เหตุมันเกิดจาก จขกท.เลี้ยงชูการ์ไกลเดอร์อยู่ 2 ตัว และ กินเก่งมาก พอเจ้า2ตัว นามว่า มัฟฟิ่น กับ ชิฟฟ่อน อายุเกิน 6 เดือน ก็ต้องหาอาหารหลักมาให้มันกินกันละ อาหารหลักๆของชูการ์ก็คือ แมลง หนอน ผลไม้ ทีนี้ แต่ปัญหาที่เจอคือ
-หนอนแว็กซ์กล่องนึงก็แพงพอตัว จขกท.ซื้อที่สวน JJ กล่องละ 80บาท (ซื้อที่อื่นอาจแพงกว่านี้) พอสังเกตุที่กล่องมีรูปรังผึ้งด้วย สงสัยที่แพงเพราะเค้าเลี้ยงด้วยน้ำผึ้งรึเปล่า?
-แล้วถ้าเค้าเลี้ยงด้วยน้ำผึ้งขายกล่อง 80บ. เค้าจะไม่ขาดทุนเหรอ?
-หนอนบางร้าน ซื้อมาปู๊บ เหม็นเปรี้ยว หนอนเสียชีวิตในเวลาอันรวดเร็ว
-เคยเปลี่ยนไปให้กินหนอนนกแทนเพราะถูกกว่าหลายเท่า แต่ดันไปเจอหนอนนกไม่สะอาดครับ ทำให้ชูก้าร์ท้องเสียจู๊ดๆ
แล้วเจ้า 2 ตัวที่เลี้ยงก็ดันกินเก่งเหลื้ออออเกิน อาทิตย์นึงกินหนอนตั้ง 3-4 กล่อง อาจยากจนได้ หากยังกินเก่งแบบนี้ต่อไป

หมายเหตุ : กระทู้นี้อาจมีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสำหรับผู้อ่านที่ใช้ชีวิตอยู่ในศีลในธรรมที่มองว่าเนื้อหาในกระทู้นี้อาจเป็นเรื่องผิดศีลข้อ 1 อาจมีบางเนื้อหา-บางรูปที่สะเทือนใจของผู้อ่านบ้าง จขกท.เขียนกระทู้นี้เพื่อเป็มความรู้และเป็นวิทยาทานสำหรับคนเลี้ยงสัตว์ครับ
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

มันไม่ได้ยากอะไรเลยครับ จากที่ผมเคยมองว่า ซื้อเอาก็ได้ ง่ายดี แต่พอซื้อบ่อยเข้าๆ เงินในกระเป๋าก็ไม่ค่อยจะสู้ดีขึ้นมา เลยมาลองผิดลองถูกดูว่า มันจะแป้กมั๊ย ลงทุนน้อย ผลตอบแทนสูงมาก ผลลัพธ์ที่ได้คือ เหมือนกล่องที่ซื้อจาก JJ เด๊ะๆ สี กลิ่น แต่หนอนที่ได้ ใหญ่กว่าเยอะ และผมจะบอกเทคนิคเล็กๆน้อยๆจากการลองผิดลองถูกในการเลี้ยงหนอนไว้ในเนื้อหาด้วยครับ


สิ่งที่ต้องเตรียม
1.หนอนแว๊กซ์ตัวเต็มวัย 10-20ตัว
2.รำ 1 กิโลกรัม ราคา 30 บาท
3.น้ำเชื่อม 1ถุง ราคา 40 บาท ส่วนใครจะใช้น้ำผึ้ง ก็เอาตามฐานะของคนเลี้ยงเลยครับ
4.กล่องพลาสติกเจาะฝาบุด้วยมุ้งลวด 1 กล่อง (ผมใช้กล่องรองเท้าที่ใส่ได้ประมาณ 2 คู่) ราคา 100 บาท



1.รำที่ใช้ต้องเป็นรำเหมือนในรูป ถ้าเป็นรำละเอียดผมลองแล้วไม่เวิร์ค เทรำลงกะทะคั่วในความร้อนเพื่อฆ่ามอด (หรือใครสะดวก อบ เวฟ ก็ตามสบายครับ)



2.รอรำเย็น ใส่น้ำเชื่อมลงไปทั้งถุงเลยครับ อัตราส่วนรี้ผมลองแล้ว มันพอดีเป๊ะ ไม่แฉะ ไม่แห้งจนเกินไป คลุกให้เข้ากัน แล้วตั้งทิ้งไว้ 1 วัน (หรืออย่างน้อย 1คืน)เพื่อให้รำที่ผสมน้ำเชื่อมแห้งมากขึ้น ระวังมดด้วยนะครับ
(หรือจะใส่หนอนลงไปในรำที่ผสมไว้เลยก็ได้ครับ ไม่ต้องรอ แต่ควรกะปริมาณน้ำเชื่อมให้น้อยกว่านี้ จะได้ไม่แฉะจนเกินไป เดี๋ยวหนอนจมน้ำเชื่อมเสียชีวิตครับ)



3.เฟ้นหาหนอนตัวเต็มวัย คือ หนอนตัวใหญ่ที่ยาวประมาณ 1 นิ้ว มาซัก 10-20 ตัว ถ้ามากกว่านี้ ลูกหนอนฟักออกมา จะแออัดเกินไปเป็นผลให้ หนอนในกล่องตัวไม่โต อาหารหนอนไม่พอ


4.เตรียมกล่องเพาะหนอน โดย ฝากล่องต้องเจาะช่องขนาดใหญ่พอสมควร แล้วปิดด้วยมุ้งลวด ของผมผมใช้วิธีง่ายๆ คือ ติดด้วยปืนกาวร้อน ควรใช้กาวเยอะๆครับ เพราะ พลังทำลายล้างของหนอนสูงมาก


5.ใส่หนอน ปิดฝา รอหนอนโตจ้า (เดี๋ยวผมจะบอกข้างล่างว่า ทำไมผมถึงใส่ลังไข่ลงไป แล้ว ทำไมถึงไม่ต้องใส่ลังไข่ลงไป)

ข้อควรระวัง
1.ควรเจาะช่องบนฝากล่องให้ใหญ่พอสมควรเพื่อระบายความร้อน ถ้าเล็กเกินไป ช่วงเวลาที่หนอนกำลังโตจะเกิดความร้อนในกล่อง เป็นผลให้ไอน้ำจับที่ใต้ฝากล่อง ทำให้เกิดรา อาหารเน่า หนอนตาย ตามลำดับ
2.ควรใช้มุ้งลวดเป็นลวด เพราะหนอนกัดเก่งมาก แรกๆผมเพาะหนอนแบบโลกสวย คือ ใช้ถุงตาข่ายซักผ้าตาถี่ๆมาปิดปากกล่องเพื่อให้ระบายความร้อน แต่ผลที่ได้ไม่สวยอย่างที่คิด พอหนอนโตมันแทะถุงตาข่ายพากันออกมาเดินพาเหรดเต็มห้องเลยจ้า จับกันยกใหญ่
3.บางเว็บในอินเตอร์เน็ตบอกว่า ควรใส่กระดาษขยำๆลงไปในกล่องด้วยเพื่อให้ผีเสื้อมันวางไข่ ผมก็ลองครับ เอาลังไข่ใส่ลงไปแทน ผลที่ได้คือ ผีเสื้อไม่วางไข่บนลังไข่เลย พากันไปวางไข่ตรงขอบกล่องหมด สรุป ไม่ต้องใส่อะไรลงไปให้ผีเสื้อวางไข่



ใส่หนอนปิดฝา จะคลุมผ้าไว้ด้วยก็ได้ เพื่อเร่งวงจรชีวิตให้ผีเสื้อโตไว แต่ข้อควรระวัง อย่าให้ผ้าที่คลุมกล่องแนบติดกับมุ้งลวดบนฝากล่อง เพราะ ผีสื้อจะวางไข่กันเต็มผ้าเลยครับ ควรหาอะไรกั้นกลาง เช่น ถ้วยเล็กๆ หรือ จะไม่คลุมผ้าเลยก็ได้

รอครับ รอประมาณ 7-14 วัน หนอนจะกลายร่างเป็นผีเสื้อ ระยะนี้เราจะเห็นผีเสื้อขึ้นมาวางไข่ตรงขอบกล่อง เมื่อไข่ผีเสื้อฟัก หนอนจะเดินลงไปกินอาหารในรำเองครับ สิ่งที่เราต้องทำคือ รอ และ อย่าให้มดขึ้นกล่องหนอน ส่วนตัวผีเสื้อจะทะยอยตายไปตามวงจรชีวิตของมัน


รอต่อไปอีก 15-20วัน ทีนี้หนอนเราก็เริ่มโตแล้วครับ ระยะนี้ ภายในกล่องหนอนจะมีอุณภูมิที่สูงขึ้น ถ้าอุณภูมิสูงมากไป หนอนจะเน่าตาย ถ้าเราเอาผ้าคลุมไว้จะทำให้หนอนโตไว แต่ควรหมั่นสังเกตุว่า มีไอน้ำหรือไม่ ถ้ามีไอน้ำสาเหตุเกิดจาก 1.ช่องที่เจาะเล็กไป 2.หนอนมีจำนวนเยอะเกินไป ควรเปิดกล่องกลับรำในกล่องเพื่อระบายความร้อนให้ถ่ายเท ระยะนี้ เราอาจต้องหมั่นดูหน่อยครับแต่หนอนจะเริ่มโตพอจะเอามาเป็นอาหารได้แล้วครับ หนอนที่เพาะจะโตไม่เท่ากัน เราสามารถจับกิน จับกินได้เรื่อยๆ ขอบอกเลยครับว่า คุ้มกว่าไปซื้อที่ JJ เยอะ ที่สำคัญ มันเหมือนกันเด๊ะๆ



ในขณะที่เราสาละวนจับหนอนอยู่นั้น 2ตัวนี่ ก็ซ้อมตายไปพลางๆ


เคยมั๊ยครับ จับหนอนยังไงไม่ให้มันหนี จับได้มาได้กี่ตัวมันไต่หนี้ทู้กที


ไม่ยากครับ  กล่องหนอนใบเก่าที่เราจะทิ้ง อย่าเพิ่งทิ้ง แกะมุ้งลวดที่ฝาออก แค่นี้ก็เรียบร้อยครับ จะได้ที่ใส่หนอนที่หนอนไม่มีวันจะไต่หนีได้อีกต่อไป



ผลผลิตที่เราได้ ก็จะตัวอ้วนๆประมาณนี้


และได้เยอะประมาณนี้ (ในรูปนี่ แค่ 30%-40% จากในกล่องที่เราเพาะครับ เพราะ หนอนมันโตไม่พร้อมกัน เราจะเลือกเฉพาะตัวอ้วนๆขึ้นมา นั่งจับอยู่ 2-3 ช.ม.จนรากงอกกันเลยทีเดียว)



ถ้าหนอนที่เราจับได้ สัตว์เลี้ยงแสนรักของเรากินไม่ทัน ก็ใส่กล่อง แช่ฟรีส เวลาจะกิน ก็เอามาลวก เพียงเท่านี้ สัตว์เลี้ยงของคุณก็จะมีหนอนให้กินทุกวัน


การป้อนหนอนให้ชูก้าร์ในวัยที่เพิ่งหัดกินหนอน ควร เด็ดหัวหนอนออกด้วย เพราะอาจทำให้หัวหนอนเข้าไปติดหลอดลมได้ หรือ ค่อยๆ เพิ่มขนาดหนอน เพื่อให้ชูการ์สามารถกินหนอนตัวใหญ่ได้ทั้งตัว


ข้อแนะนำ
-ถ้าหนอนกินอาหารในกล่องหมด(สังเกตุได้ว่า รำจะแห้ง-ร่วนเหมือนทราย) เราควรจับหนอนมาใส่อาหาร(รำผสมน้ำเชื่อม)ในกล่องใบใหม่ ผมแนะนำว่า ไม่ควรเติมอาหารใหม่ลงไป เพราะ จะทำให้จับหนอนยากมากครับ
-หนอนแว็กซ์ เป็นแหล่งของไขมันและโปรตีน เป็นผลให้สัตว์เลี้ยงแสนรักของท่านอาจกลายร่างเป็นหมูได้ ความอ้วนเป็นบ่อเกิดของอีกหลายๆโรคที่จะตามมา ควรให้ทานแต่พอเหมาะ ควรให้ทานผักผลไม้ที่มีประโยชน์ควบคู่ และหมั่นพาไปออกกำลังกายด้วยครับ
-การให้แมลงเป็นอาหารควรพาสัตว์เลี้ยงไปตรวจสุขภาพ-ถ่ายพยาธิทุกๆ 6 เดือนด้วยนะครับ

ผมเองเป็นผู้เลี้ยงชูการ์มือใหม่ เพิ่งเลี้ยงเจ้า 2 ตัวนี้มาได้แค่ 2ปี ดีหน่อยที่มันไม่เคยป่วยซักครั้งเดียวเลย (ทำไมตอนผมเลี้ยงปลากัดไม่อดทนเหมือนอย่างเจ้า2ตัวนี้นะ) อย่างไรแล้วหากข้อมูลที่เขียนไปผิดพลาดประการใด พร้อมรับทุกคำแนะนำครับ ถ้าใครมีเทคนิคการเลี้ยงอะไรเพิ่มเติม เม้นมาแบ่งปันกันได้นะครับ จริงๆแล้วผมก็อยากได้วิธีจับหนอนที่มันง่ายกว่านี้นะ หากใครมีเทคนิคจับหนอน เม้นบอกกันหน่อย

ขอขอบคุณ น้องคนนี้ด้วย [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/profile.php?id=100008984080649&hc_ref=ARSBpniMU8nZlxrKtbjbu0dgUThHvV-pMX4i5DwEN2sM7Olp2S9PPQ6Z4oCZOz9p8UY&fref=nf เธอคอยเป็นที่ปรึกษาการเลี้ยงดูชูการ์มาตลอด 2 ปี รวมถึงวิธีการเพาะหนอนแว๊กซ์ในกระทู้นี้ด้วยจ้า แล้วเราเจอกันได้ยังไง ก็จากกระทู้นี้เลยครับ 555 กระทู้เก่าเก็บอายุพอๆกับเจ้าตัวที่ผมเลี้ยงเลย https://ppantip.com/topic/34235929