[CR] ไปมั๊ย “เกาะพยาม ที่พยายามจะไปมานานแล้วค่ะ”

ไปมั๊ย “เกาะพยาม ที่พยายามจะไปมานานแล้วค่ะ”
สวัสดีจ้า....เพื่อนๆชาวบลู
พอดีมีเวลาว่างได้ไปเที่ยวเกาะพยาม เมืองระนองเราจึงเอาประสบการณ์ การเดินทางครั้งนี้ของเรามาแชร์ค่ะ และเนื่องด้วยการรีวิวครั้งแรก ถ้ามีข้อบกพร่องยังไง ขอให้เพื่อนช่วยชี้แนะด้วยนะค่ะ

เริ่มจ้า....เกาะพยาม เมืองระนอง เราคิดว่าหลายคนคงรู้จักอยู่แล้ว เพราะมีรีวิวค่อนข้างเยอะ รูปก็สวยๆทั้งนั้น จุดเริ่มต้นที่ทำให้อยากไปคือ..รูป บลูสกายรีสอร์ท เกาะพยาม รู้สึกชอบมากก เลยตั้งใจว่าถ้ามีโอกาสจะไปให้ได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปเป็นปีปี ก็ยังมิได้ไปจ๊ะ...ได้แต่มองรูปของคนโน้นคนนี้
จนถึง...ปีนี้เพื่อนถามว่าไปเกาะพยามมั๊ย ไปมั๊ย...... รอช้าอยู่ใย ไปสิจ๊ะ ตอนแรกจะไปกันหลายคนค่ะ...สุดท้ายก็เหลือแค่เรากะมัน อมยิ้ม20  และช่างเป็นเวลาที่เหมาะเจาะพอดี เพราะเราไปเจอโปรโมชั่นที่พักของ บลูสกายรีสอร์ทมาจ้า 1999฿ งานนี้ฟินสมใจเบย...ฮ่าๆๆ

โอเค ตกลงวันเวลากันได้ ก็จองที่พักกัน แล้วรอเวลาไปกันเลยจ้า
เราไปแค่ 2 วัน 1 คืน ตั้งใจว่าจะไปเปลี่ยนที่นอน สูดบรรยากาศทะเลแบบชิวๆ แต่เพื่อนเรามันจะเที่ยวรอบเกาะ...เอาที่สบายใจล่ะกัน...
เริ่มเดินทางโดยการขับรถ(เพื่อนขับ เรานั่งเปิดเพลงฟังเรื่อยๆ..สบาย^^) มุ่งหน้าไปเมืองระนองกันค่ะเม่าออกรถ
มาเมืองระนองทั้งทีขอแวะไปกินข้าวที่นี้ก่อนล่ะกันเนอะ

@บ้านไร่ไออรุณ
บ้านไร่ไออรุณ ฟาร์มสเตย์อันแสนอบอุ่นสมคอนเซปต์ "พื้นที่เเห่งรักที่เป็นมากกว่าบ้าน”

ธรรมชาติกับความสงบ


“พอดี”


ตอนเราไป มีทีมงานจากบ้านและสวนมาถ่ายงานอยู่พอดี


A living space where love is all around by dream by heart by hand by nature.


หลังจากที่เดินเล่นรอบๆ ก็หิวค่ะ ไปหาของกินกันเถอะ.....
และแล้วก็ได้ขนมจีนน้ำยามากินกัน อร่อย เข้มข้นจริงๆ ติดใจมากกบอกเลย ค่าขนมจีน คนล่ะ50฿ จ้าา (แม่พี่เบสบอกว่า ถ้าไม่อิ่มเติมอีกได้นะ แม่ใจดีอ่ะแต่หนูอิ่มแล้วคร้าาาา )


คุณแม่พี่เบสบอกว่า ว่างๆก็ชวนกันมานอนพักที่นี่นะ.....แหมคุณแม่ชวนขนาดนี้ ไม่มาไม่ได้แล้วคร้าา


กินอิ่มก็ออกเดินทางต่อ บัยบายบ้านไร่........

คราวนี้ก็มุ่งหน้าไปท่าเรือเทศบาลตำบลปากน้ำ >>>เกาะพยามเลยจ้า
ระหว่างทางผ่าน ภูเขาหญ้า มิได้แวะเข้าไปแต่อย่างใด ได้แค่แอบถ่ายจะข้างถนน....เพราะใจนอนรออยู่ที่บลูสกายแว้ว

@ภูเขาหญ้า เมืองระนอง (นั่งถ่ายจากในรถข้างถนน)


ผ่านภูเขาหญ้าไปแล้วก็ขับรถต่อไปเรื่อยๆ โดยมีเจ้านี้นำทาง

พอใกล้ถึงเราก็โทรติดต่อเจ้าหน้าที่ Blue Monkey เพื่อสอบถามทางเข้าท่าเรือและที่จอดรถ
อ่อเราลืมบอกไปว่า เมื่อวานมีเจ้าหน้าที่ของบลูสกายโทรมา คอนเฟิร์มและสอบถามรายละเอียดการเดินทาง พร้อมทั้งให้เบอร์โทรศัพท์ Blue Monkey ไว้เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง การจองตั๋วเรือ และข้อมูลอื่นๆ ซึ่งมีประโยชน์อย่างมาก อมยิ้ม36

ถึงท่าเรือแล้วคร้าา
ร้าน Blue Monkey อยู่ติดกับท่าเรือเลยค่ะ
มีพนักงานค่อยอำนวยความสะดวกทุกอย่างเลย...ขอบคุณพระคุณค่ะ


ระหว่างรอเพื่อนเอารถไปจอด เราก็ซื้อตั๋วเรือกับเจ้าหน้าที่ Blue Monkeyได้เลย แล้วนั่งพักชิวๆ ที่มีบริการตามป้ายเลยค่ะ สะดวกสบายไปอีก
เราซื้อตั๋วเรือ speedboat รอบ14:30 ไปถึงท่าเรือเกาะพยาม15:15น. ใช้เวลาประมาณ45นาทีก็ถึงท่าเรือค่ะ

ช่วงนี้เขากำลังสร้างท่าเรือใหม่อยู่ค่ะ ต่อไปนี้น่าจะสะดวกกว่านี้


ถึงแล้วจ้า......เกาะพยาม

สิ่งแรกที่ต้องทำคือ.....เช่ามอไซค์ค่ะ

การเดินทางบนเกาะจะใช้มอไซค์อย่างเดียว
พวกเราจึงตรงเข้าไปเช่ามอไซค์ แล้วขับไปที่รีสอร์ตเลย จริงๆทางรีสอร์ตจะมีรถมารับที่ท่าเรือ แต่เพื่อนเราบอกว่าเช่ามอไซค์ไปให้เสร็จเลยดีกว่าจ้าา...ต้องเชื่อนาง...เพราะนางเป็นคนขับ5555

เราเช่ามอไซค์ร้านสวัสดี ร้านเดียวกับที่ฝากรถฝั่งท่าเรือปากน้ำเพราะจะได้ส่วนลดค่าฝากรถ20฿
-ค่าเช่ารถเกียร์ธรรมดา 150฿+ค่าน้ำมัน35฿
-ค่าฝากรถ 100฿ (ถ้าใครเป็นห่วงรถ สามารถมาขอดูกล้องปิดจากฝั่งบนเกาะได้คร้าา...เริ่ด)

เราเช่ารถพร้อมกับจองตั๋วเรือกลับในวันพรุ่งนี้รอบ12:30น.

เมื่อมีได้รถแล้วก็แว้นไปบูลสกายกันเลย.....

ถึงแว้วววววว....


ภาพแรกที่เห็นคือน้ำแห้งสนิท ในใจ แอบเฟลหน่อยๆ แต่พอไปเช็คอิน พนักงานบอกว่าน้ำจะขึ้นวันล่ะ2รอบ ตอนที่เราไปน้ำขึ้นประมาณสี่ทุม แล้วจะขึ้นอีกทีประมานสิบโมงเช้า ฟังแล้วก็ใจชื้นขึ้นหน่อย

วิวจากห้องพักเราชั้นบนค่ะ น้ำแห้งสนิท
เราจองห้องวิลล่า ลากูน ราคา1999฿


เราได้ห้อง S8 คร้า

วิลล่าจะมี 2 ชั้นค่ะ


ชั้นบน: สำหรับนั่งเล่น ชมวิว ชิวๆ ทานอาหาร เม้าส์มอยหอยสังข์แล้วสะดวกเลยคร้า

ชั้นล่างจะเป็นห้องนอน ห้องน้ำ

ในห้องจะมีเตียงใหญ่ 1เตียง

มีโซฟา(จริงๆสำหรับเรามันคือเตียงเสริมมากกว่านะ) มีทีวี ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ หนังสือธรรมะ(ตอนแรกนึกว่าเพื่อนเอามา)

ห้องน้ำจ้า มีตู้เซฟ อยู่ในห้องน้ำ อุปกรณ์อาบน้ำครบค่ะ (แต่แชมพูสระผมแล้วผมมันแข็งกระด้างแปลกๆ เพื่อนเราก็เป็น5555)

โชคดีมีรองเท้าแตะให้ เพราะเราลืมเอามา5555

หลังจากเก็บของเสร็จ เรานี่ไม่อยากออกจากห้องเลย อยากหลับอยู่บนเตียง แต่....แต่..เพื่อนมันบอกว่าต้องเก็บให้คุ้ม....เอิ่มมมเอาก็เอาว่ะ

ว่าแล้วก็ลุยคร้าา..เราเดินทางบนเกาะโดยใช้แผนที่จากรีสอร์ตและgoogle map เหมือนเดิม ก่อนออกเดินทาง ขอcheckเวลาพระอาทิตย์ตกน้ำแพร๊บบบ เราตั้งใจจะไปดูพระอาทิตย์ที่อ่าวใหญ่กัน

โอเค!!พร้อมม.......
ที่แรก. เราเริ่มด้วยการไปไหว้พระที่ วัดเกาะพยามค่ะ.....
โบส์ถกลางทะเล @วัดเกาะพยามค่ะ

ไหว้พระขอพรกันเสร็จแล้วก็ขับรถวนรอบเกาะ(คือหลงค่ะ)

สถานที่ 2 อ่าวเขาควายค่ะ
อ่าวนี้จากที่เราอ่านรีวิวแล้วไม่ค่อยอยากมาเท่าไหร่แต่เพื่อนเรามันกลับอยากมามากๆ....ขัดใจได้มั้ย...เฮ้ออออออออ...ใช่ค่ะ”ไม่ได้”เพราะนางขับรถเองไง ไปก็ไปว่ะ...คิดซะว่านั่งรถเฉยก็ไม่ลำบากอะไร

พอไปถึง โห....ล่วงมากกก
เพราะไม่มีคนอยู่เลย มันรู้สึกชิวมาก ไม่วุ่นวาย ยิ่งกว่าเกาะส่วนตัว (ข้อดีของการเที่ยวช่วง low 555)

เพื่อนบอกว่า “เทอๆดูเต่าๆ ตัวใหญ่มากก” เรานี่ตื่นเต้นใหญ่เลยจ้า...นึกเต่าคลานขึ้นมาจากทะเล.....”ไหนๆๆอยู่ตรงไหน” แล้วนางชี้ไปที่หินตรงนั้นค่ะ.....”เอออเต่าจริงๆ เออๆคล้ายอยู่ๆ ”

ถ่ายรูปไปสักพัก เราก็เห็นชิงช้า มองไปด้วยความอยากถ่ายรูปกะชิงช้า พร้อมภาพหัว ‘เวลาเห็นผู้หญิงสวยๆน่ารักๆนั่งชิงช้า ริมทะเล มันเปิงขนาด!!’

เพื่อนเราบอก”ไปนั่งสิ เดี๋ยวถ่ายให้” นางรู้ๆว่าเราอยากได้ น่ารักจิงๆ พอกำลังจะนั่ง “เทอ!!ระวังมันหักนะ ”............”เออ!!!!!”จะทักทำไมเสียบรรยากาศ กำลังจะดีแล้วเชียวงึงึ


แล้วเราก็ได้ภาพนี้มา ภาพที่คิดไว้เมื่อสักครู่ กับภาพที่ได้มา มันคล้ายๆ นะ ต่างตรงนางแบบนี้แหละ (ผู้หญิงสวยๆน่ารักๆตัดประโยคนี้ออกไปเลยค่ะ)


หลังจากฟินกับอ่าวเขาควายไปแล้ว next station....
อ่าวกวางปีบ......เราอยากไปอ่าวนี้ เพราะอ่านรีวิวมาเขาบอกว่า น้ำทะเลและหาดทรายสวยที่สุดบนเกาะ แต่เพื่อนเราสิ นางกลับถามว่า”มีอะไรดี?” งึงึ เด่วก็รู้...ขัดคอกันตลอด

เราเริ่มตื่นเต้นกับอ่าวกวางปีบแล้วสิ เพราะดูจากแผนที่มันอยู่บนเหนือสุด ในใจก็อยากน้ำทะเลสีฟ้า หาดทรายขาวๆ

ขับไปเรื่อยๆ(เพื่อนขับ) ช่วงแรกๆเส้นทางโอเคนะ พอสิ้นสุดถนนคอนกรีต มันจะเป็นทางลูกรังขึ้นเขา เราก็เปิดgoogle mapไปด้วยดูแผนที่ของรีสอร์ตไปด้วย เพราะไม่แน่ใจว่าใช่รึป่าว ดูจากในแผนที่แล้วมันก็ใช่นะ

แต่...ทำไมทางมันลำบากจุงเบยยยย เราชวนเพื่อนกลับแต่นางก็ไม่ยอมจ้า เราเลยให้นางขับรถคนเดียว เราเดินตามดีกว่า น่าจะเซฟกว่า5555 ก็ขึ้นเขาแล้วยังลงเขาอีก ไม่กล้าพอค่ะ แล้วถ้าล้มมาเจ็บทั้งคู่คงไม่ดี มันต้องมีคนหนึ่งที่ปลอดภัย เพื่อจะได้ช่วยอีกคน(เหตุผลเล่นใหญ่มากกกก) เรายอมเดินดีฟ่าาาาา
พอไปถึงก็มีรีสอร์ตเล็กๆเงียบ สงบ ไม่เห็นมีคนอยู่ แอบกลัวเหมือนกันนะ..คิดว่าสงสัยเขาคงปิด เป็นช่วงlow (มองในแง่ดี) เดินผ่านรีสอร์ตมาก็เจอ ทะเล...

อ่าวกวางปีบ น้ำทะเลสีฟ้า เม็ดทรายละเอียดนุ่มๆ

พวกเราอยู่ที่นี้แค่แปบเดียว เพราะรู้วังเวงแปลกๆ คนก็ไม่มี เริ่มจะเย็นแล้วด้วย ทางก็ลำบากอีก กลัวติดเกาะ กลับกันเถอะ....
ตอนกลับเรายอมซ้อนมอไซค์ เพราะดูฝีมือการขับของเพื่อนแล้ว พอไว้ใจได้(จิงๆคือเหนื่อย..จบ!!55555)
บัยบาย...อ่าวกวางปีบ

หลังจากผ่านพ้นทางวิบากมาเพื่อนขอกลับไปพักที่รีสอร์ตก่อน แล้วค่อยไปดูพระอาทิตย์ตกน้ำที่อ่าวใหญ่

มาถึงรีสอร์ตก็เดินเล่นชิวๆ
แล้วก็ได้รูปมุมที่ใครๆก็ถ่ายกัน มาเก็บไว้เป็นของตัวเอง555


ส่วนเพื่อนเราขอตัวกลับห้องก่อน...

เข้าทางเราเลย..คือเราตั้งใจจะเซอร์ไพรส์วันเกิดนางค่ะ จริงๆก็ผ่านมาสองวันแล้วแหละ เราทำตัวเฉยๆ ไม่สนใจอะไร(คิดว่านางคงจะนอยแน่ๆ)แต่เรากะมาเซอร์ไพรส์ที่นี้ ก่อนมาก็โทรถามรีสอร์ตแล้วว่ามีเค้กวันเกิดมั๊ย ทางรีสอร์ตมีบราวนี่ พนักงานบอกว่าถ้ามาถึงค่อยมาติดต่อ
จังหวะนี้แหละเราเลยไปสั่งให้เขาเตรียมไว้ให้ ซึ่งกะเวลาเอาจากแพลนของเรา
เตรียมตัวไปชมพระอาทิตย์ตกน้ำทะเลกันต่อค่ะ>>>>เดี๋ยวมาต่อนะค่ะ
ชื่อสินค้า:   เกาะพยาม เมืองระนอง
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่