นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า จากมาตราการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา ที่ดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.2560 คือการปรับเพดานพิมพ์สลากเพิ่มเป็น 80 ล้านใบ จากเดิม 71 ล้านใบ โดยพบว่ายอดจอง-ซื้อในงวดวันที่ 16 พ.ย.2560 เพิ่มขึ้นเป็น 78 ล้านใบ และการเลื่อนวันรับสลากจอง-ซื้อเป็น 8-9 วันก่อนวันออกรางวัลเพื่อลดวันให้ผู้ค้ามีโอกาสรวมชุดขายเกินราคา พบว่าราคาสลากในวันก่อนออกรางวัลงวดวันที่ 16 พ.ย.2560 ในหลายพื้นที่ราคาอยู่ในราคาควบคุม ที่ 80 บาทต่อใบ เช่นในพื้นที่ จ.สุราษฏ์ธานี และ จ.สุโขทัย ขณะที่ในพื้นที่ เมืองทองธานี และหลายพื้นที่ พบว่ามีการขายอยู่ที่ 50-55 บาทต่อใบ
“การดูผลมาตรการคุมราคาว่าจะสำเร็จไหม จะต้องดูในวันที่ออกรางวัล ว่ามีการขายที่ราคาเท่าไหร่ ซึ่งพบว่าตั้งแต่งวดวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา ราคาสลากใบอยู่ที่ 80 บาท และราคาสลากรวมชุดอยู่ในราคาควบคุมไว้ โดยในงวด 16 พ.ย. จากการเพิ่มสลากถึงมือผู้ขายจริง เดิม 3 หมื่นราย เป็นได้ครบกว่า 1 แสนราย ส่งผลให้ตลาดขายส่งปรับราคาจำหน่ายลง เหลือเล่มละ 6,000 บาท จากต้นทุน 7,040 บาท แสดงให้เห็นว่า รายย่อยลดการพึ่งพาตลาดขายส่งแล้ว และเริ่มเห็นผู้บริโภคปรับพฤติกรรม ไม่ซื้อสลากที่จำหน่ายเกินราคา”
นายธนวรรธน์ กล่าวว่า จากมาตรการ สำนักงานสลาก ขอเวลาประเมินผลอีก 4 งวด หากพบว่าสลากยังจำหน่ายเกินราคาอีก ก็จะเสนอที่ประชุมคณะกรรรมสลากในเดือน มี.ค. พิจารณาออกสลากรวมชุดจำหน่ายเอง ซึ่งขณะนี้ศึกษารูปแบบการพิมพ์และจ่ายรางวัลเสร็จแล้ว เบื้องต้น สลากรวมชุดจะจำหน่ายใบละ 400 บาท ถูกรางวัลที่ 1 ได้ 30 ล้านบาท และสลากรวมชุดจะไม่สามารถนำไปรวมชุดได้อีก เพราะแต่ละชุดจะไม่เหมือนกันเลย โดยสลากจะต้องคัดกรองเลือกผู้ค้าที่มีความซื่อสัตย์ มาจำหน่ายสลากชุดให้ รวมทั้งมาตรการเลื่อนวันรับสลากจำหน่ายจากตัวแทน เดิม 14 วัน ให้เหลือ 9-11 วัน ก่อนออกสลากฯ และอาจจะเพิ่มเพดานพิมพ์อีกจากเดิม 80 ล้านใบ
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาคณะกรรมการสลาก ร้อนใจและไม่สบายใจที่เห็นสลากขายเกินราราในหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นผลจากที่ผ่านมามีข่าวว่า มีคนถูกสลากรวมชุดรางวัลที่หนึ่ง ได้เงินรางวัล 180 ล้านบาท และมีคนถูกรางวัลรวมชุดบ่อยครั้ง ทำให้คนซื้อนิยมซื้อสลากชุดมากขึ้น และสลากใบหายไปจากระบบ แต่การแก้ไขปัญหาจะทำทันทีไม่ได้ เพราะต้องไม่ให้ผิดเงื่อนไขสัญญา และให้สลากต้องผิดกฏหมาย ในการออกประกาศเลื่อนวันรับจำหน่ายสลาก จึงต้องใช้เวลา ขณะเดียวกัน ก็สนธิกำลัง เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจจับมากขึ้น พบว่าตัดโควตาตัวแทนจำหน่ายได้แล้ว 3,800 ราย โควตาซื้อ-จอง 600 ราย อยู่ระหว่างตรวจสอบอีกกว่า 3,000 ราย
ส่วนกรณีที่มีผู้ค้าได้รับผลกระทบจากการเพิ่มจำนวนสลาก ทำให้มีการจำหน่ายไม่หมดในบางพื้นที่ ขอให้ผู้ทำการซื้อ-จองสลาก ตั้งสติ และประเมินความจำหน่ายให้รอบคอบ
ข่าวจาก : ข่าวสดออนไลน์
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_635943
กองสลาก โชว์คุมราคาสลากได้ผล เหลือใบละ 50 บาท ชงบอร์ด รวมชุดขายเอง ชุดละ 400
นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า จากมาตราการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา ที่ดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.2560 คือการปรับเพดานพิมพ์สลากเพิ่มเป็น 80 ล้านใบ จากเดิม 71 ล้านใบ โดยพบว่ายอดจอง-ซื้อในงวดวันที่ 16 พ.ย.2560 เพิ่มขึ้นเป็น 78 ล้านใบ และการเลื่อนวันรับสลากจอง-ซื้อเป็น 8-9 วันก่อนวันออกรางวัลเพื่อลดวันให้ผู้ค้ามีโอกาสรวมชุดขายเกินราคา พบว่าราคาสลากในวันก่อนออกรางวัลงวดวันที่ 16 พ.ย.2560 ในหลายพื้นที่ราคาอยู่ในราคาควบคุม ที่ 80 บาทต่อใบ เช่นในพื้นที่ จ.สุราษฏ์ธานี และ จ.สุโขทัย ขณะที่ในพื้นที่ เมืองทองธานี และหลายพื้นที่ พบว่ามีการขายอยู่ที่ 50-55 บาทต่อใบ
“การดูผลมาตรการคุมราคาว่าจะสำเร็จไหม จะต้องดูในวันที่ออกรางวัล ว่ามีการขายที่ราคาเท่าไหร่ ซึ่งพบว่าตั้งแต่งวดวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา ราคาสลากใบอยู่ที่ 80 บาท และราคาสลากรวมชุดอยู่ในราคาควบคุมไว้ โดยในงวด 16 พ.ย. จากการเพิ่มสลากถึงมือผู้ขายจริง เดิม 3 หมื่นราย เป็นได้ครบกว่า 1 แสนราย ส่งผลให้ตลาดขายส่งปรับราคาจำหน่ายลง เหลือเล่มละ 6,000 บาท จากต้นทุน 7,040 บาท แสดงให้เห็นว่า รายย่อยลดการพึ่งพาตลาดขายส่งแล้ว และเริ่มเห็นผู้บริโภคปรับพฤติกรรม ไม่ซื้อสลากที่จำหน่ายเกินราคา”
นายธนวรรธน์ กล่าวว่า จากมาตรการ สำนักงานสลาก ขอเวลาประเมินผลอีก 4 งวด หากพบว่าสลากยังจำหน่ายเกินราคาอีก ก็จะเสนอที่ประชุมคณะกรรรมสลากในเดือน มี.ค. พิจารณาออกสลากรวมชุดจำหน่ายเอง ซึ่งขณะนี้ศึกษารูปแบบการพิมพ์และจ่ายรางวัลเสร็จแล้ว เบื้องต้น สลากรวมชุดจะจำหน่ายใบละ 400 บาท ถูกรางวัลที่ 1 ได้ 30 ล้านบาท และสลากรวมชุดจะไม่สามารถนำไปรวมชุดได้อีก เพราะแต่ละชุดจะไม่เหมือนกันเลย โดยสลากจะต้องคัดกรองเลือกผู้ค้าที่มีความซื่อสัตย์ มาจำหน่ายสลากชุดให้ รวมทั้งมาตรการเลื่อนวันรับสลากจำหน่ายจากตัวแทน เดิม 14 วัน ให้เหลือ 9-11 วัน ก่อนออกสลากฯ และอาจจะเพิ่มเพดานพิมพ์อีกจากเดิม 80 ล้านใบ
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาคณะกรรมการสลาก ร้อนใจและไม่สบายใจที่เห็นสลากขายเกินราราในหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นผลจากที่ผ่านมามีข่าวว่า มีคนถูกสลากรวมชุดรางวัลที่หนึ่ง ได้เงินรางวัล 180 ล้านบาท และมีคนถูกรางวัลรวมชุดบ่อยครั้ง ทำให้คนซื้อนิยมซื้อสลากชุดมากขึ้น และสลากใบหายไปจากระบบ แต่การแก้ไขปัญหาจะทำทันทีไม่ได้ เพราะต้องไม่ให้ผิดเงื่อนไขสัญญา และให้สลากต้องผิดกฏหมาย ในการออกประกาศเลื่อนวันรับจำหน่ายสลาก จึงต้องใช้เวลา ขณะเดียวกัน ก็สนธิกำลัง เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจจับมากขึ้น พบว่าตัดโควตาตัวแทนจำหน่ายได้แล้ว 3,800 ราย โควตาซื้อ-จอง 600 ราย อยู่ระหว่างตรวจสอบอีกกว่า 3,000 ราย
ส่วนกรณีที่มีผู้ค้าได้รับผลกระทบจากการเพิ่มจำนวนสลาก ทำให้มีการจำหน่ายไม่หมดในบางพื้นที่ ขอให้ผู้ทำการซื้อ-จองสลาก ตั้งสติ และประเมินความจำหน่ายให้รอบคอบ
ข่าวจาก : ข่าวสดออนไลน์
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_635943