คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
ทำบุญอันเนื่องด้วยการทำทานแล้ว
บุญนั้นสำเร็จได้ด้วยเจตนาแล้ว
เราจะอุทิศผลบุญนี้ให้ใครต่อก็ย่อมได้ และเขาย่อมได้รับตามฐานะเมื่อเขาอนุโมทนาในบุญนั้น
ผู้ที่จะสามารถรับผลบุญที่เราอุทิศให้ตามฐานะ คือ ผู้ที่อยู่ในภพภูมิเปรต
ส่วนผู้ที่อยู่ในภพภูมิอื่น เขาย่อมได้รับอาหารของภพภูมินั้น ตามที่เขาสั่งสมมาเอง
แต่อย่างไรก็ตาม เราเวียนว่ายตายเกิดมานานมากแล้ว
พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนว่า "ไม่มีเลยที่ญาติผู้ล่วงลับของเราที่จะไม่หลงเหลือเป็นเปรตอยู่"
ดังนั้น เมื่อทำบุญแล้ว เราสามารถอุทิศผลบุญนี้ให้แผ่ไปยังสรรพสัตว์ทั่วทุกสารทิศ
ส่วนการขอให้ "เจ้ากรรมนายเวร" อโหสิให้นั้น
ไม่อยู่ในฐานะที่เป็นไปได้
ทุกคน เมื่อทำกรรมใดไว้ ย่อมเสวยผลแห่งกรรมนั้น ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
เมื่อเราทำกรรมกับคนนี้ แล้วคิดว่าเขาจะมาตามเอาคืน หักล้างกันไป นั้นไม่ใช่
การอาฆาตจองเวรนั้น มีจริง
แต่หากเขาตามมาเจอเรา แล้วเอาคืน ก็เป็นการสร้างกรรมใหม่ของเขา
ต่างกรรม ต่างวาระ
ดังนั้น การที่เราหวังให้เขาอโหสิกรรมให้เรา เพื่อเราจะไม่ต้องรับกรรมที่เราก่อไว้นั้น ไม่มี
บุญนั้นสำเร็จได้ด้วยเจตนาแล้ว
เราจะอุทิศผลบุญนี้ให้ใครต่อก็ย่อมได้ และเขาย่อมได้รับตามฐานะเมื่อเขาอนุโมทนาในบุญนั้น
ผู้ที่จะสามารถรับผลบุญที่เราอุทิศให้ตามฐานะ คือ ผู้ที่อยู่ในภพภูมิเปรต
ส่วนผู้ที่อยู่ในภพภูมิอื่น เขาย่อมได้รับอาหารของภพภูมินั้น ตามที่เขาสั่งสมมาเอง
แต่อย่างไรก็ตาม เราเวียนว่ายตายเกิดมานานมากแล้ว
พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนว่า "ไม่มีเลยที่ญาติผู้ล่วงลับของเราที่จะไม่หลงเหลือเป็นเปรตอยู่"
ดังนั้น เมื่อทำบุญแล้ว เราสามารถอุทิศผลบุญนี้ให้แผ่ไปยังสรรพสัตว์ทั่วทุกสารทิศ
ส่วนการขอให้ "เจ้ากรรมนายเวร" อโหสิให้นั้น
ไม่อยู่ในฐานะที่เป็นไปได้
ทุกคน เมื่อทำกรรมใดไว้ ย่อมเสวยผลแห่งกรรมนั้น ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
เมื่อเราทำกรรมกับคนนี้ แล้วคิดว่าเขาจะมาตามเอาคืน หักล้างกันไป นั้นไม่ใช่
การอาฆาตจองเวรนั้น มีจริง
แต่หากเขาตามมาเจอเรา แล้วเอาคืน ก็เป็นการสร้างกรรมใหม่ของเขา
ต่างกรรม ต่างวาระ
ดังนั้น การที่เราหวังให้เขาอโหสิกรรมให้เรา เพื่อเราจะไม่ต้องรับกรรมที่เราก่อไว้นั้น ไม่มี
แสดงความคิดเห็น
ทำบุญใส่บาตรแล้วอฐิฐานผิดเป็นไรไหม
แก้ไข เผลอพูดผิด ค่ะ