14 Days in Japan , Alone เทาๆแต่ไม่เหงา นะจ๊า...

กระทู้นี้ไม่ใช่รีวิวการท่องเที่ยว หรือแนะนำสถานที่ต่างๆในญี่ปุ่นนะครับผม มีเรื่องเล่าและรูปเยอะ
     เป็นเรื่องราวบอกเล่าในการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศคนเดียวครั้งแรก ข้อมูลต่างๆอาจไม่ชัดเจนแม่นยำ ขออภัยมา ณ ที่นี้
จัดทำเพื่อเป็นบันทึกในการเดินทาง และให้เป็นข้อมูลเล็กๆน้อยๆสำหรับมือใหม่ ที่กำลังวางแผนจะเดินทางไปเยือนญี่ปุ่น
ภาพต่างๆ ลดขนาดให้ได้ตามความเหมาะสมในการลงกระทู้ ไม่ปรับแต่งใดๆทั้งสิ้น เพื่อให้เห็นบรรยากาศใกล้เคียงจริงๆ ณ ตอนนั้น(Fuji X30)
      ใน Spoil เป็นเรื่องราว ณ ตอนน้ั้น เพิ่มงามมโนและความรู้สึกต่างๆ ข้ามไปไม่ต้องอ่านก็ได้นะครับ.
    ครบรอบ 2 ปีพอดีสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวคนเดียวต่างประเทศครั้งแรก ณ แดน อาทิตย์อุทัย โอเค สตร๊าท์โตะ...*-*
ตอน2นะครับ https://ppantip.com/topic/37084692/comment6
     
     หลังจากเตรียมตัววางแผนประมาณ 3 ปี เก็บเงินรอช่วงเวลาที่อยากจะไปและค้นหาข้อมูลต่างๆ จากไกด์บุ๊คและกระทู้ในพันทิป
แทบจะทุกกระทู้ที่เข้ามาเจอรีวิว เพื่อใช้ประกอบการวางแผนและหาแรงบันดาลใจต่างๆรวมทั้งสถานที่ต่างๆที่เหมาะกับความต้องการที่จะเดินทาง
รวมทั้งคลิปรายการต่างๆใน Youtube ที่ดูแล้ว อยากกิ๊น อยากกินไปหมด
  จดบันทึก ทำ  List สถานที่ ของที่อยากกินลองชิม วิธีการเดินทาง  pass ต่างๆ ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก passport
เป็นต้น จนลงตัวได้วันเวลา ลางาน เงินพร้อม  ก่อนเดินทางจริง ทดสอบกำลังขาโดยการใส่รองเท้าวิ่งคู่ใจ(เรื่องขำๆตัวเอง เดี๋ยวเล่าภายหลัง*-*)เดินเที่ยวในกรุงเทพ ย่านสุขุมวิท 1-2 วันเต็มๆ(ช่วงสงกรานต์) เดินหาร้านอาหารแถวนั้น เดินกินลมชมวิว เพื่อดูว่าพละกำลังขาพอไหวไหม สรุปคือ
เมื่อยมากๆๆๆๆปวดขาตุ่บๆ ไม่ได้การต้องเพิ่มพละกำลังกำลังขา โดยการวิ่งวันละ10-15นาที(ไม่เพียงพอน่าจะวันละ30นาทีเป็นอย่างน้อย)
และกายบริหารท่าต่างๆเพื่อให้ร่างกายยืดหยุ่น ประมาณ 3 เดือนก่อนเดินทาง เพราะ การเที่ยวที่ญี่ปุ่่นนั้นต้องเดินด้วยกำลังขาค่อนข้างมาก
(ต้องขอบคุณทุกๆแหล่งข้อมูล)
   และมาถึง เรื่องที่มือใหม่ๆต้องปวดหัวสุดๆคือ หาตั๋วเครื่องบิน ท้าดา.... ใช้เวลาในการตามหาโปรหรือสายการบินต่างๆนานม๊ากกก จนสุดท้าย
ก็มาจบลงที่หางแดง โดยเลือกจากความเหมาะสมหลายๆอย่าง เช่น ค่าตั๋ว+โรงแรมที่พัก เวลา ไป-กลับ ที่สำคัญ ไม่ต้องต่อเครื่อง จบลงตัว
   รายละเอียดการเดินทาง ตามรูปด้านล่างเลยนะจ๊า
  
    ราคาค่าตั๋วถ้าเลือกกลับไฟท์เช้าก็ถูกลงอีกประมาณ 1 พันกว่าๆบาท  ส่วนโรงแรมที่พัก 4 คืน ได้ส่วนลด 500 บาท ราคา ณ เวลานั้นนะครับ
โดยราคายังไม่รวม ค่าสัมภาระกระเป๋า ไป-กลับ และอื่นๆที่มีให้เลือกเพิ่มได้ตามความต้องการ เช่น เลือกที่นั่ง สั่งอาหาร ประกันภัยฯ เป็นต้น
แนะนำให้ อ่านรายละเอียดดีๆนะครับ โดนปรับหน้าเคาท์เตอร์ จะเสียแพงเสียเวลาปล่าวๆเน้อ
   ขั้นต่อไป ก็แล้วแต่กำลังทรัพย์และความต้องการ คือ การจองที่พัก เนื่องจากไปคนเดียวและต้องการเปิดประสบการณ์ ในหลายๆรูปแบบ
โจทย์ คือ ห้อง capsule ,ห้อง Dorm ,ไนท์บัส และ อื่นๆ ซึ่งจะเล่าให้ฟังในแต่ละช่วงเวลา ใกล้สถานีรถไฟ ใกล้แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม
จึงไม่ค่อยลำบากมากนักในการหาที่พักในช่วงเวลานั้นๆ โดยจองผ่านจากหลายเวป (ลองมันให้หมด) นั่นคือ
  Airasiago.com        - Shinjuku Kuyakushomae Capsule Hotel 12-16 พย.2015 รวม 4 คืน  Tokyo
  Willerexpress.com  - Willer Night Bus 1คืน เดินทาง 16 พย. ถึง โอซาก้า 17. พย.2015 ตอนเช้า  Osaka
  Booking.com          -Ken' House  17-20 พย. 2015 3 คืน โอซะกะ ย่านนัมบะ Osaka
  Agoda.com            -Kaosan Capsule Asakusa 20-21 พย.2015 1 คืน ย่าน อะสะกุสะ Tokyo
  Airbnb.com            -Shibuya Commun  21-23 พย.2015 2 คืน ย่านชิบุยะ Tokyo
  Airbnb.com            -04 Shibuya 3 Mins  23-26 พย.2015 3 คืน ย่านชิบุยะ Tokyo

  ช่วงเวลาที่เลือกไป ประมาณว่าไปดูใบไม้เปลี่ยนสี และอากาศเย็นๆ ไม่ถึงกับหนาวและน่าจะไม่มีฝน คือเลือกไปวันที่ 12-26 พย.2015
รวม 14 วัน วีซ่าท่องเที่ยวในญี่ปุ่่นให้ได้ถึง 15 วัน แต่ขอเผื่อไว้วันนึงเผื่อเหตุการณ์ไม่คาดฝันไว้ก่อน
   วันที่เราเดินทางไปถึง ญี่ปุ่น เขานับเป็นวันที่ 0 นะครับ นั่นคือเริ่มนับวันที่ 1 วันถัดไป เผื่อไว้เกิดเจ้าหน้าที่สนามบิน เกิดสับสนจะได้อธิบายถูก
  
   เตรียมตัวอุปกรณ์ เสื้อผ้า ต่างๆให้พร้อม หรือทำรายการตามนี้ก็ได้ครับ http://ppantip.com/topic/34958921 ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว
   กระเป๋าเดินทางตามสะดวก แต่แนะนำให้ มีกระเป๋าใบใหญ่ 1 ใบ เป้สะพาย 1 ใบ กระเป๋าใบเล็กคาดเอว 1 ใบ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการ
เดินทางท่องเที่ยว หากมีกล้องก็อาจต้องเพิ่มกระเป๋ากล้องอีก 1 ใบ ก็ให้สะดวกตัวเราที่สุดตามกำลังกายและความเหมาะสมแต่ล่ะท่าน
   แลกเงินเยนให้พร้อม Superrich ทั้งสีส้มสีเขียว เรทเงินดี อย่าลืมพกสำเนาพาสปอร์ตไปด้วย หรือถ่ายรูปไว้ในมือถือก็ได้
   เอกสารสำคัญต่างๆ copy ไว้ ถ่ายเก็บไว้ในมือถือ และทำสำเนาแผนผังการเดินทางที่พักต่างๆทิ้งไว้ที่บ้านด้วยก็ดี เพื่อให้คนอื่นสามารถติดตามหากเกิดอะไรเกิดขึ้น
  แนะนำเพิ่มเติม ผู้ชายเราๆอาจไม่ค่อยคิดถึงเรื่องนี้กันมาก นั่นคือ ลิปมัน ครับ พกไว้มีประโยชน์ และช่วยคุณๆผู้ชายได้มาก หากปากลอกเป็นขุย
ทั้งรำคาญ เผลอแกะ เลือดซิบๆ ทีนี้ล่ะ กินอะไรไปไหนๆก็หงุดหงิดแน่นอน ถ้าไปช่วงอากาศเย็น-หนาว ให้ทาตั้งแต่วันไปถึงเลยครับ เผลอแค่วันเดียวแสบปาก ปากเป็นแผลได้ง่ายมาก เห็นน้องคนไทยที่ไปเที่ยว เดินปากเลือดไหลซิบๆแล้ว อดสงสารไม่ได้ เตือนแล้วนะเออ...

  หากมีเครื่องชั่งน้ำหนักแบบพกพา นำไปด้วยนะครับ ช่วยคุณๆได้เยอะเวลาขากลับ จะได้ไม่ต้องกังวลว่า น้ำหนักเกินหรือเปล่า หาซื้อได้ตามเวปทั่วๆไป หรือ บนหางแดง ก็มีขายนะเออ
  เริ่มเดินทางได้ Let's Go.....................
  Day 0 : วันแห่ง Adventure สต๊ารท์โตะ......
      5.00 น. เดินทางจากพัทยา-ดอนเมือง ถึงก่อน 8.00 น.โชคดีได้อาเจ๊คนสวยมาส่ง ขอบคุณครับผม เมื่อได้เวลาเช็คอิน นำกระเป๋าเข้าสายพาน(จะมีTag+สติ๊กเกอร์แปะว่าผ่านการตรวจแล้วที่กระเป๋าเดินทาง) เดินดุ่ยๆตรงไปเคาท์เตอร์ แอร์เอเซียเลย
      ต่อคิวสักพัก เจ้าหน้าที่สาวสวยภาคสนามเดินมา ช่วยดูความเรียบร้อยของผู้โดยสารในแต่ละแถว เลยแอบยื่นตั๋วให้ดู(สังหรณ์ใจนิดๆ)   
  น้องเขาบอก "คุณพี่ต้องไปอีกเคาท์เตอร์นะคะ ของคุณพี่บินแอร์เอเซียเอ๊กซ์ค่ะ"
   (เพล๊ง) อ๊าย อาย ก็ไม่รู้นิ ได้แต่ยิ้มอายๆลากกระเป๋า เดินออกจากแถวไปอย่างห่างๆแบบห่วยๆ หุๆ
   แหม ก็มือใหม่นี่นา นึกว่าเคาท์เตอร์เดียวกันนิ แต่ก็ขำๆเดินไปที่ด้านใน ว่างมาก สบายๆเลย เช็คอินแป๊ปเดียว เดินปร๋อ เข้าด้านในชิวๆเลย
  พกปากกาไว้สัก 1 แท่ง เพิ่อไว้กรอกเอกสารบนเครื่องด้วยนะครับ เอกสารต่างๆกรอกให้เรียบร้อยก่อนเข้าไปด้านในนะครับจะได้ไม่เสียเวลา
                      ช่วงผ่านด่านตรวจร่างกาย แนะนำให้ถอดเข็มขัด นาฬิกา ปากกา โทรศัพธ์ กุญแจ แหวน ตุ้มหู เหรียญทุกชนิด และอะไรที่คิดว่าเป็นโลหะ  ออกจากร่างกายให้หมดใส่ถาดที่เจ้าหน้าที่เตรียมไว้เลย เพราะหากเกิดมีเสียงเตือนดัง ต้องออกไปยืนให้เขาไล่แสกนทั้งตัวเลยนะจ๊า

Story 1 : ก็เริ่มบังเกิด จำเรื่องรองเท้าวิ่งที่ใส่ซ้อมเดินช่วนสงการนต์ได้ไหมครับ วัดพละกำลังขา ใส่เดินจนมั่นใจ แต่ก่อนจะเดินทางวันสุดท้าย
    ไม่รู้อะไรดลใจ เกิดนึกเสียดายพื้นที่กระเป๋า เพราะตั้งใจจะไปซื้อรองเท้าใหม่ที่ญี่ปุ่น เลยเลือกรองเท้าหนังสีดำ ที่เก่าแล้วใส่แทน
กะไว้ว่าไปซื้อใหม่แล้วคู่เก่าก็จะได้ทิ้งไว้ให้พักผ่อนที่ดินแดนแห่งซากุระอย่างสงบสุข(คิดไปได๊)  
    นั่นแหละครับ พอเดินเข้าไปด้านในหลังจากเช็คอินเสร็จ ระหว่างเดินไปที่ Gate พื้นรองเท้าตรงส้นเท้า หลุดครับ พะงาบๆเลย
    ยิ้มมุมปากตาโตคนเดียวเลย    
    ตอนนั้น แต่ก็ยังขำๆ คิดว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ซื้อใหม่และ เดินลากรองเท้า ครืดๆๆๆ ไปตามทาง พร้อมพื้นรองเท้าที่พะงาบๆเป็นระยะๆ
  และแล้วก็ได้เวลาขึ้นเครื่อง รอเรียกตามแถวครับ ไม่ต้องรีบ สบายๆ ขึ้นเครื่อง เก็บกระเป๋า นั่งรอเวลาเครื่อง เทคออฟ
      ได้เวลาบินแล้ว ... ต่อ..เม้นต่อไปเลยจ้า.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่