กลายเป็นข่าวดังในแวดวงการซื้อขายออนไลน์ เพราะ "อาลีบาบา" สามารถถีบตัวเองเข้าสู่ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้ด้วยมูลค่าช็อกโลก ทำให้ตกเป็นเป้าความสนใจจากคนจำนวนมาก ถึงวิถีแห่งความสำเร็จนี้ และเราหาคำตอบมาให้คุณแล้ว…
หลังจากมีข่าวครึกโครมเกี่ยวกับ "Alibaba" (อาลีบาบา) เว็บอี-คอมเมิร์ซรายใหญ่ ได้ก้าวเข้าสู่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งทำสถิติการขายหุ้นให้กับนักลงทุนเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ด้วยมูลค่าสูงสุดในตลาดหุ้นนิวยอร์ก ด้วยมูลค่ามากกว่า 25,000 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 800,000 ล้านบาท ซึ่งนั่นส่งผลให้มูลค่าตลาดของอาลีบาบาพุ่งขึ้นแซงหน้าเพื่อนร่วมสายอี-คอมเมิร์ซ อย่าง "อเมซอนดอทคอม" ไปเป็นที่เรียบร้อย จากเงินทุนเริ่มต้นเพียง 2 ล้านบาท! กับการถือกำเนิดของอาลีบาบา
แม้วันนี้ อาลีบาบา จะสามารถก้าวสู่ความสำเร็จได้ทั้งจากสายธุรกิจและสายการลงทุน ขณะเดียวกัน... ก็ถือเป็นการปูพรมแดงให้กับธุรกิจการค้าออนไลน์สัญชาติอื่นๆ ได้ก้าวขึ้นสู่ระดับโลก เพราะสามารถลดการผูกขาดอำนาจจากอี-คอมเมิร์ซสัญชาติอเมริกันไปได้ไม่น้อย
เราจึงขอพาคุณไปรู้จักกับที่มา ที่ไป ของเว็บอาลีบาบา รวมถึงรู้จักวิถีแห่งความสำเร็จจากผู้ก่อตั้งอาลีบาบา ที่มีจุดเริ่มต้นชีวิตธุรกิจมาจากศูนย์! ก่อนจะก้าวข้ามผ่านอุปสรรคนานัปการมาสู่อันดับมหาเศรษฐีที่ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล...!!!
อาลีบาบา...ชื่อนี้ทำอะไร?
อาลีบาบาดอทคอม (Alibaba.com) คือเว็บไซต์ขายส่งขนาดใหญ่ หากจะบอกว่าใหญ่ที่สุดในโลกก็คงจะว่าได้... เป็นเว็บไซต์สัญชาติจีน และยังกลายเป็นศูนย์รวมโรงงานในประเทศจีน ซึ่งถือเป็นทางออกในการรองรับการค้าขายที่เหมาะสมที่สุดช่องทางหนึ่ง เนื่องจากประเทศจีนเป็นฐานการผลิตสินค้าขนาดใหญ่ที่ทั่วโลกเลือกใช้ ซ้ำยังกลายเป็นศูนย์กลางด้านการขนส่งสินค้าเหล่านั้นกระจายสู่ทั่วโลกอีกด้วย ภายใต้รูปแบบที่เรียกว่า Business to Business หรือ B2B นั่นเอง
"แจ็ค หม่า" บิดาแห่งอาลีบาบา
เว็บไซต์อี-คอมเมิร์ซสัญชาติจีนนี้ จะไม่มีทางถือกำเนิดและมีชื่อเสียงได้เลย หากไร้ชื่อของ "แจ็ค หม่า" หรือ หม่าหยุน ในฐานะผู้ก่อตั้ง จากวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลประกอบกับความมุ่งมั่นอดทนของเขา ซึ่งฉายแววมาตั้งแต่สมัยเด็ก แม้จะมีพื้นฐานครอบครัวที่ค่อนข้างยากจน และทำให้เขาไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่กับความหรูหราฟุ่มเฟือยได้ แต่นั่นกลับกลายเป็นพลังผลักดันเขาก้าวสู่ความมุ่งมั่น ใฝ่ดี และได้รับผลตอบแทนที่ดีแก่ชีวิต
จากอาชีพครู สู่อันดับมหาเศรษฐี!
ในอดีต... ประวัติการทำงานของ แจ็ค หม่า เริ่มต้นจากการเป็นครูสอนภาษาที่มีรายได้ราว 15 เหรียญ หรือเพียง 500 บาทต่อเดือนเท่านั้น! แต่ปัจจุบันเขาคือชายชาวจีนที่มีฐานะร่ำรวยที่สุด และยังติดอันดับ 1 ใน 50 มหาเศรษฐีของโลกอีกด้วย
ใฝ่ดีเรียนรู้...
ตามประวัติของแจ็ค หม่า ในสมัยเด็กนั้น เขาไม่เก่งคณิตศาสตร์แต่กลับสนใจเรียนภาษาอังกฤษเป็นอย่างมาก ถึงขนาดขี่จักรยานนานกว่า 40 นาที เพื่อเดินทางไปเตร่อยู่แถวๆ โรงแรม เพื่อหานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นคู่สนทนา หรือเสนอตัวเป็นไกด์ให้แก่คู่สนทนาเหล่านั้นโดยถือเป็นการฝึกซ้อมภาษาอังกฤษ หลังจากนั้น เขาก็ได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยและมุ่งมั่นจะเป็นครูสอนภาษา แม้จะต้องใช้ความพยายามในการสอบมากกว่า 1 ครั้ง แต่ท้ายที่สุดเขาก็ทำได้!
อดทนและแข็งขัน จนเข้าใกล้ความสำเร็จ
หลังจากเรียนจบ... แจ็ค หม่า ใช้เวลากว่า 5 ปี ในการสวมบทบาทเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ กับเงินเดือนอันน้อยนิดที่เขาได้รับ แต่โอกาสเริ่มต้นขึ้นในปี 2538 ที่เขาได้เดินทางไปเยี่ยมเพื่อนที่ซีแอตเทิล สหรัฐอเมริกา ซึ่งเขาได้มีโอกาสลองใช้อินเทอร์เน็ต และลองค้นหาคำว่าเบียร์ (Beer) ทำให้พบว่าไม่มีผลการค้นหาใดๆ ที่มาจากจีน
เริ่มต้นไม่หรูหรา แต่พยายามเดินตามฝัน
หลังจากนั้น เขาได้ก่อตั้งเว็บไซต์ "China Pages" ซึ่งยังไม่ประสบความสำเร็จในช่วงแรก จนกระทั่งปี 2542 เขาได้รวมกลุ่มกับเพื่อน และก่อตั้งธุรกิจอี-คอมเมิร์ซในนาม "อาลีบาบา" ด้วยเงินทุนประมาณ 2 ล้านบาท โดยชื่อดังกล่าวนั้นเขาเป็นคนตั้งขึ้น เนื่องจากเป็นคำที่เลือกแล้วว่าคนทุกชาติทุกภาษาจะสามารถออกเสียงได้โดยง่าย
หาเป้าหมาย... ให้เหมาะสม
แจ็ค หม่า เคยกล่าวไว้เมื่อปี 2542 กับพนักงานของเขาว่า เป้าหมายของอาลีบาบาคือการแข่งขันกับบริษัทในซิลิคอนวัลเล่ย์ อาลีบาบาจะต้องแข่งขันกับบริษัทในระดับโลกไม่ใช่แค่ในประเทศจีน พนักงานจำเป็นต้องพัฒนาตนเองด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ และเทียบเท่าพนักงานในบริษัทไอทีที่ซิลิคอนวัลเล่ย์ ส่วนคู่แข่งด้านอี-คอมเมิร์ซอย่างอีเบย์นั้นเปรียบเป็นฉลาม ส่วนอาลีบาบาเปรียบเป็นจระเข้ ซึ่งสัตว์ทั้ง 2 ประเภทมีถิ่นฐานที่อาศัยแตกต่างกัน นั่นจึงสื่อได้ถึงความถนัดและตลาดที่แตกต่างกันของทั้ง 2 บริษัท
ที่มา
http://www.importfromcn.com/?p=883
ก้าวที่ยิ่งใหญ่ของ 'อาลีบาบา' สู่ต้นแบบความสำเร็จ ตามวิถี 'แจ็ค หม่า'
กลายเป็นข่าวดังในแวดวงการซื้อขายออนไลน์ เพราะ "อาลีบาบา" สามารถถีบตัวเองเข้าสู่ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้ด้วยมูลค่าช็อกโลก ทำให้ตกเป็นเป้าความสนใจจากคนจำนวนมาก ถึงวิถีแห่งความสำเร็จนี้ และเราหาคำตอบมาให้คุณแล้ว…
หลังจากมีข่าวครึกโครมเกี่ยวกับ "Alibaba" (อาลีบาบา) เว็บอี-คอมเมิร์ซรายใหญ่ ได้ก้าวเข้าสู่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งทำสถิติการขายหุ้นให้กับนักลงทุนเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ด้วยมูลค่าสูงสุดในตลาดหุ้นนิวยอร์ก ด้วยมูลค่ามากกว่า 25,000 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 800,000 ล้านบาท ซึ่งนั่นส่งผลให้มูลค่าตลาดของอาลีบาบาพุ่งขึ้นแซงหน้าเพื่อนร่วมสายอี-คอมเมิร์ซ อย่าง "อเมซอนดอทคอม" ไปเป็นที่เรียบร้อย จากเงินทุนเริ่มต้นเพียง 2 ล้านบาท! กับการถือกำเนิดของอาลีบาบา
แม้วันนี้ อาลีบาบา จะสามารถก้าวสู่ความสำเร็จได้ทั้งจากสายธุรกิจและสายการลงทุน ขณะเดียวกัน... ก็ถือเป็นการปูพรมแดงให้กับธุรกิจการค้าออนไลน์สัญชาติอื่นๆ ได้ก้าวขึ้นสู่ระดับโลก เพราะสามารถลดการผูกขาดอำนาจจากอี-คอมเมิร์ซสัญชาติอเมริกันไปได้ไม่น้อย
เราจึงขอพาคุณไปรู้จักกับที่มา ที่ไป ของเว็บอาลีบาบา รวมถึงรู้จักวิถีแห่งความสำเร็จจากผู้ก่อตั้งอาลีบาบา ที่มีจุดเริ่มต้นชีวิตธุรกิจมาจากศูนย์! ก่อนจะก้าวข้ามผ่านอุปสรรคนานัปการมาสู่อันดับมหาเศรษฐีที่ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล...!!!
อาลีบาบา...ชื่อนี้ทำอะไร?
อาลีบาบาดอทคอม (Alibaba.com) คือเว็บไซต์ขายส่งขนาดใหญ่ หากจะบอกว่าใหญ่ที่สุดในโลกก็คงจะว่าได้... เป็นเว็บไซต์สัญชาติจีน และยังกลายเป็นศูนย์รวมโรงงานในประเทศจีน ซึ่งถือเป็นทางออกในการรองรับการค้าขายที่เหมาะสมที่สุดช่องทางหนึ่ง เนื่องจากประเทศจีนเป็นฐานการผลิตสินค้าขนาดใหญ่ที่ทั่วโลกเลือกใช้ ซ้ำยังกลายเป็นศูนย์กลางด้านการขนส่งสินค้าเหล่านั้นกระจายสู่ทั่วโลกอีกด้วย ภายใต้รูปแบบที่เรียกว่า Business to Business หรือ B2B นั่นเอง
"แจ็ค หม่า" บิดาแห่งอาลีบาบา
เว็บไซต์อี-คอมเมิร์ซสัญชาติจีนนี้ จะไม่มีทางถือกำเนิดและมีชื่อเสียงได้เลย หากไร้ชื่อของ "แจ็ค หม่า" หรือ หม่าหยุน ในฐานะผู้ก่อตั้ง จากวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลประกอบกับความมุ่งมั่นอดทนของเขา ซึ่งฉายแววมาตั้งแต่สมัยเด็ก แม้จะมีพื้นฐานครอบครัวที่ค่อนข้างยากจน และทำให้เขาไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่กับความหรูหราฟุ่มเฟือยได้ แต่นั่นกลับกลายเป็นพลังผลักดันเขาก้าวสู่ความมุ่งมั่น ใฝ่ดี และได้รับผลตอบแทนที่ดีแก่ชีวิต
จากอาชีพครู สู่อันดับมหาเศรษฐี!
ในอดีต... ประวัติการทำงานของ แจ็ค หม่า เริ่มต้นจากการเป็นครูสอนภาษาที่มีรายได้ราว 15 เหรียญ หรือเพียง 500 บาทต่อเดือนเท่านั้น! แต่ปัจจุบันเขาคือชายชาวจีนที่มีฐานะร่ำรวยที่สุด และยังติดอันดับ 1 ใน 50 มหาเศรษฐีของโลกอีกด้วย
ใฝ่ดีเรียนรู้...
ตามประวัติของแจ็ค หม่า ในสมัยเด็กนั้น เขาไม่เก่งคณิตศาสตร์แต่กลับสนใจเรียนภาษาอังกฤษเป็นอย่างมาก ถึงขนาดขี่จักรยานนานกว่า 40 นาที เพื่อเดินทางไปเตร่อยู่แถวๆ โรงแรม เพื่อหานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นคู่สนทนา หรือเสนอตัวเป็นไกด์ให้แก่คู่สนทนาเหล่านั้นโดยถือเป็นการฝึกซ้อมภาษาอังกฤษ หลังจากนั้น เขาก็ได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยและมุ่งมั่นจะเป็นครูสอนภาษา แม้จะต้องใช้ความพยายามในการสอบมากกว่า 1 ครั้ง แต่ท้ายที่สุดเขาก็ทำได้!
อดทนและแข็งขัน จนเข้าใกล้ความสำเร็จ
หลังจากเรียนจบ... แจ็ค หม่า ใช้เวลากว่า 5 ปี ในการสวมบทบาทเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ กับเงินเดือนอันน้อยนิดที่เขาได้รับ แต่โอกาสเริ่มต้นขึ้นในปี 2538 ที่เขาได้เดินทางไปเยี่ยมเพื่อนที่ซีแอตเทิล สหรัฐอเมริกา ซึ่งเขาได้มีโอกาสลองใช้อินเทอร์เน็ต และลองค้นหาคำว่าเบียร์ (Beer) ทำให้พบว่าไม่มีผลการค้นหาใดๆ ที่มาจากจีน
เริ่มต้นไม่หรูหรา แต่พยายามเดินตามฝัน
หลังจากนั้น เขาได้ก่อตั้งเว็บไซต์ "China Pages" ซึ่งยังไม่ประสบความสำเร็จในช่วงแรก จนกระทั่งปี 2542 เขาได้รวมกลุ่มกับเพื่อน และก่อตั้งธุรกิจอี-คอมเมิร์ซในนาม "อาลีบาบา" ด้วยเงินทุนประมาณ 2 ล้านบาท โดยชื่อดังกล่าวนั้นเขาเป็นคนตั้งขึ้น เนื่องจากเป็นคำที่เลือกแล้วว่าคนทุกชาติทุกภาษาจะสามารถออกเสียงได้โดยง่าย
หาเป้าหมาย... ให้เหมาะสม
แจ็ค หม่า เคยกล่าวไว้เมื่อปี 2542 กับพนักงานของเขาว่า เป้าหมายของอาลีบาบาคือการแข่งขันกับบริษัทในซิลิคอนวัลเล่ย์ อาลีบาบาจะต้องแข่งขันกับบริษัทในระดับโลกไม่ใช่แค่ในประเทศจีน พนักงานจำเป็นต้องพัฒนาตนเองด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ และเทียบเท่าพนักงานในบริษัทไอทีที่ซิลิคอนวัลเล่ย์ ส่วนคู่แข่งด้านอี-คอมเมิร์ซอย่างอีเบย์นั้นเปรียบเป็นฉลาม ส่วนอาลีบาบาเปรียบเป็นจระเข้ ซึ่งสัตว์ทั้ง 2 ประเภทมีถิ่นฐานที่อาศัยแตกต่างกัน นั่นจึงสื่อได้ถึงความถนัดและตลาดที่แตกต่างกันของทั้ง 2 บริษัท
ที่มา http://www.importfromcn.com/?p=883