โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยนายกฯ แจงยันย้ายอธิบดีกรมการจัดหางาน ขึ้นรองปลัดแรงงาน เพื่อความเหมาะสม อ้างสหภาพยุโรปแนะต้องใช้สแกนม่านตาในแรงงานต่างด้าว ปัดทุจริต ยันใช้แค่ 120 ล้าน ไม่เรียกเก็บครั้งละ 45 บาท ค่าอ่านข้อมูล ปัดย้ายเพราะขวางจัดซื้อ พร้อมให้ ผอ.สนง.กองทุนหมู่บ้านฯ อยู่ต่ออีกปี
วันนี้ (7 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 15.30 น.พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า นายกฯ แจ้งให้ที่ประชุมรับทราบถึงคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 48/2560 ในการโอนข้าราชการกระทรวงแรงงาน คือนายวรานนท์ ปีติวรรณ พ้นจากอธิบดีกรมการจัดหางาน ให้เป็นรองปลัดกระทรวงแรงงาน ให้นายอนุรักษ์ ทศรัตน์ พ้นจากรองปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นอธิบดีกรมการจัดหางาน เพื่อความเหมาะสม พร้อมกันนี้ยังมีการแจ้งคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 49/2560 เรื่องพิสูจน์ตัวบุคคลของแรงงานต่างด้าว แม้มีการดำเนินการมาแล้วแต่ยังไม่ชัดเจนเต็มรูปแบบ ทั้งยังมีข้อเสนอจากสหภาพยุโรปเสนอว่าต้องใช้วิธีสแกนม่านตาในแรงงานต่างด้าวโดยเฉพาะในภาคประมงเพราะถ้าเก็บลายนิ้วมือโอกาสคลาดเคลื่อนสูงเพราะเลือนลางได้ นอกจากนี้ยังมีการกล่าวหาว่า โครงการนี้ทุจริตประพฤติมิชอบ ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องยืนยันว่าไม่ได้ใช้งบประมาณเป็นพันเป็นหมื่นล้านบาท ใช้เพียง 120 ล้านบาทเท่านั้น และไม่มีการเรียกเก็บเงินครั้งละ 45 บาทในการขอข้อมูลการอ่านม่านตา รวมถึงกระแสข่าวว่าการย้ายอธิบดีกรมการจัดหางานเพราะขัดขวางการจัดซื้อเครื่องมืออุปกรณ์ไม่เป็นความจริง
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า เรื่องสุดท้ายที่ คสช.หารือกันได้ให้นายนที ขลิบทอง เป็น ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติอีก 1 ปี เพราะถ้าเข้าสู่กระบวนการสรรหาต้องใช้ระยะเวลา นอกจากนี้ยังพบว่านายนที มีผลการปฏิบัติงานที่ดี
https://mgronline.com/politics/detail/9600000112746
บิ๊กตู่” ย้ำ “ศิริชัย” แจ้งลาออก รมว.แรงงาน เพราะไปประกอบธุรกิจ ยัน จำเป็นต้องใช้เครื่องสแกนม่านตาพิสูจน์แรงงาน เหตุตรวจด้วยลายมืออาจคลาดเคลื่อน ยัน ไม่บังคับให้ซื้อ แฉ ยุค “เผดิมชัย” สั่งซื้อมาแต่ไม่ได้ใช้ ป.ป.ช.กำลังสอบ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกระแสข่าวว่าคนใกล้นายกฯ มีตัวย่อ “ดร.อ.” กดดันให้มีการซื้อเครื่องสแกนม่านตาใช้พิสูจน์อัตลักษณ์แรงงานต่างด้าว จนทำให้ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รมว.แรงงานลาออก ว่า ถ้าจะมีก็เป็นที่ปรึกษาคณะทำงานของนายกฯ ที่เสนอคำศึกษาเข้ามา ซึ่งตนส่งต่อให้คณะกรรมการขับเคลื่อน โดยมีรองนายกฯ (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ขับเคลื่อน โดยไม่ได้ยุ่งเกี่ยวว่าจะต้องจัดซื้อจัดจ้าง บังคับให้มีอันโน้นอันนี้เลย การพิสูจน์อัตลักษณ์แรงงานต่างด้าว เป็นเรื่องการค้ามนุษย์เป็นเรื่องแรงงานทั้งระบบ ทั้งแรงงานในเรือ แรงงานบนบก ที่ผ่านมาตรวจสอบพบว่า การใช้พิสูจน์อัตลักษณ์โดยใช้ลายนิ้วมือกับภาพถ่ายมีความคลาดเคลื่อน เพราะแรงงานในเรือใช้มือในการทำงานมาก ลายนิ้วมือก็ไม่ชัดเจน เมื่อมีไบโอเมตริกซ์ขึ้นมาพิสูจน์ได้ทันที ไม่สามารถบิดเบือนได้ และสามารถแก้ไขทุจริตในระบบได้ รวมถึงแก้ปัญหาการจ้างแรงงาน การเปลี่ยนงานได้อีก
“สิ่งสำคัญในช่วงที่ผ่านมาในยุคของนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ เป็น รมว.แรงงาน ใช้งบประมาณในการซื้ออุปกรณ์วงเงินเป็น400 ล้านบาท แต่ไม่ใช้งานกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ใช้ได้ไม่ได้ ป.ป.ช.กำลังตรวจสอบอยู่ วันนี้ต้องกลับมาดูว่าทำไม่ได้แล้วจะทำอย่างไรให้ทำได้ ก็นำไปสู่การเร่งดำเนินการในขณะนี้ ใช้เครื่องมือของกรมเจ้าท่า ถ้าไม่พอกระทรวงแรงงานก็ต้องจัดหาให้ตรงตามระเบียบ ค่าใช้จ่ายไม่ได้มากมาย ระบบใหม่ข้าราชการเป็นคนทำ ไม่ได้เสียตัวเลขเป็นพันเป็นหมื่นล้าน ถ้าไม่คุมทั้งหมด คุมแต่แรงงานประมง แล้ววันหน้าไม่ควบคลุมประเภทอื่นด้วยหรือ ทำไม่ไม่คิดก้าวหน้าไปกว่านี้ ถ้าวันหน้ามีแรงงานจำนวนมากเข้ามาแล้วพิสูจน์อัตลักษณ์ไม่ได้ ข้อมูลไม่สมบูรณ์ก็มีปัญหาทางคดีความเยอะแยะ การทุจริตก็จะมีมากขึ้น การเปลี่ยนพื้นที่แรงงานก็พันกันไปหมด” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนที่ พล.อ.ศิริชัย ลาออกจาก รมว.แรงงานนั้น ใบลาออกเขาเขียนว่าขอลาออกไปประกอบธุรกิจส่วนตัว เขาไม่ได้อธิบายอย่างอื่น ผมก็ไม่เป็นอะไร ใครจะลาออกก็ลาออกได้ อย่ามาพันกันเลย จบได้แล้ว วันนี้ให้ พล.อ. รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปรักษาการอยู่ เป็นไปตามระเบียบ ให้รักษาการไปก่อนจนกว่าจะมีการแต่งตั้งคนใหม่ หรือเปลี่ยนแปลงภายหลังก็ได้ อย่าไปขยายความอีกเลย
https://www.prachachat.net/economy/news-67509
รับฟังรัฐบาลค่ะ..
แน่ใจว่าท่านนายกฯลุงตู่พิจารณาเหมาะสมแล้ว
~มาลาริน~**รัฐบาลแจงเครื่องแสกนม่านตา EU แนะใช้เครื่องสแกนม่านตาในต่างด้าว งบ 120 ล้าน ปัดย้ายอธิบดีเพราะขวางจัดซื้อ
วันนี้ (7 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 15.30 น.พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า นายกฯ แจ้งให้ที่ประชุมรับทราบถึงคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 48/2560 ในการโอนข้าราชการกระทรวงแรงงาน คือนายวรานนท์ ปีติวรรณ พ้นจากอธิบดีกรมการจัดหางาน ให้เป็นรองปลัดกระทรวงแรงงาน ให้นายอนุรักษ์ ทศรัตน์ พ้นจากรองปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นอธิบดีกรมการจัดหางาน เพื่อความเหมาะสม พร้อมกันนี้ยังมีการแจ้งคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 49/2560 เรื่องพิสูจน์ตัวบุคคลของแรงงานต่างด้าว แม้มีการดำเนินการมาแล้วแต่ยังไม่ชัดเจนเต็มรูปแบบ ทั้งยังมีข้อเสนอจากสหภาพยุโรปเสนอว่าต้องใช้วิธีสแกนม่านตาในแรงงานต่างด้าวโดยเฉพาะในภาคประมงเพราะถ้าเก็บลายนิ้วมือโอกาสคลาดเคลื่อนสูงเพราะเลือนลางได้ นอกจากนี้ยังมีการกล่าวหาว่า โครงการนี้ทุจริตประพฤติมิชอบ ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องยืนยันว่าไม่ได้ใช้งบประมาณเป็นพันเป็นหมื่นล้านบาท ใช้เพียง 120 ล้านบาทเท่านั้น และไม่มีการเรียกเก็บเงินครั้งละ 45 บาทในการขอข้อมูลการอ่านม่านตา รวมถึงกระแสข่าวว่าการย้ายอธิบดีกรมการจัดหางานเพราะขัดขวางการจัดซื้อเครื่องมืออุปกรณ์ไม่เป็นความจริง
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า เรื่องสุดท้ายที่ คสช.หารือกันได้ให้นายนที ขลิบทอง เป็น ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติอีก 1 ปี เพราะถ้าเข้าสู่กระบวนการสรรหาต้องใช้ระยะเวลา นอกจากนี้ยังพบว่านายนที มีผลการปฏิบัติงานที่ดี
https://mgronline.com/politics/detail/9600000112746
บิ๊กตู่” ย้ำ “ศิริชัย” แจ้งลาออก รมว.แรงงาน เพราะไปประกอบธุรกิจ ยัน จำเป็นต้องใช้เครื่องสแกนม่านตาพิสูจน์แรงงาน เหตุตรวจด้วยลายมืออาจคลาดเคลื่อน ยัน ไม่บังคับให้ซื้อ แฉ ยุค “เผดิมชัย” สั่งซื้อมาแต่ไม่ได้ใช้ ป.ป.ช.กำลังสอบ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกระแสข่าวว่าคนใกล้นายกฯ มีตัวย่อ “ดร.อ.” กดดันให้มีการซื้อเครื่องสแกนม่านตาใช้พิสูจน์อัตลักษณ์แรงงานต่างด้าว จนทำให้ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รมว.แรงงานลาออก ว่า ถ้าจะมีก็เป็นที่ปรึกษาคณะทำงานของนายกฯ ที่เสนอคำศึกษาเข้ามา ซึ่งตนส่งต่อให้คณะกรรมการขับเคลื่อน โดยมีรองนายกฯ (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ขับเคลื่อน โดยไม่ได้ยุ่งเกี่ยวว่าจะต้องจัดซื้อจัดจ้าง บังคับให้มีอันโน้นอันนี้เลย การพิสูจน์อัตลักษณ์แรงงานต่างด้าว เป็นเรื่องการค้ามนุษย์เป็นเรื่องแรงงานทั้งระบบ ทั้งแรงงานในเรือ แรงงานบนบก ที่ผ่านมาตรวจสอบพบว่า การใช้พิสูจน์อัตลักษณ์โดยใช้ลายนิ้วมือกับภาพถ่ายมีความคลาดเคลื่อน เพราะแรงงานในเรือใช้มือในการทำงานมาก ลายนิ้วมือก็ไม่ชัดเจน เมื่อมีไบโอเมตริกซ์ขึ้นมาพิสูจน์ได้ทันที ไม่สามารถบิดเบือนได้ และสามารถแก้ไขทุจริตในระบบได้ รวมถึงแก้ปัญหาการจ้างแรงงาน การเปลี่ยนงานได้อีก
“สิ่งสำคัญในช่วงที่ผ่านมาในยุคของนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ เป็น รมว.แรงงาน ใช้งบประมาณในการซื้ออุปกรณ์วงเงินเป็น400 ล้านบาท แต่ไม่ใช้งานกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ใช้ได้ไม่ได้ ป.ป.ช.กำลังตรวจสอบอยู่ วันนี้ต้องกลับมาดูว่าทำไม่ได้แล้วจะทำอย่างไรให้ทำได้ ก็นำไปสู่การเร่งดำเนินการในขณะนี้ ใช้เครื่องมือของกรมเจ้าท่า ถ้าไม่พอกระทรวงแรงงานก็ต้องจัดหาให้ตรงตามระเบียบ ค่าใช้จ่ายไม่ได้มากมาย ระบบใหม่ข้าราชการเป็นคนทำ ไม่ได้เสียตัวเลขเป็นพันเป็นหมื่นล้าน ถ้าไม่คุมทั้งหมด คุมแต่แรงงานประมง แล้ววันหน้าไม่ควบคลุมประเภทอื่นด้วยหรือ ทำไม่ไม่คิดก้าวหน้าไปกว่านี้ ถ้าวันหน้ามีแรงงานจำนวนมากเข้ามาแล้วพิสูจน์อัตลักษณ์ไม่ได้ ข้อมูลไม่สมบูรณ์ก็มีปัญหาทางคดีความเยอะแยะ การทุจริตก็จะมีมากขึ้น การเปลี่ยนพื้นที่แรงงานก็พันกันไปหมด” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนที่ พล.อ.ศิริชัย ลาออกจาก รมว.แรงงานนั้น ใบลาออกเขาเขียนว่าขอลาออกไปประกอบธุรกิจส่วนตัว เขาไม่ได้อธิบายอย่างอื่น ผมก็ไม่เป็นอะไร ใครจะลาออกก็ลาออกได้ อย่ามาพันกันเลย จบได้แล้ว วันนี้ให้ พล.อ. รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปรักษาการอยู่ เป็นไปตามระเบียบ ให้รักษาการไปก่อนจนกว่าจะมีการแต่งตั้งคนใหม่ หรือเปลี่ยนแปลงภายหลังก็ได้ อย่าไปขยายความอีกเลย
https://www.prachachat.net/economy/news-67509
รับฟังรัฐบาลค่ะ..
แน่ใจว่าท่านนายกฯลุงตู่พิจารณาเหมาะสมแล้ว