เข้าที่พักได้ก็หยิบเป้กับแผนที่ไปเที่ยวกันเลยค่ะ ผู้สาวขาเลาะ 555 เราก็ดูๆอันไหนใกล้ที่พัก สรุปเดินตามแผนที่ไปทะเลสาบกันดอว์จี (Kandawgyi Lake) สวนสาธารณะที่มีฉากหลังเป็นเจดีย์ชเวดากอง เห็นแต่หนุ่มสาวไปพลอดรักกัน มีสะพานไม้ยาวๆแต่เราไม่เดิน ถ่ายรูปเสร็จกลับเลย ชะโงกทัวร์มาก 555

ไม่รู้เดินไปอีท่าไหน เจอสวนสัตว์พม่า (Yangon Zoo) ค่าเข้า 3000Kyat/คน ได้น้ำหวาน 1 ขวด ข้างในมีสวนสัตว์ สวนน้ำ สวนสนุกร้าง Natural History Museum รวมอยู่ในที่เดียวกัน จะบอกว่าชะนีไทยร้องผัวๆ แต่ชะนีพม่าเวลาเห็นผู้ชายร้องหวู่หู้หวู่หู้ 555
ลากขากลับมาโฮสเทล อาบน้ำยืดเส้นยืดสายแล้วก็ออกมาหาอะไรกินกันแถวสวนสาธารณะมหาบัณฑุลา (Maha Bundula Park) ใกล้ๆกับเจดีย์สุเล ช่วงที่เราไปมีงานพอดี อาหารพม่าอร่อยอยู่นะไม่เชื่อไปลอง กินกันไม่รู้กี่สิบไม้ 1500Kyat เอง

กินเสร็จก็พากันเดินกลับโฮสเทล รีบนอนๆพรุ่งนี้จะได้ไปเที่ยวกันต่อ ราตรีสวัสดิ์พม่าคืนที่ 1

DAY 2
Botataung Pagoda (เทพทันใจ เทพกระซิบ) - Sule Pagoda (เจดีย์สุเล) - Kyauk Htat Gyi (พระตาหวาน) - Shwedagon Pagoda (เจดีย์ชเวดากอง) - China Town

ตื่นเช้ามาก็กินเลยค่ะ กองทัพต้องเดินด้วยท้อง 555 อาหารเช้าของโฮสเทลเริ่ม 7am - 9am ตาก็มองรถวิ่งผ่านไปผ่านมาจากหน้าต่างโฮสเทลไป มือก็หยิบขนมปังเข้าปาก มองหน้ากันกับเพื่อนเออวันนี้ไปไหน? 555 เป็นการเที่ยวที่ชิวมาก แต่แค่วันที่ 2 แผนที่ก็แยกร่างแล้ว 555

รีเซฟชั่นเดินมาถามมีอะไรให้ช่วยไหม? เราเลยเอาลิสลายมือไก่เขี่ยสถานที่ท่องเที่ยวที่เราจะไปวันนี้ให้ดู รีเซฟชั่นก็ช่วยเขียนใส่กระดาษเป็นภาษาพม่าให้ แล้วก็บอกสายกับทางที่จะไปขึ้นรถเมล์ อื้อหือบริการดีไปอีก เอาไป 10/10 555
เราเดินทะลุซอย 32nd Street มาเห็นรถเมล์สาย 58 ไกลๆร้อยเมตร วิ่งสี่คูณร้อยไปขึ้นเลยจ้า รถเมล์ที่นี่ซิ่งมาก เบรกทีหัวแทบทิ่ม คิดว่านั่งสาย 8 ไปฝั่งธน 555 ค่ารถ 100Kyat/คน/ตลอดสาย เราเอาโพยหวยเอ้ยโพยสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นภาษาพม่าให้คนในรถดู ด้วยความที่พม่าใช้ภาษาท้องถิ่น ถ้าพูดภาษาอังกฤษใส่ง่อยไปเลย (เราเนี่ยง่อย 555) แต่คนพม่าน่ารักมาก พยายามใช้ภาษามือช่วยบอกให้ลงป้ายไหน
ในที่สุดเราก็มาถึงเทพทันใจ เทพกระซิบ (Botataung Pagoda) เสียค่าเข้า 6000Kyat/คน จะได้ผ้าเย็นกับน้ำเปล่ามาคนละขวด ที่นี่รับฝากร้องเท้าฟรี แต่เราเตรียมถุงไปเอง

ไปต่อแถวไหว้เทพทันใจ คณะทัวร์คนไทยเยอะมาก ค่าของไหว้ (ในชุดมีผ้าคล้องคอให้) 4000Kyat วิธีการขอ เราฟังมาจากไกด์คนพม่าที่พูดไทยได้ เอาเงินม้วนใส่ในมือท่าน เอาหน้าผากแตะที่นิ้วชี้แล้วขอพร จากนั้นหยิบเงิน 1 ใบมาเก็บไว้ อ้อมหลังมาจับไม้เท้าแล้วขอแบบเดิม เป็นอันเสร็จพิธี

สักการะขอพรกันเสร็จเป็นที่เรียบร้อยก็เดินออกมาหาป้ายรถเมล์ ประเด็นคืออ่านภาษาพม่าไม่ออก 555 เอาโพยมาถามคนแถวนั้นเอา สาย 57 (จากโบตาทาวน์ไปสุเลได้) แต่เรากระโดดลง Pansodan Street ตามรีวิวไป Rangoon Tea House ร้านชาพม่าที่ถูกยกระดับเป็นคาเฟ่ ที่นี่ฝรั่งเต็มร้านเลย เมนูเป็นภาษาอังกฤษ เราเลยสั่งชาพม่ากับซิกเนเจอร์ของร้านมาลอง ค่าเสียหาย 21000Kyat

จิบชายามบ่ายเสร็จแล้วก็เดินเล่นเรื่อยๆกลับไปเจดีย์สุเล (Sule Pagoda) ค่าเข้า 6000Kyat/คน

ตรงเจดีย์สุเลฟีลเหมือนอนุเสาวรีย์ชัยบ้านเราเลย มีรถเมล์ทุกสาย และที่ที่เราจะไปกันต่อคือพระตาหวาน (Kyauk Htat Gyi) เราก็เปิดโพยชี้ๆว่าเราจะไปที่นี่นะต้องนั่งรถสายอะไร สาย 29 (จากสุเลไปไหนไม่รู้แต่ผ่านเจาทัตยี) คนแถวนั้นใจดีมาก คอยบอกขึ้นรถ-ลงรถ เพราะรถเมล์บางสายเป็นตัวเลขพม่า

ในที่สุดก็มาถึง Kyauk Htat Gyi หรือที่คนไทยชอบเรียก ''พระตาหวาน'' ที่นี่ไม่เสียค่าเข้า

เดินวนกันอยู่ในวัดสักพักก็เดินเลาะมาทางกุฏิพระ ทะลุไปอีกวัดหนึ่งแต่จำชื่อไม่ได้ ภายในวัดก็จะมีพวกสถาปัตยกรรมให้ชม

สำรวจวัดเสร็จเดินออกมาหน้าวัดจะมีป้ายรถเมล์ เราก็ไปยืนโบกแล้วให้โพยนำทาง 555 ขึ้นสาย 29 เหมือนเดิมแต่ลงระหว่างทาง ป้ายทะเลสาบกันดอร์จี ลงเดินมาเรื่อยๆ สองข้างทางก็จะเต็มไปด้วยของขาย ดอกไม้ ของที่ระลึก ของกิน จิปาถะ... ในที่สุดก็มาถึงไฮไลต์ของพม่า เจดีย์ชเวดากอง (Shwedagon Pagoda) นักท่องเที่ยวต้องเสียค่าเข้า 8000Kyat/คน พระธาตุประจำปีเกิด (ปีมะเมีย) ที่ถ้ามีโอกาสก็ควรไปสักการะ

จริงๆอยากอยู่ให้ถึงค่ำจะได้เห็นชเวดากองสีทองอร่ามเหมือนที่เห็นตามรีวิว แต่กลัวรถหมดเลยรีบกลับกัน ไม่รอช้าเห็นรถเมล์คันไหนมากระโดดขึ้นเลยเพราะทุกคันไปเจดีย์สุเล 555
ตะลอนกันมาทั้งวัน เลยเดินไปหาอะไรกินกันที่ China Town ก่อนกลับโฮสเทล ย่านนี้ของกินเพียบ บาบีคิวกับเบียร์พม่าท่ามกลางอากาศเย็นๆของตอนกลางคืนฟินมาก มื้อนี้หมดไป 21000Kyat

สำหรับวันนี้ See Shwedagon and Sleep ได้ พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ 555 ราตรีสวัสดิ์คืนที่ 2 ในพม่า

DAY 3
Yangon Circular&Sub-Urban (นั่งรถไฟรอบเมือง 3 ชั่วโมง) - Bogyoke Aung San Market (ตลาดสก็อต) - เดินทางกลับ

ตื่นเช้ามากินอาหารเช้าเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเหลือบไปเห็นตารางรถไฟแปะอยู่ที่ผนัง แล้วโฮลเทลก็ไม่ไกลจากสถานีรถไฟมาก เช็คเอ้าท์แล้วฝากกระเป๋าไว้ที่โฮสเทล วันนี้เราตัดสินใจไปนั่งรถไฟเล่นรอบเมือง (Yangon Circular&Sub-Urban) ค่าตั๋ว 300Kyat/คน

ชมวิถีชีวิตสองข้างทางรถไฟของคนพม่า ถ่ายรูปบ้าง หลับบ้าง คนพม่ามาคุยด้วยบ้าง ความรู้สึกเหมือนนั่งรถไฟฟรีในต่างแดน 555 พอวนกลับมาถึง ไม่ไหวแล้วหิวมาก เดินหาร้านนั่งแถวนั้นเลยจ้า ''999 Shan Noodle House'' ก๊วยเตี๋ยวสไตล์พม่า ชามนี้ 1900Kyat

ไหนๆวันนี้ก็จะกลับแล้วเลยไปซื้อของฝากที่ตลาดสก๊อต (Bogyoke Aung San Market) ได้ชาพม่าตรา Royal ห่อสีเขียวๆติดมือกลับไทย 555 เดินเล่นห้าง Junction City วนอยู่แถวนั้นแหละจนเย็นค่อยกลับมาเอากระเป๋าที่โฮสเทลไปสนามบิน รีเซฟชั่นบอกว่ามีรถเมล์ไปสนามบินสาย 37 แต่ต้องนั่ง 2 ต่อ เราเลยโบกแท็กซี่เนี่ยแหละ 4000Kyat (ถูกกว่าขามาอีก) แถมยังเหลือเงินจ๊าดกลับไทยด้วย 555

ข้อมูลรถเมล์ในย่างกุ้ง
สาย 58 ไปโบตาทาวน์
สาย 57 จากโบตาทาวน์มาเจดีย์สุเล
สาย 29 จากเจดีย์สุเลไปเจาทัตยี ลงป้ายทะเลสาบกันดอร์จี เดินไปชเวดากองได้
สรุปค่าใช้จ่าย (คิดเป็นเงินไทย/คน)
ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ = 2,137
Hostel 2 คืน = 450
ค่าเข้าสถานที่ต่างๆ = 500
ค่ารถ = 275
ค่ากิน+อื่นๆ = 600