ่มหลับ ตี 5 ตื่น ชีวิตรักสุขภาพมากมาย เรามาเริ่มดูรูปประกอบกันเลยดีกว่าครับ
วันแรกเราเริ่มจากที่พักสุ่ดอยสุเทพ 11 กิโลกับการทำเวลาที่ดีที่สุดของพวกเรา
เธอคนนี้คือผู้หญิงที่ปั่นเร็วที่สุดในทีมเราครับ อย่าถามว่าทำเวลาได้เท่าไหร่ ผู้ชายได้แต่มองแล้วก้มหน้าก้มตาปั่นตามไป
ส่วนผู้ชายคนนี้เป็นคนที่ทำให้พวกเราอีก 11-15 คนเสียเงินซื้อจักรยานรวมๆแล้วถ้าเค้าเปิดร้านจักรยานเชื่อว่า คงเป็นร้านที่มียอดขายสูงสุดแน่นอน
สุดท้ายเวลาดีขึ้นทุกคนครับ ค่อนข้างพัฒนากันดีจัง
ก่อนกลับแวะถ่ายรูปรวมกันสักนิด ประทับใจทุกคนครับ
มีการยืดเส้นหลังปั่นให้ดูเป็นตัวอย่างกันนะครับ สีหน้านั้นคือจักจี้นะครับ ไม่ใช่เจ็บ
แวะเติมพลังกันแถวถนนนิมมาน ก่อนออกเดินทางสู่ อำเภอฮอด กันครับ
ที่พักที่ อำเภอฮอด ค่อนข้างธรรมชาติมากทุกคนชอบ และดูมีความสุขกันสุดๆ ก่อนจะเจอของจริงในวันต่อไป
วันนี้ตื่นมาด้วยความสดใส แต่ไม่รู้ว่าข้างหน้าจะโหดแค่ไหน ใจสุ้เป็นพอไม่ไหวก็เข็น
ความยากลำบากเกิดขึ้นหลังกิโลที่ 20 ทกคนคิดว่ายางแตกปั่นไปเท่าไหร่ไม่ค่อยขยับ นั่นแหละครับเค้าเรียกว่าเนินซึม 7-10% ตลอดทาง
เรามาถึงจุดพักแรกของพวกเรา สวนสนบ่อแก้ว อากาศเย็นสบายทีมงานเราเตรียมน้ำและอาหารไว้ให้ทุกคน และแจ้งว่าจุดพักต่อไปอยู่ที่กิโล 67 มีร้องโอ้ยกันเลยทีเดียว
โปรคนนี้เกือบได้เป็นดาราครับ ดั้งแหมบไปเลยต้องมาปั่นจักรยานแทน
สีสันระหว่างทาง เหนื่อยแต่ก็ยังยิ้มออกเสมอผู้หญิงทีมผมแข็งแกร่งมากกก ก ไก่ล้านตัว
ผู้ชายจะตามหลังผู้หญิงเสมอ เหมือนเราจะปกป้องเธอ แต่ในทางจักรยานเราใช้เธอลากให้เราครับ
สุดท้ายเราก้มาถึงกิโลที่ 101 หน้าอำเภอแม่สะเรียงเพื่อกินข้าวกลางวันและเตรียมไปต่อที่อำเภอแม่ลาน้อย
สุดท้ายก็ฝ่าฟันกันจนมาถึงด้วยระยะทาง 130 กิโล ความชัน 2,500 เมตร พักผ่อนกันด้วยบรรยากาศแบบนี้ครับ
เช้าวันต่อมาหลังจากเติมข้าวเช้ากันพร้อมโหลดแคลลอรี่กันพอสมควร ก้ต้องเดินทางกันต่อ แอบมีเหนื่อยกันบ้างแต่สุดท้ายก็จัดเต็มทุกคน
เราใช้เวลากันไม่นานมากก็ถึงที่ อำเภอขุนยวมกันครับระยะทาง 68 กิโลความชัน 1,500 เมตร เราออกไปเที่ยวกันต่อเพื่อไปดูดอกบัวตองที่ดอยแม่อูคอกัน
แอบมีประกวดขากันเล็กน้อยบนดอยเลย
เราออกจากที่พัก วันนี้จะเป็นวันที่สบายที่สุดของเรา โรลลิ่งกันตลอดทางรุ้สึกเหมือนได้ยาแก้ปวดมาขนานใหญ่
ร้านกาแฟที่พระธาตุดอยกองมู
คนนี้ขอพร ให้ปั่นได้เร็วขึ้นแทนที่จะขอเรื่องความรัก ปาดเหงื่อแพร๊บ
มีวันเกิดเพื่อนคนนึงพอดี เลยจัดเค้กวันเกิดเป็นออเดิฟเมือง 1 ชุดอิ่มกันทั่ว
วันสุดท้ายที่หนักหนา สุดๆสำหรับทุกคน ระยะขึ้นเขาแค่ 17 กิโลแต่ความชันทะลุไปเกือบ 1,700 เมตร
สภาพหลังขึ้นมาถึงก็จะเป็นแบบนี้เกือบทุกคนครับ
หลังจากเข้าพักเรียบร้อย พวกเราออกมากินข้าวนั่งคุยกัน เหมือนวันเวลาที่ผ่านมามันเร็วมาก 7 วันที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า สนุก ผูกพันกับเพื่อนๆที่คบกันมายาวนานกว่า 15 ปี มันทำให้เราเริ่มรุ้สึกอยากออกไปค้นหาสิ่งที่เข้ามาเติมเต็มให้เรา ความสุขแบบที่กำหนดได้ด้วยตัวเรา เติมเต็มช่องว่างทางความคิดและสิ่งต่างๆมากมาย ร่ำลากันด้วยภาพรวมที่ยิ้มแย้มกันถ้วนหน้า ติดตามพวกเราได้ใน กลุ่มจักรยานเล็กๆที่ชอบออกทริป ใครสนใจไปด้วยกันบอกได้ครับ fb: unlockedcycling