เราผิดมากใช่ไหม?ที่ตัดสินใจแยกทาง (ผู้ชายที่รักเรามาก และเล่นพนันบอลหนักมาก)

เราคบกับแฟนมาปีนี้เข้าปีที่ 10 พอดี จริงๆปีหน้ามีแพลนจะแต่งงานกัน เพราะเราสองก็อายุ 30 ++ แล้ว ส่วนพี่เค้าก็ใกล้ 40 ล่ะ เราใช้ชีวิตแบบครอบครัว อยู่ด้วยกันมา 10 ปี โดยที่ยังไม่ได้แต่งงาน (อยู่ก่อนแต่งนั้นแหละ) ที่จริงเราจะแต่งงานตั้งแต่อายุ 28 ล่ะ แต่เราขอให้ซื้อบ้านก่อน เพื่อตอนมีลูก ลูกเราจะได้มีที่ไว้วิ่งเล่นได้  การใช้ชีวิตคู่ตลอดระยะเวลา 10 ปี พี่เค้าดูแลเราดีมากเลยล่ะ (ไม่ใช่เรื่องเงินทองนะ) เราหมายถึงการเข้าใจใส่ ยามเจ็บ ยามป่วย และเราสัมผัสได้ว่าเค้าเองก็รักเรามากเช่นกัน  เพราะข้อดีข้อดีล่ะที่ทำให้เราอยู่กับเค้ามาถึงปีที่ 10 ถึงแม้ว่าเรื่องที่เราเจอมันจะยาก หรือ ร้ายแรงแค่ไหน เราก็อดทน (ชีวิตเหมือน Set ศูนย์) ทุกปี แต่เราก็อภัย แล้วก็เริ่มต้นใหม่ ไม่รู้กี่ร้อยครั้ง เราจำแทบไม่ได้  
   ข้อเสีย  ของพี่เค้ามีข้อเดียว !! คือ เค้าติดการพนันบอลหนักมาก   เราเองก็ไม่รู้หรอกว่าแค่นี้ถือว่าหนักไหม สำหรับความคิดคนอื่น เอาทีเราเจอที่เราจำได้นะ  ทุกครั้งที่เราเจอเราให้อภัยหมดนะ จุดแตกหักอยู่ที่ข้อสุดท้ายนี้ล่ะ ที่เราต้องหันหลังเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า เราออกจากบ้านมา
1) ขโมยโน๊ตบุคเราไปจำนำ                 =  แต่เราก็ให้อภัย เราเริ่มต้นใหม่
2) ขโมยกดเงินในบัตรATMของเรา        =  แต่เราก็ให้อภัย และกับมาเริ่มต้นใหม่
3) เอารถพ่อเค้าไปจำนำ(ตอนนี้พ่อเค้ายังไม่รู้เลยว่ารถลูกชายเอารถไปจำนำแล้ว)  =  แต่เราก็ให้อภัย และกับมาเริ่มต้นใหม่
4) ไม่ผ่อนบ้านมาหลายเดือน  (พี่เค้ามีหน้ารับผิดชอบผ่อนบ้านอย่างเดียว) นอกนั้นเรารับผิดชอบเองจนธนาคารจะฟ้องยึดบ้าน (พี่เค้าเงินเดือนเกือบ 6 หมื่น)แต่เราก็ไม่รู้ว่าไม่ผ่อนบ้านเอาเงินไปไหนพี่เค้ายอมรับเอาไปเล่นบอลหมด  = แต่ไม่เป็นไรเราก็ให้อภัย และเข้าไปคุยกับผู้จัดธนาคารเพื่อขอเคลียหนี้ที่ค้าง  และเราก็กับมาเริ่มต้นใหม่
5) ธนาคารให้วางเงินประกันค้ำบ้านไว้เพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้บ้านใหม่อีกรอบ โดยธนาคารให้ฝากหลักแสนบาทไว้เพื่อค้ำประกันว่าเรามีเงินในบัญชีเพื่อเอามาเคลียหนี้บ้านที่ไม่ได้จ่ายโดยฝากไว้กับบัญชีออมทรัยพ์ชื่อพี่เค้า =  เราเอาเงินเราฝากทันทีเพื่อจะรักษาบ้านหลังนี้ไว้ให้ได้ ไม่อยากให้โดยยึด และเราบอกพี่เค้าไปแล้วว่า ถ้าพี่ถอนเงินออกมาอีก แปลว่าพี่เลือกบอล ไม่ได้เลือก ความรัก และ ครอบครัว ก่อนที่เราจะฝากเงิน
6) หลังวางเงินค้ำประกันบ้าน ทุกอย่างก็ผ่านมาโดยไม่เกิน 1 ปี หลังจากที่เราอยู่แบบหวาดระแวงต้องแอบดูในกระเป๋าว่ามีโพยบอลไหม แต่ไม่มีและนิ่งนอนใจ มีอยู่วันหนึ่งพี่เค้าเมาหลับแล้วยังไม่ได้ปิดโน๊ตบุค แล้วจึงเข้าไปดูหน้าเวปที่เปิดค้างไว้ และตะลึงในสิ่งที่เห็นคือพี่เค้าแทงบอลออนไลน์ ในระยะเวลา 1 ปี เล่นเสียไป เกือบ 6แสน เราจึงรีบค้นกระเป๋าไปดูสมุดบัญชีที่เราวางค้ำประกันบ้านไหว้ เมื่อเปิดสมุดมา คงเหลือเงิน 300 บาท พี่เค้าถอนออกแล้วหลังจากฝากเงินได้เพียง 3 เดือน

**ข้อ สุดท้ายนี้แหละ ที่เป็นเหตุให้เราต้องระเห็ดเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าแล้วหันหลังออกมากจากแฟนเราที่เค้าทั้งดี ดูแล เอาใจใส่ รักเรา ไม่เคยนอกใจ ที่เราตัดสินใจออกมา เราไม่ได้เสียดายเงินนะ  แต่เพราะเราได้ให้เค้าสัญญาและให้คำมั่นกับเราแล้วว่า จะไม่ถอนเงินค้ำประกันบ้านออกมาเล่นบอล**
ตอนนี้เราออกมาได้จะ 4 เดือนล่ะ  สภาพหลังออกมาก็ไบโพร่ากินทุกวัน ร้องให้ตาปูด ตาบวม ทุกวัน  แถมพี่เค้ายังลายมาต่อว่าทุกวัน ว่าเราไม่รักเค้าจริง!!!  คนรักกันจริง เค้าไม่ทิ้งกันแบบนี้หรอก ........สรุปเราเลวเองใช่ไหม ที่ไม่อดทนอยู่กับพี่เค้าต่อไป ..บางครั้งเราเองก็สับสนว่า หรือ ตัวเราไม่ดี ทิ้งพี่เค้ามา หรือเราควรไปเริ่มต้นไปอีกครั้ง เหมือนทุกครั้ง สับสนไปหมด
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 15
- คุณใช้ระยะเวลาคบหาดูใจกันมานานถึง 10 ปีแล้ว แต่เขาก็ยังไม่มีหลักประกันชีวิตใดๆให้กับคุณเลย
- หากคุณยังมัวแต่เศร้าโศกเสียใจ และเสียดายในตัวตนของเขาอยู่ จิตใจคุณจะยิ่งอ่อนแอ จนในที่สุด คุณก็จะไม่พ้นต้องกลับไปสู่วัฏจักรเดิมๆอีกครั้ง
- อายุของฝ่ายชายก็อยู่ในช่วงวัยกลางคนแล้ว และเงินเดือนก็พอสมควรอยู่ หากเขาคิดที่จะสร้างครอบครัวกับคุณอย่างแท้จริง ก็สามารถที่จะทำได้
  ก่อนหน้านี้มานานแล้ว
- พฤติกรรมของเขา มีแนวโน้มที่จะเลวร้ายลงไปกว่าเดิม จนอาจจะถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัว
- เมื่อถึงคราวอับจนหนทาง ถ้าหากเขายังไม่ค้นพบสัจธรรมของชีวิต มันอาจจะเลวร้ายลงไปยิ่งกว่านั้น อาจมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้ง และอาจนำไปสู่
  ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว
- การพนันไม่เคยทำให้ใครได้ดี ทุกสิ่งมันแลดูฉาบฉวย ไม่ยั่งยืนทั้งนั้น ตราบเท่าที่ยังฝักใฝ่ และยังไปข้องเกี่ยวกับมันอยู่
- แฟนคุณมีโอกาสที่ดี อีกทั้งต้นทุนของชีวิต กับการงานที่ดีอยู่แล้ว แต่ทำไมเขายังเลือกที่จะติดอยู่ในวังวนแห่งนี้
- คุณก็เช่นเดียวกัน ยังมีโอกาสที่จะตัดสินใจ กับทางเลือกของตัวเอง และไม่ว่าคุณจะตัดสินใจอย่างไรก็ตาม ผลจากการตัดสินใจนั้น ย่อมส่งผล
  กระทบโดยตรงต่อตัวคุณเองอย่างแน่นอน จงไตร่ตรองดูให้ดี

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่