แชร์ประสบการณ์หลังการตัดสินใจจะไป '' ขริบ ''

กระทู้คำถาม
วันนี้ผมจะมาแชร์ประสบการณ์สำหรับคนที่ติดจะไปขริบหรือคนที่กำลังตัดสินใจ
ผมอายุ 20 ต้นๆ มีปัญหาเกี่ยวกับหนังหุ้มปลายนั้นยาวทำให้รูดลงให้เป็นธรรมชาติไม่ได้
เวลามันแข็งตัวรูดลงจนปลายเปิดจะทำการรัดตรงบริเวณหัวจะเจ็บมาก แต่พอมันหดก็จะกลับมาเป็นปกติ

มันจะมีปัญหามากเกี่ยวกับการทำความสะอาด และ การมีเพศสัมพันธุ์
ผมจึงตัดสินใจเก็บเกี่ยวข้อมูลต่างๆ ทั้งในพันทิบ และที่อื่นๆ จะไปทำดีไหม
เพราะการขริบส่วนมากเขาจะทำกันตั้งแต่เด็กเล็กๆ ส่วนใหญ่จะไม่มาทำตอนโต
ก็อย่างที่หลายๆคนคงคิดว่ามันเจ็บ และ ทรมาณ ผมจะมาบอกว่าไม่เลยสักนิด

___________________________________________________________________________________________

(18 พ.ย. 60)  
ผมไปตรวจกับหมอที่ รพ. (โรงพยาบาลรัฐ) ไปแต่เช้าเพื่อไปจองคิวเข้าตรวจ (บอกเค้าว่าจะมาตรวจทางเดินปัสสวะ)
ได้บัตรคิว ซักประวัติกับพยาบาล พยายาบาลก็ถามว่ามาทำอะไร ตอบอย่างตั้งใจว่าจะมา ''ขริบ'' หนังหุ้มปลาย
พยาบาลก็มองหน้าผม แล้วก็ถามว่าทำไมมาขริบตอนโต ผมก็บอกไปว่ามีปัญหานิดหน่อยครับ
จากนั้นพยาบาลก็เลือกหมอที่จะตรวจเราว่าจะเอาหมอท่านใด (หมอผู้ชายนะครับ)
เวลาประมาณ 9.30 ผมจึงได้เข้าห้องตรวจ
เข้าไปแล้วหมอถามว่าเป็นอะไร ผมก็บอกว่าอยากจะมาขลิบหนังหุ้มปลาย หมอก็ถามอีกว่าขริบทำไมฉี่ไม่ออกหรอ
ผมก็อธิบายให้หมอฟังว่าเพราะแบบนี้ๆ อย่างที่ผมบอกไปข้างต้น คราวนี้ละหมอก็ให้ผมเปิดให้ดู
มันเป็นกันทุกคนครับกับความอายแต่ผมไม่อายเท่าไหร่ คิดว่าจะมาทำแล้วทำไมต้องอาย หมอเค้าผ่านมาเยอะเห็นมาเยอะแล้ว
ผมก็เปิดให้หมอดู หมอก็บอกอ๋อโอเคแบบนี้ต้องขริบล่ะ ผมก็ถามว่าหมอจะทำได้เลยไหมครับ (ผมอยากทำเลยไม่อยากรอ)
แต่มันเป็นโรงพยาบาลรัฐ คนไข้เข้าตรวจวันละเป็นพันคน หมอก็เลยนัดเวลาเป็นวันที่ 23 พ.ย. 60 ผมก็โอเคเลย มีเวลาเตรียมตัวเตรียมใจ 4 วัน

___________________________________________________________________________________________

วันที่ 1 (23พ.ย.60)
ผมได้เตรียมตัวเตรียมใจมาเต็มที่พยายามคิดว่ามันเป็นเรื่องตลก คุยกับเพื่อนเฮอา โพสเฟสบุคเฮฮา
พอถึงวันจริงผมไป รพ. แต่เช้าไปจองคิวเหมือนเดิมแล้วมารอที่หน้าห้องผ่าตัด รพ.ที่ผมทำจะใช้แค่ห้องผ่าตัดเล็กเท่านั้น
เวลา 9.00 น. ผมก็ได้เข้าห้องผ่าตัดครับแต่หมอยังไม่มาเลยน่ะครับ ผมต้องไปนอนรอหมอประมาณ 15 นาที
ระหว่างนั้นพยาบาลก็บอกเกี่ยวกับการผ่าตัดและทำความสะอาดของเราไปในตัว (ไม่โกนขนน่ะครับ) ก็จะเช็ดบริเวณที่จะทำและรอบๆ จนสะอาด
และก็จะมีคล้ายๆเจลลองขาเพราะหมอจะใช้เครื่องจี้เลเซอร์ห้ามเลือดด้วย  
ประมาณ 20 นาที หมอก็เข้ามา ตอนนั้นผมไม่เห็นอะไรแล้วได้ยินแต่เสียงน่ะครับเพราะมีผ้าปิดตาผมอยู่ หมอก็เข้ามา
ผมได้ยินเสียงประมาณ 5-6 คน หมอที่ทำเป็นอาจารย์หมอและก็มี นศ.แพทย์เข้ามาดูการขริบไปด้วย (อาจารย์หมอก็สอนไปในตัว)
หมอจะทำอะไรหมอจะบอกตลอด หมอฉีดยาชาให้ผม 4 ครั้งเท่าที่ผมนับได้ จะมีฉีดตรงโคน และตรงหัวอย่างละ 2 จุด
รอประมาณ  2-3 นาที ตรงนั้นของผมก็๋ไม่รู้สึกอะไรแล้ว (ไม่รู้สึกเลยสักนิด) จนหมอตัดและเย็บใกล้จะเสร็จผมถึงมีความรู้สึก
เพราะยาชาใกล้จะหมด จนหมอทำเสร็จแล้วก็แนะนำต่างๆ เช่น การออกกำลังกาย  ไม่ให้โดนน้ำ 7 วัน การล้างแผล
ผมลุกขึ้นมามองลงไปดูโอ้ววววว ผ้าพันมีเลือดไหล หัวเปิดตลอดเวลาฟินเย็นสบาย มีอาการปวดแค่วันแรกจริงๆครับ  
พอกลับมาบ้านก็กินยาแก้ปวดกับแก้อักเสบไป สบายตัวขึ้นเยอะ (ลืมบอกผมไปคนเดียวทำคนเดียวไม่มีญาติ ขี่มอไซค์ไป โชคดีที่บ้านใกล้ครับ)
ถึงบ้านผมก็นอนพักช่วงเย็นผมก็เกะผ้าก๊อตออกเห็นแหล มันเละมากเลยๆ ผมก็ล้างแผลด้วยน้ำเกลือกับหยอดเบตาดีน แล้วก็พันด้วยผ้าก๊อต
พอได้กินยาให้ตรงเวลา อาการปวดต่างๆมันจะหายไปเลยครับ แต่ติดตรงที่ว่าหัวผมมันไม่ได้เปิดบ่อย ทำให้มีการเสียดสีกับผ้า
ทำให้ตอนนี้มันเสียวมากๆ เวลาไปโดนครั้งนึง เวลาเดินต้องไม่ให้ผ้าโดนกับบริเวณหัวเลย เสียววววว

___________________________________________________________________________________________

วันที่ 2 (24 พ.ย.60 )
วันนี้พอตื่นมาก็จะไม่ค่อยลำบากเหมือนคนอื่นๆเพราะของผมมันแข็งตัวตลอดทั้งคืนเช้ามามันก็ไม่ได้ปวดมากอะไรเลย
แต่จะลำบากมากๆตอนฉี่นี่และครับ เป็นปัญหาตลอด 1-2 วันแรกจะฉี่ลำบากเพราะเราโฟกัสการพุ่งของฉี่ไม่ได้ ไม่เหมือนตอนที่หนังหุ้มไว้
การฉี่ในแต่ละครั้งของผมไม่เหมือนกันเลย บางครั้งก็จะพุ่งไปตรงๆปกติ แต่บางครั้งก็จะแตกออกข้างบ้าง ทำให้ผ้าก๊อตที่พันไว้
เปลื้อนฉี่ต้องเปลี่ยนผ้าก๊อตใหม่ตอด
พอวันที่ 2 อาการบวมก็ยังมีอยู่น่ะครับบริการด้านล้างของหัวแต่ปวดไหมก็มีบ้างแต่ไม่มากเหมือนตอนทำใหม่ๆ
ผมสามารถขี่รถไปไหนมาไหนได้ตลอดเลยแต่ก็พยายามไม่ให้กางเกงเสียดสีกับบริหัวบ่อย เวลาเดินก็ต้องดึงกางเกงออกมาหน่อย(แอบลำบาก)
ตกเย็นผมก็ไปล้างแผลที่โรงพยาบาลครับไปให้ครบ 7 วัน แต่ไปล้างแผลที่โรงพยาบาลผมจะได้ช่วงเย็นๆค่ำๆ
เพราะจะกลับอาบน้ำไปเลยแล้วไปล้างกลับมาก็จะมานอนเลยไม่ยุ่งยากไม่ต้องเกะหลายรอบ แต่ช่วงเวลาอื่นๆก็จะล้างเอง พันแผลเอง

___________________________________________________________________________________________

วันที่ 3 (25 พ.ย. 60)
วันนี้ก็ทำแบบเดิมครับ การฉี่ยังเป็นปัญหาอยู่เหมือนเดิมแต่แผลส่วนใหญ่เริ่มแห้งแล้ว ไหมก็เป็นไหมละลาย
แต่อาการปวดเริ่มกลับมาเพราะว่าผมมีอารมณ์บ่อย มันก็เลยแข็งตัวบ่อยเหมือนจะทำให้แผลขยายตัว
แต่มันก็ไม่สงผลอะไรมาก มีอาการเลือดซิบออกมานิดหน่อยจากแผล (อย่าให้มันแข็งตัวบ่อยบอกไว้ก่อน)
บริเวรณหัวตอนแรกที่ทำออกแนวสีสด จนวันที่ 3 มันเริ่มซีดสีเริ่มด้าน แต่อาการเสียวหลังเสียดสีหรือโดนกับผ้า ยังมีอยู่น่ะครับ
วันนี้ผมไปล้างแผลช่วงเย็นเหมือนเดิม พยาบาลก็ล้างแผลให้ ผมไม่ได้อายแต่อย่างใด แต่วันนี้เค้าติดตาข่ายกันผ้าก๊อตให้ด้วยเยี่ยมมาก
อาการปวดเบาลงมากเลย อาการบวมเบาลงแล้ว เท่าที่สังเกตุมันไม่เท่ากับวันแรกเลยครับ ตอนนี้ผมอยากอาบน้ำอยากให้มันโดนน้ำแล้ว
เวลาอาบน้ำมันจะลำบากหน่อยๆ อาบได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยเท่าไหร่เลย

___________________________________________________________________________________________

วันที่ 4 (26 พ.ย. 60)

เดี๋ยวจะมาต่อครับผม .......................................
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่