เป็นสาวโสด แต่อยากมีลูก สามารถรับเสปิร์มจากธนาคารสเปิร์ม ได้ไหมคะ

กระทู้คำถาม
อายุ 20 ปลายๆ แล้วค่ะ แต่ยังไม่มีสามีแล้วคิดว่าไม่น่าจะมีแล้วค่ะ แต่อยากมีลูก ลองอ่านข้อมูลในต่างประเทศมีหลายประเทศที่สามารถทำให้ได้ โดยมีประวัติ Sperm Donor ให้ดู เช่น ประวัติ สีตา สีผม หน้าตา การศึกษา ฯลฯ จึงอยากสอบถามว่ามีท่านไหนเคยมีประสบการณ์ด้านนี้ไหมคะ จะที่ต่างประเทศหรือที่ประเทศไทยก็ได้ค่ะ  ขอบคุณค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
เอ่อ เราว่าเรื่องไม่มีพ่อนี่ไม่เห็นมีปัญหาเลยอะ
ไม่มีพ่อแต่โตมาในครอบครัวที่เขาพร้อมจะมีลูก (คือ จขกท ต้องการจะมีลูก จึงเริ่มค้นหาศึกษา)
ดีกว่ามีพ่อแม่ครบแต่เกิดจากความไม่พร้อม แต่แค่มีๆขึ่นมาเพราะเอากันไม่ป้องกันหรือไม่วางแผนครอบครัวปะ

ปล. เพื่อนเราคนนึงเกิดจากการเป็นเด็กหลอดแก้ว คนไทยนี่แหละ ไม่แน่ใจแม่มันไปทำตปท.รึเปล่าเพราะจำได้ว่าเขามีญาติเป็นหมอที่ตปท. ทุกวันนี้นิสัยดี เรียบร้อยน่ารัก ไม่ได้มีปมบ้าปมบออะไรเลย กลับกันไอ้พวกพ่อแม่เกิดมาครบ และพ่อแม่เป็นเพศปกติแต่เลี้ยงลูกแบบไม่พร้อม จนลูกโตมาพังๆก็เยอะแยะ

อีกแบบคือรับมาเลี้ยง รอบตัวเราเรารุ้จักเด็กที่โตมาจากการ adopted 3 คน เป็นรุ่นพ่อรุ่นแม่1คน คือ รับมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเลย แม่ลูกรักกันมาก มีลูกที่เป็นลูกแท้ๆด้วย แต่พี่น้องรักกันดี

อีกคู่คือรุ่นเพื่อน ปกติดี มีทะเลาะบ้างบ่นบ้าง ตามปกติครอบครัว

อีกคู่คือ เพื่อนบ้านเรา เขาแต่งงานไม่มีลูกเลยขอลูกญาติมาเลี้ยง แบบเลี้ยงเป็นลูกตัวเองเลย และส่งไปเรียนเมืองนอกด้วย เด็กจะสนิทกับแม่เลี้ยงมากกว่าแม่แท้ๆ แต่รักกันดี ไม่มีปัญหา ก็เหมือนแม่ลูกทั่วไป

ถ้าพร้อมแล้วทั้งกายใจเราว่ามันก็สมควรมี
การมีพ่อแม่ครบ (ชายหญิง) ไม่ใช่คุณสมบัติที่จำเป็นของการเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ บอกตรงๆว่า เงิน/จิตใจ/ความมั่นคง/ทัศนคติ คือ สิ่งที่จำเป็นกว่าการมีเพศชายหญิงครบเป็นโรลโมเดลพ่อแม่

ต่างประเทศเขา adopted กันเยอะแยะ ผู้ปกครองเป็นเพศที่สามเยอะแยะ ทำไมเขาไม่มีปัญหาว่าเด็กที่เกิดจากการ”สร้างขึ้น”สร้างปัญหาให้สังคม ที่สร้างปัญหาในไทยทุกวันนี้ก็พวกเกิดมาจากบ้านที่พ่อแม่ครบ ปั๊มกันออกมาทั้งนั้น
ความคิดเห็นที่ 81
ไม่แปลกที่จขกท.จะไม่อยากมีสามีนะ

ขนาดกระทู้นี้ ผู้ชายยังมาตอบแบบคุกคามจขกท.กันรัวๆ หลายคห.เลย ไอ้ประเภท รับสักเข็มไหม ผมฉีดให้ไหม ไม่รู้หรอว่ามันน่าขยะแขยง
ความคิดเห็นที่ 14
อ่านความเห็นในกระทู้นี้แล้วกุมขมับ
ทัศนคติคนไทยส่วนใหญ่คับแคบจริงๆ
ความคิดเห็นที่ 12
ไม่มีประสบการณ์ตรง แต่เคยอ่านงานวิจัยมาค่ะ
เด็กที่ถูกเลี้ยงดูจากครอบครัวที่เป็นคู่เกย์ คู่เลส หรือแม้แต่คู่ชายหญิง ไม่มีความแตกต่างที่มีนัยยะสำคัญ
เรื่องที่กระทบเด็กมากที่สุดคือ ความสัมพันธ์ระกว่างคู่รัก
นั่นหมายความว่า ต่อให้เป็นคู่เกย์หรือคู่เลส แต่ถ้าความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดี เด็กจะไม่มีปัญหา
กลับกัน พ่อแม่ที่เป็นชายหญิง ถ้าความสัมพันธ์ไม่ดี เด็กจะมีปัญหา

ในเรื่องพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวนั้น เช่นกัน ถ้าพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว มีความสัมพันธ์กับคนอื่นดี ไม่มีการทะเลาะกัน เด็กจะไม่มีปัญหา
และสิ่งสำคัญที่สุดคือ เด็กต้องการความรัก ความเอาใจใส่ และเวลา หากคุณให้เด็กได้ทุกอย่างตามนี้
นั่นคือคุณพร้อมเป็นทั้งพ่อและแม่แล้วค่ะ

เราพูดตามงานวิจัย การเก็บข้อมูลที่มีเปเปอร์รับรอง
ไม่ได้พูดโดยฟังเขาเล่าต่อกันมา มโน หรือเห็นแค่กรณีสองกรณีแล้วสรุปเหมารวมทั้งหมด
แต่เราเชื่อนะคะ คนไทยไม่ค่อยเชื่องานวิจัย งานวิจัยในไทยเองก็มีไม่เยอะ คนไทยไม่ชอบวิจัยหรือให้ค่ากับงานวิจัย ก็มโนกันต่อไป
ความคิดเห็นที่ 43
ผมไม่ตัดสินว่า

การมีลูกโดยใช้สเปิร์มฝ่ายชายอย่างเดียว = เรื่องถูก หรือ ผิดนะครับ

ลองมาดูหลักฐานกันดีว่า

1. เด็กที่เกิดจากการสเปิร์มที่บริจาค ไม่มีปัญหาจากการขาดพ่อตามมา ทั้งในด้านจิตวิทยา จาก University of Cambridge (England)
- การศึกษานี้ให้ผลขัดกับการศึกษาก่อนหน้านี้ที่พบว่า เด็กวัยรุ่นผู้หญิงจะมีปัญหาในวัยเรียนมากกว่าหากไม่มีพ่อ ของ University of Canterbury (New Zealand) อีกงานหนึ่งของ University of Melbourne (Australia) ที่พบว่า เด็กผู้ชายจะดื้อมากกว่าหากไม่มีพ่อ และอีกงานของ McGill University (Canada)

- ทางงานวิจัยต้นฉบับ มองว่า 3 งานข้างต้นเป็นประเด็นของวัยรุ่น ทาง Cambridge เลยทำอีกงานในวัยรุ่น เป็นแบบสอบถาม ก็พบผลขัดกันกับ 3 งานข้างต้นเช่นเดิม คือ วัยรุ่นที่เกิดมาไม่ได้รับผลกระทบจากจิตใจและไม่มีปัญหาครอบครัวแตกต่างแบบมีนัยสำคัญกับวัยรุ่นที่เกิดจากวิธีธรรมชาติ
ที่มา: http://www.telegraph.co.uk/news/health/news/11938713/Sperm-donor-children-are-fine-without-fathers-says-Cambridge-University.html

2. ไม่พบความแตกต่างในแง่ปฏิสัมพันธ์แม่-ลูกหรือการปรับตัวของลูก แต่กลุ่มที่ใช้เซลล์สืบพันธุ์บริจาคพบปฏิสัมพันธ์ในแง่บวกน้อยกว่ากลุ่มที่ใช้วิธีธรรมชาติ (อาจชี้ให้เห็นว่า การมีครอบครัวสมบูรณ์ทำให้เด็กเปิดรับที่มาของยีนตัวเองได้มากกว่า เพราะในการศึกษาคือ เด็กอายุ 7 ปี ทำให้เด็กบางคนอาจจะยังรับไม่ได้)

ที่มา: https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3075381/
-----------------------------------

เรื่องนี้ ทางต่างชาติ ยังถกเถียงกันอยู่เช่นกันครับ โดยเฉพาะด้านศาสนาและมนุษยธรรม

และคงต้องตามกันต่อไปครับ

ไม่มีถูกหรือผิดครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่