ขอปรึกษาปัญหาครับ เรื่องมีอยู่ว่า บ้านผมอยู่ในหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่งครับ ที่บ้านทำงาน ออฟฟิศ และออกไปเรียนกันหมดทุกคน ทำให้ช่วงกลางวันไม่มีใครอยู่บ้าน

เมื่อประมาณช่วงปลายเดือนก่อน น้องสาวผม วางเงินไว้ในห้องนอนประมาณ 3500 บาท ปรากฏว่ากลับบ้านมาแล้วหาย จึงลองไปไล่เปิดกล้องวงจรปิด ดูปรากฏกว่าเจอเพื่อนบ้านที่อยู่ในระแวกเดียวกันปีนเข้าบ้าน
และวันนั้นที่บ้านผมไม่ได้ล็อคประตูเข้าตัวบ้าน (แต่ประตูรั้วบ้านล็อค) ซึ่งหลังจากที่ขโมยเข้าบ้านมานั้น ได้สับคัทเอาท์บ้านผมทำให้ระหว่างนั้นไม่สามารถบันทึกภาพใดๆได้
(ผมเข้าใจว่าน่าจะเข้ามาหลายทีแล้วเพราะรู้ตำแหน่งกล้อง และคัทเอาท์เป็นอย่างดี และระยะหลังๆ บ้านผมเงินที่วางไว้ตามโต๊ะกินข้าว แม้แต่สแตมป์เซเว่นก็หาย)
ผมจึงได้ไปสำรวจของในบ้าน พบว่ามีของอีกหลายอย่างหายไป เช่น เงินในกระปุกของหลาน พระเครื่ององค์เล็กที่วางไว้บนโต๊ะหมู่ เครื่องประดับเล็กๆน้อยๆของแม่ ซึ่งตรงนี้ผมไม่สามารถระบุมูลค่าได้

น้องสาวไปแจ้งความ ทางตำรวจรับแจ้งแค่มีคนบุกรุกเข้าบ้าน และขโมยเงินไป 3500 บาท

จากนั้นจึงได้ออกหมายเรียกตัวคนขโมยมาสอบสวน ซึ่งหัวขโมยนั้นเป็นแม่ลูกอ่อน(10 เดือน) โดยในขณะสอบสวนทางตำรวจคอยชี้นำ และหาช่องทางช่วยคนร้ายอยู่ตลอด (ตรงนี้ผมมีคลิปเสียง) โดยชี้นำและเขียนสำนวนให้ว่า
คนร้ายได้ปีนเข้าบ้านผมมาขโมยเงิน 3500 บาท (เท่านั้น) และสาเหตุที่ขโมยเพื่อเอาเงินไปซื้อนมให้ลูก โดยที่คนร้ายยังไม่ได้เอ่ยปากใดๆ
(นอกจากนั้นยังมีการจะขอแก้สำนวนเป็นเดินเข้ามาเปิดประตูบ้านผมเฉยๆ ไม่ใช่ปีนเข้าบ้านด้วย ซึ่งตรงนี้น้องผมได้ทักท้วงไว้)

และทางตำรวจพยายามให้น้องสาวผมเซ็นยอมรับ ตามที่ทางตำรวจได้กล่าวไว้ข้างต้น ซึ่งน้องสาวผมยังไม่ยอมเซ็น เนื่องจากไม่เห็นชอบที่ทางตำรวจไม่ยอมสอบสวนผู้ร้าย ดังนั้น ทางตำรวจจึงปล่อยให้แยกย้ายกลับบ้านก่อน
ซึ่งหลังจากที่กลับมานั้นตำรวจมีโทรมาเกลี่ยกล่อมให้ทางผมยอมความ โดยบอกว่าเป็นเพื่อนบ้านกัน จะได้อยู่ด้วยกันได้ และจะได้ไม่ทำให้คนดีเตลิด

ตรงนี้ไม่ทราบว่าทางผมควรต้องทำอย่างไรดีครับ
ตอนนี้ที่บ้านกลัวเรื่องความปลอดภัยของหลายชายและแม่มาก เนื่องจาก ผมที่เป็นลูกชายก็ทำงาน ตจว และมีหลานชาย 9 ขวบ ที่ต้องกลับบ้านมาอยู่คนเดียวช่วงเย็นซักพักนึง หลังจากนั้นแม่ซึ่งอายุ 60 ถึงจะกลับตามด้วยน้องสาว