สวัสดีค่ะทุกคน    
กระทู้นี้เป็นกระทู้แชร์ประสบการณ์แย่ๆ 2 คืน  ที่ Villa Tortuga Pattaya ในทริปพักผ่อนที่ไม่ได้พักผ่อนเลย
แถมเครียดมากๆ เสียเงินไปฟรีๆ เสียเวลา เสียความรู้สึก รวมไปถึงฝากข้อคิดในการจองบ้านพักพูลวิลล่าในสังกัดนี้
ไปพร้อมๆ กันนะคะ  (ขออนุญาตไม่เอ่ยชื่อหลังอื่นๆ อีก 40 หลัง)    

คำเตือน :  หากว่าใครกำลังรับประทานอาหารอยู่ รบกวนทานให้เสร็จก่อนจะเข้ามาอ่านนะคะ    

ขอเกริ่นเรื่องก่อนว่า จขกท.และเพื่อนๆ ทั้งหมด 6 คน เป็นกลุ่มเพื่อนสนิท ผู้หญิงวัยทำงานอายุ 28-30 ปี ทุกคนเรียนจบทำงานกันมาซักพักแล้ว มีทั้งคนที่ทำงานประจำ และเจ้าของธุรกิจ ทำให้เวลาของแต่ละคนไม่ตรงกัน และจัดสรรยากมาก หลายคนในวัยนี้คงเข้าใจ ยิ่งอายุมากขึ้น นัดเจอกันทีก็ยาก ทริปล่าสุดที่ไปต่างจังหวัดด้วยกันคือ 4-5 ปีที่แล้ว แน่นอนว่าทริปนี้เกิดขึ้นมาได้ ก็ต้องวางแผนล่วงหน้าหลายเดือน

เมื่อตกลงกัน สรุปได้ว่าเป็นทริปชิวๆ ใกล้กทม. ค้างพัทยา 2 คืน วันศุกร์-อาทิตย์  หลังจากนั้นก็มองหาที่พักตามเว็ปต่างๆ แล้วก็ได้มาเจอกับ
Villa Tortuga Pattaya ความรู้สึกแรกคือมันใช่! มันโดนใจ! ทุกคนโหวตให้บ้านหลังนี้ เพราะเป็นพูลวิลล่าส่วนตัว ย่านเงียบๆ ไม่ต้องวุ่นวายกับใครอยู่ มี 2 ห้องนอน + เตียงเสริม + 2 ห้องน้ำในตัว, ห้องรับแขก และสระว่ายน้ำ + จากูซี่ที่สระ และจากูซี่ในห้องน้ำที่ติดกับห้องนอนใหญ่ ก็เลยจ่ายเงินจองเลยผ่าน Expedia ทันที โดยชำระเต็มจำนวน 2 คืน เป็นทั้งหมด 12,763 บาท


ทุกคนตั้งใจและตื่นเต้นกับทริปนี้มาก ไหนๆ เราก็เช่าพูลวิลล่า ก็อยากจะชิวในบ้านทั้งวัน เพราะในรูปบ้านพักค่อนข้างดูดี  อยากจะถ่ายรูปกันให้สนุก
เม้ามอย อัพเดทชีวิตของแต่ละคน ไม่มีโปรแกรมไปเกาะหรืออะไรทั้งนั้น

เรียงลำดับเหตุการณ์ (เวลาโดยประมาณ)

วันที่ 1 - ศุกร์
17.3x    4 คน เลือกออกเดินทางวันศุกร์ ตอนเย็น เพราะรอเพื่อนเลิกจากงานประจำก่อน และ อีก 2 คน จะตามไปวันเสาร์
19.3x    ถึงพัทยาก็ค่ำแล้ว จึงเลือกไปที่โรงแรมก่อน เนื่องจากมีกฎระบุไว้ว่าต้องเช็คอินก่อน 3 ทุ่ม พิกัดของบ้านใน google map ปักไว้ผิด
                จึงโทรหา reception เขาก็ขี่มอเตอร์ไซค์มารับ และขี่นำพาไปที่บ้าน
20.00    พวกเราได้รับกุญแจ เดินเช็คบ้าน แป๊บเดียว ก็รู้สึกไม่ติดอะไร ค่อนข้างพอใจ เพราะบ้านหลังใหญ่ ดูชิว แม้จะเก่ากว่ารูปในเว็บไปบ้าง
                พนักงานให้จ่ายมัดจำเพิ่ม 3,000 ทางเราก็โอนให้ทันที และได้แอดใลน์กับพนง. ไว้ติดต่อกัน และตอนนี้ขอหมอนเพิ่ม 2 ใบ
                และนัดว่าพรุ่งนี้ให้แม่บ้านมากางเตียงเสริม เพราะเพื่อนอีก 2 จะตามมาวันเสาร์ และพวกเราก็ออกไปกินข้าวกันข้างนอก
22.xx    เมื่อกลับมาถึงบ้าน หมอนที่ขอไปก็ยังไม่ได้ แต่ก็ไม่เป็นไร คิดว่าเขาคงลืม ไว้พรุ่งนี้ก็ได้ พวกเราก็นั่งชิวซักพัก อาบน้ำแยกย้าย
                กันเข้านอน
____________________________________________________________________________________________________

วันที่ 2 - เสาร์
วันที่หายนะมาเยือนตลอดทั้งวัน และความเครียดที่แท้ทรู เกิดขึ้นไม่หยุดตั้งแต่เช้าจรดเย็น จนไปถึง check out  พรุ่งนี้
หลังจากที่พวกเราได้เช็คอินค่ำแล้วในวันศุกร์ เลยวางแผนกันไว้ว่าวันเสาร์จะชิวอยู่ในบ้าน ทั้งวันอย่างมีความสุข
แต่ทุกอย่างออกมาตรงกันข้ามเลยค่ะ...............

09.30    ตื่นกันเช้าเลย แต่เมื่อฟ้าสว่างก็เลยได้เห็นสภาพสระว่ายน้ำที่แท้จริง มันสกปรกมาก! มีฝุ่น มีหยากไย่ และแมลง
                ลอยอยู่บนผิวน้ำ เต็มไปหมด เมื่อคืนเราเช็คอินกลางคืนเลยไม่เห็นเลย อะไม่เป็นไร เดี๋ยวโทรแจ้งให้เขามาทำความสะอาด

***ระหว่างที่แต่งตัวกันจะออกข้างนอก แต่หายนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดได้เกิดขึ้น เมื่อเพื่อนคนนึงได้ขับถ่าย ทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำใหญ่
(ในห้องนอนใหญ่) ปรากฏว่าชักโครกกดไม่ลง ยิ่งกดอุจจาระก็เริ่มลอยขึ้น ลอยขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีทีท่าว่าจะลดลง ทำใดนั้นส้วมก็แตก!!!
สิ่งปฏิกูลทั้งน้ำและอุจจาระทุกสิ่งอย่าง พร้อมใจกันทะลักออกจากฐานของชักโครก ไหลเจิ่งนองทั่วพื้นห้องน้ำ เพื่อนตกใจมากกก
จึงรีบเอาผ้าเช็ดเท้าไปอุดรอยรั่ว แต่ทุกอย่างก็ยังซึมออกมาเรื่อยๆ กลิ่นเหม็นตลบอบอวล ขยะแขยงไปหมด ต้องรีบปิดประตูห้องน้ำ
เพราะกลัวน้ำและกลิ่นจะออกมาถึงห้องนอน และรีบโทรไปหาพนักงานทันที***

10โมงกว่า ---> โทรรอบ 1 , แม่บ้านคนที่ 1 มา
แจ้งเรื่องส้วมแตกทันที, สระว่ายน้ำสกปรก, ปูเตียงเสริมเพราะเพื่อนอีก 2 คนกำลังมา, ขอหมอนอีก 2 ใบ  -พนง.reception กะเช้าก็รับเรื่องไว้-

ประมาณ 10 นาที แม่บ้านคนที่ 1 มา แม่บ้านก็เห็นว่าเราไม่ได้ทิ้งทิ้ชชู่ หรืออะไรลงไปในโถ ดูได้จากถังขยะ แม่บ้านบอกว่าเข้าใจ เพราะส้วมห้องนี้เป็นแบบนี้แหละ มันเป็นอยู่บ่อยๆ และก็เข้าไปถูพื้นในห้องน้ำ  แล้วบอกว่าต้องรอช่างมาซ่อม ระหว่างนี้ก็มีแค่ผ้าเช็ดเท้าอันเดิมอุดเอาไว้ และน้ำก็ยังซึมออกมาเรื่อยๆ  และแม่บ้านก็เดินออกจากบ้านไปบอกว่าหมดกะชั่วโมงของเขาแล้ว

พวกเราที่ยังช็อกกับสถาณการณ์ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ก็เลยออกไปกินข้าว คิดว่าอีกซัก 3 ชม. กลับมาก็น่าจะซ่อมเสร็จแล้ว ไว้ค่อยกลับมาอาบน้ำ ว่ายน้ำ ชิวๆ ใช้เวลาช่วงบ่ายที่เหลือในบ้าน  

11.37  ---> ใลน์ไปย้ำพนักงาน (ตามภาพ)

13.40 ---> กลับเข้ามาที่บ้านแล้ว ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
สระว่ายน้ำยังสกปรกเหมือนเดิม, ส้วมยังไม่ซ่อม อุจจาระอยู่ตามพื้น, น้ำยังนองซึมออกจากฐานชักโครก,
ส่งกลิ่นเหม็น, ฝาชักโครกปิดไว้, ไม่แม้แต่จะเปิดหน้าต่างห้องนอนเพื่อระบายกลิ่น หรือ เอาถ่านมาวางดับกลิ่นใดๆทั้งนั้น  
ระหว่างนี้พวกเราก็นั่งอยู่ที่โซฟานอกบ้านโทรหา reception และรอการแก้ไขต่อไป

14.xx  --->  แม่บ้านคนที่ 2-3 มา
แม่บ้านคนใหม่ก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ถามว่าต้องทำอะไรบ้าง พวกเราก็ต้องสั่งงานใหม่ทั้งหมด เรื่องส้วมแตก,
สระว่ายน้ำสกปรก, กางเตียงเสริม, ขอหมอน 2 ใบ และแม่บ้าน2 คนในกะนี้ ทำเสร็จแค่ กางเตียงเสริม กับ ให้หมอนสองใบ
และก็หมดกะ หมดชั่วโมงทำงาน และออกจากบ้านไป

ถึงตอนนี้ก็เลยอยากฆ่าเวลาถ่ายรูปริมสระ คือถ่ายได้แค่ริมๆ ตรงขอบๆ กับตรงจากุซซี่ที่น้ำค่อนข้างหมุนเวียน แต่พอจุ่มตัวลงไปเท่านั้นหละ
น้ำที่สัมผัสได้ มีแต่ความสาก เหมือนเป็นเม็ดๆ ทรายๆ ฝุ่นๆ คือ คันมาก ต้องรีบขึ้นทันที

15.xx ---> แม่บ้านคนที่ 4 มา
แม่บ้านก็ตามเคย ไม่รู้เรื่องอะไร ต้องสั่งให้ไปดูส้วม, หาสวิงมาช้อนหยากไย่สระว่ายน้ำ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรนั่งรอช่าง ให้เวลามันผ่านไป

16.xx ---> แม่บ้านคนที่ 4 คนเดิมอยู่ต่อ เพิ่มเติมคือรถดูดส้วม!!!!!!
***นี่คือหายนะครั้งที่ 2 ของเดิมในห้องน้ำที่เราคิดว่าเหม็นอยู่แล้ว เจอรถดูดส้วมแค่มาจอดหน้าบ้าน คือยิ่งกว่าเดิม 10 เท่า  
พวกเราต้องรีบปิดประตูห้องนอน ทันทีที่รถดูดส้วมและมาถึง ความเหม็นจากรถดูดส้วมอานุภาพทำลายล้างที่สุด บ้านเหม็นไปทั้งหลัง
กลิ่นอุจจาระคลุ้งไปหมด และยังเล็ดลอดเข้าไปในห้องนอนเล็ก ห้องรับแขก คือนั่งไม่ได้แล้วค่ะ ต้องออกจากบ้านด่วน ขึ้นรถปิดประตู
กลิ่นก็ยังตามมาหลอกหลอน เลยฝากแม่บ้านว่าดูช่างให้หน่อย ถ้าทำเสร็จแล้วเอาสเปรย์ดับกลิ่นมาฉีดทั้งหลัง ทุกห้องด้วย***

16.17 --->  receptionคนใหม่ + ได้คุยกับผู้จัดการ
ด้วยความโมโหที่สะสมมาตลอดทั้งวัน ที่ไม่ได้ใช้สิ่งอำนวยความสะดวกอะไรในบ้านเลย และต้องออกจากบ้านหนีความเหม็นไปอยู่ที่อื่น
ตอนอยู่บนรถจึงโทรอีกรอบ ได้คุยกับผจก. ครั้งแรก และผจก.อ้างว่า เพิ่งทราบเรื่องส้วมแตกตอนบ่ายโมง (คือเราโทรแจ้งไป10โมง 11โมง
ยังใลน์ไปเตือนอีก) สิ่งนี้ทำให้พวกเราโกรธขึ้นไปอีกเพราะสุดท้ายรถดูดส้วมมาถึงตอน 4 โมงเย็น คือพวกเราเสีย 1 วันเต็มไปเรื่องบ้าๆนี่  
จึงไม่เข้าใจว่าทำไมพนักงานที่รับเรื่อง รู้เรื่องแล้วแต่เก็บไว้ไม่บอกใคร  หรือผจก.รู้ตั้งแต่แรก อันนี้ก็เราไม่ทราบ

ทาง ผจก. เสนอให้เตาbbq ฟรีสำหรับคืนนี้ ซึ่งเราพวกก็ได้ปฏิเสธไป เพราะจากสิ่งที่เจอคือส้วมแตก ภาพมันก็ติดตา
และกลิ่นรถดูดส้วมยังติดจมูก ไม่มีอารมณ์มานั่งปิ้งบาบีคิวอะไรแล้วค่ะ เลยบอกว่าขอ refund 1 คืน เพราะพรุ่งนี้ 11 โมง เราก็ Check out
กลับกรุงเทพฯแล้ว ผจก.ก็รับปากว่าจะไปคุยกับผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจตรงนี้ และจะเข้าไปที่บ้านเพื่อไปจัดการทำให้บ้านเรียบร้อย
ขอเวลา 1 ชั่วโมง แล้วจะโทรมาบอกว่าให้กลับเข้ามาที่บ้านได้

20.30 ---> 3 ชั่วโมงผ่านไป ผจก. ก็ไม่โทรกลับมา, receptionกะดึก รับสาย
พวกเรากลับเข้ามาที่บ้าน ก็ค่ำแล้ว มองไม่เห็นว่าสระว่ายน้ำสะอาดรึยัง แต่ก็ไม่ว่ายแล้วค่ะ ดึกแล้ว เพื่อนอีก 2 คนที่เพิ่งมา
ได้เข้ามาในบ้านครั้งแรก ยังดีที่เตียงเสริมปูเสร็จแล้ว พร้อมผ้าห่มใหม่ + ผ้าเช็ดตัวใหม่

แต่!!!!!!! ในห้องน้ำใหญ่ ที่มีปัญหากันมาตลอดวันนั้น แม่บ้านไม่ได้เปลี่ยนผ้าเช็ดเท้าให้ใหม่ ยังใช้อันเก่า
ที่เราใช้อุดอุจจาระตั้งแต่เมื่อเช้า คือเขาแค่คลี่ออกและวางไว้ คืออะไรคะ?????
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

เลยโทรหา reception ตามเรื่อง refund เองอีกแล้ว จึงได้ทราบว่าผจก. กลับบ้านไปตั้งแต่ 5 โมงเย็นแล้ว เห้ออ!!!
ไม่คิดจะโทรหาหรืออะไรเลย จึงถาม reception ต่อ เขาบอกว่า ผจก.พูดว่าบ้านไม่มีปัญหาอะไรเลย ทำให้ทางเราก็ยิ่งโกรธ
เพราะบ้านเหม็นส้วมทั้งวัน แจ้ง 10โมง ซ่อม 4 โมงเย็น ต้องออกไปอยู่ข้างนอกอีก สระก็ไม่ได้ใช้กลับมาก็มืดแล้ว
ผู้จัดการก็เข้าไปที่บ้านตอนที่ช่างซ่อมกันเสร็จแล้ว แม่บ้านมาฉีดสเปรย์บ้านทั้งหลังแล้ว เขาก็พูดได้นะ ทั้งๆ ที่ก็คุยกันเมื่อตอนบ่าย
ส่วนเรื่องขอเงินคืนก็ให้โทรไปตาม expedia เอง เราก็เลยถามว่า คำตอบคืออะไร refund เท่าไหร่ ถ้าทาง รร. ยืนยัน
ทาง expedia เขาก็คืนให้ทันที เขาตอบกลับมาว่า Full refund คืนเงินเต็มจำนวน เราก็เลยโอเค เดี๋ยวจะโทรไปหา expedia ตอนนี้เลย

20.41  ---> คุยกับ expedia
ทาง expedia บอกว่า โทรไปแล้วคุยกับreception คนเมื่อกี๊เขาบอกว่าไม่มีอำนาจตัดสินใจ ติดต่อผจก.ไม่ได้ พรุ่งนี้ละกัน เราก็เลยตามเลย
ทำอะไรกว่านี้ไม่ได้ งั้นพรุ่งนี้ผู้จัดการเข้ามาแล้วค่อยเจรจากัน เพราะคิดว่าเขาคงไปคุยกับฝ่ายจองห้องมีอำนาจตัดสินใจ ตามที่รับปากกันไป

20.xx ---> โทรกลับไปที่ reception
แล้วก็เลยบอกว่างั้นพรุ่งนี้ให้ผู้จัดการมาด้วย ตอนที่ checkout 11 โมง+ ทำหนังสือหรือส่งอีเมลล์ยืนยันรายละเอียดการ refund มาด้วย
เขาก็บอกว่าเดี๋ยวแจ้งผจก.ให้

อีกซักพักตอนที่แยกย้ายกันไปนอนก็เจอแจ็คพ็อตอีก เพื่อนที่เพิ่งมาใหม่2คน นอนที่เตียงเสริมไม่ได้เลย ไรฝุ่นเยอะมาก ทั้งเตียงและผ้าห่ม
ต้องออกไปต่อโซฟานอนกันที่ห้องรับแขก เวรกรรมจริงๆ!!

====== เดี๋ยวมาต่อตอนจบนะคะ พีคคคคคคคคกว่านี้ ======

*มีการแก้ไขตัวสะกดค่ะ