คนไม่มีธุดงควัตรคือคนวัตรร้าง

ยืนยัน!! นิพพานแล้วไม่สูญ เมื่อ"หลวงปู่ชอบ"พบ"พระอรหันต์เถระสมัยพุทธกาล"
พระพากุลเถระ  ได้แสดงธรรมแก่ท่านโดยเน้นข้อ “ธุดงควัตร” โดยมีความดังนี้


“จงพยายามรักษาธุดงค์ไว้ให้มั่นคงต่อไป อย่าให้เสื่อมร่วงโรยไปเสีย  ธุดงควัตรเสื่อมเท่ากับศาสนาเสื่อม  แม้คัมภีร์ธรรมทั้งหลายยังมีอยู่ก็ไม่อาจทรงคุณค่าแก่ผู้สนใจเท่าที่ควร ธุดงควัตรเป็นธรรมขั้นสูงมาก  ผู้รักษาธุดงค์ได้ต้องเป็นผู้มีจิตใจสูง

ท่านควรทราบว่า  พระอริยเจ้าทุกประเภทไปจากธุดงควัตรนี้ทั้งนั้น เพราะธุดงค์เป็นธรรมเครื่องทำลายกิเลสได้ทุกประเภท  ธุดงควัตรจึงเป็นทางเดินเพื่ออริยธรรม อริยบุคคล  คนไม่มีธุดงควัตรคือคนวัตรร้าง เช่นเดียวกับบ้านร้าง เมืองร้าง  อะไรก็ตาม ถ้าลงได้ร้างแล้วไม่เป็นสิ่งที่พึงปรารถนาเลย

ท่านจงรักษาธุดงควัตรอันเป็นเครื่องทำลายกิเลสไว้ให้ดีและมั่นคง  อย่าให้เป็นพระวัตรร้าง เพราะจะเป็นทางรั่วไหลแตกซึมแห่งมรรคผลนิพพานที่ควรจะได้จะถึง  พระพุทธเจ้าและสาวกทั้งหลายบรรดาที่เลิศแล้วล้วนแต่รักษาธุดงควัตรกันทั้งนั้น  ใครประมาทธุดงค์ว่าไม่สำคัญ ผู้นั้นคือผู้หมดสาระสำคัญในตัวเอง  ท่านจงรักษาความสำคัญของตนไว้ด้วยธุดงควัตร

ผู้ที่มีธุดงควัตรเป็นผู้มีอำนาจทั้งภายนอกภายในอย่างลึกลับจับใจที่บอกใครไม่ได้ เป็นผู้เด่นในวงทวยเทพชาวไตรภพทั้งหลาย  มนุษย์และเทวดาทุกชั้นภูมิเคารพรักผู้มีธุดงควัตรประจำตัวอยู่  และไปที่ไหนไม่เป็นภัยแก่ตัวเองและผู้อื่น  มีแต่ความเย็นฉ่ำภายในทั้งกลางวันและกลางคืน

ธุดงควัตรเป็นธรรมลึกลับ ยากที่จะมองเห็นความสำคัญ ทั้งที่ธุดงควัตรเป็นธรรมสำคัญในศาสนามาดั้งเดิม  ธุดงควัตรเป็นหลักใหญ่แห่งพระศาสนา  ผู้ที่มีธุดงค์ประจำตัวคือผู้รู้ความสำคัญของตัวและรักษาถูกจุดแห่งความสำคัญได้ดี เป็นที่น่าชมเชยอย่างถึงใจ  ผู้ที่มีธุดงควัตรดีเป็นผู้มีจิตใจเมตตาอ่อนโยนในสัตว์ทั้งหลาย  ถ้ายังมีผู้ปฏิบัติธุดงควัตรอยู่ตราบใด ศาสนาก็ยังทรงออกทรงผลอยู่ตราบนั้น  เพราะธุดงค์เป็นทางที่ไหลมาแห่งมรรคและผลทุกชั้น  ไม่มีสถานที่ กาลเวลา หรือสิ่งใดๆ มาเป็นอุปสรรคกีดขวางทางเดินเพื่อมรรคผลนิพพานได้ ถ้าธุดงควัตรยังเป็นไปอยู่กับผู้ปฏิบัติทั้งหลาย

ท่านจงจดจำให้ถึงจิต คิดไตร่ตรองให้ถึงธรรม ถือธุดงควัตรดังกล่าวมา  อยู่ที่ใดไปที่ใดจะชุ่มเย็นอยู่กับตัวท่านเอง  ธุดงควัตรนี่แลคือบ่อเกิดแห่งธรรมทั้งหลายดังนี้”

ในนิมิตนั้น หลังจากพระพากุละแสดงธรรมเทศนาเป็นที่เรียบร้อยก็ได้จากไป  แต่ถึงแม้พระอรหันตเถระจะจากไปแล้ว ข้อธรรมที่ท่านได้แสดงไว้ก็ยังจารึกอยู่ในใจไม่รู้ลืม  หลวงปู่ชอบนำข้อธรรมที่เต็มไปด้วยความลุ่มลึกนั้นมาพิจารณาและรู้สึกว่า

“การดำเนินของเราคงไม่เป็นโมฆะในวงพระศาสนา  มิฉะนั้น พระอรหันต์องค์วิเศษคงไม่เหาะมาโปรดเมตตาให้เสียเวลา”

คิดได้ดังนี้ก็รู้สึกมีกำลังใจ เร่งความเพียรภาวนาอย่างเต็มที่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่