คือ เด็กสาวที่ว่านี้ น้องเค้าจะใช่ญาติก็ไม่ใช่ ไม่มีเส้นทางไหนที่มีสายเลือดเดียวกันเลย เพียงแต่เด็กคนนี้มีปัญหาทางครอบครัว ชีวิตค่อนไปทางขาดความอบอุ่น คนที่เลี้ยงดูเค้าตอนเด็กอยู่กับตากับยาย แล้วแม่เลี้ยงเค้ามารับไปทำงานต่างจังหวัด ใช้ชีวิตอยู่กับแม่เลี้ยง(น้องถูกเก็บมาเลี้ยง) ใช้ชีวิตอยู่กับแม่เลี้ยงก็แบบตามอัตถภาพ พอเด็กโตเป็นสาวมีเงินเดือนก็ยึดเงินเดือน จะติดต่อโลกภายนอกก็ไม่ได้ (ตัวน้องเค้าเล่าให้ฟัง) ซึ่งครอบครัวเราก็รับรู้แค่ตอนที่อยู่กับตายาย หลังจากที่แม่เค้ารับไปเลี้ยงเราก็ไม่รู้เรื่องราวของเขามานานมาก จนกระทั่งน้องเค้าโตเป็นสาว แล้วไปหาเสาะแสวงหาเบอร์แม่เรามา แล้วเล่าชีวิตรันทดนี้ให้แม่เราฟัง (ซึ่งเราแค่รับฟังจากปากเค้าข้างเดียวเท่านั้น) แม่เราเป็นคนใจอ่อน ขี้สงสาร รู้สึกเห็นใจเนื่องจากมีรูปแบบชีวิตตอนเด็กคล้ายๆกัน จึงคิดจะหาหนทางช่วยน้องเค้า โดยหนึ่งในวิธีคือ คิดว่าจะเอาน้องเค้ามาอยู่ด้วยเลี้ยงเสมือนลูกอีกครั้ง* (ประมาณนั้นมั้งค่ะ )
*เมื่อตอนที่อยู่กับตายาย(สมัยน้องเด็กๆ) เห็นชีวิตน้องแลดูน่าสงสาร จึงลองรับน้องเค้ามาอุปการะที่บ้าน น้องก็ไม่มีปัญหาอะไร เพียงแต่อยู่ๆไปเริ่มรู้สึกว่าพ่อแม่เรารัก ก็เริ่มมีความอยากได้โน้นได้นี่ แต่ยังดีที่มันก็แค่สิ่งเล็กๆน้อย ของสวยๆงามตามประสาเด็กน้อยที่อยากมีอยากได้ พ่อแม่ก็ไม่ได้ขัดข่องอะไร
(เอาจริงๆน่ะค่ะ ความรุ้สึกตอนที่รู้พ่อแม่เราเอาน้องเค้ามาเลี้ยงแบบเสมือนลูก ให้น้องเรียกเราพ่อแม่เรา ว่า"พ่อแม่" ในความรู้สึกเราเป็นลูกแท้ๆ มันก็อึ้งๆ บรรยายโมเม้นไม่ถูกค่ะ แต่เมื่อเค้ารับน้องมาแล้วก็ได้แต่ปลงๆแบบที่เราจะแย้งอะไรก็ไม่ได้ จนกระทั่งแม่เลี้ยงเค้ามารับน้องเค้าไปอีกครั้งตามที่เล่าแต่ตอนต้นค่ะ
สรุปประเด็นคือ หากกรณีน้องเค้าจะ Comeback เราในฐานะลูกแท้ๆความรู้สึกมันก็สงสารน้องเค้า หากชีวิตเป็นไปตามที่น้องเค้าเล่าจริง จะให้น้องเค้ามาอยู่กับเรา จะให้เค้ามาดูเรายามแก่ (คห.แม่) (เราคิดว่าสายเลือดย่อมค้นกว่าน้ำค่ะ) เรามีน้องแท้ๆอีกคนค่ะ และตอนนี้กำลังจะมีหลานแล้ว จะมีใครมาดูแลเราได้ดีไปกว่าสายเลือดเดียวกันละค่ะ เราจะรู้สึกช็อคๆถ้าน้องเค้าจะมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับเราอีกครั้ง (ส่วนทางพ่อเราท่านก็ยังไม่ได้เห็นด้วยกับแม่สักทีเดียว) เหตุผลน้องเค้าติดที่แม่เลี้ยงเค้า เด๋วเค้าจะมาเอาเรื่องเอาราวทีหลัง หาว่าพรากลูกจากเค้าไปทำนองนั้น จึงไม่ฟันธงช่วยเคสนี้สักเท่าไหร่ แต่ตัวเรายังช็อคและยังสังหรณ์ใจ รู้สึกว่า..."การเอาลูกเค้ามาเลี้ยง เอาเมี่ยงเขามาอม"..อนาคตจะออกไปทางไหน มันจะมีปัญหาอะไรภายหลังไม๊ในอนาคต. ดิฉันอาจดูใจแคบหรืออะไรก็ตามน้อมรับคำวิจารณ์ค่ะ แต่ใจมันไม่พร้อมกับอะไรแบบนี้ คิดไม่ตกจึงตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา..ขอบคุณที่รับฟังค่ะ
คิดอย่างไรค่ะ กับการที่พ่อแม่(เราลูกแท้ๆ)จะรับอุปการะเด็กสาวอีกคนมาเลี้ยงดูปูเสื่อเสมือนลูกตัวเองอีกคน
*เมื่อตอนที่อยู่กับตายาย(สมัยน้องเด็กๆ) เห็นชีวิตน้องแลดูน่าสงสาร จึงลองรับน้องเค้ามาอุปการะที่บ้าน น้องก็ไม่มีปัญหาอะไร เพียงแต่อยู่ๆไปเริ่มรู้สึกว่าพ่อแม่เรารัก ก็เริ่มมีความอยากได้โน้นได้นี่ แต่ยังดีที่มันก็แค่สิ่งเล็กๆน้อย ของสวยๆงามตามประสาเด็กน้อยที่อยากมีอยากได้ พ่อแม่ก็ไม่ได้ขัดข่องอะไร
(เอาจริงๆน่ะค่ะ ความรุ้สึกตอนที่รู้พ่อแม่เราเอาน้องเค้ามาเลี้ยงแบบเสมือนลูก ให้น้องเรียกเราพ่อแม่เรา ว่า"พ่อแม่" ในความรู้สึกเราเป็นลูกแท้ๆ มันก็อึ้งๆ บรรยายโมเม้นไม่ถูกค่ะ แต่เมื่อเค้ารับน้องมาแล้วก็ได้แต่ปลงๆแบบที่เราจะแย้งอะไรก็ไม่ได้ จนกระทั่งแม่เลี้ยงเค้ามารับน้องเค้าไปอีกครั้งตามที่เล่าแต่ตอนต้นค่ะ
สรุปประเด็นคือ หากกรณีน้องเค้าจะ Comeback เราในฐานะลูกแท้ๆความรู้สึกมันก็สงสารน้องเค้า หากชีวิตเป็นไปตามที่น้องเค้าเล่าจริง จะให้น้องเค้ามาอยู่กับเรา จะให้เค้ามาดูเรายามแก่ (คห.แม่) (เราคิดว่าสายเลือดย่อมค้นกว่าน้ำค่ะ) เรามีน้องแท้ๆอีกคนค่ะ และตอนนี้กำลังจะมีหลานแล้ว จะมีใครมาดูแลเราได้ดีไปกว่าสายเลือดเดียวกันละค่ะ เราจะรู้สึกช็อคๆถ้าน้องเค้าจะมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับเราอีกครั้ง (ส่วนทางพ่อเราท่านก็ยังไม่ได้เห็นด้วยกับแม่สักทีเดียว) เหตุผลน้องเค้าติดที่แม่เลี้ยงเค้า เด๋วเค้าจะมาเอาเรื่องเอาราวทีหลัง หาว่าพรากลูกจากเค้าไปทำนองนั้น จึงไม่ฟันธงช่วยเคสนี้สักเท่าไหร่ แต่ตัวเรายังช็อคและยังสังหรณ์ใจ รู้สึกว่า..."การเอาลูกเค้ามาเลี้ยง เอาเมี่ยงเขามาอม"..อนาคตจะออกไปทางไหน มันจะมีปัญหาอะไรภายหลังไม๊ในอนาคต. ดิฉันอาจดูใจแคบหรืออะไรก็ตามน้อมรับคำวิจารณ์ค่ะ แต่ใจมันไม่พร้อมกับอะไรแบบนี้ คิดไม่ตกจึงตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา..ขอบคุณที่รับฟังค่ะ