สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ผมก็คิดแบบคุณนะ คือพ่อแม่ในอดีตส่วนใหญ่คิดแบบมีลูกเพื่อเอามาใช้งาน เช่น ช่วยทำนา ทำสวน และ เอาไว้หาเลี้ยงส่งเงินให้ตัวเองยามชรา ซึ่งมันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ในสมัยโบราณจึงมีพ่อแม่นำคำว่า กตัญญูมาใช้แบบผิด ๆ คือเข้าข้างตัวเองว่ากตัญญูคือ ต้องส่งเงินให้พ่อแม่ ทั้งๆที่พ่อแม่เองก็ยังมีแรงทำมาหากิน แต่ไม่อยากทำ เลยผลักภาระตัวเองมาให้ลูก
ในส่วนชีวิตผมก็เกิดมาจนมาก ๆ พ่อแม่ไม่มีความรู้ แต่โชคดีคือพ่อแม่ส่งผมเรียนจบอาชีวะ ผมบอกได้เลยว่า ช่วงแรก ๆ ผมส่งเงินให้พ่อแม่ แค่ไม่ให้ท่านอดตาย เงินที่เหลือส่วนมากผมเก็บมาส่งตัวเองเรียนหนังสือ เพื่อ ถีบตัวเองให้พ้นจากความยากจน จนกระทั่งผมเรียนจบ ป.โท รายได้มันก็เพิ่มขึ้น ตามความรู้ความสามารถ ผมก็เริ่มเก็บเงิน และค่อย ๆ เพิ่มเงินส่งให้พ่อแม่ทีละน้อย ๆ จนผมมีเงินเก็บที่ทำให้ชีวิตพ้นขีดความยากจน เข้าสู่ชนชั้นกลาง ผมถึงจะเริ่ม เพิ่มเงินให้ จนกระทั่งผมมีเงินเก็บพอสมควรจึงเริ่ม ซื้อบ้านให้พ่อแม่อยู่ ผ่านไป 30 ปีผมมีรายได้ปีละ หลายล้าน มีเงินเก็บหลายสิบล้าน ผมก็หยุดตรงที่ให้เงินพ่อแม่ใช้ที่เดือนละ 2 หมื่น ไม่คิดจะเพิ่มให้แล้ว เพราะมันเพียงพอต่อการดำรงค์ชีวิตอย่างสุขสบายและพอเพียง ผมเองมีเงินเดือนละเกือบครึ่งล้านแต่ใช้ไม่เกินเดือนละ 2 หมื่น ที่เหลือเก็บฝากธนาคาร เพื่อส่งให้ลูกเรียน โรงเรียนดี ๆ เรียนสูง ๆ ไปเรียนต่างประเทศ ลูกจะได้ไม่ลำบากเหมือนผมตอนเด็ก ๆ เพราะผมคิดอีกแบบงัย ว่าผมมีลูกขึ้นมาผมต้องรับผิดชอบในชีวิตเขา ไม่ใช่ให้เขามารับผิดชอบชีวิตของผม
ถ้าผมจะแนะนำคุณได้ คุณเดินออกมาจากชีวิตพ่อแม่ซะ ออกมาสร้างชีวิตให้คุณเอง ช่วยเหลือพ่อแม่ตามกำลัง ช่วยตัวเองให้มาก จนกว่าคุณจะแข็งแรงพอ ค่อยกลับไปช่วยท่านให้ดีขึ้น ไม่เช่นนั้นชีวิตคุณจะเหมือนกับการลอยคออยู่กลางทะเลกับพ่อแม่ไปเรื่อยๆ ไม่มีทางกลับถึงฝั่ง คุณจำเป็นต้องเปลี่ยนจากการลอยคอ และว่ายน้ำให้เร็วเพื่อกลับถึงฝั่งให้สำเร็จ แล้วจึงนำเรือออกไปช่วยพ่อแม่ ดีกว่าจมน้ำตายกลางทะเลพร้อมๆกัน
หวังว่าคอมเม้นผมคงสร้างให้คุณมีกำลังใจในการฝ่าฟันสู้ชีวิต เพื่อให้คุณมีอนาคตที่ดี มีความสุข และ สุดท้ายพ่อแม่คุณจะมีความสุขในบั้นปลายชีวิต พร้อม ๆ กับครอบครัวคุณที่กำลังจะสร้างขึ้นในอนาคตกับวงจรชีวิตที่เป็นบวก
ในส่วนชีวิตผมก็เกิดมาจนมาก ๆ พ่อแม่ไม่มีความรู้ แต่โชคดีคือพ่อแม่ส่งผมเรียนจบอาชีวะ ผมบอกได้เลยว่า ช่วงแรก ๆ ผมส่งเงินให้พ่อแม่ แค่ไม่ให้ท่านอดตาย เงินที่เหลือส่วนมากผมเก็บมาส่งตัวเองเรียนหนังสือ เพื่อ ถีบตัวเองให้พ้นจากความยากจน จนกระทั่งผมเรียนจบ ป.โท รายได้มันก็เพิ่มขึ้น ตามความรู้ความสามารถ ผมก็เริ่มเก็บเงิน และค่อย ๆ เพิ่มเงินส่งให้พ่อแม่ทีละน้อย ๆ จนผมมีเงินเก็บที่ทำให้ชีวิตพ้นขีดความยากจน เข้าสู่ชนชั้นกลาง ผมถึงจะเริ่ม เพิ่มเงินให้ จนกระทั่งผมมีเงินเก็บพอสมควรจึงเริ่ม ซื้อบ้านให้พ่อแม่อยู่ ผ่านไป 30 ปีผมมีรายได้ปีละ หลายล้าน มีเงินเก็บหลายสิบล้าน ผมก็หยุดตรงที่ให้เงินพ่อแม่ใช้ที่เดือนละ 2 หมื่น ไม่คิดจะเพิ่มให้แล้ว เพราะมันเพียงพอต่อการดำรงค์ชีวิตอย่างสุขสบายและพอเพียง ผมเองมีเงินเดือนละเกือบครึ่งล้านแต่ใช้ไม่เกินเดือนละ 2 หมื่น ที่เหลือเก็บฝากธนาคาร เพื่อส่งให้ลูกเรียน โรงเรียนดี ๆ เรียนสูง ๆ ไปเรียนต่างประเทศ ลูกจะได้ไม่ลำบากเหมือนผมตอนเด็ก ๆ เพราะผมคิดอีกแบบงัย ว่าผมมีลูกขึ้นมาผมต้องรับผิดชอบในชีวิตเขา ไม่ใช่ให้เขามารับผิดชอบชีวิตของผม
ถ้าผมจะแนะนำคุณได้ คุณเดินออกมาจากชีวิตพ่อแม่ซะ ออกมาสร้างชีวิตให้คุณเอง ช่วยเหลือพ่อแม่ตามกำลัง ช่วยตัวเองให้มาก จนกว่าคุณจะแข็งแรงพอ ค่อยกลับไปช่วยท่านให้ดีขึ้น ไม่เช่นนั้นชีวิตคุณจะเหมือนกับการลอยคออยู่กลางทะเลกับพ่อแม่ไปเรื่อยๆ ไม่มีทางกลับถึงฝั่ง คุณจำเป็นต้องเปลี่ยนจากการลอยคอ และว่ายน้ำให้เร็วเพื่อกลับถึงฝั่งให้สำเร็จ แล้วจึงนำเรือออกไปช่วยพ่อแม่ ดีกว่าจมน้ำตายกลางทะเลพร้อมๆกัน
หวังว่าคอมเม้นผมคงสร้างให้คุณมีกำลังใจในการฝ่าฟันสู้ชีวิต เพื่อให้คุณมีอนาคตที่ดี มีความสุข และ สุดท้ายพ่อแม่คุณจะมีความสุขในบั้นปลายชีวิต พร้อม ๆ กับครอบครัวคุณที่กำลังจะสร้างขึ้นในอนาคตกับวงจรชีวิตที่เป็นบวก
ความคิดเห็นที่ 17
จะมาแค่ระบาย หรือ อยากแก้ไขให้ชีวิตดีขึ้นครับ
ถ้ามาระบาย ก็ อืม สู้ๆครับ จบ
ถ้าอยากแก้ไขให้ชีวิตดีขึ้น แบบโหดก็ออกจากบ้านครับ เลิกส่งเงิน ชีวิตใครชีวิตมันครับ ไม่ต้องไปคิดแทนว่าเขาจะเอาอะไรกิน ของพวกนี้เขาต้องเป็นคนคิดเองครับ ไม่ใช่เด็ก3ขวบ ชีวิตตัวเองยังรับผิดชอบไม่ได้ ต้องมาเกาะลูกกิน ทำลายอนาคตลูก พ่อแม่ประสาอะไรน่าสมเพช
หรือแบบอ่อนหน่อย ก็ยึดอำนาจการใช้เงินคืนมา ห้ามให้เงินพ่อแม่ ซื้อกับข้าวเข้าบ้าน+จ่ายน้ำไฟให้ อย่างเดียว ลองหางานที่บ้านให้เขาทำก็ว่าไป อย่านั่งนอนอยู่บ้านเฉยๆ ไร้ประโยชน์ เงินใคร ใครหามา คนนั้นต้องคุมได้ครับ
เจอกระทู้แบบนี้บ่อยครับ ส่วนใหญ่จะมาแค่ระบาย บอกวิธีแก้ไปก็ไม่ทำหรอกครับ ระบายแม้งจนพ่อแม่แก่ตายนั่นแหละ ถึงจะเป็นอิสระ ชีวิตช่างน่าเศร้า
*เพิ่ม*
จากประสบการณ์ถ้าคุณเป็นประเภทที่ 2 คุณคงคิดเองทำเองไปแล้ว ไม่เอามาลงพันทิพหรอก น่าจะแค่มาระบายมากกว่า ถ้าแบบนั้นก็ น่าเสียใจ มีอีกกระทู้นึงที่ผมไปตอบ แบบเดียวกันเลย จขกท.นั้นต้องการแค่คนที่โดนเหมือนๆกัน มาระบายกันไปกันมา แล้วให้กำลังใจกันแบบกลวงๆ แค่นั้น จบ เหมือนพวก Loser Club , พวกคนขี้แพ้คุยกันเลย
ไม่รู้ จขกท.เป็นประเภทไหน แต่อยากให้แก้ไขนะครับ ชีวิตแบบนี้มันผิดมากๆ ใครล่ะโดนเอาเปรี่ยบ ใครล่ะที่ซวยเต็มๆ ก็คุณนั่นแหละ (กับพี่คุณ) ไอคำว่ากตัญญูน่ะ มันก็แค่ข้ออ้างให้ไอพวกชอบเอารัดเอาเปรียบลูกตัวเองครับ เหมือนพวกชอบอ้างน้ำใจนั่นแหละ
ถ้ามาระบาย ก็ อืม สู้ๆครับ จบ
ถ้าอยากแก้ไขให้ชีวิตดีขึ้น แบบโหดก็ออกจากบ้านครับ เลิกส่งเงิน ชีวิตใครชีวิตมันครับ ไม่ต้องไปคิดแทนว่าเขาจะเอาอะไรกิน ของพวกนี้เขาต้องเป็นคนคิดเองครับ ไม่ใช่เด็ก3ขวบ ชีวิตตัวเองยังรับผิดชอบไม่ได้ ต้องมาเกาะลูกกิน ทำลายอนาคตลูก พ่อแม่ประสาอะไรน่าสมเพช
หรือแบบอ่อนหน่อย ก็ยึดอำนาจการใช้เงินคืนมา ห้ามให้เงินพ่อแม่ ซื้อกับข้าวเข้าบ้าน+จ่ายน้ำไฟให้ อย่างเดียว ลองหางานที่บ้านให้เขาทำก็ว่าไป อย่านั่งนอนอยู่บ้านเฉยๆ ไร้ประโยชน์ เงินใคร ใครหามา คนนั้นต้องคุมได้ครับ
เจอกระทู้แบบนี้บ่อยครับ ส่วนใหญ่จะมาแค่ระบาย บอกวิธีแก้ไปก็ไม่ทำหรอกครับ ระบายแม้งจนพ่อแม่แก่ตายนั่นแหละ ถึงจะเป็นอิสระ ชีวิตช่างน่าเศร้า
*เพิ่ม*
จากประสบการณ์ถ้าคุณเป็นประเภทที่ 2 คุณคงคิดเองทำเองไปแล้ว ไม่เอามาลงพันทิพหรอก น่าจะแค่มาระบายมากกว่า ถ้าแบบนั้นก็ น่าเสียใจ มีอีกกระทู้นึงที่ผมไปตอบ แบบเดียวกันเลย จขกท.นั้นต้องการแค่คนที่โดนเหมือนๆกัน มาระบายกันไปกันมา แล้วให้กำลังใจกันแบบกลวงๆ แค่นั้น จบ เหมือนพวก Loser Club , พวกคนขี้แพ้คุยกันเลย
ไม่รู้ จขกท.เป็นประเภทไหน แต่อยากให้แก้ไขนะครับ ชีวิตแบบนี้มันผิดมากๆ ใครล่ะโดนเอาเปรี่ยบ ใครล่ะที่ซวยเต็มๆ ก็คุณนั่นแหละ (กับพี่คุณ) ไอคำว่ากตัญญูน่ะ มันก็แค่ข้ออ้างให้ไอพวกชอบเอารัดเอาเปรียบลูกตัวเองครับ เหมือนพวกชอบอ้างน้ำใจนั่นแหละ
ความคิดเห็นที่ 49
ก่อนอื่นเราขอขอบพระคุณจากใจจริงนะคะ สำหรับทุกๆท่านที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น
ทุกคอมเม้นเราอ่านหมดทุกบรรทัด ทุกตัวอักษร ทุกคำพูดเรานำไปคิดและทบทวน ฉะนั้น มันจึงมีความหมายกับเรามากๆ
เราได้พูดคุยกับพี่เพื่อปรับความเข้าใจค่ะ เราเลือกที่จะไม่หนีปัญหานะ
เราจะช่วยที่บ้านใช้จ่ายหนี้ทุกอย่าง เพราะบางอย่าง พ่อกับแม่ก็ทำไปเพื่อเราพี่น้อง 2 คน
ที่สำคัญคือ สงสารพี่ค่ะ ไม่ห่วงพ่อแม่หรอก ห่วงพี่ตัวเองนี่แหละ กลัวไม่ได้แต่งงาน ไม่มีใครเอาเพราะหนี้ท่วมหัว -*-
พี่กับเรานิสัยต่างกันค่ะ ถูกเลี้ยงมาไม่เหมือนกันด้วยแหละ พี่จะเชื่อฟังพ่อทุกอย่าง ต่างจากเราที่ไม่ค่อยเชื่อฟังพ่อ
เวลาพ่อว่าอะไร พี่จะคอยเงียบและรับฟัง เขาสั่งอะไรมาก็ทำหมด แต่ถ้าเป็นเรา เราคิดว่าไม่พอใจเราก็ไม่ทำ ไม่โอเคอ่ะ อะไรแบบนี้
เบื้องต้น เราให้พี่ไปถามภาระทุกอย่างจากพ่อมาให้หมด ว่าแต่ละเดือนต้องจ่ายค่าอะไรบ้าง
สิ่งที่เราเพิ่งรู้คือ บัตรเครดิตทุกใบเป็นชื่อพี่เรา แถมยังมีสินเชื่อ รวมถึงกยศ. อีก .... (เขาสั่งอะไรก็ทำหมดจริงๆ เฮ้ออ พี่หนอพี่ 55555)
เราตกลงกันว่า จะจ่ายหนี้ที่เสียดอกเบี้ยก่อน ยิ่งไอตัวบัตรเนี่ย มันจ่ายขั้นต่ำมาตลอดเลย สะสมดอกจนหนี้พอกพูนแล้วมั้ง
รวมถึงมีการผ่อนจ่ายค่าบ้านที่เราอยู่อาศัย 200k เราแบ่งกับพี่เลย คนละครึ่งนะพี่นะ
ส่วนค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ อื่นๆ ให้พ่อจ่ายค่ะ ส่วนแม่ไม่ต้องหวังค่ะ
และ เราจะยื่นคำขาดว่า หวย แชร์ ม้า กับปล่อยกู้นอกระบบ ถ้าจะทำอีก ไปทำตอนหนี้หมดแล้ว แล้วใช้ตังตัวเองเล่นซะ
ถ้าเล่นแล้วเจ๊งอีก เราก็ไม่ช่วยอะไรแล้ว ... ถ้าเขาไม่ยอมทำแบบนี้ เราถึงจะถอยหนีออกมาเป็นทางเลือกสุดท้ายค่ะ
เราขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นนะคะ ทุกคนให้แง่คิดและสติกับเรามากๆจริงๆ และเป็นกำลังใจที่ดีให้กับเราด้วย
ทำให้เรารู้ว่า มันก็ยังมีอีกหลายคนนะที่เจอปัญหาแบบนี้ ..... ท้อได้แต่อย่าถอยนะคะ
เราสัญญาว่า เราจะเอาบทเรียนในครอบครัวเรามาเป็นแรงผลักดันในการใช้ชีวิต ว่าต้องมีการวางแผนและบริหารการเงินให้รอบคอบ
อย่าทำให้เด็กที่เกิดมาจากการรักสนุกของเรา ต้องมารับภาระอันหนักอึ้งในชีวิตคุณเลย มันไม่ดีหรอกนะคะ
ขอบพระคุณอย่างมากเลยค่ะ ^__^
ทุกคอมเม้นเราอ่านหมดทุกบรรทัด ทุกตัวอักษร ทุกคำพูดเรานำไปคิดและทบทวน ฉะนั้น มันจึงมีความหมายกับเรามากๆ
เราได้พูดคุยกับพี่เพื่อปรับความเข้าใจค่ะ เราเลือกที่จะไม่หนีปัญหานะ
เราจะช่วยที่บ้านใช้จ่ายหนี้ทุกอย่าง เพราะบางอย่าง พ่อกับแม่ก็ทำไปเพื่อเราพี่น้อง 2 คน
ที่สำคัญคือ สงสารพี่ค่ะ ไม่ห่วงพ่อแม่หรอก ห่วงพี่ตัวเองนี่แหละ กลัวไม่ได้แต่งงาน ไม่มีใครเอาเพราะหนี้ท่วมหัว -*-
พี่กับเรานิสัยต่างกันค่ะ ถูกเลี้ยงมาไม่เหมือนกันด้วยแหละ พี่จะเชื่อฟังพ่อทุกอย่าง ต่างจากเราที่ไม่ค่อยเชื่อฟังพ่อ
เวลาพ่อว่าอะไร พี่จะคอยเงียบและรับฟัง เขาสั่งอะไรมาก็ทำหมด แต่ถ้าเป็นเรา เราคิดว่าไม่พอใจเราก็ไม่ทำ ไม่โอเคอ่ะ อะไรแบบนี้
เบื้องต้น เราให้พี่ไปถามภาระทุกอย่างจากพ่อมาให้หมด ว่าแต่ละเดือนต้องจ่ายค่าอะไรบ้าง
สิ่งที่เราเพิ่งรู้คือ บัตรเครดิตทุกใบเป็นชื่อพี่เรา แถมยังมีสินเชื่อ รวมถึงกยศ. อีก .... (เขาสั่งอะไรก็ทำหมดจริงๆ เฮ้ออ พี่หนอพี่ 55555)
เราตกลงกันว่า จะจ่ายหนี้ที่เสียดอกเบี้ยก่อน ยิ่งไอตัวบัตรเนี่ย มันจ่ายขั้นต่ำมาตลอดเลย สะสมดอกจนหนี้พอกพูนแล้วมั้ง
รวมถึงมีการผ่อนจ่ายค่าบ้านที่เราอยู่อาศัย 200k เราแบ่งกับพี่เลย คนละครึ่งนะพี่นะ
ส่วนค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ อื่นๆ ให้พ่อจ่ายค่ะ ส่วนแม่ไม่ต้องหวังค่ะ
และ เราจะยื่นคำขาดว่า หวย แชร์ ม้า กับปล่อยกู้นอกระบบ ถ้าจะทำอีก ไปทำตอนหนี้หมดแล้ว แล้วใช้ตังตัวเองเล่นซะ
ถ้าเล่นแล้วเจ๊งอีก เราก็ไม่ช่วยอะไรแล้ว ... ถ้าเขาไม่ยอมทำแบบนี้ เราถึงจะถอยหนีออกมาเป็นทางเลือกสุดท้ายค่ะ
เราขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นนะคะ ทุกคนให้แง่คิดและสติกับเรามากๆจริงๆ และเป็นกำลังใจที่ดีให้กับเราด้วย
ทำให้เรารู้ว่า มันก็ยังมีอีกหลายคนนะที่เจอปัญหาแบบนี้ ..... ท้อได้แต่อย่าถอยนะคะ
เราสัญญาว่า เราจะเอาบทเรียนในครอบครัวเรามาเป็นแรงผลักดันในการใช้ชีวิต ว่าต้องมีการวางแผนและบริหารการเงินให้รอบคอบ
อย่าทำให้เด็กที่เกิดมาจากการรักสนุกของเรา ต้องมารับภาระอันหนักอึ้งในชีวิตคุณเลย มันไม่ดีหรอกนะคะ
ขอบพระคุณอย่างมากเลยค่ะ ^__^
ความคิดเห็นที่ 8
สิ่งที่ทำให้คุณต้องมาเกิดกับพ่อและแม่แบบนี้ คือผลจากการกระทำของคุณเองในอดีตครับ คุณบอกว่าคุณไม่ได้เลือก เปล่าหรอกครับ คุณแค่ไม่รู้
คนส่วนใหญ่บนโลกนี้ก็ไม่รู้ทั้งนั้น ทุกคนเกิดมาแบบงงๆ แถมยังพ่วงความเข้าใจผิดว่าเพิ่งเกิดมาครั้งแรกเหมือนกันทั้งนั้น มีแต่คนที่รู้ความจริง
แค่หยิบมือเดียวเท่านั้น ที่เห็นเรื่องแบบนี้แล้วเกิดความสลดสังเวช ...คนเราเกิดมาพร้อมหนี้ที่ต้องจ่าย ไม่ว่าจะรู้หรือไม่รู้ก็ตาม เจ้าหนี้คนแรกสุด
ของเราคือพ่อแม่เรานี่แหล่ะ ที่คุณต้องมาเจอพ่อกับแม่แบบนี้ ก็เพราะว่าคุณเคยเป็นพ่อและแม่แบบนี้มาก่อน ถ้าคุณต้องการจะหลุดพ้นจากวงจรนี้
อย่าได้คิดหนี แต่ให้สู้ พยายามเปลี่ยนทัศนคติของพ่อกับแม่ให้ได้ด้วยความกตัญญู ต่อให้พูดแล้วไม่มีอะไรดีขึ้น ก็ต้องพูดมันเข้าไป แต่อย่าพูดด้วยอารมณ์ ให้พูดด้วยความจริงใจ ทุกครั้งที่ให้เงินพวกเขาก็ ขออโหสิกรรมไปพร้อมๆกัน ถ้าคุณไม่หนีหนี้เสียอย่างเดียว วันหนึ่งมันก็หมดหนี้ได้เองครับ ต่อให้คุณหนีหนี้ในชาตินี้ ชาติหน้าคุณจะเจอ "หนักกว่า" เดิมอีก เพราะโดนเพิ่มโทษของการหนีครั้งก่อนเข้าไปด้วย ที่คุณต้องเจอหนักขนาดนี้ ก็คงเพราะเคยหนีมาหลายครั้งแล้วนั่นแหล่ะครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ ขอให้อดทนใช้ความกตัญญูกตเวทีเอาชนะเกมกรรมนี้ให้ได้ คุณต้องช่วยตัวเองเพราะไม่มีใครช่วยคุณได้ คนเราทำอะไรไว้ ก็ต้องแก้ไขมันด้วยตนเอง และการได้เกิดเป็นมนุษย์เป็นโอกาสประเสริฐที่สุดที่เราจะแก้ไขมัน
คนส่วนใหญ่บนโลกนี้ก็ไม่รู้ทั้งนั้น ทุกคนเกิดมาแบบงงๆ แถมยังพ่วงความเข้าใจผิดว่าเพิ่งเกิดมาครั้งแรกเหมือนกันทั้งนั้น มีแต่คนที่รู้ความจริง
แค่หยิบมือเดียวเท่านั้น ที่เห็นเรื่องแบบนี้แล้วเกิดความสลดสังเวช ...คนเราเกิดมาพร้อมหนี้ที่ต้องจ่าย ไม่ว่าจะรู้หรือไม่รู้ก็ตาม เจ้าหนี้คนแรกสุด
ของเราคือพ่อแม่เรานี่แหล่ะ ที่คุณต้องมาเจอพ่อกับแม่แบบนี้ ก็เพราะว่าคุณเคยเป็นพ่อและแม่แบบนี้มาก่อน ถ้าคุณต้องการจะหลุดพ้นจากวงจรนี้
อย่าได้คิดหนี แต่ให้สู้ พยายามเปลี่ยนทัศนคติของพ่อกับแม่ให้ได้ด้วยความกตัญญู ต่อให้พูดแล้วไม่มีอะไรดีขึ้น ก็ต้องพูดมันเข้าไป แต่อย่าพูดด้วยอารมณ์ ให้พูดด้วยความจริงใจ ทุกครั้งที่ให้เงินพวกเขาก็ ขออโหสิกรรมไปพร้อมๆกัน ถ้าคุณไม่หนีหนี้เสียอย่างเดียว วันหนึ่งมันก็หมดหนี้ได้เองครับ ต่อให้คุณหนีหนี้ในชาตินี้ ชาติหน้าคุณจะเจอ "หนักกว่า" เดิมอีก เพราะโดนเพิ่มโทษของการหนีครั้งก่อนเข้าไปด้วย ที่คุณต้องเจอหนักขนาดนี้ ก็คงเพราะเคยหนีมาหลายครั้งแล้วนั่นแหล่ะครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ ขอให้อดทนใช้ความกตัญญูกตเวทีเอาชนะเกมกรรมนี้ให้ได้ คุณต้องช่วยตัวเองเพราะไม่มีใครช่วยคุณได้ คนเราทำอะไรไว้ ก็ต้องแก้ไขมันด้วยตนเอง และการได้เกิดเป็นมนุษย์เป็นโอกาสประเสริฐที่สุดที่เราจะแก้ไขมัน
แสดงความคิดเห็น
ทำไมต้องให้เงินเดือนของเรากับพ่อแม่ทุกบาทที่เราหาได้ในทุกๆเดือน
เหตุผลหลักคือ อยากระบายค่ะ เป็นความอัดอั้นในใจ เก็บไว้กลัวเป็นซึมเศร้า เป็นคนที่ไม่มีเพื่อนสนิทที่จะปรึกษาอะไรได้
เราขอพื้นที่ระบายนิดนึง เลือกที่นี่เพราะเราอยากได้ความคิดเห็นแบบโลกแห่งความเป็นจริง อยากรู้มุมมองของคนหลายๆคนว่าคิดกันยังไง
- พื้นฐานครอบครัวเรา โคตรขาดความอบอุ่น พ่อแม่ตีกันตั้งแต่เราจำความได้ ที่ภาพติดตาและติดในหัวมาจนถึงปัจจุบันนี้คือ
เปลือกทุเรียน แก้วน้ำ หรือ สิ่งของทุกอย่างที่ขวางหน้า ณ ตอนนั้น พ่อปาใส่แม่เรามาเกือบทุกอย่างเวลาที่พวกเขาทะเลาะกัน
และ คำหยาบสารพัด นับตั้งแต่ สิงสาราสัตว์ ไปจนถึงอวัยวะต่ำๆ ผ่านการได้ยินซ้ำๆมาตั้งแต่เด็กเช่นกัน
- พ่อเรามีเมียเยอะ(มาก) แม่เราแน่นอนค่ะ เป็นเมียน้อย ครอบครัวเมียหลวงเขารู้ทุกอย่าง พ่อมีลูกกับทุกเมีย อย่างน้อยก็ไข่ไว้อย่างต่ำ 2 คน
- พ่อเลือกอยู่กับครอบครัวเรา เป็นเสาหลักของครอบครัวเราในการหารายรับเข้ามา ลูกคนอื่นของพ่อ ไม่เคยส่งเงินให้พ่อนะ
แต่พ่อเราส่งให้พวกเขาหรือเปล่า อันนี้เราก็ไม่รู้ ปัจจุบันพ่อเราไม่มีรายได้ เพราะอายุมาก เกษียณแล้ว
ส่วนแม่เลิกทำงานตั้งแต่อายุราวๆ 40 มั้ง ถ้าจำไม่ผิด ค้าขายมาก่อนหน้านี้ แกบอกเหนื่อย เลยเลิกทำ
- ครอบครัวเรา ฐานะยากจน(มั้ง) เราไม่เคยรู้ภาระอะไรเลย ถ้าฟังจากปากพ่อแม่ คือหนี้สินค่าใช้จ่ายมากกว่ารายรับ
- พ่อแม่เราเป็นพวกขี้อวด หน้าใหญ่ใจโต ห่วงภาพลักษณ์ภายนอก กลัวคนอื่นมองว่าเป็นคนจน ดังนั้น การใช้ชีวิตมักจะดูหรูหรา
ซึ่งเราไม่เข้าใจ ก็ตัวเองจนจริงๆ แต่ไม่ได้ไปขอใครกิน ไม่ได้ไปโกงคนอื่นเขา ไม่ได้ทำใครเดือดร้อน การสู้ชีวิตไม่ใช่เรื่องน่าอายนะ
- ปัจจุบันเสาหลักของบ้านเรา คือ รายได้ของพี่คนโต เงินเดือนของพี่ทุกบาท ซึ่งก็ไม่ใช่จะเยอะ 18k พ่อเอาไปบริหารเองหมด
- มีเล่นพนัน ทั้งหวย ทั้งแชร์ ทั้งม้า คาดว่าคงอยากถอนทุนคืนจากการเล่นพวกนี้ เล่นตั้งแต่สมัยวัยรุ่นยันแก่ก็ยังไม่เลิก เหอะๆ
- นอกจากหวย ม้ากับแชร์ มีการปล่อยให้คนอื่นกู้ยืมเงินแล้วคิดดอก ซึ่งส่วนใหญ่ก็น่าจะคาดเดากันออก .... ได้เงินไปมันก็ไม่คืนกันหรอก 55555
นี่คือปัญหาหลักที่เราพอจะคิดออก ตอนนี้เราเพิ่งเริ่มทำงาน ด้วยความที่เรายังเด็กเนาะ ผ่านงานมาไม่เยอะ
เวลาคนที่ทำงานด้วยกันถาม เออ เงินเดือนออกจะเอาไปใช้ทำอะไร ...... เราก็บอก ให้ที่บ้านหมดเลย ...... ทุกคนก็ งง คิดว่าเราเล่นมุข
เราก็บอกเขาว่า พูดจริง พ่อเราบริหารค่าใช้จ่าย เรามีหน้าที่หาเงินให้เขา ..... นี่ล่าสุดหัวหน้าเราถามว่า อ้าว แล้วพ่อแม่ไม่ทำงานอะไรเลยหรอ
เราก็ตอบไป ใช่ค่ะ ..... หัวหน้าถามอีก ไม่มีเงินเก็บเลยหรอ เอาเงินลูกไปหมดเลยเนี่ยนะ แล้วเราจะอยู่ยังไง อยู่ได้ไง
เราก็ตอบไปตามความจริง ... ได้เงินค่าขนมมาวันละ 100-200 หักค่ารถไป 50 ที่เหลือก็ไว้กิน เหลือเท่าไหร่ก็เก็บไปตามสภาพนั้นล่ะค่ะ
เวลาอยากได้อะไร เราก็ขอพ่อซื้อได้นะ แต่เหมือนพ่อจะเอาเงินเดือนทั้งหมดไปหมุนค่าใช้จ่าย ใช้เงินเดือนชนเดือน
มีบัตรเครดิตด้วยหลายใบ กดบัตรนึง โปะบัตรนึง กดบัตรนึง โปะบัตรนึง วนลูปไปจ้า
เรื่องนี้ เราก็เล่าให้เพื่อนฟังนะ ว่าเราต้องเอาเงินเดือนให้พ่อแม่ทุกบาท
เพื่อนก็ไม่เข้าใจอีกว่า ทำไมต้องให้หมด พ่อแม่มีหน้าที่เลี้ยงเรา พอเราโต มีงานทำ อยากจะส่งเท่าไหร่ก็ส่งได้ แต่ไม่ใช่ส่งหมด
ถ้าอยากช่วยแบ่งเบาภาระจริงๆ ไปถามว่ามีภาระอะไรบ้างดีกว่า เพราะไม่งั้นให้ไปเท่าไหร่ คงเอาไปใช้จ่ายเหมือนเดิม
คือเหมือนบริหารค่าใช้จ่ายล้มเหลวมาตลอด ละยังมีเงินก้อนเอาไปให้ใช้อีก
ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่า เอาไปใช้จ่ายภาระจริงๆ หรือ เอาไปจ่ายอะไรก็ไม่รู้ซึ่งหนี้ก็ไม่ลด เผลอๆหนี้เพิ่มเข้าไปอีก
เราลองมานั่งคิดถึงอนาคต เรากังวล เราต้องทำแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่ เราจะมีเงินเก็บพอใช้กี่ปีในอนาคต
เพราะเราไม่สามารถทำอะไรได้เลย อย่าบอกให้เราไปพูดตรงๆกับพ่อเลย เราทำไม่ได้ เราอยากเข้าใจพ่อ แต่พ่อไม่เข้าใจใครทั้งนั้น
เขาหัวโบราณ คิดว่าที่ทำมาทุกอย่างนั้นถูกต้องแล้ว ขัดใจเขาไม่ได้หรอก เขาไม่ฟังแน่นอน เขาจะให้เราทำแบบนี้
ที่ผ่านมาเราสำนึกในบุญคุณทั้งพ่อและแม่ ถึงแม้เราจะเลือกว่าเราอยากจะเกิด หรือ ไม่อยากจะเกิดไม่ได้ก็ตาม แต่เราเกิดมาแล้วไง
เราอยากมีชีวิตที่เราคิดเอง สร้างเอง เราไม่ได้อยากเกิดมาเป็นลูกที่ต้องมานั่งใช้หนี้ให้ที่บ้านไปตลอดชีวิต
มีคนถามว่า ที่ผ่านมาพี่เรายังทนได้ ทำไมเราจะทนไม่ได้บ้างล่ะ ... เราบอกแล้ว เราไม่ใช่เด็กที่มีความคิดแบบนั้น
อย่างเรื่องจะแต่งงานที ผู้ชายต้องมีเงินค่าสินสอดแพงๆ แพงแบบขายลูกกินอ่ะ เพื่อให้คุ้มกับค่าน้ำนมที่เลี้ยงมา ไม่งั้นไม่ให้แต่งจ้า
เออ .... แล้วไม่คิดบ้างหรอว่าฝ่ายชายพ่อแม่เขาก็มีค่าน้ำนมเลี้ยงลูกเขาโตขึ้นมา เขาก็เสียหลายบาทไม่น้อยกว่าเรา
ที่บ้านเราก็จะย้อนกลับว่า ... ผู้หญิงเสียหายมากกว่า เผื่อโดนเขาทิ้ง เราจะได้มีเงินใช้
มันไม่ใช่อ่ะ .... เราก็ทำงาน เก็บเงินเองดิ ชีวิตนี้จะต้องไปเอาเงินสามีมากินทั้งชีวิตหรอ บ้าไปแล้ว โลกหมุนผ่านไปกี่ปี นี่มันยุคไหนแล้ว
เราท้อค่ะ เราอยากหนีออกจากบ้าน เราคิดนะ ถ้าเราออกไปใช้ชีวิตอยู่คนเดียว มันจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายไปคนนึงได้ไหม
เราไม่อยากรับรู้ปัญหานี้ เราไม่ได้อยากเกิดมาชดใช้หนี้ที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนสร้างไปตลอดชีวิต
เราไม่สนว่าพ่อแม่จะเสียเงินเลี้ยงเรามามากแค่ไหน พวกเขายังทนได้ไม่บ่นซักคำ เราไม่คิดแบบนี้เลย
ถ้าเราเลือกได้ เราไม่เลือกที่จะเกิดมาหรอก ... ใช้ชีวิตอยู่มาจะ 90 ปี ทำไมถึงมีแต่หนี้ มันไม่ผิดที่เรา มันผิดตั้งแต่คิดจะมีลูกเพื่อเอามาช่วยใช้หนี้ไหม
เราผิดไหมคะที่คิดแบบนี้ เราอยากรู้ความเห็นของคนเป็นพ่อ แม่หลายๆท่าน หรือ ลูก ก็ได้ พวกคุณคิดแบบนี้กันบ้างหรือเปล่า ?