เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ทวีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้กระทั่งผู้เชี่ยวชาญระดับโลกด้านหุ้นยังต้องแนะนำหุ้นน่าสนใจที่มีแนวโน้มให้เงินปันผลสูงสุด ซึ่งเป็นหุ้นของ 5 บริษัทที่กำลังมีการพัฒนาเทคโนโลยี AI มาใช้งาน ได้แก่ Microsoft, Yext, Facebook, Micron และ Alphabet Inc หรือ Google
Microsoft ประกาศที่จะพัฒนา AI เพื่อรองรับระบบ Cloud และเว็บบราวเซอร์ และยังร่วมมือกับ Amazon เพื่อพัฒนาซอฟท์แวร์ที่เป็นแบบ Open Source ด้วย
Facebook ประกาศความต้องการที่จะพัฒนาระบบ AI ด้วยทีมงานระดับหัวกระทิ ซึ่งเป็นทีมแรก ๆ ที่มีการวิจัยในศาสตร์ของปัญญาประดิษฐ์
Google กำลังใช้ระบบ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของบริการ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้มีประสิทธิภาพและง่ายดายมากขึ้น รวมถึงพัฒนาสินค้าที่ติดตั้งระบบ AI เช่น Google Lens แว่นที่สามารถรับรู้ได้ว่าสิ่งที่ผู้ใช้กำลังจ้องมองไปคือสิ่งใด, ลำโพงและหูฟังที่รองรับระบบ AI
ปัจจุบันเทคโนโลยี AI แทรกซึมเข้าไปอยู่ในทุกวงการ โดยขยายวงของการใช้งานกว้างขวางออกไป อาทิ
การแพทย์ใช้ AI ช่วยวินิจฉัยและวิเคราะห์การรักษาโรค
การเกษตร : สตาร์ทอัพโดรนของญี่ปุ่น ใช้ AI ตรวจจับความร้อนและใช้คลื่นเสียงอัลตร้าโซนิคจัดการไล่สัตว์ป่าที่จะเข้าไปทำลายพืชผลทางการเกษตร โดยไม่ต้องทำร้ายสัตว์
การก่อสร้าง : AI ช่วยสำรวจข้อมูล โครงสร้าง วิเคราะห์และวางแผนการก่อสร้าง
โลจิสติกส์: อาลีบาบาเริ่มใช้เทคโนโลยี AI ส่งของด้วยโดรนไปยังลูกค้า
ขนส่งสาธารณะ : AI ช่วยวิเคราะห์เส้นทาง หลบหลีกสิ่งกีดขวาง เพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ยานพาหนะของมนุษย์
อุตสาหกรรมการผลิต : AI และหุ่นยนต์เข้ามาช่วยเกือบทั้งกระบวนการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม
นอกจากนี้ มหาเศรษฐีของโลกเจ้าของไมโครซอฟท์ บิล เกตส์ ได้แสดงวิสัยทัศนืไว้ในหลายเวทีในการสนับสนุนเทคโนโลยี AI ล่าสุดยังคงย้ำความเชื่อมั่นอย่างหนักแน่นในงาน Misk Global Forum ที่ซาอุดิอาระเบียว่า หุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะจะช่วยทดแทนการขาดแคลนแรงงานคน ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งของโลก ที่เปรียบเสมือนโรคติดต่อร้ายแรง ที่จะต้องรีบช่วยรักษา
เกตส์เชื่อว่า การพัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์จะเป็นประโยชน์แก่มวลมนุษยชาติในอนาคต โดย AI จะช่วยเปลี่ยนสภาพแวดล้อมการทำงานทั่วโลก โดยเฉพาะจะเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาสังคมและการศึกษา
ด้านเจฟฟ์ เบโซส เจ้าของเว็บไซต์อเมซอน ก็สนับสนุนเทคโนโลยี AI โดยมีความคิดว่า การพัฒนาปัญญาประดิษฐ์เป็นอารยธรรมใหม่และการก้าวไปสู่ยุคเฟื่องฟูของเทคโนโลยี โดยเขาได้นำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้ในธุรกิจของอเมซอนอย่างกว้างขวาง เช่น ซอฟแวร์ควบคุมการสั่งการด้วยเสียง, โดรนจัดส่งสินค้า และ AI วิเคราะห์ Big data เพื่อติดตามพฤติกรรมของลูกค้าแบบ realtime เป็นต้น
ส่วนในประเทศไทย นับว่ายังใหม่ต่อเทคโนโลยี AI และหุ่นยนต์ โดยมีการนำหุ่นยนต์เข้ามาใช้งานไม่มาก แต่ก็มีความตื่นตัวอย่างมาก รวมถึงความพยายามที่จะพัฒนาและซึมซับเทคโนโลยี AI และหุ่นยนต์ เข้ามาใช้งานด้านต่าง ๆ ในเชิงขยายมากขึ้น โดยเฉพาะสถาบันอุดมศึกษาต่างมุ่งเน้นการพัฒนาบุคลากรขึ้นมารองรับเทคโนโลยีแห่งอนาคตนี้ และมีการขยายความร่วมมือกับต่างประเทศในการตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ ๆ ซึ่งได้รับการสนับสนนุจากภาครัฐและเอกชน เพื่อพาไทยเข้าสู่ยุคทองของเทคโนโลยี AI โดยไม่ต้องรั้งท้ายหรือหลุดขบวน
แถมหุ่นยนต์เก็บขยะชายหาด พัฒนาโดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ที่มาข้อมูล:
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำหุ้น 5 ตัวต่อไปนี้ ในฐานะผู้นำด้านปัญญาประดิษฐ์ http://www.mtsgoldfutures.co.th/th/research/detail.php?ID=10888&SECTION_ID=15
Skyrobot สตาร์ทอัพโดรนจากญี่ปุ่น คิดค้นระบบดูแลฟาร์มแบบไม่ทำร้ายสัตว์ ใช้ AI ช่วย
https://brandinside.asia/drone-ai-farm-japan/
7 อุตสาหกรรมที่ AI เป็นผู้ช่วยและทุ่นแรงให้กับมนุษย์ https://www.aripfan.com/artificial-intelligence-industry/
"วิศวะ ม.อ." จัดการขยะบนชายหาดด้วย "หุ่นยนต์เก็บขยะ" https://www.posttoday.com/social/hot/524871
แจ็ค หม่า อาลีบาบาจะครองโลก https://www.thairath.co.th/content/1125624
Bill Gates defends AI technology after Hawking issues dire warning
http://www.express.co.uk/news/science/879611/robot-news-ai-artificial-intelligence-bill-gates-technology-steven-hawking
AI ปัญญาประดิษฐ์ ยุคทองของเทคโนโลยี
Microsoft ประกาศที่จะพัฒนา AI เพื่อรองรับระบบ Cloud และเว็บบราวเซอร์ และยังร่วมมือกับ Amazon เพื่อพัฒนาซอฟท์แวร์ที่เป็นแบบ Open Source ด้วย
Facebook ประกาศความต้องการที่จะพัฒนาระบบ AI ด้วยทีมงานระดับหัวกระทิ ซึ่งเป็นทีมแรก ๆ ที่มีการวิจัยในศาสตร์ของปัญญาประดิษฐ์
Google กำลังใช้ระบบ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของบริการ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้มีประสิทธิภาพและง่ายดายมากขึ้น รวมถึงพัฒนาสินค้าที่ติดตั้งระบบ AI เช่น Google Lens แว่นที่สามารถรับรู้ได้ว่าสิ่งที่ผู้ใช้กำลังจ้องมองไปคือสิ่งใด, ลำโพงและหูฟังที่รองรับระบบ AI
ปัจจุบันเทคโนโลยี AI แทรกซึมเข้าไปอยู่ในทุกวงการ โดยขยายวงของการใช้งานกว้างขวางออกไป อาทิ
การแพทย์ใช้ AI ช่วยวินิจฉัยและวิเคราะห์การรักษาโรค
การเกษตร : สตาร์ทอัพโดรนของญี่ปุ่น ใช้ AI ตรวจจับความร้อนและใช้คลื่นเสียงอัลตร้าโซนิคจัดการไล่สัตว์ป่าที่จะเข้าไปทำลายพืชผลทางการเกษตร โดยไม่ต้องทำร้ายสัตว์
การก่อสร้าง : AI ช่วยสำรวจข้อมูล โครงสร้าง วิเคราะห์และวางแผนการก่อสร้าง
โลจิสติกส์: อาลีบาบาเริ่มใช้เทคโนโลยี AI ส่งของด้วยโดรนไปยังลูกค้า
ขนส่งสาธารณะ : AI ช่วยวิเคราะห์เส้นทาง หลบหลีกสิ่งกีดขวาง เพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ยานพาหนะของมนุษย์
อุตสาหกรรมการผลิต : AI และหุ่นยนต์เข้ามาช่วยเกือบทั้งกระบวนการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม
นอกจากนี้ มหาเศรษฐีของโลกเจ้าของไมโครซอฟท์ บิล เกตส์ ได้แสดงวิสัยทัศนืไว้ในหลายเวทีในการสนับสนุนเทคโนโลยี AI ล่าสุดยังคงย้ำความเชื่อมั่นอย่างหนักแน่นในงาน Misk Global Forum ที่ซาอุดิอาระเบียว่า หุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะจะช่วยทดแทนการขาดแคลนแรงงานคน ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งของโลก ที่เปรียบเสมือนโรคติดต่อร้ายแรง ที่จะต้องรีบช่วยรักษา
เกตส์เชื่อว่า การพัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์จะเป็นประโยชน์แก่มวลมนุษยชาติในอนาคต โดย AI จะช่วยเปลี่ยนสภาพแวดล้อมการทำงานทั่วโลก โดยเฉพาะจะเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาสังคมและการศึกษา
ด้านเจฟฟ์ เบโซส เจ้าของเว็บไซต์อเมซอน ก็สนับสนุนเทคโนโลยี AI โดยมีความคิดว่า การพัฒนาปัญญาประดิษฐ์เป็นอารยธรรมใหม่และการก้าวไปสู่ยุคเฟื่องฟูของเทคโนโลยี โดยเขาได้นำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้ในธุรกิจของอเมซอนอย่างกว้างขวาง เช่น ซอฟแวร์ควบคุมการสั่งการด้วยเสียง, โดรนจัดส่งสินค้า และ AI วิเคราะห์ Big data เพื่อติดตามพฤติกรรมของลูกค้าแบบ realtime เป็นต้น
ส่วนในประเทศไทย นับว่ายังใหม่ต่อเทคโนโลยี AI และหุ่นยนต์ โดยมีการนำหุ่นยนต์เข้ามาใช้งานไม่มาก แต่ก็มีความตื่นตัวอย่างมาก รวมถึงความพยายามที่จะพัฒนาและซึมซับเทคโนโลยี AI และหุ่นยนต์ เข้ามาใช้งานด้านต่าง ๆ ในเชิงขยายมากขึ้น โดยเฉพาะสถาบันอุดมศึกษาต่างมุ่งเน้นการพัฒนาบุคลากรขึ้นมารองรับเทคโนโลยีแห่งอนาคตนี้ และมีการขยายความร่วมมือกับต่างประเทศในการตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ ๆ ซึ่งได้รับการสนับสนนุจากภาครัฐและเอกชน เพื่อพาไทยเข้าสู่ยุคทองของเทคโนโลยี AI โดยไม่ต้องรั้งท้ายหรือหลุดขบวน
แถมหุ่นยนต์เก็บขยะชายหาด พัฒนาโดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้