คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ถ้า 241 โอเค
ส่วน 243 ไม่โอ
243 งานลดเกรด กดไปซักพัก รอบตก ถ้าไม่รีบก็อาจจะดีกับชิ้นงาน แต่ถ้าต้องการตัดเยอะ,ตัดเหล็กหนาๆ จะทำให้เสียเวลาเสียอารมณ์
maktec 241 , 243 ไม่มีการ์ดป้องกันตัวที่สอง
ถ้าใครเคยเจอเหล็กบิน อาจจะไม่เลือกมาใช้เป็นครั้งที่สอง
เวลาเหล็กบิน (ทั้งเศษจากชิ้นงาน หรือ เศษจากใบแตก) ถ้ามีการ์ดตัวที่สอง เศษเหล็กมันจะหมุนอยู่ข้างใน ไม่บินออกมา
แต่ถ้าใครชอบเจียร์ข้าง ก็ไม่ว่ากัน เพราะเรื่อง safety ตัวใครตัวมัน
การใช้งาน
243 จังหว่ะกดครั้งแรก แรงกระชาก พอๆกับ 241
ซึ่งคือกระชากแรง คนไม่ชินอาจตกใจสะดุงได้เหมือนกัน
รอบเดินไม่นุ่ม
อะไหล่ ไม่มีปัญหา ร้านซ่อมตามข้างทาง ก็ยังมีอะไหล่ให้ซ่อม คือ เรื่องอะไหล่ตัดทิ้งไปได้เพราะหาง่าย
แต่ยังไงซะ 243 ก็ดีกว่าพวกจีนแดงเกรด 1700.- อยู่ดี
243 ช่วงนี้ที่ GBH จัดโปรเหลือ 2990.-
แต่ถ้าเป็นไปได้ ถ้าชอบ Maktec ให้ไปเล่น 241 ดีกว่า
--------------------------------------------------
แท่นตัดไฟเบอร์ เรทไม่เกิน 4000.- มี 3 ตัว
Maktec 241
BOSCH GCO200
Hitachi 14ST
เรียกกันว่า 3 เกลอหัวแข็ง
เล่นได้ทั้ง 3 ตัว มีดีมีเสีย แตกต่างกันไป
ถ้านุ่มสุด กระชากน้อยสุด ก็ Hitachi 14ST ได้ 2200W แต่ทรงโบร๊านโบราณ
ผิวพันธ์ดีสุด ก็ BOSCH GCO200 แต่ถ้าเล่น BOSCH เป็นไปได้หาตัว GCO2000 หัวดำได้จะดี
Maktec 241 กระชากแรงสุด ไม่มีการ์ดตัวที่สอง
3 ตัวนี้ เล่นได้ทั้ง 3 ตัว แล้วแต่ชอบ ใช้งานไม่มีปัญหาทั้ง 3 ตัว
อย่างที่บอก มีดีมีเสีย ทั้ง 3 ตัว ไม่มีตัวไหนดีเลิศเกินกว่าใคร
แถมให้อีกตัวคือ AEG 355 ( ที่เข้ามาอยู่ในกลุ่ม 4000.- )
กำลังแรงสุด 2300W กด start แล้ว สามารถกดใบลงชิ้นงานได้เลย ไม่ต้องรอจังหว่ะให้หมุนเต็มรอบเหมือนพวก 3 เกลอหัวแข็ง
แต่ฐานข้างล่างไม่ค่อยดี เวลาทำงานเครื่องจะเลื่อนจะไหลมากที่สุดในบรรดา 4 ตัวที่บอกมา
ป.ล.
4 ตัวนี้ ตัดฉากไม่เป๊ะ ทั้ง 4 ตัว ไม่ต้องงง ไม่ต้องน้อยใจ
(คนเคยใช้จะเข้าใจ ตัด 45 จะเห็นชัด อย่างตัด 45 ด้านเฉียงได้ 45 , แต่ด้านแนวนอนกลับไม่ได้ฉากซะงั้น)
ถ้าเป็นคนที่อยากได้งานละเอียดงานเนี๊ยบ ๆ ก็ต้องโมเครื่องนิดหน่อย ไม่ยากอะไร
ส่วน 243 ไม่โอ
243 งานลดเกรด กดไปซักพัก รอบตก ถ้าไม่รีบก็อาจจะดีกับชิ้นงาน แต่ถ้าต้องการตัดเยอะ,ตัดเหล็กหนาๆ จะทำให้เสียเวลาเสียอารมณ์
maktec 241 , 243 ไม่มีการ์ดป้องกันตัวที่สอง
ถ้าใครเคยเจอเหล็กบิน อาจจะไม่เลือกมาใช้เป็นครั้งที่สอง
เวลาเหล็กบิน (ทั้งเศษจากชิ้นงาน หรือ เศษจากใบแตก) ถ้ามีการ์ดตัวที่สอง เศษเหล็กมันจะหมุนอยู่ข้างใน ไม่บินออกมา
แต่ถ้าใครชอบเจียร์ข้าง ก็ไม่ว่ากัน เพราะเรื่อง safety ตัวใครตัวมัน
การใช้งาน
243 จังหว่ะกดครั้งแรก แรงกระชาก พอๆกับ 241
ซึ่งคือกระชากแรง คนไม่ชินอาจตกใจสะดุงได้เหมือนกัน
รอบเดินไม่นุ่ม
อะไหล่ ไม่มีปัญหา ร้านซ่อมตามข้างทาง ก็ยังมีอะไหล่ให้ซ่อม คือ เรื่องอะไหล่ตัดทิ้งไปได้เพราะหาง่าย
แต่ยังไงซะ 243 ก็ดีกว่าพวกจีนแดงเกรด 1700.- อยู่ดี
243 ช่วงนี้ที่ GBH จัดโปรเหลือ 2990.-
แต่ถ้าเป็นไปได้ ถ้าชอบ Maktec ให้ไปเล่น 241 ดีกว่า
--------------------------------------------------
แท่นตัดไฟเบอร์ เรทไม่เกิน 4000.- มี 3 ตัว
Maktec 241
BOSCH GCO200
Hitachi 14ST
เรียกกันว่า 3 เกลอหัวแข็ง
เล่นได้ทั้ง 3 ตัว มีดีมีเสีย แตกต่างกันไป
ถ้านุ่มสุด กระชากน้อยสุด ก็ Hitachi 14ST ได้ 2200W แต่ทรงโบร๊านโบราณ
ผิวพันธ์ดีสุด ก็ BOSCH GCO200 แต่ถ้าเล่น BOSCH เป็นไปได้หาตัว GCO2000 หัวดำได้จะดี
Maktec 241 กระชากแรงสุด ไม่มีการ์ดตัวที่สอง
3 ตัวนี้ เล่นได้ทั้ง 3 ตัว แล้วแต่ชอบ ใช้งานไม่มีปัญหาทั้ง 3 ตัว
อย่างที่บอก มีดีมีเสีย ทั้ง 3 ตัว ไม่มีตัวไหนดีเลิศเกินกว่าใคร
แถมให้อีกตัวคือ AEG 355 ( ที่เข้ามาอยู่ในกลุ่ม 4000.- )
กำลังแรงสุด 2300W กด start แล้ว สามารถกดใบลงชิ้นงานได้เลย ไม่ต้องรอจังหว่ะให้หมุนเต็มรอบเหมือนพวก 3 เกลอหัวแข็ง
แต่ฐานข้างล่างไม่ค่อยดี เวลาทำงานเครื่องจะเลื่อนจะไหลมากที่สุดในบรรดา 4 ตัวที่บอกมา
ป.ล.
4 ตัวนี้ ตัดฉากไม่เป๊ะ ทั้ง 4 ตัว ไม่ต้องงง ไม่ต้องน้อยใจ
(คนเคยใช้จะเข้าใจ ตัด 45 จะเห็นชัด อย่างตัด 45 ด้านเฉียงได้ 45 , แต่ด้านแนวนอนกลับไม่ได้ฉากซะงั้น)
ถ้าเป็นคนที่อยากได้งานละเอียดงานเนี๊ยบ ๆ ก็ต้องโมเครื่องนิดหน่อย ไม่ยากอะไร
แสดงความคิดเห็น
แท่นไฟเบอร์ 14 นิ้ว MAKTEC ใช้ดีมั๊ยครับ ??
จะหาแท่น ไฟเบอร์ ตัดเหล็ก ขนาด 14 นิ้ว มาใช้ซักเครื่องนึง
ตอนนี้สนใจ....
แท่นไฟเบอร์ 14 นิ้ว MAKTEC รุ่น MT-243 สีขาวแดง ใช้งานดี - ทน มั๊ย ครับ
เคยเห็น... ผรม.มาซ่อมบ้านใช้ยี่ห้อนี้ แต่ .... สีแดงทั้งตัว ท่าทางจะแพงกว่า...
ปล. รั้วลูกกรงเหล็ก โครงท่อสี่เหลี่ยม 1"x1" + ซี่แผ่นเหล็ก 2 มม.
ยาว 3 เมตร สูง 1.2 เมตร ทำแค่ 2 ช่อง