เริ่มและนะ 555 ทริปนี้เราไปกับคุณแฟนค่ะ นานๆ..จะได้เจอกันที
เลยออกจะอยากให้ทริปนี้พิเศษ และสะหวีวี่วีนิดหน่อย เลยมีความคิดที่อยากจะนอนแบบเรียวกัง แช่ private onsen ชมฟูจิไรงี้ คิดอยู่นานว่าจะไปเมืองไหนที่มันแบบไม่ไกลจากโตเกียว แล้วก็มีสถานที่ท่องเที่ยวได้ภายใน 1-2 วัน เราก็เสนอคาวากูชิโกะ (Kawaguchiko)ไป...ก็ไม่ผ่านค้าา คุณผู้ชายท่านหาว่ามีแค่ฟูจิ นางเลยหาข้อมูลเองอะไรเองเลยสรุปเองได้ว่า ไป ฮาโกเน่ (Hakone) กันดีกว่า มี onsen มีฟูจิ แถมยังมีทุ่งดอกหญ้าไปอี๊กกก ครบจ้า !!!!!
การไป Hakone จากโตเกียวนี้ก็เหมือนรีวิวอื่นๆ เราใช้ Hakone Free Pass ตลอดทริป นั่งรถไฟ Odakyo จาก Shinjuku ไปลงที่สถานี Hakone Yumoto ถ้าเพิ่มเงิน 890 เยนก็ถึงเลย มีที่นั่งพร้อม ถ้าไม่เพิ่มก็ต้องเปลี่ยนหนึ่งครั้งที่ สถานี Odawara (ขาไปเราไม่เพิ่ม ขากลับไม่ไหวฟ้ามืดแล้ว เหนื่อยด้วย ขอเพิ่มดีกว่า)
ที่พักที่จะนำเสนอนี้มีชื่อว่า
Hakone Suimeisou Hotel ซึ่ง location ของนางนั้นอยู่ใกล้สถานี Hakone Yumoto มากกกกก เดินไปแป๊บเดียวถึง ใครลงสถานีนี้ต้องถ่ายรูปกับแม่น้ำนี้แน่นอน
ซึ่งโรงแรมก็อยู่ชิดริมแม่น้ำนี้แหละจ้าา! (ถ่ายจากที่ห้องพักค่ะ)
Check in ที่นี่ได้เวลาบ่าย 2 ต้องตรงเป๊งด้วยนะ ถึงก่อนก็รอต่อไปค่ะ ซึ่งเราไปถึงก่อนเวลา 10 นาที ก็เลยเลือกที่จะรอ พอได้ห้องแล้วก็ Wow!! สิคะ นานๆจะนอนหรูหรา 5555 ห้องที่เรานอนเป็นแบบ Japanese-Style Room with Open-Air Bath 🛀 ค่ะ เราจองรวมแบบอาหารเช้า + เย็นไปด้วย สนนราคาไป 1 คืน (25-26 ตุลา) 10,850 บาท เอาจริงถามว่าแพงไหมสำหรับเรา ก็แพงนะ แต่แบบไม่ได้นอนแบบนี้บ่อยๆ เอาวะ!
แท้น แทนนนนนน... ✨
หรูหราอย่างที่หวัง ขนมต้อนรับก็อร่อยดี (คุณชายท่านว่างั้น)
และแล้วก็มาถึง Highlight!!!ของเรา Private Onsen Bath จ้าา
มีก๊อกออนเซน น้ำร้อน น้ำเย็น แล้วแต่เลือก เห็นวิวแม่น้ำด้วยยย
มันจะมีให้หมุนระดับน้ำที่เราต้องการด้วย เต็มอ่าง ครึ่งอ่างนี้ พอระดับน้ำถึงตามที่เรากำหนดน้ำก็จะหยุดเองครับผม!!
ควันบุ๋ง ๆ
มีชาเขียวให้ชงกินเองฟรีด้วยนะ
มีชุดยูคาตะให้เปลี่ยน สามารถใส่เดินไปข้างนอกได้ด้วยเลย (จริงๆเขาก็พับเรียบร้อย แต่อยากลองชุดมากกก สภาพก็เลยเป็นแบบนี้พับเก็บเองไม่ได้ 555)
ลองแล้วก็ได้แบนนี้ คุณชายนางชอบมากกกๆๆ 5555
พอเพลิดเพลินกับห้องได้แป๊บนึง ก็จะมีพนักงานต้อนรับมาแนะนำตัวท่านนี้ พูดภาษาอังกฤษคล่องเว่อร์ ขอเชคภาพด้วยนะคะ แซ่บสุด 555
ท่านก็จะมาบอกเวลา อาหารเย็น อาหารเช้า คอยดูไซส์ชุดยูคาตะให้ค่ะ และยังบอกอีกว่าในตู้เย็นห้ามดึงเครื่องดื่มออกมาแบบไม่ตั้งใจเด็ดขาด คิดเงินอัตโนมัตินะจ๊ะ ผมนี่ไม่ยุ่งเด็ดขาด!!
ขอข้ามมาในส่วนอาหารเย็นเลยนะ ซึ่งเราเลือกให้เสริ์ฟตอนเวลา 18.30 น. และนี่ก็คือหน้าตาอาหารค่ะ เสริ์ฟในห้องส่วนตัวด้วยย....
อร่อยใช้ได้ค่ะ แต่เรากินอาหารที่แบบเพื่อสุขภาพที่ดีไม่ค่อยได้ เลยกินไม่ค่อยหมด ชอบพวกราเมง ทงคัตซึ มากกว่า 555 วิถีคนอ้วน และในระหว่างที่เรากำลังกินอยู่นั้นพนักงานเขาก็จะไปปู Futon ให้ค่ะ จากโต๊ะกลาง ก็เป็น แบบนี้
ก็นุ่มสบายตามราคา 555
และทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็คือที่พักสำหรับเราค่ะ ซึ่งนอกจาก ห้องแบบ private onsen แล้วก็มีห้องแบบเรียวกังปกติ หรือแบบกลุ่มด้วย ซึ่งสามารถแช่ onsen ห้องรวมแยกชายหญิงตามเวลาได้ที่ชั้น 6 ค่ะ ขอบอกว่าวิวสวยมากก ลืมถ่ายมาหง่ะ
ยิ่งถ้าไปตอนเย็นๆหน่อย คนแทบไม่มี เป็น private onsen บ่อใหญ่ไปเลยจ้า 555
ยังๆไม่จบนะ เราขอแนะนำที่เที่ยวใน Hakone อีกนิสนึงก่อน นั่นก็คือ
ทุ่งดอกหญ้าเซนโกคุฮาระค่ะ (Sengokuhara Pampas Grass Field) เห็นตอนนี้กำลังฮิตๆ กันเลยเอามาฝากค้า..
การเดินทางไปที่นี่ก็ไม่ยากจากสถานียูโมโตะ ก็แล้วแต่ว่าใครจะไปขึ้นเคเบิ้ลคาร์ชมภูเขาไฟโอวาคุดานิ (Owakudani) ก่อนหรือจะไปที่ทุ่งก่อนแล้วขึ้นกระเช้าก็ได้ไม่ติด สำหรับเราก็เลือกขึ้นก่อน โดยใช้ Hakone Free Pass ได้เลยค่ะ
ซึ่งมีความโชคดีเห็นฟูจิชัดไปอีกจ้าาา หลังจากแผนล่มเพราะพายุไต้ฝุ่นมาหลายวัน
พอชื่นชมพี่จิอย่างอิ่มเอม ก็แวะกินไข่ดำลือชื่อ!!!
บวกไอติมแสนอะหย่อยอีกอัน เราก็ลงกระเช้ามาที่สถานี Togendai ค่ะ พอลงมาถึงต่อรถ Hakone Tozan ไลน์ T (ที่เรารอรถคือป้ายรถแรกทางซ้าย ถ้าหันหลังเข้า Togendai ค่ะ) หรือ Odakyo bus นั่งสองคันรถนี้ไปลงที่สถานี Sengoku Kogen ค่ะ แล้วก็จะเจอป้ายบอกแล้วว่าไปทุ่งไปทางไหนค่ะ
และแล้วเราก็มาถึง โย่วๆ
ถ่ายวิวนั้นนนนนนนสวยจริง แต่เรา 2 คนถ่ายกันและกันไม่สวยเลยไง เลยไม่ได้งามอย่างที่ช่างภาพเขาถ่ายนาง/นายแบบกัน 555 เพราะฉะนั้นเอาแต่วิวไปค่ะ
สวยเนอะ! พออิ่มหนำแล้วเราก็นั่งรถกลับโรงแรมเอากระเป๋าเข้าโตเกียวกันต่อไปค่ะ
งั้นเราก็ขอจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้ ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ 🙏🏻 ซึ่งต้องขอออกตัวก่อนว่าจริงๆ เรากลับมาจากญี่ปุ่นได้จะเดือนและ ข้อมูลมันอาจจะไม่ครบเท่าไหร่ แต่ก็ยังอยากจะมาแชร์ 5555 สำหรับคนที่ไปญี่ปุ่นแล้ว อยากจะนอนแบบเรียวกัง แช่ Onsen และก็อยู่ไม่ไกลจากโตเกียวเท่าไหร่ Hakone ก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยนะ
บุย 👋
รีวิว : นอนเรียวกัง แช่ Onsen ส่วนตัวสุดสวีท ชมทุ่งดอกหญ้า ณ Hakone!
การไป Hakone จากโตเกียวนี้ก็เหมือนรีวิวอื่นๆ เราใช้ Hakone Free Pass ตลอดทริป นั่งรถไฟ Odakyo จาก Shinjuku ไปลงที่สถานี Hakone Yumoto ถ้าเพิ่มเงิน 890 เยนก็ถึงเลย มีที่นั่งพร้อม ถ้าไม่เพิ่มก็ต้องเปลี่ยนหนึ่งครั้งที่ สถานี Odawara (ขาไปเราไม่เพิ่ม ขากลับไม่ไหวฟ้ามืดแล้ว เหนื่อยด้วย ขอเพิ่มดีกว่า)
ที่พักที่จะนำเสนอนี้มีชื่อว่า Hakone Suimeisou Hotel ซึ่ง location ของนางนั้นอยู่ใกล้สถานี Hakone Yumoto มากกกกก เดินไปแป๊บเดียวถึง ใครลงสถานีนี้ต้องถ่ายรูปกับแม่น้ำนี้แน่นอน
ซึ่งโรงแรมก็อยู่ชิดริมแม่น้ำนี้แหละจ้าา! (ถ่ายจากที่ห้องพักค่ะ)
Check in ที่นี่ได้เวลาบ่าย 2 ต้องตรงเป๊งด้วยนะ ถึงก่อนก็รอต่อไปค่ะ ซึ่งเราไปถึงก่อนเวลา 10 นาที ก็เลยเลือกที่จะรอ พอได้ห้องแล้วก็ Wow!! สิคะ นานๆจะนอนหรูหรา 5555 ห้องที่เรานอนเป็นแบบ Japanese-Style Room with Open-Air Bath 🛀 ค่ะ เราจองรวมแบบอาหารเช้า + เย็นไปด้วย สนนราคาไป 1 คืน (25-26 ตุลา) 10,850 บาท เอาจริงถามว่าแพงไหมสำหรับเรา ก็แพงนะ แต่แบบไม่ได้นอนแบบนี้บ่อยๆ เอาวะ!
แท้น แทนนนนนน... ✨
หรูหราอย่างที่หวัง ขนมต้อนรับก็อร่อยดี (คุณชายท่านว่างั้น)
และแล้วก็มาถึง Highlight!!!ของเรา Private Onsen Bath จ้าา
มีก๊อกออนเซน น้ำร้อน น้ำเย็น แล้วแต่เลือก เห็นวิวแม่น้ำด้วยยย
มันจะมีให้หมุนระดับน้ำที่เราต้องการด้วย เต็มอ่าง ครึ่งอ่างนี้ พอระดับน้ำถึงตามที่เรากำหนดน้ำก็จะหยุดเองครับผม!!
ควันบุ๋ง ๆ
มีชาเขียวให้ชงกินเองฟรีด้วยนะ
มีชุดยูคาตะให้เปลี่ยน สามารถใส่เดินไปข้างนอกได้ด้วยเลย (จริงๆเขาก็พับเรียบร้อย แต่อยากลองชุดมากกก สภาพก็เลยเป็นแบบนี้พับเก็บเองไม่ได้ 555)
ลองแล้วก็ได้แบนนี้ คุณชายนางชอบมากกกๆๆ 5555
พอเพลิดเพลินกับห้องได้แป๊บนึง ก็จะมีพนักงานต้อนรับมาแนะนำตัวท่านนี้ พูดภาษาอังกฤษคล่องเว่อร์ ขอเชคภาพด้วยนะคะ แซ่บสุด 555
ท่านก็จะมาบอกเวลา อาหารเย็น อาหารเช้า คอยดูไซส์ชุดยูคาตะให้ค่ะ และยังบอกอีกว่าในตู้เย็นห้ามดึงเครื่องดื่มออกมาแบบไม่ตั้งใจเด็ดขาด คิดเงินอัตโนมัตินะจ๊ะ ผมนี่ไม่ยุ่งเด็ดขาด!!
ขอข้ามมาในส่วนอาหารเย็นเลยนะ ซึ่งเราเลือกให้เสริ์ฟตอนเวลา 18.30 น. และนี่ก็คือหน้าตาอาหารค่ะ เสริ์ฟในห้องส่วนตัวด้วยย....
อร่อยใช้ได้ค่ะ แต่เรากินอาหารที่แบบเพื่อสุขภาพที่ดีไม่ค่อยได้ เลยกินไม่ค่อยหมด ชอบพวกราเมง ทงคัตซึ มากกว่า 555 วิถีคนอ้วน และในระหว่างที่เรากำลังกินอยู่นั้นพนักงานเขาก็จะไปปู Futon ให้ค่ะ จากโต๊ะกลาง ก็เป็น แบบนี้
ก็นุ่มสบายตามราคา 555
และทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็คือที่พักสำหรับเราค่ะ ซึ่งนอกจาก ห้องแบบ private onsen แล้วก็มีห้องแบบเรียวกังปกติ หรือแบบกลุ่มด้วย ซึ่งสามารถแช่ onsen ห้องรวมแยกชายหญิงตามเวลาได้ที่ชั้น 6 ค่ะ ขอบอกว่าวิวสวยมากก ลืมถ่ายมาหง่ะ ยิ่งถ้าไปตอนเย็นๆหน่อย คนแทบไม่มี เป็น private onsen บ่อใหญ่ไปเลยจ้า 555
ยังๆไม่จบนะ เราขอแนะนำที่เที่ยวใน Hakone อีกนิสนึงก่อน นั่นก็คือ ทุ่งดอกหญ้าเซนโกคุฮาระค่ะ (Sengokuhara Pampas Grass Field) เห็นตอนนี้กำลังฮิตๆ กันเลยเอามาฝากค้า.. การเดินทางไปที่นี่ก็ไม่ยากจากสถานียูโมโตะ ก็แล้วแต่ว่าใครจะไปขึ้นเคเบิ้ลคาร์ชมภูเขาไฟโอวาคุดานิ (Owakudani) ก่อนหรือจะไปที่ทุ่งก่อนแล้วขึ้นกระเช้าก็ได้ไม่ติด สำหรับเราก็เลือกขึ้นก่อน โดยใช้ Hakone Free Pass ได้เลยค่ะ
ซึ่งมีความโชคดีเห็นฟูจิชัดไปอีกจ้าาา หลังจากแผนล่มเพราะพายุไต้ฝุ่นมาหลายวัน
พอชื่นชมพี่จิอย่างอิ่มเอม ก็แวะกินไข่ดำลือชื่อ!!!
บวกไอติมแสนอะหย่อยอีกอัน เราก็ลงกระเช้ามาที่สถานี Togendai ค่ะ พอลงมาถึงต่อรถ Hakone Tozan ไลน์ T (ที่เรารอรถคือป้ายรถแรกทางซ้าย ถ้าหันหลังเข้า Togendai ค่ะ) หรือ Odakyo bus นั่งสองคันรถนี้ไปลงที่สถานี Sengoku Kogen ค่ะ แล้วก็จะเจอป้ายบอกแล้วว่าไปทุ่งไปทางไหนค่ะ
และแล้วเราก็มาถึง โย่วๆ
ถ่ายวิวนั้นนนนนนนสวยจริง แต่เรา 2 คนถ่ายกันและกันไม่สวยเลยไง เลยไม่ได้งามอย่างที่ช่างภาพเขาถ่ายนาง/นายแบบกัน 555 เพราะฉะนั้นเอาแต่วิวไปค่ะ
สวยเนอะ! พออิ่มหนำแล้วเราก็นั่งรถกลับโรงแรมเอากระเป๋าเข้าโตเกียวกันต่อไปค่ะ
งั้นเราก็ขอจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้ ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ 🙏🏻 ซึ่งต้องขอออกตัวก่อนว่าจริงๆ เรากลับมาจากญี่ปุ่นได้จะเดือนและ ข้อมูลมันอาจจะไม่ครบเท่าไหร่ แต่ก็ยังอยากจะมาแชร์ 5555 สำหรับคนที่ไปญี่ปุ่นแล้ว อยากจะนอนแบบเรียวกัง แช่ Onsen และก็อยู่ไม่ไกลจากโตเกียวเท่าไหร่ Hakone ก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยนะ บุย 👋