Day 2   :อย่า ลืม ฉัน(ตามรอยละคร)

เกริ่นนำ รีวิวเที่ยว Swiss - Paris 12 days ฉบับสามี ภรรยา https://ppantip.com/topic/37098725
Day 1   :ตื่นเมือง
6-7 April 2017 (THU-FRI) (BKK-Dubai – zurich - luzern) https://ppantip.com/topic/37101177
Day 2   :อย่า ลืม ฉัน (ตามรอยละคร 555)
8 April 2017  (SAT) (Luzern – Rigi Mt. – Pilatus Mt.) https://ppantip.com/topic/37101796
Day 3   :เมืองหลวงที่แสนร้อน
9 April 2017(SUN)(Luzern –Bern – Thun)https://ppantip.com/topic/37104820
Day 4   :10 April 2017 (MON)(Interlaken – Shilthron Mt.)
Day 5   :11 April 2017 (TUE) (Interlaken – Jungfrau Mt.)
Day 6   :12 April 2017 (WED) (Zermatt)
Day 7   :13 April 2017 (THU) (Zermatt- Gornergrat Mt.)
Day 8   :14 April 2017 (FRI) (Zermatt- Interlaken-Harder klum-Basel)
Day 9   :15 April 2017 (SAT) (Basel - Paris)
Day 10 :16 April 2017 (SUN)( Paris)
Day 11 :17 April 2017 (MON)( Paris-Basel-Zurich)
Day 12-13  :18-19 April 2017 (TUE)(Zurich - Dubai - BKK)

วันที่สอง เราสองคนแพลนว่าจะไปขึ้นเขาค่ะ  คือ Rigi Mt.และ Pilatus Mt ซึ่งเพียงแค่โชว์ Swiss pass บัตรเบ่งของเราก็สามารถแลกตั๋วขึ้นฟรีคร่า ไม่ไปขึ้นได้ไงคร่าของฟรี ^^(จริงๆคือจ่ายไปแล้วคนละ 16000บาท) การเดินทางคร่าวๆของเราคร่า ใช้ App SBB เช่นเดิม สะดวกมาก อุณภูมิตื่นเช้ามาวันนี้ 4 องศาเซลเซียลเท่านั้นเองคร่า

ตื่นเช้ามา ก็กินโจ็กค่ะ โจ๊กซองที่เตรียมมา ร่วม 10 ซอง และเรายังมีหม้อหุ่งข้าวใบจิ๋ว ติดมาด้วย อิอิ เนื่องจากของที่นี้แพงมว๊าก

กินโจ็กซองร่วมกับ ของเหลือจากเบอร์เกอคิง เมื่อเย็นค่ะ โรงแรม(ibis luzren)นี้มีที่เวฟอาหารส่วนกลางค่ะ ไปเวฟได้เลยคร่า

ตั๋วสำหรับนั่งกระเช้าขึ้นยอดเขา Pilatus ค่ะ

เราสองคนออกจากโรงแรมประมาณ 7-8 น เช้าวันนี้อากาศประมาณ 4 องศา ค่ะ เบาๆ ขนาดเดินตากแดดยังแทบไม่ช่วงอะไรเลยค่ะ ใส่เสื้อผ้ามาก็หลายชั้นแถมใสลองจอนอีกข้างใน เราสองคนใช้ App SBB ในการหาป้ายรถเมล์เพื่อไปลงสถานีสำหรับขึ้นกระเช้าสู่ยอดเขา นั่งรถเมล์ไปเกือบสุดสายค่ะ เวลานั่งรถเมล์แรกๆก็เขิลล ค่ะ ไม่มีใครตรวจตั๋วทั้งสิ้น ทั้งตอนขึ้นตอนลง แต่เราต้องพก Swiss pass ไว้ตลอดนะคะ เผื่อโดน^^ พอถึงจุดหมาย ก็โชว์Swiss pass กับเจ้าหน้าที่ ยิ้มแย้มมากๆค่ะ ได้ตั๋วมาก็ขึ้นกระเช้ากันเลยคร่าาาา ตื่นเต้น!!!!!

กระเช้าพอดีสำหรับขึ้น 2 คน คร่า ไปขึ้นยอดเขา Pilatus ค่ะ

กระเช้าสีแดง ขับเคลื่อนไปอย่างช้าๆค่ะ มาเป็นคู่แรกๆ เลย ใช้เวลาสักพัก ก็จะถึงที่เปลี่ยนสถานีจากกระเช้าเล็กๆเป็นกระเช้าใหญ่ค่ะ มีคนรออยู่ก่อนหน้านั้นประมาณ 4-5 คน ค่ะ เพื่อรอขึ้นไปพร้อมๆกัน บริเวณสถานีแห่งนี้สามารถออกไปชมบรรยากาศภายนอกได้นะ สวยมาก กอไก่ล้านตัว

กระเช้าที่ใหญ่ขึ้นคร่า มุ่งตรงสู่ยอดเขาPilatus กัน

ภาพนี้เราถ่ายจากยอดเขาค่ะ เห็นเวลากระเช้านำคนมาส่งพอดีเลยเก็บภาพไว้คร่าาาา

วิวบนยอดเขาPilatus

อากาศบนยอดเขาประมาณ 0-1 องศาค่ะ




ถุงชาแช่น้ำร้อนนี้ ราคาก็ตกประมาณ 200 บาทคร่า ราคาเบาๆ(กระเป๋าเบา)T.T




เราคือผู้หญิงเสื้อแดงเอง นั่งชมวิว^^ คนที่นั่งถัดไปกำลังนั่งกินอาหารเช้าค่ะ และมีพี่นักปั่น ปั่นจักรยานผ่านพอดี ส่วนสามีนั้นคนถ่ายรูปคร่า

เวลาตอนนั้น น่าจะสัก 10-11 โมง หลังจากนั่งเล่นพอสมควร เราลงเข้าด้วยกระเช้าเล็กต่อค่ะ เตรียมเดินทางไป Rigi kulm(Rigi Mt.) ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นราชินีแห่งหุบเขา เราสองคนนั่งรถเมล์ เพื่อไปที่ Luzern bahnhof(สถานีรถไฟ) วึ่งจะมีท่าเรือ สำหรับนั่งไปลงท่าเรือ Vitznau และต่อรถรางขึ้นเขา Rigi กันค่ะ เราแพลนว่าจะหาซื้ออะไรไปกินมื้อเที่ยงบนเรือ เพราะศึกษาข้อมูลมาแล้วคร่า ว่าค่าอาหารบนเรือแพงมากกกก เลยได้เป็นขนมปัง รสชาติไม่ค่อยดีมาทานค่ะ ราคา ประมาณ 300 บาทได้ค่ะ 2 คนนะ พร้อมน้ำหวานอีกขวด  ไปค่ะพร้อมขึ้นเรือ(การเดินทางทั้งหมดยังคงใช้ App SBB และSwiss pass ฟรี ตลอดเส้นทาง^^)  



บริการดี พูดจาดีเช่นเดิมคร่าาา ประทับใจ

ภาพบรรยากาศ น้ำที่โคตรใส กับลมที่โครตเย็น^^และเราสอง

รถรางขบวนน้อยที่พาเราจากท่าเรือ vitznau มาถึงยอดเขาRigi

รถรางขบวนนี้จะมีนายสถานีแจกช็อคโกแลต ด้วยคร่า อร่อยมากก^^

รูปคู่แบบ ตั้งถ่ายรูปกับโขดหินคร่า

การเดินทางในสวิต นั้นแสนง่ายจริงๆค่ะ แทบไม่ค่อยได้เดินไกลๆ เหงื่อก็ไม่ออก  ช่างเป็นประเทศที่ทำให้เราได้เข้าถึงธรรมชาติที่สวยงามแบบง่ายๆ (ราคาอาจจะแพงไป นิด) ไม่ต้องลำบากเสี่ยงอันตรายปีนเขา ซึ่งจริงๆจะปีนเขาทางสวิต ก็จัดเตรียมทางไว้ไว้สำหรับนักผจญภัยค่ะ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้ปีนป่าย 55555
16 น. หลังจากนั้นเราก็ลงเขาค่ะ เก็บบรรยากาศและถ่ายรูปจนแบตกล้องหมดกันไป ขากลับเราไม่นั่งเรือค่ะ ขอเป็นรถไฟเลยล่ะกันคร่า เร็วกว่า 1 ชม อิอิ เพื่อกลับโรงแรมที่ Luzern ซึ่งเรายังนอนที่เดิมค่ะ ibis Luzern นอนทั้งหมด 3 คืนคร่า เราไม่อยากลากกระเป๋าใบเท่าลูกวัว กันบ่อยๆ เพราะการคมนาคมสะดวกมากจริงๆค่ะ นอนเมืองเดียวก็นั่งรถไฟ ไปเที่ยวได้ทั่วคร่า^^

พอถึงโรงแรมเราก็ยังมีเวลาเดินเล่นเหลือค่ะ มื้อเย็นวันนี้ เป็นมาม่า กับไส้กรอก อะไรไม่รู้70 กว่าบาท และสตอเบอรี่แสนถูก 50 กว่าบาท

มื้อเย็นที่สุดแสนจะฟิน

จริงๆถามว่าเรากินร้านได้ไหม คำตอบก็คือได้ค่ะ แต่คงแบบว่า วันล่ะ 3000-4000 บาท ซึ่งเราสองคนเลืกประหยัดเอาดีกว่าค่ะ แค่อาหารเวฟ ของที่สวิตก็กล่องล่ะ 300-400 บาทล่ะคะ รสชาติก็แบบว่า..... สู้ข้าวกล่องเซเว่นบ้านเราไม่ได้คร่า ที่นี่เค้าคงไม่รู้จัก รสดี หรือ ผงชูรสกัน 555 เราสองคนยอมให้โซเดียมในร่างกายมันสูงๆหน่อยคร่าช่วงตลอด 10 กว่าวันนี้  จะดีหน่อยตรงที่ผลไม้สารพัดเบอร์รี่ คือถูกมากกก กล่องล่ะ 50-70 บาท ซึ่งเที่ยบกับบ้านเราคงราคา 300 up แน่นอนค่ะ

สตอเบอรรี่ ฟรังค์กว่าๆ (50กว่าบาทละค่ะ)

ช่วงที่ไป เงินสวิต สกุล ฟรังค์ ตกอยู่ที่ 35 บาท เท่ากับ 1 ฟรังค์ คร่า

ย่านเขตเมืองเก่าLuzern ยามค่ำคืน ที่ไม่รู้ว่าอุณหภูมิ ลดไปถึงเท่าไหร่

ฝันดีค่ะสำหรับค่ำคืนนี้  "สวิตที่ฝัน ในวันที่ตื่น" เครดิตคำหนังสือ Swiss Surreal
ติดตามต่อ Day 3 เมืองหลวงที่แสนร้อน เร็วๆนี้ค่ะ^^


เกริ่นนำ รีวิวเที่ยว Swiss - Paris 12 days ฉบับสามี ภรรยา https://ppantip.com/topic/37098725
Day 1   :ตื่นเมือง
6-7 April 2017 (THU-FRI) (BKK-Dubai – zurich - luzern) https://ppantip.com/topic/37101177
Day 2   :อย่า ลืม ฉัน (ตามรอยละคร 555)
8 April 2017  (SAT) (Luzern – Rigi Mt. – Pilatus Mt.) https://ppantip.com/topic/37101796
Day 3   :เมืองหลวงที่แสนร้อน
9 April 2017(SUN)(Luzern –Bern – Thun) https://ppantip.com/topic/37104820
Day 4   :10 April 2017 (MON)(Interlaken – Shilthron Mt.)
Day 5   :11 April 2017 (TUE) (Interlaken – Jungfrau Mt.)
Day 6   :12 April 2017 (WED) (Zermatt)
Day 7   :13 April 2017 (THU) (Zermatt- Gornergrat Mt.)
Day 8   :14 April 2017 (FRI) (Zermatt- Interlaken-Harder klum-Basel)
Day 9   :15 April 2017 (SAT) (Basel - Paris)
Day 10 :16 April 2017 (SUN)( Paris)
Day 11 :17 April 2017 (MON)( Paris-Basel-Zurich)
Day 12-13  :18-19 April 2017 (TUE)(Zurich - Dubai - BKK)