สวัสดีเพื่อนๆ ชาวพันทิปครับ
เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้ไปเมืองไอซึวากามัตสึซึ่งถือเป็นหนึ่งจุดชมซากุระที่สวยที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุ จึงอยากจะแบ่งปันภาพและเรื่องราว พร้อมสอดแทรกเรื่องราวประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นซึ่งเป็นความชอบส่วนตัวครับ
ไอซึวากามัตสึ (Aizu-Wakamatsu) ตั้งอยู่ที่จังหวัดฟุกุชิม่าซึ่งเป็นจังหวัดใต้สุดของภูมิภาคโทโฮคุ ในอดีตที่นี่เป็นหนึ่งในแคว้นที่รุ่งเรืองที่สุดของญี่ปุ่น
การเดินทาง
นั่ง Tohoku Shinkansen ลงที่ Toriyama Sta. แล้วต่อสาย JR Ban'etsu West Line ไปที่ Aizu Wakamatsu Sta.
จากโตเกียว ใช้เวลา ประมาณ 3 ชั่วโมง
จากเซนได ใช้เวลา ประมาณ 2 ชั่วโมง 10 นาที
รถไฟสาย JR Ban'etsu West Line เป็นรถไฟสาย Local ที่วิวระดับ Inter เลยนะ ที่เห็นในภาพเป็นภูเขาอุระบันไดซึ่งในช่วงนั้นหิมะบนยอดยังละลายไม่หมด
พอมาถึงสถานีไอซึวากามัตสึ หน้าสถานีจะมีป้ายรถเมล์ Wakamatsu Loops Bus ซึ่งจะพาเราไปส่งยังจุดท่องเที่ยวต่างๆ ของเมืองในราคา 210 เยนต่อเที่ยว แต่ถ้าอยากแวะหลายจุด แนะนำให้ซื้อ 1 Day Pass ในราคาสุดคุ้มแค่ 500 เยนดีกว่า มีแผนที่แถมให้ด้วยนะ
จุดแรกแน่นอนว่าเป็นจุดที่พลาดไม่ได้เมื่อมาในฤดูใบไม้ผลิ ผมลงที่ป้าย Tsuruga-jo iriguchi เพื่อชมปราสาทซึรุงะในบรรยากาศซากุระ
ปราสาทซึรุงะ หรือปราสาทนกกระเรียนแห่งนี้มีอายุกว่า 600 ปี ผ่านศึกสงครามในหลากหลายยุคสมัย อีกทั้งมีบทบาทสำคัญในสงครามโบชิงซึ่งเป็นศึกสำคัญก่อนเปลี่ยนผ่านเข้าสู่สมัยเมจิ ปราสาทแห่งนี้ซึ่งถือเป็นที่มั่นสุดท้ายของฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลโชกุน (บาคุฟุ) ก่อนผ่านแพ้ให้กองทัพจักรวรรดิ์ขององค์จักรพรรดิ์
เมื่อมาถึงบริเวณปราสาท แน่นอนว่าบรรยากาศไม่เหลือเค้ารางของยุคสงครามนี้อีกต่อไปแล้ว กาลเวลาทำให้ที่นี่กลายเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของคนทุกวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูใบไม้ผลิ ที่นี่ถือเป็นจุดชมซากุระที่สวยงามติดอันดับ 1 ใน 100 ของญี่ปุ่น
หลังจากถ่ายภาพบรรยากาศจนหนำใจแล้ว ผมก็ขึ้น Wakamatsu Loops Bus ต่อไปยังภูเขาอิโมริ ซึ่งนั่นเป็นอีกหนึ่งสถานที่ซึ่งมีประวัติศาสตร์สำคัญของเมืองนี้
ภูเขาอิโมริ (Iimoriyama)
หลายคนอาจจะรู้จักผ่านละครเรื่องประวัติศาสตร์เกี่ยวกับไอซึวากามัตสึ Yae no Sakura ซึ่งเคยออนแอร์ที่เมืองไทยเมื่อปี 2014 แต่มีอีกเรื่องราวหนึ่งที่โด่งดังไม่แพ้กันและชาวญี่ปุ่นทุกคนต้องรู้จัก นั่นคือวีรกรรมของยุวชนหน่วยพยัคฆ์ขาว หรือ Byakkotai
หน่วยพยัคฆ์ขาวเป็นกองกำลังหนุ่มสาวที่เป็นลูกหลานตระกูลซามูไร ว่ากันว่าซามูไรเด็กสุดที่สังกัดหน่วยนี้อายุเพียง 13 ปี และมีคนที่เคยออกรบจริงในวัยเพียง 15 ปีอีกด้วย
ภาคของหน่วยพยัคฆ์ขาวปรากฏอยู่แทบทุกที่ในเมือง ไม่เว้นแม้แต่ตู้ขายเครื่องดื่ม
ในปี 1868 แคว้นไอซึซึ่งเป็นปราการสุดท้ายของอำนาจเก่า รับการโจมตีอย่างหนักหน่วงของกองทัพจักรวรรดิ์ หน่วยพยัคฆ์ซึ่งมีหน้าที่รักษาปราสาทไอซึ (ชื่อเดิมของปราสาทซึรุงะ) ไม่อาจต้านทานไพร่พลมหาศาลของกองทัพจักรวรรดิ์ได้ จึงต้องถอยร่นมาที่ภูเขาอิโมริ เมื่อมาบนภูเขา กลุ่มหนุ่มสาวที่เหลือเพียงประมาณ 20 คน เห็นกลุ่มควันพวยพุ่งขึ้นจากบริเวณปราสาท.....
จุดที่คาดว่าเหล่าพยัคฆ์น้อยพากันมองไปยังปราสาท มีการสร้างรูปปั้นเอาไว้
ด้วยความเสียใจและจิตสำนึกต่อหน้าที่ในฐานะซามูไร พวกเขาซึ่งมีวัยไม่ต่างจากเด็กมัธยมในยุคปัจจุบันได้พร้อมใจกันกระทำ Seppuku (คว้านท้อง) บนยอดเขาอิโมริยามะแห่งนี้
ศพของพวกเขาถูกทิ้งไว้บนยอดเขาสักพักก่อนที่จักรวรรดิญี่ปุ่นซึ่งเป็นฝ่ายชนะสงครามจะอนุญาตให้ฝังศพพวกเขาได้ อีกทั้งยังสร้างอนุสรณ์รำลึกถึงความกล้าหาญของหน่วยพยัคฆ์ขาวที่เนินเขาอิโมริ โดยมีข้อความจารึกไว้บนศิลาว่า
"幾人の涙は石にそそぐともその名は世々に朽じとぞ思う"
“น้ำตาผู้คนไหลรินอาบศิลา ให้นามนั้นสืบขานรุ่นต่อรุ่น มิเลือนหาย”
ผมจึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการบอกเล่าเรื่องราวของพวกเขา และขอจบกระทู้นี้แต่เพียงเท่านี้ครับ
-อุปกรณ์-
OLYMPUS OM-D E-M5 Mark II
M.ZUIKO DIGITAL ED 12-40mm F2.8 PRO
M.ZUIKO DIGITAL ED 40-150mm F2.8 PRO
M.ZUIKO DIGITAL ED 25mm F1.2 PRO
สามารถติดตามเรื่องราวอื่นของได้ EyePhocus ได้ทาง
Facebook :
https://www.facebook.com/eyephocus.photo
เที่ยวตามรอยประวัติศาสตร์และขมซากุระเมือง Aizu Wakamatsu
เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้ไปเมืองไอซึวากามัตสึซึ่งถือเป็นหนึ่งจุดชมซากุระที่สวยที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุ จึงอยากจะแบ่งปันภาพและเรื่องราว พร้อมสอดแทรกเรื่องราวประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นซึ่งเป็นความชอบส่วนตัวครับ
ไอซึวากามัตสึ (Aizu-Wakamatsu) ตั้งอยู่ที่จังหวัดฟุกุชิม่าซึ่งเป็นจังหวัดใต้สุดของภูมิภาคโทโฮคุ ในอดีตที่นี่เป็นหนึ่งในแคว้นที่รุ่งเรืองที่สุดของญี่ปุ่น
การเดินทาง
นั่ง Tohoku Shinkansen ลงที่ Toriyama Sta. แล้วต่อสาย JR Ban'etsu West Line ไปที่ Aizu Wakamatsu Sta.
จากโตเกียว ใช้เวลา ประมาณ 3 ชั่วโมง
จากเซนได ใช้เวลา ประมาณ 2 ชั่วโมง 10 นาที
รถไฟสาย JR Ban'etsu West Line เป็นรถไฟสาย Local ที่วิวระดับ Inter เลยนะ ที่เห็นในภาพเป็นภูเขาอุระบันไดซึ่งในช่วงนั้นหิมะบนยอดยังละลายไม่หมด
พอมาถึงสถานีไอซึวากามัตสึ หน้าสถานีจะมีป้ายรถเมล์ Wakamatsu Loops Bus ซึ่งจะพาเราไปส่งยังจุดท่องเที่ยวต่างๆ ของเมืองในราคา 210 เยนต่อเที่ยว แต่ถ้าอยากแวะหลายจุด แนะนำให้ซื้อ 1 Day Pass ในราคาสุดคุ้มแค่ 500 เยนดีกว่า มีแผนที่แถมให้ด้วยนะ
จุดแรกแน่นอนว่าเป็นจุดที่พลาดไม่ได้เมื่อมาในฤดูใบไม้ผลิ ผมลงที่ป้าย Tsuruga-jo iriguchi เพื่อชมปราสาทซึรุงะในบรรยากาศซากุระ
ปราสาทซึรุงะ หรือปราสาทนกกระเรียนแห่งนี้มีอายุกว่า 600 ปี ผ่านศึกสงครามในหลากหลายยุคสมัย อีกทั้งมีบทบาทสำคัญในสงครามโบชิงซึ่งเป็นศึกสำคัญก่อนเปลี่ยนผ่านเข้าสู่สมัยเมจิ ปราสาทแห่งนี้ซึ่งถือเป็นที่มั่นสุดท้ายของฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลโชกุน (บาคุฟุ) ก่อนผ่านแพ้ให้กองทัพจักรวรรดิ์ขององค์จักรพรรดิ์
เมื่อมาถึงบริเวณปราสาท แน่นอนว่าบรรยากาศไม่เหลือเค้ารางของยุคสงครามนี้อีกต่อไปแล้ว กาลเวลาทำให้ที่นี่กลายเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของคนทุกวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูใบไม้ผลิ ที่นี่ถือเป็นจุดชมซากุระที่สวยงามติดอันดับ 1 ใน 100 ของญี่ปุ่น
หลังจากถ่ายภาพบรรยากาศจนหนำใจแล้ว ผมก็ขึ้น Wakamatsu Loops Bus ต่อไปยังภูเขาอิโมริ ซึ่งนั่นเป็นอีกหนึ่งสถานที่ซึ่งมีประวัติศาสตร์สำคัญของเมืองนี้
ภูเขาอิโมริ (Iimoriyama)
หลายคนอาจจะรู้จักผ่านละครเรื่องประวัติศาสตร์เกี่ยวกับไอซึวากามัตสึ Yae no Sakura ซึ่งเคยออนแอร์ที่เมืองไทยเมื่อปี 2014 แต่มีอีกเรื่องราวหนึ่งที่โด่งดังไม่แพ้กันและชาวญี่ปุ่นทุกคนต้องรู้จัก นั่นคือวีรกรรมของยุวชนหน่วยพยัคฆ์ขาว หรือ Byakkotai
หน่วยพยัคฆ์ขาวเป็นกองกำลังหนุ่มสาวที่เป็นลูกหลานตระกูลซามูไร ว่ากันว่าซามูไรเด็กสุดที่สังกัดหน่วยนี้อายุเพียง 13 ปี และมีคนที่เคยออกรบจริงในวัยเพียง 15 ปีอีกด้วย
ภาคของหน่วยพยัคฆ์ขาวปรากฏอยู่แทบทุกที่ในเมือง ไม่เว้นแม้แต่ตู้ขายเครื่องดื่ม
ในปี 1868 แคว้นไอซึซึ่งเป็นปราการสุดท้ายของอำนาจเก่า รับการโจมตีอย่างหนักหน่วงของกองทัพจักรวรรดิ์ หน่วยพยัคฆ์ซึ่งมีหน้าที่รักษาปราสาทไอซึ (ชื่อเดิมของปราสาทซึรุงะ) ไม่อาจต้านทานไพร่พลมหาศาลของกองทัพจักรวรรดิ์ได้ จึงต้องถอยร่นมาที่ภูเขาอิโมริ เมื่อมาบนภูเขา กลุ่มหนุ่มสาวที่เหลือเพียงประมาณ 20 คน เห็นกลุ่มควันพวยพุ่งขึ้นจากบริเวณปราสาท.....
จุดที่คาดว่าเหล่าพยัคฆ์น้อยพากันมองไปยังปราสาท มีการสร้างรูปปั้นเอาไว้
ด้วยความเสียใจและจิตสำนึกต่อหน้าที่ในฐานะซามูไร พวกเขาซึ่งมีวัยไม่ต่างจากเด็กมัธยมในยุคปัจจุบันได้พร้อมใจกันกระทำ Seppuku (คว้านท้อง) บนยอดเขาอิโมริยามะแห่งนี้
ศพของพวกเขาถูกทิ้งไว้บนยอดเขาสักพักก่อนที่จักรวรรดิญี่ปุ่นซึ่งเป็นฝ่ายชนะสงครามจะอนุญาตให้ฝังศพพวกเขาได้ อีกทั้งยังสร้างอนุสรณ์รำลึกถึงความกล้าหาญของหน่วยพยัคฆ์ขาวที่เนินเขาอิโมริ โดยมีข้อความจารึกไว้บนศิลาว่า
"幾人の涙は石にそそぐともその名は世々に朽じとぞ思う"
“น้ำตาผู้คนไหลรินอาบศิลา ให้นามนั้นสืบขานรุ่นต่อรุ่น มิเลือนหาย”
ผมจึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการบอกเล่าเรื่องราวของพวกเขา และขอจบกระทู้นี้แต่เพียงเท่านี้ครับ
-อุปกรณ์-
OLYMPUS OM-D E-M5 Mark II
M.ZUIKO DIGITAL ED 12-40mm F2.8 PRO
M.ZUIKO DIGITAL ED 40-150mm F2.8 PRO
M.ZUIKO DIGITAL ED 25mm F1.2 PRO
สามารถติดตามเรื่องราวอื่นของได้ EyePhocus ได้ทาง
Facebook : https://www.facebook.com/eyephocus.photo