อาลีบาบา โชว์ศักยภาพของวิสัยทัศน์ ‘New Retail’ ผ่านมหกรรมช้อปปิ้งระดับโลก 11.11 โกลบอล ช้อปปิ้ง เฟสติวัล เทศกาลช้อปปิ้งในวันที่ 11 เดือน 11 ทำสถิติมูลค่าการซื้อขายทะลุ 1 หมื่นล้านหยวนภายใน 3 นาที เร็วกว่าปีที่ผ่านมาเกือบเท่าตัว
โดยหลังจากเริ่มจำหน่ายสินค้าในเวลา 00.00 น. ใน 1 นาที มูลค่าการซื้อขายสินค้าทะลุ 3 พันล้านหยวน (456 ล้านเหรียญ) ก่อนที่จะทะลุ 1 หมื่นล้านหยวน ภายในเวลา 3.01 นาที จากปีที่ผ่านมาใช้เวลาประมาณ 5 นาที ซึ่งสัดส่วนการซื้อขายในช่วงแรกกว่า 94% มาจากการทำธุรกรรมผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่
ขณะเดียวกัน สินค้าที่ถูกสั่งซื้อเป็นชิ้นแรกคือกาแฟ และขนม ที่ทำการจัดส่งถึงมือลูกค้าในเวลา 12 นาที 58 วินาที ส่วนสินค้าที่ถูกจัดส่งจากต่างประเทศมาถึงเมืองจีนชิ้นแรก ภายในเวลา 33 นาที 15 วินาที พร้อมกับการประกาศทำสถิติโลกในการทำธุรกรรมออนไลน์ 325,000 ครั้งใน 1 วินาที มากกว่าปีที่ผ่านมา 86%
สำหรับมหกรรมฯดังกล่าว จัดขึ้นทุกปีในวันที่ 11 พฤศจิกายน (วันคนโสดของคนจีน) และกลายเป็นงานช้อปปิ้งออนไลน์ 24 ชั่วโมงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เริ่มจัดขึ้นครั้งแรกในปี 2552 ทำยอดขายเป็นมูลค่า 7.6 ล้านเหรียญสหรัฐ
ก่อนที่จะขยายตัวจากงานลดราคาสินค้าออนไลน์ 24 ชั่วโมง เป็นมหกรรมช้อปปิ้งและเอ็นเตอร์เทนเมนท์ระดับโลกที่ครอบคลุมถึง 24 วัน และทำยอดขายรวมเป็นมูลค่าถึง 1.78 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในปี 2559 และทำให้ มีขนาดใหญ่กว่างานอเมซอน ไพรม์ เดย์ ถึง 18 เท่า และใหญ่กว่างานแบล็ค ฟรายเดย์ และไซเบอร์ มันเดย์ รวมกันถึง 2.5 เท่า
****ย้อนดูสถิติ 11.11 ปีที่ผ่านมา
สำหรับเทศกาลช้อปปิ้งในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2559 มีมูลค่าการซื้อขายผ่านอาลีเพย์ทั้งหมด 17.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 32% โดยกว่า 14.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 82% เป็นมูลค่าการซื้อที่เกิดขึ้นบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ เพิ่มขึ้นจากปี 2558 69%
โดยในช่วงเวลาที่ระบบคลาวด์ของอาลีบาบามีการทำงานสูงที่สุด (Peak Time) มีคำสั่งซื้อเข้ามาสูงถึง 175,000 ครั้งต่อวินาที นอกจากนี้ ในวันดังกล่าวระบบอาลีเพย์ ได้ทำธุรกรรมไปมากกว่า 1 พันล้านครั้ง โดยในช่วงที่มากคือ 1.2 แสนครั้งต่อวินาที
มีการจัดส่งสินค้ามากกว่า 657 ล้านครั้ง ขณะเดียวกันมีการซื้อขายสินค้าข้ามประเทศ ครอบคลุมทั้งหมด 235 ประเทศทั่วโลก โดยกว่า 37% ของผู้ซื้อทั้งหมด ซื้อสินค้าจากแบรนด์และผู้ขายระดับโลก ส่วนประเทศที่ขายสินค้าให้แก่ประเทศจีนเป็นมูลค่าสูงที่สุด ได้แก่ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และเยอรมนี
ขณะที่แบรนด์จากสหรัฐอเมริกาที่ทำมูลค่ายอดขายสูงที่สุด ได้แก่ แอปเปิ้ล, ไนกี้, นิว บาลานซ์, เพลย์บอย และสเก็ตช์เชอร์ส ส่วนแบรนด์จากยุโรปที่ทำมูลค่ายอดขายสูงที่สุด ได้แก่ ซีเมนส์, ฟิลิปส์, อาดีดาส, แจ็ค โจนส์ และโอนลี่
https://mgronline.com/cyberbiz/detail/9600000113953 
3 นาทีแรกของเทศกาล 11.11 มูลค่าการซื้อขายทะลุ 1 หมื่นล้านหยวน
โดยหลังจากเริ่มจำหน่ายสินค้าในเวลา 00.00 น. ใน 1 นาที มูลค่าการซื้อขายสินค้าทะลุ 3 พันล้านหยวน (456 ล้านเหรียญ) ก่อนที่จะทะลุ 1 หมื่นล้านหยวน ภายในเวลา 3.01 นาที จากปีที่ผ่านมาใช้เวลาประมาณ 5 นาที ซึ่งสัดส่วนการซื้อขายในช่วงแรกกว่า 94% มาจากการทำธุรกรรมผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่
ขณะเดียวกัน สินค้าที่ถูกสั่งซื้อเป็นชิ้นแรกคือกาแฟ และขนม ที่ทำการจัดส่งถึงมือลูกค้าในเวลา 12 นาที 58 วินาที ส่วนสินค้าที่ถูกจัดส่งจากต่างประเทศมาถึงเมืองจีนชิ้นแรก ภายในเวลา 33 นาที 15 วินาที พร้อมกับการประกาศทำสถิติโลกในการทำธุรกรรมออนไลน์ 325,000 ครั้งใน 1 วินาที มากกว่าปีที่ผ่านมา 86%
สำหรับมหกรรมฯดังกล่าว จัดขึ้นทุกปีในวันที่ 11 พฤศจิกายน (วันคนโสดของคนจีน) และกลายเป็นงานช้อปปิ้งออนไลน์ 24 ชั่วโมงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เริ่มจัดขึ้นครั้งแรกในปี 2552 ทำยอดขายเป็นมูลค่า 7.6 ล้านเหรียญสหรัฐ
ก่อนที่จะขยายตัวจากงานลดราคาสินค้าออนไลน์ 24 ชั่วโมง เป็นมหกรรมช้อปปิ้งและเอ็นเตอร์เทนเมนท์ระดับโลกที่ครอบคลุมถึง 24 วัน และทำยอดขายรวมเป็นมูลค่าถึง 1.78 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในปี 2559 และทำให้ มีขนาดใหญ่กว่างานอเมซอน ไพรม์ เดย์ ถึง 18 เท่า และใหญ่กว่างานแบล็ค ฟรายเดย์ และไซเบอร์ มันเดย์ รวมกันถึง 2.5 เท่า
****ย้อนดูสถิติ 11.11 ปีที่ผ่านมา
สำหรับเทศกาลช้อปปิ้งในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2559 มีมูลค่าการซื้อขายผ่านอาลีเพย์ทั้งหมด 17.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 32% โดยกว่า 14.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 82% เป็นมูลค่าการซื้อที่เกิดขึ้นบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ เพิ่มขึ้นจากปี 2558 69%
โดยในช่วงเวลาที่ระบบคลาวด์ของอาลีบาบามีการทำงานสูงที่สุด (Peak Time) มีคำสั่งซื้อเข้ามาสูงถึง 175,000 ครั้งต่อวินาที นอกจากนี้ ในวันดังกล่าวระบบอาลีเพย์ ได้ทำธุรกรรมไปมากกว่า 1 พันล้านครั้ง โดยในช่วงที่มากคือ 1.2 แสนครั้งต่อวินาที
มีการจัดส่งสินค้ามากกว่า 657 ล้านครั้ง ขณะเดียวกันมีการซื้อขายสินค้าข้ามประเทศ ครอบคลุมทั้งหมด 235 ประเทศทั่วโลก โดยกว่า 37% ของผู้ซื้อทั้งหมด ซื้อสินค้าจากแบรนด์และผู้ขายระดับโลก ส่วนประเทศที่ขายสินค้าให้แก่ประเทศจีนเป็นมูลค่าสูงที่สุด ได้แก่ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และเยอรมนี
ขณะที่แบรนด์จากสหรัฐอเมริกาที่ทำมูลค่ายอดขายสูงที่สุด ได้แก่ แอปเปิ้ล, ไนกี้, นิว บาลานซ์, เพลย์บอย และสเก็ตช์เชอร์ส ส่วนแบรนด์จากยุโรปที่ทำมูลค่ายอดขายสูงที่สุด ได้แก่ ซีเมนส์, ฟิลิปส์, อาดีดาส, แจ็ค โจนส์ และโอนลี่
https://mgronline.com/cyberbiz/detail/9600000113953