[CR] บันทึกการเดินทาง : Okinawa..No car, No friend ผู้หญิงคนเดียว เที่ยวโอกินาว่า



ที่มาและความสำคัญ

13 มีนาคม 2560

"แอ้!! อยากไปโอกินาว่า!!! แต่ยังช่างใจอ่ะ เอาไงดี!!!!!"


     นั่นคือประโยคคำถามที่ถามแอ้ผ่านทางแอพพลิเคชั่น Messenger ของบ่ายวันนั้น วันที่ตัวเองกำลังอยู่ในระหว่างการอบรมการเขียนรายงานการประชุมที่ทุกคนกำลังจับกลุ่มนั่งทำ workshop กันอย่างขะมักเขม้น..

     เพียงไม่กี่อึดใจ แอ้ก็พิมพ์ตอบกลับมาว่า..

"ใจแกอยู่ที่นู่นแล้วล่ะ"


     โอเค!!! เอาไงเอากัน ว่าแล้วจึงรบกวนแอ้ ตัดบัตรเครดิตค่าตั๋วเครื่องบินและที่พักราคาสิริรวมแล้ว 14,283 บาท ซึ่งจริง ๆ ตัวเองเล็งทริปนี้ไว้ตั้งแต่สองเดือนที่แล้ว จนมาวันนี้ก็ยังเล็งแล้วเล็งอีกซึ่งก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมไม่ตัดสินใจเด็ดขาดสักทีจนราคาขึ้นจากเดิมประมาณสามพันบาท!!

     แต่ยัง!! มันยังไม่จบ!!

     เพราะตกเย็น ตัวเองก็ขอรบกวนแอ้ตัดบัตรเครดิต (ซึ่งจริง ๆ ใช้เกินวงเงินไปแล้ว แต่แอ้ก็ยังไปทำเรื่องเพิ่มวงเงินให้อีก น้ำตาจะไหลร้องไห้) จ่ายค่า one day trip อีกเกือบ ๆ 2,000 บาท ทั้งหมดทั้งมวลตีเป็นตัวเลขกลม ๆ ประมาณ 16,300 บาท พร้อมกับคำถามในหัวสมองว่า

"นี่...ฉันกำลังจะไปเที่ยวคนเดียวอีกแล้วหรอ?"


     มาคราวนี้ ฉันจึงจัดการบอกแม่ บอกป๊าตั้งแต่หัววันในทันทีระหว่างรอรถเมล์ฟรีกลับหอ
“ฮัลโหลแม่....ลูกกำลังจะไปเที่ยวสิ้นเดือนนะ”
“ไปที่ไหน”
“โอกินาว่า”

     คุณคงคิดว่าแม่ของดิฉันคงจะถามว่าไปกับใครใช่ไหมล่ะ ขอบอกเลยว่าแกเข็ดตั้งแต่ตอนที่ดิฉันโทรบอกแกหน้าเกตว่ากำลังจะบินไปเที่ยวเกาหลีคนเดียวตั้งแต่ทริปที่แล้วแล้ว ฉะนั้นประโยคถัดมาจึงไม่ใช่คำถาม แต่…..

“นี่ไม่คิดจะเก็บตังค์เรียนโทเลยใช่ไหม”





     ถ้าเราบอกใคร ๆ ว่าตัวเองกำลังจะไปญี่ปุ่น ภาพฝันในหัวของคนส่วนใหญ่มักจะเป็นการไปดูซากุระ แช่ออนเซ็น กินเนื้อย่างที่โกเบ นั่งรถไฟหัวกระสุนชินคันเซ็นข้ามจังหวัด ไปไหว้พระวัดอาซากุสะ ช็อปปิ้งที่ฮาราจูกุ หรือไปถ่ายรูปทำท่ากูลิโกะที่โอซาก้า ซึ่งถ้าถามดิฉันผู้คลั่งไคล้ในความเป็นญี่ปุ่นว่าอยากจะไปที่เหล่านี้ไหม ก็อยากไปนะ
     แต่ไม่แน่ใจว่าตัวเองไปเห็นภาพอควาเรียมห้องใหญ่ ๆ บรรจุน้ำใส ๆ สีฟ้าแกมน้ำเงินที่มีปลาฉลามวาฬลายจุดตัวโต ๆ สองสามตัวแหวกว่ายไปมา ปลากระเบนตัวพลิ้ว ๆ ว่ายโฉบเฉี่ยวทักทายผู้คนและฝูงปลาเล็กปลาน้อยจากที่ไหนแล้วมันโดนใจมาก ๆ!!!  มันให้ความรู้สึกเหมือนตัวเองได้อยู่ใต้ท้องทะเลจริง ๆ ได้ตื่นตาตื่นใจกับวิถีชีวิตของสัตว์น้ำ

     และที่สำคัญคือ ความรู้สึกที่เหมือนตัวเองได้กลับไปเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ บนโลกกว้างอีกครั้ง!!!

     ว่าแล้วจึงลองหาข้อมูลทั้งในอากู๋และในพันธ์ทิพย์นี่แหละจนได้ความว่ามันอยู่ในโอกินาว่า ซึ่งนอกจากจะมีอควาเรียมที่ใหญ่มากแล้ว ประเพณีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของคนที่นี่ สถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและประวัติศาสตร์ก็ทำให้ตัวเองรู้สึกสนใจมากขึ้นไปอีก (เพราะเห็นเขาว่ากันว่า โอกินาว่าเป็นญี่ปุ่นที่ไม่เหมือนญี่ปุ่น) แต่แล้วก็ต้องผิดหวัง เพราะส่วนใหญ่คนที่ไปเที่ยวที่นี่ มักจะเช่ารถขับเที่ยวกัน(ซึ่งตัวเองขับรถไม่เป็น) รถไฟฟ้าหรือใต้ดินก็ไม่ได้มีหลาย ๆ สายแบบเกาหลีที่ไปมาสักเท่าไหร่ (คือที่โอกินาว่าก็ไม่ได้เลวร้ายนะ แต่ที่เกาหลี ส่วนใหญ่สถานที่ท่องเที่ยวในโซลมักจะมีรถไฟฟ้าใต้ดินเข้าถึง มีแอพพลิเคชั่นสำหรับบอกรายละเอียดการต่อรถ เวลาเดินรถ ค่าใช้จ่าย ซึ่งมันสะดวกมาก มันทำให้เรากะเวลาในการทำแผนการเที่ยวของเราได้ และที่สำคัญสำหรับคนเบี้ยน้อยหอยน้อยอย่างเรา ๆ คือ การประมาณค่าใช้จ่าย ยิ้ม) และสถานที่ท่องเที่ยวหลาย ๆ ที่มักอยู่นอกเมือง(นาฮะ) ต้องนั่งรถไปไกล แถมค่ารถก็แพงด้วย เลยทำให้ตัวเองตัดใจอยู่พักหนึ่ง

     แต่แล้ววันหนึ่ง!! ฉันก็ได้ดูละคร Itazurana Kiss ภาค 2 (แกล้งจุ๊บให้รู้ว่ารัก เวอร์ชั่นญี่ปุ่น) สถานที่ฮันนีมูนของพระนางคือ โอกินาว่า พอได้เห็นฉากทะเล สีของน้ำทะเลไล่ระดับจากสีใส ๆ เป็นสีฟ้าอ่อน ฟ้าเข้ม จนปลายสายตาเป็นสีน้ำเงินตามระดับความลึกของก้นทะเล มันเหมือนมีจิตรกรสักคนเอาสีน้ำไปละเลงทรายสีครีมบนชายหาดอย่างใดอย่างนั้น หรือการเห็นฉากอควาเรียมมีปลาตัวใหญ่ ๆ ที่เราเคยเห็นในรูปมันกำลังว่ายดุ๊กดิ๊กจริง ๆ ก็นึกอยากไปอีก เท่านั้นยังไม่พอ พอมาดูละคร It’s OK. That’s love. ของเกาหลี พระเอกนางเอกก็ไปได้กันที่โอกินาว่าอีก ถือเป็นการตอกย้ำซ้ำ ๆ มากว่า

เอ็งต้องไปแล้วล่ะ!!!

(เสียอย่างเดียวคือไม่มีใครให้ไปได้ที่นู่น...)


     ว่าแล้วโชคชะตาก็นำไปให้ฉันได้ไปจริง ๆ หลังจากจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินและที่พักเสร็จสรรพ ก็ได้เวลาปั่นแผนการเที่ยวกันหัวฟูทุกคืนจนกระทั่งก่อนเดินทางหนึ่งสัปดาห์ เมื่อกายพร้อม ใจพร้อม ตัวเองจึงค่อย ๆ โผล่หน้าที่ข้างพาร์ทิชั่นของพี่ฝ่าย HR ด้วยแววตาใส ๆ รอยยิ้มแห้ง ๆ แต่จริงใจ พร้อมยื่นใบลาซึ่งเขียนตัวบรรจงครึ่งบรรทัดด้วยปากกาเส้นบาง ๆ ด้วยความเชื่อที่ว่าจะดูสุภาพกว่าปากกาเส้นหนา ไม่มีรอยลบใด ๆ เพื่อให้ดูเรียบร้อยและรู้สึกเกรงใจกับการกระทำดังกล่าวเหมือนตอนที่ลาไปเกาหลี

และแน่นอน...อีนี่ก็ไม่รับหิ้วของใด ๆ เหมือนเดิมค่ะ ฮาาาา


ไว้เดี๋ยวมาต่อเรื่อย ๆ นะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ อมยิ้ม07
ชื่อสินค้า:   Naha Okinawa
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่