สมเด็จพระสังฆราช ทรงแนะนำบัณฑิต มมร. ต้องมีขันติธรรม รู้จักอดทนอดกลั้น อย่ายอมให้ใจวู่วามไปตามเหตุการณ์ ตามอคติ และอารมณ์ หากยั้งคิดได้จะทำให้เราพิจารณา
เมื่อวันที่ 12 พ.ย.2560 สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อัมพร อมฺพโร)
เสด็จเป็นประธานในพิธีประทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา ศาสนศาสตรบัณฑิต ศาสนศาสตรมหาบัณฑิต
และศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิต ที่มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร.) ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม
โดยมีผู้เข้ารับประทานปริญญาบัตรรวมทั้งสิ้นจำนวน 2,535 รูป/คน
พร้อมกันนี้สมเด็จพระสังฆราช มีพระโอวาท ว่า ท่านทั้งหลายได้ชื่อว่าเป็นบัณฑิต สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัย
อันมีเกียรติภูมิ มีประวัติความเป็นมาคู่กับประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา และประวัติศาสตร์ชาติไทย ย่อมมีหน้าที่ที่จะ
รักษาเกียรติภูมินั้นๆ ให้ดำรงอยู่กับตนเสมอ บัณฑิตที่จะก้าวออกไปปฏิบัติภารธุระต่างๆ ตามหน้าที่ที่ตนรับผิดชอบ
นั้น ต้องมีขันติธรรมประจำใจ ต้องรู้จักอดทนและอดกลั้น ไม่ยอมตัว ยอมใจให้วู่วามไปตามเหตุการณ์ ตามอคติ และ
อารมณ์ที่ตนชอบใจ หรือไม่ชอบใจนั้น ความอดทนอดกลั้นก่อให้เกิดความยั้งคิด เมื่อยั้งคิดได้แล้ว ย่อมมีโอกาสที่จะพิจารณาเรื่องที่ทำ คำที่พูด ทบทวนดูทบทวนดูใหม่ได้อีกคำรบหนึ่ง
ถ้าท่านทั้งหลายมีสติ ยับยั้ง และทบทวนการกระทำอยู่เสมอ ย่อมจะช่วยให้สามารถวินิจฉัย ที่จะกระทำหรือไม่กระทำ
การใดๆ ได้ละเอียดถ่องแท้ขึ้น ความคลาดเคลื่อนจากธรรม หรือบาปอกุศลย่อมจะไม่มีโอกาสมาสู่การคิด การพูด
และการกระทำของผู้มีความยับยั้งชั่งใจ ถ้ากระทำได้เช่นนั้น ย่อมได้ชื่อเป็นผู้รักษาเกียรติของความเป็นบัณฑิต และ
และรักษาเกียรติของมหาวิทยาลัยโดยแท้.
สมเด็จพระสังฆราช ทรงแนะบัณฑิต มมร. ต้องมีขันติธรรม
สมเด็จพระสังฆราช ทรงแนะนำบัณฑิต มมร. ต้องมีขันติธรรม รู้จักอดทนอดกลั้น อย่ายอมให้ใจวู่วามไปตามเหตุการณ์ ตามอคติ และอารมณ์ หากยั้งคิดได้จะทำให้เราพิจารณา
เมื่อวันที่ 12 พ.ย.2560 สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อัมพร อมฺพโร)
เสด็จเป็นประธานในพิธีประทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา ศาสนศาสตรบัณฑิต ศาสนศาสตรมหาบัณฑิต
และศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิต ที่มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร.) ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม
โดยมีผู้เข้ารับประทานปริญญาบัตรรวมทั้งสิ้นจำนวน 2,535 รูป/คน
พร้อมกันนี้สมเด็จพระสังฆราช มีพระโอวาท ว่า ท่านทั้งหลายได้ชื่อว่าเป็นบัณฑิต สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัย
อันมีเกียรติภูมิ มีประวัติความเป็นมาคู่กับประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา และประวัติศาสตร์ชาติไทย ย่อมมีหน้าที่ที่จะ
รักษาเกียรติภูมินั้นๆ ให้ดำรงอยู่กับตนเสมอ บัณฑิตที่จะก้าวออกไปปฏิบัติภารธุระต่างๆ ตามหน้าที่ที่ตนรับผิดชอบ
นั้น ต้องมีขันติธรรมประจำใจ ต้องรู้จักอดทนและอดกลั้น ไม่ยอมตัว ยอมใจให้วู่วามไปตามเหตุการณ์ ตามอคติ และ
อารมณ์ที่ตนชอบใจ หรือไม่ชอบใจนั้น ความอดทนอดกลั้นก่อให้เกิดความยั้งคิด เมื่อยั้งคิดได้แล้ว ย่อมมีโอกาสที่จะพิจารณาเรื่องที่ทำ คำที่พูด ทบทวนดูทบทวนดูใหม่ได้อีกคำรบหนึ่ง
ถ้าท่านทั้งหลายมีสติ ยับยั้ง และทบทวนการกระทำอยู่เสมอ ย่อมจะช่วยให้สามารถวินิจฉัย ที่จะกระทำหรือไม่กระทำ
การใดๆ ได้ละเอียดถ่องแท้ขึ้น ความคลาดเคลื่อนจากธรรม หรือบาปอกุศลย่อมจะไม่มีโอกาสมาสู่การคิด การพูด
และการกระทำของผู้มีความยับยั้งชั่งใจ ถ้ากระทำได้เช่นนั้น ย่อมได้ชื่อเป็นผู้รักษาเกียรติของความเป็นบัณฑิต และ
และรักษาเกียรติของมหาวิทยาลัยโดยแท้.