พาณิชย์ ฟุ้ง 10 เดือนไทยส่งออกข่าว 9.58 ล้านตันเพิ่มขึ้นกว่า 27% คาดอีก 2 เดือนที่เหลือส่งออกได้เดือนละ 7-8 แสนตัน ลุ้นทั้งปียอดแตะ 11 ล้านตันทุบสถิติ เผยราคาข้าวเปลือกมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า การส่งออกข้าวไทยในช่วง 10 เดือน ของปี 2560 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-25 ต.ค.นี้ มีปริมาณส่งออก 9.58 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 27.22% มีมูลค่า 4,154 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 22.75% คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 1.41 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.96% โดยราคาเฉลี่ยส่งออกข้าวไทยช่วง 10 เดือนอยู่ที่ 437 เหรียญสหรัฐต่อตัน ลดลง 3.34% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ที่ราคาส่งออกข้าวเฉลี่ยอยู่ที่ 449 เหรียญสหรัฐต่อตัน
ทั้งนี้ ในช่วง 2 เดือนที่เหลือ (พ.ย.-ธ.ค.) หากสามารถส่งออกข้าวได้เดือนละ 7-8 แสนตัน จะทำให้ทั้งปี 2560 ไทยส่งออกข้าวได้ปริมาณสูงถึง 11 ล้านตัน และจะทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่มีการส่งออกข้าวมา และเป็นไปตามเป้าหมายที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดไว้
สำหรับสถานการณ์ราคาข้าวเปลือกได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย ณ วันที่ 2 พ.ย.2560 ข้าวหอมมะลิราคาเฉลี่ยอยู่ที่ตันละ 1.29 หมื่นบาท, ข้าวเหนียว 10% เมล็ดยาว ตันละ 9,150 บาท, ข้าวเจ้า 5% ตันละ 7,550 บาท, ข้าวปทุมธานี ตันละ 8,900 บาท อย่างไรก็ตาม ข้าวหอมมะลิและข้าวปทุมธานีราคาปรับสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่วนราคาข้าวชนิดอื่นที่ปรับตัวลดลงเล็กน้อย อาทิ ข้าวเหนียว เนื่องจากยังมีสต๊อกข้าวของปีที่ผ่านมาอยู่มาก
น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ โฆษกกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้กำหนดแนวทางและมาตรการด้านการตลาดช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2560/61 เพื่อดูดซับผลผลิตส่วนเกินในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมากไว้แล้ว เพื่อยกระดับราคาข้าวเปลือกให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม และเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร ซึ่งมีแผนทั้งด้านการลดต้นทุน การให้สินเชื่อชะลอการขาย การช่วยเหลือค่าฝากเก็บ ค่าปรับปรุงคุณภาพข้าว การจัดตลาดนัดข้าวเปลือกเพื่อให้เกษตรกรมีทางเลือกในการขายข้าว และการหาตลาดรองรับผลผลิตข้าวที่กำลังออกสู่ตลาด
โดยในด้านการลดต้นทุน ได้จัดทำแอปพลิเคชันจองรถเกี่ยวร่วมกับสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิศาสตร์สารสนเทศ (องค์กรมหาชน) หรือ GISTDA เพื่อจัดหารถเกี่ยวให้เกษตรกรในช่วงที่ผลผลิตออกมามาก ช่วยให้ชาวนาเกี่ยวข้าวได้ครบอายุตามพันธุ์ ได้ข้าวคุณภาพดีขายได้ราคาดี
"มาตรการให้สินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี โดยให้เก็บข้าวเปลือกเข้ายุ้งฉาง รอราคาดีแล้วค่อยขาย ซึ่งให้ค่าฝากเก็บ 1,500 บาทต่อตัน, ช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวให้เกษตรกรไร่ละ 1,200 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ หรือไม่เกิน 1.2 หมื่นบาทต่อครัวเรือน, ให้สินเชื่อแก่สถาบันเกษตรกรเพื่อรวบรวมหรือแปรรูปข้าวเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในอัตราดอกเบี้ยเพียง 1%, ชดเชยดอกเบี้ย 3% ให้ผู้ประกอบการโรงสีเก็บสต๊อก
http://www.thaipost.net/?q=node/37784
ยินดีด้วยกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้าวไทยนะคะ
ข้าวขายดีย่อมดีต่อทุกคนตั้งแต่ชาวนา พ่อค้ารับซื้อ และรัฐบาล..
อาหารเช้าสำคัญนะคะ...อย่าลืมทานข้าว
~มาลาริน~** เรื่องดีๆของข้าวไทยค่ะ...ส่งออกข้าว10เดือนพุ่ง 27% คาดสิ้นธันวาฯขายทะลักดันทั้งปียอดแตะ11ล้านตันทุบสถิติ
พาณิชย์ ฟุ้ง 10 เดือนไทยส่งออกข่าว 9.58 ล้านตันเพิ่มขึ้นกว่า 27% คาดอีก 2 เดือนที่เหลือส่งออกได้เดือนละ 7-8 แสนตัน ลุ้นทั้งปียอดแตะ 11 ล้านตันทุบสถิติ เผยราคาข้าวเปลือกมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า การส่งออกข้าวไทยในช่วง 10 เดือน ของปี 2560 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-25 ต.ค.นี้ มีปริมาณส่งออก 9.58 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 27.22% มีมูลค่า 4,154 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 22.75% คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 1.41 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.96% โดยราคาเฉลี่ยส่งออกข้าวไทยช่วง 10 เดือนอยู่ที่ 437 เหรียญสหรัฐต่อตัน ลดลง 3.34% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ที่ราคาส่งออกข้าวเฉลี่ยอยู่ที่ 449 เหรียญสหรัฐต่อตัน
ทั้งนี้ ในช่วง 2 เดือนที่เหลือ (พ.ย.-ธ.ค.) หากสามารถส่งออกข้าวได้เดือนละ 7-8 แสนตัน จะทำให้ทั้งปี 2560 ไทยส่งออกข้าวได้ปริมาณสูงถึง 11 ล้านตัน และจะทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่มีการส่งออกข้าวมา และเป็นไปตามเป้าหมายที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดไว้
สำหรับสถานการณ์ราคาข้าวเปลือกได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย ณ วันที่ 2 พ.ย.2560 ข้าวหอมมะลิราคาเฉลี่ยอยู่ที่ตันละ 1.29 หมื่นบาท, ข้าวเหนียว 10% เมล็ดยาว ตันละ 9,150 บาท, ข้าวเจ้า 5% ตันละ 7,550 บาท, ข้าวปทุมธานี ตันละ 8,900 บาท อย่างไรก็ตาม ข้าวหอมมะลิและข้าวปทุมธานีราคาปรับสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่วนราคาข้าวชนิดอื่นที่ปรับตัวลดลงเล็กน้อย อาทิ ข้าวเหนียว เนื่องจากยังมีสต๊อกข้าวของปีที่ผ่านมาอยู่มาก
น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ โฆษกกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้กำหนดแนวทางและมาตรการด้านการตลาดช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2560/61 เพื่อดูดซับผลผลิตส่วนเกินในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมากไว้แล้ว เพื่อยกระดับราคาข้าวเปลือกให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม และเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร ซึ่งมีแผนทั้งด้านการลดต้นทุน การให้สินเชื่อชะลอการขาย การช่วยเหลือค่าฝากเก็บ ค่าปรับปรุงคุณภาพข้าว การจัดตลาดนัดข้าวเปลือกเพื่อให้เกษตรกรมีทางเลือกในการขายข้าว และการหาตลาดรองรับผลผลิตข้าวที่กำลังออกสู่ตลาด
โดยในด้านการลดต้นทุน ได้จัดทำแอปพลิเคชันจองรถเกี่ยวร่วมกับสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิศาสตร์สารสนเทศ (องค์กรมหาชน) หรือ GISTDA เพื่อจัดหารถเกี่ยวให้เกษตรกรในช่วงที่ผลผลิตออกมามาก ช่วยให้ชาวนาเกี่ยวข้าวได้ครบอายุตามพันธุ์ ได้ข้าวคุณภาพดีขายได้ราคาดี
"มาตรการให้สินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี โดยให้เก็บข้าวเปลือกเข้ายุ้งฉาง รอราคาดีแล้วค่อยขาย ซึ่งให้ค่าฝากเก็บ 1,500 บาทต่อตัน, ช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวให้เกษตรกรไร่ละ 1,200 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ หรือไม่เกิน 1.2 หมื่นบาทต่อครัวเรือน, ให้สินเชื่อแก่สถาบันเกษตรกรเพื่อรวบรวมหรือแปรรูปข้าวเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในอัตราดอกเบี้ยเพียง 1%, ชดเชยดอกเบี้ย 3% ให้ผู้ประกอบการโรงสีเก็บสต๊อก
http://www.thaipost.net/?q=node/37784
ยินดีด้วยกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้าวไทยนะคะ
ข้าวขายดีย่อมดีต่อทุกคนตั้งแต่ชาวนา พ่อค้ารับซื้อ และรัฐบาล..
อาหารเช้าสำคัญนะคะ...อย่าลืมทานข้าว