คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 43
เข้าใจนะ ว่าทำไมคุณถึงรู้สึกแปลกๆ ถ้าคุณเห็นสัจจะธรรมของชีวิต คุณจะไม่มองว่ามันแปลก คุณจะเห็นว่ามันเป็นไปอย่างนั้นเอง คุณจะรู้ว่า ทำไมพวกเค้าเหล่านั้นถึงกินข้าวข้างทาง ไม่กินในห้องแอร์ ทำไมคุณกินข้าวในห้องแอร์แล้ว ไม่ได้รู้สึกดีกว่ากินข้าวข้างทาง แต่ทำไมกินข้าวข้างทางแล้วมันแปลก ๆ เพราะ คุณยังไม่ก้าวข้ามบางสิ่งบางอย่างที่ติดอยู่ในใจคุณ เปรียบเทียบ คล้าย ๆ กับความกลัว ถ้าเรากลัวอะไรโดยไม่รู้สาเหตุ เพราะจิตคิดไปเอง แต่พอรู้สาเหตุก็หายกลัว และไม่กลัวอีก สิ่งหนึ่งที่คุณควรทำคือ มองให้เป็นเรื่องธรรมดา เข้าใจมัน
คุณจะไม่รู้สึกว่าแปลกแยก การทำความเข้าใจชีวิตไม่ใช่เรื่องง่าย และก็ไม่ใช่เรื่องยาก มันมีเส้นอยู่แค่มุมมอง กับ ทัศนคติ
คุณจะไม่รู้สึกว่าแปลกแยก การทำความเข้าใจชีวิตไม่ใช่เรื่องง่าย และก็ไม่ใช่เรื่องยาก มันมีเส้นอยู่แค่มุมมอง กับ ทัศนคติ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 95
ความคิดส่วนตัวนะ
เมื่อคุณพบว่าคุณกินข้าวในราคาเท่ากับผู้มีรายได้ร้อยกว่าคุณ คุณอาจรู้สึกว่าคนที่มีพื้นฐานดีหรือมีรายได้ดีกว่าคนอื่น
ควรจะแตกต่างหรือมีความสุขมากกว่าคนเหล่านั้น (รึเปล่า)
คุณจึงลองขยับขึ้นไปกินอาหารที่ราคาและคุณภาพสูงขึ้น แต่นั่นไม่ได้ทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นเลย
นั่นอาจหมายถึงคุณเริ่มสงสัยว่า ความแตกต่าง หรือความพึงพอใจของคุณอยู่ที่ไหน ในเมื่อกินของดีราคาแพงก็ไม่ได้ช่วยอะไร
(มนุษย์เราต้องการความแตกต่าง อันนี้เป็นเรื่องปกติธรรมชาติของมนุษย์)
ถ้าเป็นเช่นข้างบนว่า...
คุณอาจแค่มองข้ามความเป็นจริงว่าตนเองต้องการอะไรกันแน่ในชีวิต
เราทุกคนล้วนไม่ได้ต้องการเงิน แต่เงินทำให้เราได้สิ่งที่เราต้องการที่แท้จริง
การมีรายได้มากกว่าคนอื่นถือเป็นเรื่องดีไม่มีเสีย แค่หาสิ่งที่ตนต้องการให้พบ และใช้เงินที่คุณหามากับสิ่งนั้น คุณก็จะพบความพอใจของคุณเอง
(อย่าบอกว่าเงินซื้อไม่ได้ทุกสิ่งนะ มันซื้อได้ หากถูกวิธี ถูกเวลา ถูกสถานที่)
ไม่ได้อยู่ที่เราซื้อเท่าไหร่ แต่อยู่ที่เราซื้ออะไร
การใช้จ่ายเกินความจำเป็น ใช้ชีวิตหรูหราฟู่ฟ่า ซื้อของแพง
เป็นผลกระทบจากค่านิยมจากสังคม และการต้องความแตกต่างขอมนุษย์
รวมไปถึงกลไกทางด้านเศรษฐกิจ ที่กระตุ้นให้ผู้คนจับจ่ายใช้สอย
หาใช่ความต้องการอันแท้จริงของแต่ละคน
ขอให้คุณพบคำตอบโดยเร็ว เพื่อจะได้ใช้เวลาที่เหลืออย่างมีความสุข และพึงพอใจในทุกๆวัน
เมื่อคุณพบว่าคุณกินข้าวในราคาเท่ากับผู้มีรายได้ร้อยกว่าคุณ คุณอาจรู้สึกว่าคนที่มีพื้นฐานดีหรือมีรายได้ดีกว่าคนอื่น
ควรจะแตกต่างหรือมีความสุขมากกว่าคนเหล่านั้น (รึเปล่า)
คุณจึงลองขยับขึ้นไปกินอาหารที่ราคาและคุณภาพสูงขึ้น แต่นั่นไม่ได้ทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นเลย
นั่นอาจหมายถึงคุณเริ่มสงสัยว่า ความแตกต่าง หรือความพึงพอใจของคุณอยู่ที่ไหน ในเมื่อกินของดีราคาแพงก็ไม่ได้ช่วยอะไร
(มนุษย์เราต้องการความแตกต่าง อันนี้เป็นเรื่องปกติธรรมชาติของมนุษย์)
ถ้าเป็นเช่นข้างบนว่า...
คุณอาจแค่มองข้ามความเป็นจริงว่าตนเองต้องการอะไรกันแน่ในชีวิต
เราทุกคนล้วนไม่ได้ต้องการเงิน แต่เงินทำให้เราได้สิ่งที่เราต้องการที่แท้จริง
การมีรายได้มากกว่าคนอื่นถือเป็นเรื่องดีไม่มีเสีย แค่หาสิ่งที่ตนต้องการให้พบ และใช้เงินที่คุณหามากับสิ่งนั้น คุณก็จะพบความพอใจของคุณเอง
(อย่าบอกว่าเงินซื้อไม่ได้ทุกสิ่งนะ มันซื้อได้ หากถูกวิธี ถูกเวลา ถูกสถานที่)
ไม่ได้อยู่ที่เราซื้อเท่าไหร่ แต่อยู่ที่เราซื้ออะไร
การใช้จ่ายเกินความจำเป็น ใช้ชีวิตหรูหราฟู่ฟ่า ซื้อของแพง
เป็นผลกระทบจากค่านิยมจากสังคม และการต้องความแตกต่างขอมนุษย์
รวมไปถึงกลไกทางด้านเศรษฐกิจ ที่กระตุ้นให้ผู้คนจับจ่ายใช้สอย
หาใช่ความต้องการอันแท้จริงของแต่ละคน
ขอให้คุณพบคำตอบโดยเร็ว เพื่อจะได้ใช้เวลาที่เหลืออย่างมีความสุข และพึงพอใจในทุกๆวัน
ความคิดเห็นที่ 103
ผมอ่านแล้วก็ไม่เห็นว่าเป็นการอวดรวยนะ สิ่งที่ จขกท พิมพ์ แสดงถึงความใคร่ครวญ ไตร่ตรอง วิเคราะห์หาเหตุผลของตัวเอง อย่างคนมีปัญญา
การตอบของ จขกท ก็แสดงให้เห็นถึงวุฒิภาวะ และความฉลาดทางด้านอารมณ์ ซึ่งคนชนชั้นระดับนี้เขาจะมีบุคลิกเช่นนี้
จขกท มีพร้อมแล้วทุกอย่าง เท่าที่ตัวเองปราถนา พอใจกับชีวิตความเป็นอยู่ เพียงแต่ยังไม่เข้าใจถึงความแตกต่างทางสังคม
สิ่งที่ จขกทคิด คือการมองโลกในมุมมองตัวเอง ซึ่งยังไม่กระจ่างนัก ก็เลยสงสัยจึงมาตั้งกระทู้ถาม
บางคนอาจจะว่าว่างหรือไง จริงๆแล้วคนที่พอใจกับชีวิตตัวเองจะว่างมากครับ ไม่ว่าคุณจะมีรายได้เท่าไร แค่ไม่เป็นหนี้พอมีพอกิน ไม่ฟุ่มเฟือย
อยู่อย่างพอเพียง จะหาได้หลักหมื่นหรือแสนหรือเท่าไรก็ตาม ถ้าพอใจกับชีวิตแล้ว มันจะว่างทันที พอว่างแล้วก็จะเป็นเรื่องของการค้นหาคำตอบของชีวิต ซึ่ง จขกท กำลังค้นหาอยู่
ผมไม่รู้รายละเอียดอะไรมากกว่านี้จึงบอกอะไรไม่ได้ แนะนำให้ไปลองคุยกับหลายๆคนดู หรือใครก็ได้ที่พอจะชี้แนะทางสว่างให้กับเรา
การตอบของ จขกท ก็แสดงให้เห็นถึงวุฒิภาวะ และความฉลาดทางด้านอารมณ์ ซึ่งคนชนชั้นระดับนี้เขาจะมีบุคลิกเช่นนี้
จขกท มีพร้อมแล้วทุกอย่าง เท่าที่ตัวเองปราถนา พอใจกับชีวิตความเป็นอยู่ เพียงแต่ยังไม่เข้าใจถึงความแตกต่างทางสังคม
สิ่งที่ จขกทคิด คือการมองโลกในมุมมองตัวเอง ซึ่งยังไม่กระจ่างนัก ก็เลยสงสัยจึงมาตั้งกระทู้ถาม
บางคนอาจจะว่าว่างหรือไง จริงๆแล้วคนที่พอใจกับชีวิตตัวเองจะว่างมากครับ ไม่ว่าคุณจะมีรายได้เท่าไร แค่ไม่เป็นหนี้พอมีพอกิน ไม่ฟุ่มเฟือย
อยู่อย่างพอเพียง จะหาได้หลักหมื่นหรือแสนหรือเท่าไรก็ตาม ถ้าพอใจกับชีวิตแล้ว มันจะว่างทันที พอว่างแล้วก็จะเป็นเรื่องของการค้นหาคำตอบของชีวิต ซึ่ง จขกท กำลังค้นหาอยู่
ผมไม่รู้รายละเอียดอะไรมากกว่านี้จึงบอกอะไรไม่ได้ แนะนำให้ไปลองคุยกับหลายๆคนดู หรือใครก็ได้ที่พอจะชี้แนะทางสว่างให้กับเรา
ความคิดเห็นที่ 140
เป็นอีกหนึ่งกระทู้ที่ เห็นแล้วอยากล๊อกอินเข้ามาตอบเลย ( อยากให้ จขกท ตอบด้วยนะ 555)
ก่อนอื่นเลยขอชื่นชม จขกท ที่กล้าจะถามและอยากจะหาคำตอบในสิ่งที่ค้างคาใจ ดูจะเป็นสิ่งเล็กๆเนาะ แต่เราว่า คงเป็นความรู้สึกที่ดูจะค้างคา และรบกวนจิตใจคุณ อยากจะไขมันออก หาให้เจอซักทีว่าตัวเองเป็นอะไร ทั้งๆที่อาจจะรู้อยู่แล้ว ว่าคงมีทั้งกระแสที่บวกและลบตามมา
สิ่งที่คุณต้องการในวันนี้อยากจะอธิบายความรู้สึกและแปลงมันให้กลายเป็นพลังด้านบวกใช่มั้ยคะ
เราก้แอบลองๆ สมมติดูว่าเราเปน จขกท ดู ความรู้สึกเราคือ เรารู้สึกว่าเรา’แตกต่าง’ แสงสะท้อนของการ์ดใบนั้นของเรา กับยูนิฟอร์มของคนที่มากินข้าว ที่ จขกท เข้าใจว่าเป็นพนักงานแถวนั้น ทำให้คิดว่า นี่คือที่ของเราจริงๆหรอ ก้เลยลองเปลี่ยนไปกินร้านที่ดูจะสมฐานะมากกว่า แต่ปรากฎว่า ไม่เลย การเปลี่ยนสถานที่กินข้าว ไม่ได้ช่วยให้เรารู้สึกว่า นี่คือที่ของเราเหมือนกัน ก้ไม่ได้ดีขึ้นนี่นาเท๊อ ก้เลยไปกินร้านเดิม ก็เลยเกิดความรู้สึกเดิมๆ สรุปคือ เรามีความรู้สึกถึงความไม่เข้าพวกเพราะใช้ฐานะเป็นตัวกำหนด
คราวนี้ที่ถามว่า เอะ ถ้าอย่างนั้น เราทำยังไงดีนะ ให้ความรู้สึกนั้นหายไป เปลี่ยนทัศนคติของเราหรอ ละมันต้องทำยังไง อธิบายเป็นรูปธรรมที เอางี้เนาะ ลองถามตัวเองก่อนว่า หากตัดเรื่องฐานะไปได้แล้ว เรามองคนรอบๆข้างเป็นเพื่อนเราได้มั้ย ถ้าได้ งั้นแอบลองมั้ย ลองไปขอนั่งกับพนักงานเซเว่น ชวนคุยเล็กน้อย ด้วยบทสนทนาทั่วๆไป เช่น โหว ร้านนี้เค้าขายดีเนาะ ผมมากินนี่คนเยอะทุกวันเลย รึไม่ลองยิ้มให้เจ้าของร้าน หรือแบบคุยกับคุณป้า ว่า ขายดีเนาะป้า ผมชอบกินกะเพราป้ามาก อะไรแบบนี้ พูดให้เหมือนกับคุยเพื่อสร้างสัมพันธภาพที่ดี ไม่ต้องเยอะเกินไป เราว่า มันเหมือนคุณได้ ออกจาก safe zone ตัวเองด้วยส่วนหนึ่ง การได้สร้าง relationship เราว่ามันเป็นสิ่งที่ทำให้เราได้ลดช่องว่างเล็กๆระหว่างเราและเค้าที่คุณสร้างขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวจากความแตกต่างทางสังคม จนทำให้เกิดความรู้สึกแปลกก้ได้นะ
จริงๆเราทุกคนก้อยากกินข้าวอร่อยๆ สะดวกๆ เหมือนกันแหละ ไม่ต้องกังวลไปนะ ความรู้สึกไม่แปลก ไม่ผิด แค่เราทำความเข้าใจมันให้ได้ จิตใจเราก็จะเป็นสุขแล้ว สู้ๆนะคุณ จขกท
ก่อนอื่นเลยขอชื่นชม จขกท ที่กล้าจะถามและอยากจะหาคำตอบในสิ่งที่ค้างคาใจ ดูจะเป็นสิ่งเล็กๆเนาะ แต่เราว่า คงเป็นความรู้สึกที่ดูจะค้างคา และรบกวนจิตใจคุณ อยากจะไขมันออก หาให้เจอซักทีว่าตัวเองเป็นอะไร ทั้งๆที่อาจจะรู้อยู่แล้ว ว่าคงมีทั้งกระแสที่บวกและลบตามมา
สิ่งที่คุณต้องการในวันนี้อยากจะอธิบายความรู้สึกและแปลงมันให้กลายเป็นพลังด้านบวกใช่มั้ยคะ
เราก้แอบลองๆ สมมติดูว่าเราเปน จขกท ดู ความรู้สึกเราคือ เรารู้สึกว่าเรา’แตกต่าง’ แสงสะท้อนของการ์ดใบนั้นของเรา กับยูนิฟอร์มของคนที่มากินข้าว ที่ จขกท เข้าใจว่าเป็นพนักงานแถวนั้น ทำให้คิดว่า นี่คือที่ของเราจริงๆหรอ ก้เลยลองเปลี่ยนไปกินร้านที่ดูจะสมฐานะมากกว่า แต่ปรากฎว่า ไม่เลย การเปลี่ยนสถานที่กินข้าว ไม่ได้ช่วยให้เรารู้สึกว่า นี่คือที่ของเราเหมือนกัน ก้ไม่ได้ดีขึ้นนี่นาเท๊อ ก้เลยไปกินร้านเดิม ก็เลยเกิดความรู้สึกเดิมๆ สรุปคือ เรามีความรู้สึกถึงความไม่เข้าพวกเพราะใช้ฐานะเป็นตัวกำหนด
คราวนี้ที่ถามว่า เอะ ถ้าอย่างนั้น เราทำยังไงดีนะ ให้ความรู้สึกนั้นหายไป เปลี่ยนทัศนคติของเราหรอ ละมันต้องทำยังไง อธิบายเป็นรูปธรรมที เอางี้เนาะ ลองถามตัวเองก่อนว่า หากตัดเรื่องฐานะไปได้แล้ว เรามองคนรอบๆข้างเป็นเพื่อนเราได้มั้ย ถ้าได้ งั้นแอบลองมั้ย ลองไปขอนั่งกับพนักงานเซเว่น ชวนคุยเล็กน้อย ด้วยบทสนทนาทั่วๆไป เช่น โหว ร้านนี้เค้าขายดีเนาะ ผมมากินนี่คนเยอะทุกวันเลย รึไม่ลองยิ้มให้เจ้าของร้าน หรือแบบคุยกับคุณป้า ว่า ขายดีเนาะป้า ผมชอบกินกะเพราป้ามาก อะไรแบบนี้ พูดให้เหมือนกับคุยเพื่อสร้างสัมพันธภาพที่ดี ไม่ต้องเยอะเกินไป เราว่า มันเหมือนคุณได้ ออกจาก safe zone ตัวเองด้วยส่วนหนึ่ง การได้สร้าง relationship เราว่ามันเป็นสิ่งที่ทำให้เราได้ลดช่องว่างเล็กๆระหว่างเราและเค้าที่คุณสร้างขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวจากความแตกต่างทางสังคม จนทำให้เกิดความรู้สึกแปลกก้ได้นะ
จริงๆเราทุกคนก้อยากกินข้าวอร่อยๆ สะดวกๆ เหมือนกันแหละ ไม่ต้องกังวลไปนะ ความรู้สึกไม่แปลก ไม่ผิด แค่เราทำความเข้าใจมันให้ได้ จิตใจเราก็จะเป็นสุขแล้ว สู้ๆนะคุณ จขกท
แสดงความคิดเห็น
ผมรายได้หลักแสน+นั่งกินร้านตามสั่งริมทาง(ทุกวัน) /พนักงานเซเว่นได้ ชมละ40บ ก็นั่งกินร้านเดียวกัน/ผมรู้สึกมีบางอย่างแปลกๆ
กลุ่มคนที่มากินก็จะเป็นแม่ค้า,taxi , messenger , พนักงาน part time และคนรอรถเมล์
เมื่อเย็นวันก่อนก็เป็นเหมือนที่ผ่านมาทุกวัน ผมเดินไปจ่ายค่าผัดกะเพราะไข่ดาว 45 บาท
น้องพนักงานเซเว่นจ่ายก่อนหน้าผมให้ แบงค์100 ป้าคนทำกับข้าวก็ทอน 55บาท
พอถึงคิวผม ผมก็หยิบกระเป๋าตังผมขึ้นมา เห็นบัตร prime สีส้มสะท้อนเด่น
ละผมก็ควักแบงค์100 ให้ ป้าคนทำกับข้าวก็ทอน 55บาท
ละก็ไปตักน้ำแข็งในกระติกฟรีมาดื่ม
ผมรู้สึกมีบางอย่างแปลกๆ แต่ผมก็บอกไม่ถูกว่าอะไรทำให้รู้สึกแปลก
มันไม่ใช่ความรู้สึกดูถูกคนอื่นๆ(ไม่มีเลย) ไม่ใช่ความรู้สึกว่าตัวเองรวย ประสบความสำเร็จ
ในขณะเดียวกันก็ไม่ใช่ความรู้สึกว่าตัวเองขี้งก
มันเป็นความรู้สึก"แปลกๆ" ที่ทำให้ผมเหมือนจะ depress ด้วยซ้ำ
วันนี้เพื่ออยากลบความรู้สึกแปลกๆนั้น ผมก็ลองเข้าร้านห้องแอร์ใกล้ๆกัน
สั่ง Health food เซตละ 159 / พร้อมน้ำปั่น ราคา 59
หลังกินเสร็จจ่ายเงิน ผมก็รู้สึกว่ามันไม่ได้ทำให้อรรถประโยชน์ Marginal Utility
ของ ผมสูงขึ้น , วันนี้ผมก็คงกลับไปกินร้านตามสั่งร้านเดิม
จากเรื่องนี้ผมควร imply ยังไงต่อดี ให้ตัวเองไม่รู้สึกแปลกๆ
- ผมผิดปรกติ ควรเปลี่ยน mind set ตัวเองใหม่
- ผมปรกติ มีเงินคือมีสิทธิ์ในการเลือกด้วย range ที่กว้างขึ้น
แต่ไม่จำเป็นต้องเลือกสิ่งที่อยู่บนๆ
- ผมเข้าถึงสัจธรรมชีวิตสมควรไปบวชซักพรรษา
ผมไม่รู้ว่าควรลบความรู้สึกแปลกๆนี้ยังไงดี
ป.ล. ผมยังไม่ถึงช่วงอายุที่จะแตะ middle age crisis
Tag มนุษย์เงินเดือน / เจ้าของธุรกิจ เพราะผมเป็นทั้งสอง