" หน้าพลาสติกของฉัน ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากคำพูดของทุกๆคน "

*กระทู้นี้เป็นกระทู้ระบายความรู้สึก ระบายไปร้องไห้ไป ใครไม่ชอบอ่านยาวๆข้ามนะคะ*

เริ่มต้นคือ เราเป็นคนที่เคยมั่นใจในตัวเองมาก เราคิดว่าเราดูดีในระดับนึงคือไม่ได้แย่แน่นอน
ในตอนเด็กๆเราค่อนข้างหน้าตาดี เวลาทำอะไรทุกคนจะนึกถึงเราเป็นคนแรก เราถูกโอ๋ถูกยอจนเรายึดติดมากกับหน้าตา
"ถ้าวันนึงเราไม่สวยล่ะ? ทุกคนจะมองข้ามเราไหม?"
.
เราเป็นคนชอบส่องกระจกมากๆ เรามักจะเช็คทุกๆอย่างในร่างการเรา เรามีจุดบกพร่องไหนไหม ซึ่งเราเคยพอใจกับทุกอย่างบนใบหน้า
จนวันที่เราโตขึ้น สังคมเปลี่ยน หลายๆอย่างเปลี่ยน วัฒนธรรมเปลี่ยน ผู้หญิงต้องจมูกโด่งปลายเชิด คางต้องมี หน้าต้องวี
"ซึ่งเราไม่ได้เป็นแบบนั้น"
เราค่อนข้างหน้ากลม มีแก้ม จนในที่สุด "แก้มเรากลายเป็นปมด้อยของเรา" หน้ากลม หน้าบาน หน้าแบน นี่คือที่คนอื่นๆเรียกเรา
จากคนที่เคยมั่นใจ กลายเป็นคนวิตกจริต เราถูกล้อ ถูกมองข้าม ถูกทุกอย่าง ทุกอย่างที่เราเคยกลัวจนเรากลัวว่าจิตเราจะไม่ปกติ
เพราะการบูลลี่ขำๆจากเพื่อนในกลุ่ม คนรอบข้าง คนรู้จัก ทุกๆคน
.
เรื่องหนักสุดคือ เราเคยหนัก53กิโล แต่ด้วยที่เราเคยพูดไปก่อนหน้านี้ว่าเราเป็นคนมีแก้ม พอนน.ขึ้น หน้าก็ออก
เราโดนทักโดนล้อ จนเราต้องรีดนน.ตัวเอง ด้วยการล้วงคออ้วกบ้างล่ะ อดอาหารบ้างล่ะ ผ่านไปไม่ถึงเดือนเรานน.47กิโล
แต่ต้องเข้ารพ.เพราะลำไส้อักเสบและเป็นแผล ตอนนั้นมีแต่ครอบครัวเราที่ดูแล พวกที่ล้อเลียนเราก็ใช้ชีวิตสนุกสนานกันต่อไป
เราต้องนอนอยู่ในรพเป็นอาทิตย์ เสียค่ารักษาหลายหมื่น "เพราะแค่คำพูดคน"
.
ตอนนั้นเราพยายามเชียร์อัพตัวเอง ครอบครัวเราก็เหมือนกัน เราทำใจมาได้เป็นปีๆว่า เห้ย เราควรพอใจในตัวเองนะ
"แต่ปัญหายังไม่จบ"
เราก็ยังถูกพูดจาแย่ๆใส่ ถูกเพื่อนในกลุ่มล้อ บ้างก็ถ่ายรูปหลุดเราเอาไปแชร์ในเฟสกันสนุกสนาน
เราเก็บทุกอย่าง เก็บมาเรื่อยๆ ทุกคำพูดที่ทุกคนบอกเห้ยก็ล้อขำๆ จากคนที่เคยเป็นคนสำคัญ เรากลายเป็นตัวตลก
เราเริ่มทนไม่ไหวกับหน้า จะบอกว่าไม่ชอบใบหน้าตัวเองเลยก็ได้ เราไม่อยากมองกระจก ไม่อยากสบตาใคร จึงเริ่มหาวิธีเปลี่ยนหน้าตัวเอง
หนักสุดคือ กลัวกล้อง ไม่กล้าถ่ายรูป ไม่ถ่ายเลย ... "เรายอมทำศัลยกรรม"

ตอนตัดสินใจทำ จนทำออกมา เราก็ไม่มีความสุข แต่ถ้ามันจะหยุดทุกอย่าง โอเคเราทำ ...

เราทำจมูก คาง และฉีดลดแก้ม คงไม่ต้องให้บรรยายเรื่องตอนทำหรอก เพราะเราไม่อยากทำ โคตรไม่อยากเลย ร้องไห้ทุกวัน
มันทรมาน ทั้งกาย ทั้งใจ ตอนที่หน้าเราบวม ตอนนั้นเราอยู่แต่ที่บ้าน ไม่กินอะไร นั่งนึกทุกวันว่าเดี๋ยวมันจะผ่านไป
ตอนนี้หน้าที่เราเคยชอบ หน้าที่เคยอยู่กับเราแทบจะครึ่งชีวิต หน้าที่เราเคยภูมิใจ
มันเปลี่ยนไป เพราะแค่การเอาปมคนอื่นมาล้อ เอามาแซว มาแขวะ มาพูด เราทนไม่ไหวจริงๆ รับไม่ไหวแล้ว
ขอโทษจริงๆ ใครจะด่าจะหัวเราะเยาะเราว่าเรามันไม่มีสมอง ทำไมต้องฟังคนอื่น ทำไมต้องแคร์คำพูดคนอื่น โง่ ด่าได้เลย ไม่โกรธ
"แต่ถ้าเราไม่ทำ เราต้องจมกับคำพูดพวกนั้นไปตลอดหรอ? ทั้งชีวิตเลยหรอ? เรายอมทำ ทำอะไรก็ได้ถ้าไม่ถูกพูดจาแบบนั้น ยอมจริงๆ"
ความอดทน ความอ่อนไหว ความรู้สึก ของคนเรามันต่างกัน...


" ครบรอบ1เดือนสำหรับหน้าใหม่ หน้าที่ฉันได้แรงบันดาลใจมาจากคำพูดของพวกคุณ "
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
นี่คือสิ่งที่เรากำลังเถียงดราม่าเลทมีอินอยู่

อยากช่วยจริงๆจงไปช่วยคนที่เขาใช้ชีวิตลำบาก
อาทิ ฟันขบอาหารไม่ได้เลย ทำให้ต้องบดอาหารทาน
หรือผ่าตัดริมฝีปากคนปากแหว่ง หรือศัลยธรรมคนที่โดนไฟไหม้

ทั้งหมดของรายการคือ เลือกเอาคนมีประโยชน์มาสร้างผลประโยชน์ เธอให้ฉันฉันให้เธอ นี่คือโลกของธุรกิจ เราเลยไม่ค่อยเข้าใจความดราม่าบังเกิด ทำไมถึงเลือกคนนี้ คนนั้นออกจะน่าสงสาร

เท่าที่เราสังเกตุคือ มีน้อยคนที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพราะตัวเองรู้สึกว่าบกพร่อง และตัวเองอยากดีขึ้น

คนกลับอย่างเปลี่ยนตัวเอง เพื่อปากคนอื่น?
เเล้วสุดท้ายก็มารับไม่ได้ เวลามีคนตะโกนใส่หน้า ว่า นังหน้าปลอม นังสวยศัลยกรรม นังพลาสติก

คำถามคือ สิ่งใดที่ควรเปลี่ยน ปากคนอื่นหรือ?
มันปิดปากคนอื่นได้งั้นหรือ? ทางแก้อยู่ที่ไหนนะ
ใจคุณไงละ...

หากคุณไม่เห็นคุณค่าของคุณ และรอให้คนอื่นๆมานั่งประเมินค่า คุณก็ยังจะทุกข์ใจ ในทุกๆแบบทุกๆสัดส่วนของร่ายกาย

เราโตมาแบบมีคนเเซวตลอดว่า หน้าบาน เดินส่าย ตีนแบะ อึติดตูดหรอ ทำไมเดินท่านี้ ขั้นมีฉายาว่า แหมบ ทั้งๆที่จมูกเรามีสันจิ้มลิ้มน่ารัก

แต่รู้ไหมคะ? เราไม่เคยใส่ใจคำพูดพวกนั้น
ใครก็ช่างมาตะโกนด่าเรา เราจะคิดอย่างเดียวคือ การไม่ทำแบบนั้นใส่ใคร เราไม่เคยเอาปมใครมาล้อ ไม่เคยแม้แต่เรียกนังอ้วน นังดำ ( หากเรียกอ้วน ก็เรียกด้วยการเอ็นดู )

ถ้าคุณยังเอาชีวิตไปผูกที่ปากคนอื่น คุณก็จะไม่มีความสุขค่ะ
คนที่อ่านมาถึงตรงนี้ อาจมองว่าเราโลกสวย แต่ไม่ค่ะ
เราร้ายมาก เราเป็นซึมเศร้ามา 5 ปี และเคยฆ่าตัวตายเพราะปากคนมา 2 ครั้ง

กว่าดวงตาจะเห็นธรรม กว่าจะเข้าใจสัจธรรม
ก็เเลกไปด้วยน้ำตา และความขาดเขลาของตัวเอง
เรามาจากโลกมืด และวันนี้อยู่บนโลกที่สว่าง หรือใครๆเรียกว่าโลกสวย นั่นทำให้เราเข้าใจ และอยู่กับความจริงได้

เราเดินส่าย แต่ไม่เคยเดินเตะใคร
เราหน้าบาน แต่เราก็ไม่เคยให้มันบานรบกวนใคร
เราอ้วน แต่เราก็ไม่ได้ไปทำตัวเป็นภาระใคร
เราผิดยังไงหรือ คุณค่าเราด้อยลงหรือ ไม่เลยค่ะ ไม่เลย

จงรักตัวเอง แคร์ใจตัวเอง และอย่าเฝ้าเรียกร้องให้คนบนโลกมานั่งแคร์ตัวเอง ปิดหูตัวเอง และเลือกหยิบ เลือกฟังแต่สิ่งที่มีประโยชน์มาใส่ใจตัวเอง

ขยะคุณยังทิ้งเลย คำพูดขยะๆคุณจะเก็บไว้ทำไมกัน
เป็นกำลังใจให้นะคะ ขอให้มีความสุขและจงภูมิใจกับตัวเองไว้ คุณค่าของเรา อยู่ที่เราค่ะ
ความคิดเห็นที่ 2
ต่อให้คุณทำมา คุณก็จะโดนคำพูดล้อเลียนพวกนั้นอยู่ดี
แล้วคุณจะทำยังไงต่อไปคะ คิดไว้หรือยัง

เดี๋ยวเขาก็ว่าจะคุณหน้าพลาสติก ดั้งเบี้ยว หน้าแข็งมาก บลา บลา
คนพวกนี้ สรรหาคำพูดมาว่าคนได้เสมอค่ะ

คนที่หน้าสวยๆแบบสวยจริงๆหายากนะคะ แต่ละคนก็มีข้อด้อยของตัวเองทั้งนั้น
ถ้าไปคล้อยตามคำพูดคน คุณก็จะทุกข์ไปตลอด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่