สวัสดีคับ ผมมีเรื่องเล่าอยู่เรื่องนึง ซึ่งเป็นเรื่องน้องข้างบ้าน มีอยู่วันนึงครับผมเอาพวกน้องมาทำการบ้านที่บ้านผม แล้วก็มีน้องคนนึง เรียกชื่อขึ้นมา ทำไมพี่ไม่เอาคนที่อยู่ข้างบ้านพี่มาทำการบ้านด้วยละ ซึ่งผมก็นึกตั้งหลายรอบว่าใครวะ เเต่ก็นึกไม่ออก จนน้องคนนั้นบอกชื่อผมก็นึกออก เลยให้น้องคนนั้นโทรตามน้องคนที่อยู่ข้างบ้านผมไม่ถึง 50 เมตรมาซึ่งเราไม่เคยรู้จักรกันมาก่อน ขนาดบ้านติดกันนะเนีย จนน้องเขามาถึงบ้านผม พวกน้องๆทุกคนที่มาทำการบ้าน ที่บ้านผมก็เเนะนำทำความรู้จักรกันเป็นปกติ ซึ่งผมก็ไม่ได้คิดอะไร พอเวลามันผ่านสักประมาณ 3-4 วัน เราสองคนเริ่มสนิทกันมากขึ้น เริ่มดูเเลกันเหมือนพี่น้องกันจริงๆ ไปไหนก็ไปด้วยกันตลอด จนเพื่อนรอบข้างบอกเป็นคู่เกย์กันปะเนีย ผมก็ไม่ได้สนใจตรงนั้นอยู่เเล้ว จนกระทั้งเราสองคนสนิทกันมากๆ จนผมต้องไปกินอยู่บ้านน้องเขาซึ่งเราไม่เคยรู้จักรกันมากก่อน สนิทกันเเค่เดือนเดียว จนผมตัดสินใจซื้อ เร้าเตอร์ไวฟาย มาติดที่บ้านน้องเขา เเล้วก็ซื้อโน๊ตบุคในราคาระดับกลางมาเพื่อให้น้องเขาเล่น ซื้ออุปกรณ์กีฬา ซื้อพวกอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่มันชำรุดเสียหายมาเปลี่ยนให้เขา แล้วก็เงินเก็บส่วนตัวบางส่วน จนได้ใจน้องเขา ซึ่งตอนนั้นผมก็ไม่รู้นะว่าทำอะไรลงไปบางผมเหมือนคนเสียสติ มั่วเเต่ไปสนใจใครก็ไม่รู้ เลยไม่ได้ดูตัวเอง จนเพื่อนบางคนเตือนผมหลายรอบ ผมก็เตือนตัวเองเหมือนกัน พอเจอหน้าน้องคนที่อยู่ข้างบ้านที่ไร กลับกลายเป็นคนละคน ตามใจน้องเขาทุกอย่าง ดูเเลอย่างดี น้องมีปัญหาอะไรพี่ช่วยตลอด จนมาถึงวันที่เราจะไปสนามกีฬา น้องคนข้างบ้านก็ไปรู้จักรกับพี่ที่สนามกีฬาคนนึง อายุประมาณ 40 -45 พวกผมทั้ง 2 ได้ทำความรู้จักรกับพี่คนนั้นเป็นการส่วนตัว จนที่คนนั้นตกหลุมกับน้องคนข้างบ้าน แล้วบอกกับน้องคนข้างบ้านพี่ชอบน้องคนนี้ มากกว่าพี่เอง ผมก็ไม่ได้คิดอะไร ผมก็ปล่อยไป เราสองคนที่น้องก็ทำตัวตามปกติที่เราเคยทำ จนพี่ที่เจอในสนามกีฬานั้น ผม กับน้องข้างบ้านไปทานข้าวขั้างนอก เดือนนึงก็ตกปะมาณ 9-10 ครั้ง จนผมกับน้องคนข้างบ้านเริ่มเกรงใจพี่เขา จนพี่เขาบอกไม่ต้องเกรงใจเติมที่เลย พอผ่านไปสัก 1 เดือน น้องเขาก็มาบอกกับผมว่า อีก 1 เดือน น้องคนข้างบ้านต้องย้ายไปเรียนที่อื่น ซึ่งเราสองคนก็ไม่เจอหน้ากัน ผมเป็นพี่ก็ต้องทำใจปล่อยให้น้องเขาไปสู่เส้นทางของน้องเขา ขนาดตอนไปเขาไม่เคยคิดจะลาอะไรกับผมสักคำ บอกเเค่จะไปอยางเดียว ผมเป็นพี่ผมก็เสียใจเป็นเรื่องธรรมดา จนเพื่อนหลายคนก็ปรอบ ให้กำลังใจ ไม่ให้ผมเสียใจ เพื่อนหลายคนก็บอกจะเอาอะไรกับน้องข้างบ้านวะ ไหนลองพูดมาดิ น้องข้างบ้านสำคัญกว่าตัวเเค่ไหน ผมก็เล่าไป มันก็เขาใจผมนะ เพื่อนมันก็บอกอีกว่า ทำไมเเฟน อะ ไม่ดูเเลเหมือนน้องบ้าง ผมก็นิงไป เเล้วผมก็กลับมาคิด ว่าเราทำไปเพื่ออะไรทำไม่เราอยู่ตรงจุดนั้นเเล้เราคิดไม่ได้ ทำไมตอนเห็นหน้าน้องคนข้างบ้าน แล้วเราลืมในสิ่งที่เราคิด หรือเราจะทำอะไร ผมก็ยัง งง จนผมไปปรึกษา อา เพื่อนที่สนิท พี่สาว หลายคนก็บอกว่า พอได้เเล้วทำไมเราไม่เอาตัวเอง มั่วเเต่ไปสนใจคนอื่นอยู่นั้นเเละ จนผมทำใจ จังหวะนั้นเองเป็นช่วยเวลาที่ปิดเทอมพอดี ผมก็เลยไปอยู่ที่ กทม ผมไปอยู่ได้สักประมาณ 2 - 3 แล้วผมก็กลับมา ตอนไปน้ำหนักผม 53 ตอนกลับน้ำหนัก ผม 62 ผมตกใจมาก ผมอยู่ที่ กทม นะ ผมเที่ยวทุกวัน ใช้เงินเป็นว่าเล่น ได้เจอเพื่อนใหม่ๆ ได้ลองอะไรใหม่ๆ ได้ลองไปที่ใหม่ๆ ซึ่งผมมีความสุขมาก จนลืมเรื่องของน้องคนข้างบ้านไปเลย จนเมื่อผมกลับมาถึงบ้านได้ 2 - 3 วัน มีน่าที่อยู่ข้างบ้านมากบอกว่า น้องเอง อะย้ายกลับมาเรียนเเถวบ้านเราเเล้ว ซึ่งตอนนั้นผมโกรธเขา เเต่โกรธเขาไม่ลง เพื่อนเจอหน้ากันก็คุยกันตามปกติ เเต่ความโกรธ ยังอยู่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน เเต่การกลับมารอบนี้ นิสัยผมเปลี่ยน แล้วนิสัยน้องเขาก็เปลี่ยน เเต่นิสัยน้องคนข้างบ้านเปลี่ยนไปไม่มาก จนมีอยู่วัน พี่คนที่ไปรู้จักรกันที่สนามกีฬาโทรมานัดผมไปทานข้าวกันตามปกติ เเล้วเขาสองคนก็คุยกัน ซึ่งไปกัน สาม ผมก็เเปลกใจนะ ว่าเอาผมมาทำเพื่อ แล้วผมก็คุยกับน้อง ถ้าไปแบบนี้ไม่ต้องเอาพี่ไปนะ ผมเเค่ประชดเขา แล้วน้องผมก็ก็ไม่ห้ามเลย นะตอนนี้ คนที่รู้จักรกันที่ สนามกีฬาก็นัดกันไปทานข้าวทุกเย็น จนเขาลืมไปแล้วว่ามีผมอยู่อีก 1 คน แต่ผมก็รู้สึกน้อยใจนะ ตอนนี้ถึงกลับโกรธมาก เเต่ทำอะไรไม่ได้ไง เพราะผมรักน้องเขามาก รักกันแบบพี่น้อง เื่อนผมยังบอกอีกว่า รักน้องคนนี้กว่าแฟนอีก จนผมพยายตัดสินใจอยู่หลายรอบว่าเราจะเลิดยุ่งกับน้องคนนี้ ของทุกอย่างที่มอบให้ไปจะเอาคืนกลับเท่าที่เอากลับมาได้ เเม้กระทั้งความรักพี่กับน้องที่เคยให้ไว ( เเต่ผมก็ยังทำไม่ได้อยู่ดีไม่รู้นะมันเป็นเพราะอะไร ผมยังหาคำตอบไม่ได้ หลายคนก็เตือนผมเเล้วผมก็ไม่ฟัง รู้นะว่าตัวถูกลอก เเต่ก็ยังจะทำไม่รู้เพราะอะไร ) เเล้วอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าผมก็จบ ปวส แล้วผมต้องไปเรียนในมหาวิทยาลัยอื่น ผมต้องเเก้ปัญหาที่ผมทำไวกับน้องคนข้างบ้านก่อน ว่าจะเอายังไง
เรื่องที่ผมเล่า มันอาจจะดู งง ๆ เเต่มันเป็นความรู้สึกสำหรับตัวผมที่มีกลับน้องข้างบ้าน
แล้วตอนนี้ผมต้องเเก้ไขปัญหาที่ผม ก่อขึ้นมา
ส่วนเรื่องที่ผมเล่ามันยังไม่ละเอียดพอ มันยังขาดอยู่หลายอย่าง แล้วมันก็ยังมีอีกเยอะ เอาไว้ต่อภาค 2 นะครับ
คำที่ตก หรือไม่สุภาพผมก็ขอโทษด้วย
พี่ชายที่เเสนดี กับน้องข้างบ้าน
เรื่องที่ผมเล่า มันอาจจะดู งง ๆ เเต่มันเป็นความรู้สึกสำหรับตัวผมที่มีกลับน้องข้างบ้าน
แล้วตอนนี้ผมต้องเเก้ไขปัญหาที่ผม ก่อขึ้นมา
ส่วนเรื่องที่ผมเล่ามันยังไม่ละเอียดพอ มันยังขาดอยู่หลายอย่าง แล้วมันก็ยังมีอีกเยอะ เอาไว้ต่อภาค 2 นะครับ
คำที่ตก หรือไม่สุภาพผมก็ขอโทษด้วย