ทักทายเพื่อนๆ ชาว Pantip ก่อนเลยนะคะ ที่ผ่านมาได้แต่แอบส่อง วันนี้เลยยืม ID น้องมาแชร์ประสบการณ์การเที่ยวยุโรป 11 วัน เผื่อจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังจะวางแพลนเที่ยว หรือหาแรงบันดาลใจในการเดินทางนะคะ (ผิดพลาดเรื่องไหน ท้วงติงกันได้เลยนะคะ)
ต้องออกตัวก่อนเลยนะคะ ว่านี่เป็นทริปแรกของเราที่ออกนอกประเทศแบบไม่พึ่งทัวร์ จัดการเตรียมเอกสาร และแผนการเดินทางเอง ภาษาอังกฤษก็ไม่ใช่ขั้นเทพ แต่สื่อสารเอาตัวรอดได้ ฉะนั้น ใครที่ภาษาไม่แข็งแรงอย่าพึ่งท้อถอยกับการเดินทางนะคะ
จุดมุ่งหมายเดิมในครั้งนี้คือ สเปน เช็ก ออสเตรียและฮังการี แต่ด้วยเวลาที่กระชั้นมาก เราเลยต้องตัดฮังการีออกทั้งน้ำตา เลยเหลือแค่ 3 ประเทศ เราเข้าสเปนเป็นประเทศแรกและอยู่สเปนนานที่สุด คือ 3 คืน เลยขอ Schengen Visa ของสเปน เอกสารที่ต้องเตรียมไปในการขอวีซ่าคือ
1.แบบฟอร์ม check list ดาวน์โหลดได้จากเว็บ (ใบนี้จะบอกว่าเราต้องเตรียมอะไรไปยื่นบ้าง)
2.Passport พร้อมสำเนาหน้าแรก
3.รูปถ่าย พื้นหลังเป็นสีขาว (ขนาดดูได้ในเว็บนะคะ)
4.แบบฟอร์มกรอกข้อมูล โหลดได้จากเว็บ
5.ข้อมูลทางการเงิน สเตทเมนท์ย้อนหลัง 6 เดือน (บัญชีออมทรัพย์ที่มีการเคลื่อนไหว) + หนังสือรับรองบัญชีธนาคาร ของเรายื่น 2 บัญชี เป็นบัญชีทางธุรกิจที่มีการเคลื่อนไหวตลอด กับอีกบัญชีเป็นบัญชีออมทรัพย์ที่เป็นเงินเก็บ เคลื่อนไหวเป็นช่วง (อย่าลืมเปลี่ยนค่าเงินเป็นยูโรนะคะ)
6.หนังสือรับรองการทำงาน (ในกรณีที่เป็นข้าราชการหรือพนักงานบริษัท ให้หน่วยงานออกให้ ว่าเราทำงานที่ไหน เงินเดือนเท่าไหร่...)
7.ใบทะเบียนการค้าหรือหนังสือรับรองบริษัท (สำคัญคนทำธุรกิจการค้า)
8.แผนการเดินทาง (ทำแบบคร่าวๆ ก่อนได้ค่ะ ให้พอรู้ว่าเราจะไปไหน ไปยังไง...แต่ถ้าจะทำแบบละเอียดสำหรับใช้งานจริงเลยก็ได้ค่ะ)
9.ใบจองที่พัก (ตอนทำการจองให้แจ้งที่พักด้วยนะคะ ว่าให้มีชื่อเราในใบจองด้วย ถ้าจะให้ดี ให้จองโรงแรมที่มีการยกเลิกได้นะคะ เผื่อมีเหตุที่พักตามที่จองไม่ได้)
10.ใบจองตั๋วเครื่องบิน
11.ประกันการเดินทาง ดูวงเงินด้วยนะคะว่าเค้าใช้ประกันกี่ล้านบาท (ของเราใช้ของซิกน่า 6 ร้อยกว่าบาท ประกันล้าน 5) กดเข้าไปที่เว็บ กรอกข้อมูล จ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตก็เรียบร้อยแล้วค่ะ
12.ใบแนะนำตัว (เขียนชื่อ เลขที่ Passport เขียนยังไงก็ได้ค่ะ ให้เค้าเชื่อว่าเรามีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง มีการงานทำ และจะไม่ไปทำมาหากินบ้านเค้า เราต้องกลับมาที่บ้านเราแน่นอน)
13.สำหรับคนที่สเตทเมนท์เสี่ยงวีซ่าไม่ผ่าน ให้มีสปอนเซอร์ เป็นพ่อแม่ (ประมาณว่า เราใช้เงินพ่อแม่เที่ยว โดยต้องมีข้อมูลของคนเป็นสปอนเซอร์แนบมาด้วย อันนี้ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมนะคะ)
*เอกสารทั้งหมดต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษนะคะ (แปลเองรับรองเองได้เลยค่ะ เราก็ทำเองหมด ไม่ต้องจ้างแปลผ่านละหลายร้อยนะคะ)
**เรามีแบบที่แปลไว้แล้ว ใครขี้เกียดแปลใหม่ หลังไมค์มาได้นะคะ เดี๋ยวส่งให้
เช็คดูเอกสารที่ต้องยื่นให้ดีอีกรอบนะคะ และเข้าไปทำนัดหมายที่เว็บ ไปตามนัดแล้วยื่นเอกสารได้เลยค่ะ (เป็นบริษัทตัวแทนของสถานฑูต เรียกถูกรึเปล่าไม่รู้) ขั้นตอนการตรวจเอกสารเร็วมากค่ะ (ขอให้ไปตามนัดนะคะ) ตรวจเอกสารเสร็จ เค้าจะเรียกเราเข้าไปสแกนนิ้ว 10 นิ้ว + ถ่ายรูป เป็นอันเสร็จ จ่ายเงิน 2900 บาท ของเรารอผล 1 อาทิตย์ (รวมวันเสาร์อาทิตย์) ก็ไปรับ Passport กลับหรือให้ส่งไปรษณีย์ได้เลยค่ะ
เมื่อวีซ่าผ่านแล้ว เราก็กลับมาคอนเฟิร์มตั๋วเครื่องบิน ที่พัก รถ(เราขับรถเที่ยวเอง) ให้เรียบร้อยนะคะ
1.ตั๋วเครื่องบิน - เราไปค่อนข้างกระชั้นมาก ค่าตั๋วเลยแพงมาก จากกรุงเทพฯ เราไปต่อเครื่องที่มอสโคว แล้วไปลงที่บาร์เซโลน่า 18,122 บาท >> ค่าตั๋วจากบาร์เซโลน่า ไปปราก (เช็ก) 2195 บาท >> และตั๋วกลับจากเวียนนา (ออสเตรีย) มากรุงเทพฯ 16,179 บาท
(เราเคยเห็นคนรีวิวเที่ยวยุโรปด้วยตั๋วเครื่องบินหมื่นกว่าบาท ลองดูนะคะ จะลดค่าใช้จ่ายลงเยอะมากเลย)
2.ที่พัก - เราจองผ่าน Booking.com เลือกที่พักได้ตามความต้องการของตัวเองเลยค่ะ มีตั้งแต่ 500- หลายพันบาท (ถ้าขับรถเที่ยว ดูเรื่องที่พักด้วยนะคะ ว่ามีที่จอดรถมั้ย ถ้ามี ต้องเสียค่าจอดมั้ย ในตัวปรากกับเวียนนา มีที่จอดให้แต่เราเสียค่าจอดไปวันละ 1000 แพงเอาเรื่องเลยค่ะ)
3.รถ - เราใช้รถของ Skoda (น่าจะเขียนงี้นะ) 396 ยูโร 7 วัน (15840 บาท) ขนาดพอๆ กับ yaris บ้านเรา ขับสบาย เครื่องดี ระบบข้างในดี ... ที่สำคัญ อย่าลืมทำใบขับขี่สากลนะคะ (เอกสารที่ต้องใช้คือ สำเนา Passport สำเนาใบขับขี่ สำเนาบัตรประชาชน รูป 2 นิ้ว เงิน 505 บาท ยื่นเอกสารแล้วรอประมาณ 1 ชั่วโมงก็ได้แล้วค่ะ)
การเตรียมเสื้อผ้าและกระเป๋าเดินทาง เช็คอุณหภูมิให้ดีนะคะ ว่ากี่องศา เราทดสอบใส่ Heattect และ Extra warm ของ Uniqlo (ผ้าบางเป็นเสื้อซับในเลยค่ะ) ยืนนอกอาคาร
-Heattect อุณหภูมิ 16 องศา เราใส่ตัวเดียวเอาอยู่ค่ะ
-Extra warm 0 องศา (มีลม) เราใส่ได้ 10 นาที ต้องวิ่งหาสเว็ตเตอร์ใส่แทบไม่ทันเลยค่ะ
ในส่วนแล็กกิ้ง หรือลองจอห์น (หนากว่าของ UniQlo อึดอัดด้วย เราเลยไม่ค่อยชอบ) ข้างในให้บุขนด้วยนะคะ จะได้อุ่น ส่วนที่สำคัญมากคือ คอ มือและเท้านะคะ สามจุดนี้อุ่น ทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดีค่ะ
กระเป็าเดินทาง เราใช้กระเป๋าใบเล็ก ขนาดประมาณ 20 นิ้ว ที่หิ้วขึ้นเครื่องได้ (เป็นกระเป๋าลากได้นะคะ) เรามีต่อเครื่อง กลัวกระเป๋าตกหล่นเลยหิ้วไปด้วย แต่ในกระเป๋า เราเอากระเป๋าแบบพับได้แล้วเหลือเท่าขนาดครึ่ง A4 ไปด้วย (เอาไว้ใส่ของกลับมา) อย่าลืมเช็คน้ำหนักด้วยนะคะ ว่าเอาขึ้นได้กี่กิโล (ของเรา 10)
ของเหลว ครีมต่างๆ เอาขึ้นเครื่องได้ ขนาดแต่ละขวด ไม่เกิน 100 มิล รวมกันแล้วไม่เกิน 1000 มิล (จะเอาไปกี่ขวดกี่ตลับก็ได้ค่ะ แต่ต้องไม่เกิน 1000 มิล) ใส่ขวดทั้งหมดไว้ในถุงซิบล็อก ขนาดประมาณ 20*20 cm ของมีคมและวัตถุไวไฟ เอาขึ้นไม่ได้นะคะ
เสร็จสิ้นขั้นตอนการเตรียมตัวแล้วจร้าาาา ที่เหลือก็... ทูบีคอนทินิวเลยยย
***การเดินทางทั้งหมดในทริปนี้ เราพึ่ง Google map และกล้องจาก Iphone นะคะ (ภาพอาจจะไม่ค่อยสวย เราถ่ายรูปไม่เก่ง เราลงภาพไม่ละเอียดนะ ลงเยอะๆ เดี๋ยวจะรำคาญกันซะก่อน
)
เดินทางวันที่ 17 พ.ย. 60 เราซื้อซิมของ AIS 899 บาท เน็ต 4 GB เปลี่ยนตอนอยู่บนเครื่องระหว่างไปมอสโคว (สัญญาณดีทุกประเทศ VDO Call ไม่สะดุดเลย) โดยสายการบิน AEROFLOT เดินทางยาว 9 ชม. เสิร์ฟอาหาร 2 ครั้ง ลงมอสโควต่อเครื่องไปบาร์เซโลน่าอีกประมาณ 4 ชม.
มาถึงบาร์เซโลน่า เข้าที่พักตอนตี 2 วัยรุ่นวัยทำงานยังนั่งเล่น ยืนคุยตามสวน ตามบาร์กันเต็มไปหมด (รูปถนนหน้าที่พักตอนตี 2)
ที่พักในสเปน (3172 บาท/ 3 คืน)
ภายในเมือง ระหว่างทางไปที่ sagrada familia เราก็เจอประตูชัย
แล้วก็เดินต่อไป
ถึงแล้ววววว...sa grada familia สถานที่จริงยิ่งใหญ่ สวยกว่าในรูปมากกกก
เดินข้ามมาฝั่งตรงข้าม จะมีร้านขายอาหารอยู่ คนค่อนข้างเยอะ อาหารรสชาตไม่ค่อยถูกปากเราเท่าไหร่ ราคาอาหารอยู่ที่ประมาณ 12-20 ยูโร (480-800 บาท/จาน)
อันนี้ดี โค้กใส่เลม่อน
ออกจากร้านอาหาร เดินไปเรื่อยๆ เจอร้านขนม 2-3 ยูโร (80-120 บาท)
ตึกนี้เราไม่รู้ว่าคืออะไร แต่คนยืนถ่ายรูปกันเยอะมาก
เดินถัดมาอีกหน่อย จะเจอตลาด ขายของแห้งของสด ของท้องถิ่น
เดินออกจากตลาด ตรงมาทางท่าเรือ จะเจออนุสาวรีย์โคลัมบัส
ข้ามจากอนุสาวรีย์แล้วจะเจอท่าเรือ และอควาเรียมที่พรุ่งนี้เราจะมาดูกัน
รถที่ยุโรปจะคล้ายๆ กันเลย จะขับเร็วมาก แม้แต่ในตัวเมือง เวลาโค้งนี่แทบจะไม่เบรก ฝ่าไฟแดงเราก็ยังไม่เห็น
ในส่วนของทางม้าลายที่ไม่มีสัญญาณไฟ รถจะหยุดให้คนเดินข้ามเสมอ ช่วงแรกๆ เราอาจไม่ชิน เพราะบ้านเราต่อให้ข้ามไปแล้ว ก็โดนชนได้
มาเจอท่าเรือ แวะซื้อน้ำ 2.8 ยูโร (112 บาท) ก่อนเดินกลับที่พัก
เช้าวันใหม่ วันนี้เปลี่ยนเส้นทาง หามื้อเช้ากิน
เจอคาเฟ่ท้องถิ่น ชุดนี้ 6.6 ยูโร (264 บาท) ช็อคโกแลตร้อนอร่อยมาก
อิ่มแล้ว เดินต่อไปอควาเรียม คนละ 20 ยูโร (800 บาท) ปลาอาจจะมีหลายประเภท แต่เรารู้สึกไม่คุ้มเลย
ให้อาหารปลาคาฟขวดละ 4 ยูโร (160 บาท) นี่คิดถึงปลาคาฟวัดไร่ขิงเลย ขวดละ 20 บาท
ออกจากอควาเรียมมากินบุฟเฟเพื่อสุขภาพ เดินเล่นต่ออีกครึ่งวัน ก่อนจะกลับที่พัก แพ็คกระเป๋า เตรียมเดินทางต่อไป ปราก (เช็ก)
เที่ยวยุโรป 11 วัน ตั้งแต่ต้นจนจบ (เดิน นั่งรถราง ขับรถ) Barcelona-prague-Cesky Krumlov-Gosau-Hallstatt-Vienna
ต้องออกตัวก่อนเลยนะคะ ว่านี่เป็นทริปแรกของเราที่ออกนอกประเทศแบบไม่พึ่งทัวร์ จัดการเตรียมเอกสาร และแผนการเดินทางเอง ภาษาอังกฤษก็ไม่ใช่ขั้นเทพ แต่สื่อสารเอาตัวรอดได้ ฉะนั้น ใครที่ภาษาไม่แข็งแรงอย่าพึ่งท้อถอยกับการเดินทางนะคะ
จุดมุ่งหมายเดิมในครั้งนี้คือ สเปน เช็ก ออสเตรียและฮังการี แต่ด้วยเวลาที่กระชั้นมาก เราเลยต้องตัดฮังการีออกทั้งน้ำตา เลยเหลือแค่ 3 ประเทศ เราเข้าสเปนเป็นประเทศแรกและอยู่สเปนนานที่สุด คือ 3 คืน เลยขอ Schengen Visa ของสเปน เอกสารที่ต้องเตรียมไปในการขอวีซ่าคือ
1.แบบฟอร์ม check list ดาวน์โหลดได้จากเว็บ (ใบนี้จะบอกว่าเราต้องเตรียมอะไรไปยื่นบ้าง)
2.Passport พร้อมสำเนาหน้าแรก
3.รูปถ่าย พื้นหลังเป็นสีขาว (ขนาดดูได้ในเว็บนะคะ)
4.แบบฟอร์มกรอกข้อมูล โหลดได้จากเว็บ
5.ข้อมูลทางการเงิน สเตทเมนท์ย้อนหลัง 6 เดือน (บัญชีออมทรัพย์ที่มีการเคลื่อนไหว) + หนังสือรับรองบัญชีธนาคาร ของเรายื่น 2 บัญชี เป็นบัญชีทางธุรกิจที่มีการเคลื่อนไหวตลอด กับอีกบัญชีเป็นบัญชีออมทรัพย์ที่เป็นเงินเก็บ เคลื่อนไหวเป็นช่วง (อย่าลืมเปลี่ยนค่าเงินเป็นยูโรนะคะ)
6.หนังสือรับรองการทำงาน (ในกรณีที่เป็นข้าราชการหรือพนักงานบริษัท ให้หน่วยงานออกให้ ว่าเราทำงานที่ไหน เงินเดือนเท่าไหร่...)
7.ใบทะเบียนการค้าหรือหนังสือรับรองบริษัท (สำคัญคนทำธุรกิจการค้า)
8.แผนการเดินทาง (ทำแบบคร่าวๆ ก่อนได้ค่ะ ให้พอรู้ว่าเราจะไปไหน ไปยังไง...แต่ถ้าจะทำแบบละเอียดสำหรับใช้งานจริงเลยก็ได้ค่ะ)
9.ใบจองที่พัก (ตอนทำการจองให้แจ้งที่พักด้วยนะคะ ว่าให้มีชื่อเราในใบจองด้วย ถ้าจะให้ดี ให้จองโรงแรมที่มีการยกเลิกได้นะคะ เผื่อมีเหตุที่พักตามที่จองไม่ได้)
10.ใบจองตั๋วเครื่องบิน
11.ประกันการเดินทาง ดูวงเงินด้วยนะคะว่าเค้าใช้ประกันกี่ล้านบาท (ของเราใช้ของซิกน่า 6 ร้อยกว่าบาท ประกันล้าน 5) กดเข้าไปที่เว็บ กรอกข้อมูล จ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตก็เรียบร้อยแล้วค่ะ
12.ใบแนะนำตัว (เขียนชื่อ เลขที่ Passport เขียนยังไงก็ได้ค่ะ ให้เค้าเชื่อว่าเรามีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง มีการงานทำ และจะไม่ไปทำมาหากินบ้านเค้า เราต้องกลับมาที่บ้านเราแน่นอน)
13.สำหรับคนที่สเตทเมนท์เสี่ยงวีซ่าไม่ผ่าน ให้มีสปอนเซอร์ เป็นพ่อแม่ (ประมาณว่า เราใช้เงินพ่อแม่เที่ยว โดยต้องมีข้อมูลของคนเป็นสปอนเซอร์แนบมาด้วย อันนี้ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมนะคะ)
*เอกสารทั้งหมดต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษนะคะ (แปลเองรับรองเองได้เลยค่ะ เราก็ทำเองหมด ไม่ต้องจ้างแปลผ่านละหลายร้อยนะคะ)
**เรามีแบบที่แปลไว้แล้ว ใครขี้เกียดแปลใหม่ หลังไมค์มาได้นะคะ เดี๋ยวส่งให้
เช็คดูเอกสารที่ต้องยื่นให้ดีอีกรอบนะคะ และเข้าไปทำนัดหมายที่เว็บ ไปตามนัดแล้วยื่นเอกสารได้เลยค่ะ (เป็นบริษัทตัวแทนของสถานฑูต เรียกถูกรึเปล่าไม่รู้) ขั้นตอนการตรวจเอกสารเร็วมากค่ะ (ขอให้ไปตามนัดนะคะ) ตรวจเอกสารเสร็จ เค้าจะเรียกเราเข้าไปสแกนนิ้ว 10 นิ้ว + ถ่ายรูป เป็นอันเสร็จ จ่ายเงิน 2900 บาท ของเรารอผล 1 อาทิตย์ (รวมวันเสาร์อาทิตย์) ก็ไปรับ Passport กลับหรือให้ส่งไปรษณีย์ได้เลยค่ะ
เมื่อวีซ่าผ่านแล้ว เราก็กลับมาคอนเฟิร์มตั๋วเครื่องบิน ที่พัก รถ(เราขับรถเที่ยวเอง) ให้เรียบร้อยนะคะ
1.ตั๋วเครื่องบิน - เราไปค่อนข้างกระชั้นมาก ค่าตั๋วเลยแพงมาก จากกรุงเทพฯ เราไปต่อเครื่องที่มอสโคว แล้วไปลงที่บาร์เซโลน่า 18,122 บาท >> ค่าตั๋วจากบาร์เซโลน่า ไปปราก (เช็ก) 2195 บาท >> และตั๋วกลับจากเวียนนา (ออสเตรีย) มากรุงเทพฯ 16,179 บาท
(เราเคยเห็นคนรีวิวเที่ยวยุโรปด้วยตั๋วเครื่องบินหมื่นกว่าบาท ลองดูนะคะ จะลดค่าใช้จ่ายลงเยอะมากเลย)
2.ที่พัก - เราจองผ่าน Booking.com เลือกที่พักได้ตามความต้องการของตัวเองเลยค่ะ มีตั้งแต่ 500- หลายพันบาท (ถ้าขับรถเที่ยว ดูเรื่องที่พักด้วยนะคะ ว่ามีที่จอดรถมั้ย ถ้ามี ต้องเสียค่าจอดมั้ย ในตัวปรากกับเวียนนา มีที่จอดให้แต่เราเสียค่าจอดไปวันละ 1000 แพงเอาเรื่องเลยค่ะ)
3.รถ - เราใช้รถของ Skoda (น่าจะเขียนงี้นะ) 396 ยูโร 7 วัน (15840 บาท) ขนาดพอๆ กับ yaris บ้านเรา ขับสบาย เครื่องดี ระบบข้างในดี ... ที่สำคัญ อย่าลืมทำใบขับขี่สากลนะคะ (เอกสารที่ต้องใช้คือ สำเนา Passport สำเนาใบขับขี่ สำเนาบัตรประชาชน รูป 2 นิ้ว เงิน 505 บาท ยื่นเอกสารแล้วรอประมาณ 1 ชั่วโมงก็ได้แล้วค่ะ)
การเตรียมเสื้อผ้าและกระเป๋าเดินทาง เช็คอุณหภูมิให้ดีนะคะ ว่ากี่องศา เราทดสอบใส่ Heattect และ Extra warm ของ Uniqlo (ผ้าบางเป็นเสื้อซับในเลยค่ะ) ยืนนอกอาคาร
-Heattect อุณหภูมิ 16 องศา เราใส่ตัวเดียวเอาอยู่ค่ะ
-Extra warm 0 องศา (มีลม) เราใส่ได้ 10 นาที ต้องวิ่งหาสเว็ตเตอร์ใส่แทบไม่ทันเลยค่ะ
ในส่วนแล็กกิ้ง หรือลองจอห์น (หนากว่าของ UniQlo อึดอัดด้วย เราเลยไม่ค่อยชอบ) ข้างในให้บุขนด้วยนะคะ จะได้อุ่น ส่วนที่สำคัญมากคือ คอ มือและเท้านะคะ สามจุดนี้อุ่น ทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดีค่ะ
กระเป็าเดินทาง เราใช้กระเป๋าใบเล็ก ขนาดประมาณ 20 นิ้ว ที่หิ้วขึ้นเครื่องได้ (เป็นกระเป๋าลากได้นะคะ) เรามีต่อเครื่อง กลัวกระเป๋าตกหล่นเลยหิ้วไปด้วย แต่ในกระเป๋า เราเอากระเป๋าแบบพับได้แล้วเหลือเท่าขนาดครึ่ง A4 ไปด้วย (เอาไว้ใส่ของกลับมา) อย่าลืมเช็คน้ำหนักด้วยนะคะ ว่าเอาขึ้นได้กี่กิโล (ของเรา 10)
ของเหลว ครีมต่างๆ เอาขึ้นเครื่องได้ ขนาดแต่ละขวด ไม่เกิน 100 มิล รวมกันแล้วไม่เกิน 1000 มิล (จะเอาไปกี่ขวดกี่ตลับก็ได้ค่ะ แต่ต้องไม่เกิน 1000 มิล) ใส่ขวดทั้งหมดไว้ในถุงซิบล็อก ขนาดประมาณ 20*20 cm ของมีคมและวัตถุไวไฟ เอาขึ้นไม่ได้นะคะ
เสร็จสิ้นขั้นตอนการเตรียมตัวแล้วจร้าาาา ที่เหลือก็... ทูบีคอนทินิวเลยยย
***การเดินทางทั้งหมดในทริปนี้ เราพึ่ง Google map และกล้องจาก Iphone นะคะ (ภาพอาจจะไม่ค่อยสวย เราถ่ายรูปไม่เก่ง เราลงภาพไม่ละเอียดนะ ลงเยอะๆ เดี๋ยวจะรำคาญกันซะก่อน
เดินทางวันที่ 17 พ.ย. 60 เราซื้อซิมของ AIS 899 บาท เน็ต 4 GB เปลี่ยนตอนอยู่บนเครื่องระหว่างไปมอสโคว (สัญญาณดีทุกประเทศ VDO Call ไม่สะดุดเลย) โดยสายการบิน AEROFLOT เดินทางยาว 9 ชม. เสิร์ฟอาหาร 2 ครั้ง ลงมอสโควต่อเครื่องไปบาร์เซโลน่าอีกประมาณ 4 ชม.
มาถึงบาร์เซโลน่า เข้าที่พักตอนตี 2 วัยรุ่นวัยทำงานยังนั่งเล่น ยืนคุยตามสวน ตามบาร์กันเต็มไปหมด (รูปถนนหน้าที่พักตอนตี 2)
ที่พักในสเปน (3172 บาท/ 3 คืน)
ภายในเมือง ระหว่างทางไปที่ sagrada familia เราก็เจอประตูชัย
แล้วก็เดินต่อไป
ถึงแล้ววววว...sa grada familia สถานที่จริงยิ่งใหญ่ สวยกว่าในรูปมากกกก
เดินข้ามมาฝั่งตรงข้าม จะมีร้านขายอาหารอยู่ คนค่อนข้างเยอะ อาหารรสชาตไม่ค่อยถูกปากเราเท่าไหร่ ราคาอาหารอยู่ที่ประมาณ 12-20 ยูโร (480-800 บาท/จาน)
อันนี้ดี โค้กใส่เลม่อน
ออกจากร้านอาหาร เดินไปเรื่อยๆ เจอร้านขนม 2-3 ยูโร (80-120 บาท)
ตึกนี้เราไม่รู้ว่าคืออะไร แต่คนยืนถ่ายรูปกันเยอะมาก
เดินถัดมาอีกหน่อย จะเจอตลาด ขายของแห้งของสด ของท้องถิ่น
เดินออกจากตลาด ตรงมาทางท่าเรือ จะเจออนุสาวรีย์โคลัมบัส
ข้ามจากอนุสาวรีย์แล้วจะเจอท่าเรือ และอควาเรียมที่พรุ่งนี้เราจะมาดูกัน
รถที่ยุโรปจะคล้ายๆ กันเลย จะขับเร็วมาก แม้แต่ในตัวเมือง เวลาโค้งนี่แทบจะไม่เบรก ฝ่าไฟแดงเราก็ยังไม่เห็น
ในส่วนของทางม้าลายที่ไม่มีสัญญาณไฟ รถจะหยุดให้คนเดินข้ามเสมอ ช่วงแรกๆ เราอาจไม่ชิน เพราะบ้านเราต่อให้ข้ามไปแล้ว ก็โดนชนได้
มาเจอท่าเรือ แวะซื้อน้ำ 2.8 ยูโร (112 บาท) ก่อนเดินกลับที่พัก
เช้าวันใหม่ วันนี้เปลี่ยนเส้นทาง หามื้อเช้ากิน
เจอคาเฟ่ท้องถิ่น ชุดนี้ 6.6 ยูโร (264 บาท) ช็อคโกแลตร้อนอร่อยมาก
อิ่มแล้ว เดินต่อไปอควาเรียม คนละ 20 ยูโร (800 บาท) ปลาอาจจะมีหลายประเภท แต่เรารู้สึกไม่คุ้มเลย
ให้อาหารปลาคาฟขวดละ 4 ยูโร (160 บาท) นี่คิดถึงปลาคาฟวัดไร่ขิงเลย ขวดละ 20 บาท
ออกจากอควาเรียมมากินบุฟเฟเพื่อสุขภาพ เดินเล่นต่ออีกครึ่งวัน ก่อนจะกลับที่พัก แพ็คกระเป๋า เตรียมเดินทางต่อไป ปราก (เช็ก)