อยากขอโทษผู้ชายที่อยู่คอนโดเดียวกันที่อยู่ตึก B6 เราเผลอไปปิดประตูตู้น้ำเซเว่นใส่หน้าเค้าแล้วเราเดินหนี แต่สุดท้าย....

กระทู้สนทนา
เข้าเรื่องเลยนะคะเรื่องมีอยู่ว่าเรากะผู้ชายคนนั้นอยู่คอนโดเดียวกันค่ะ แต่คนละตึกวันหนึ่งเราบังเอิญเข้าไปซื้อของในเซเว่น ซึ่งเซเว่นอยู่ใต้ตึกอาคารที่เราอาศัยอยู่ค่ะ เราไปเลือกซื้อน้ำอยู่ข้างๆเค้าผู้ชายคนนั้นนั่งลงเลือกซื้อนมตู้ข้างๆส่วนเราเลือกน้ำมะเขือเทศตู้ข้างๆเค้าเช่นกัน เราเลือกได้ก่อนแล้วเผลอปิดประตูแรงมากคือมันดูเสียมารยาทมากๆเลยค่ะ และยิ่งไปกว่านั้นเราตกใจเผลอไปมองหน้าเค้าแต่เราไม่ได้ขอโทษเค้าเราตกใจอะ  แบบทำหน้ามืนๆแล้วเดินไปจ่ายตังค์ไม่หันหลังไปมองเค้าเลยค่ะ  หลังจากนั้นเราก็เจอเค้าบ่อยๆเพราะว่าเราต้องรอรถที่เดียวกัน บางวันกลับจากที่ทำงานก็มักจะเจอเค้า บางวันก็ลงรถพร้อมกันอะไรประมาณนี้ค่ะ ตอนนั้นบางวันเราไปวิ่งออกกำลังกายก็จะเจอเค้าบ่อยๆเพราะเค้าชอบไปเล่นฟิตเนส จนทุกวันนี้เราไม่กล้าไปวิ่งแล้วค่ะกลัวจะเจอเค้าอีก เค้าชอบมองหน้าคล้ายๆแบบว่า..“อีชะนีนี่ปิดประตูใส่หน้ากรู”อยากตบ!!! นี่คือความคิดของเรานะคะตอนที่โดนมองหน้าหนักๆ ส่วนเราอะเหรอไม่กล้าแม้จะสบตาเค้าอะค่ะ มันมีเหตุการณ์หลายอย่างที่ทำให้อยากจะขอโทษเค้าอะ บางทีเค้าชอบเดินมาไกล้ๆทำท่าทางทำเสียงดังให้รู้ว่าชะนีฉันอยู่นี่มาขอโทษฉันเดียวนี้อะไรแบบนี้อะหรือว่าเราคิดไปเองคะ
เราจะไปขอโทษเค้าได้ยังไงคะ ทั้งๆที่หน้าเค้าเรายังไม่กล้าที่จะมองจะสบตาเค้าเลยค่ะ เรื่องจะเอ่ยปากขอโทษยิ่งแล้วใหญ่ ไม่กล้าเลย
มันล่วงเลยมานานมากแล้วค่ะ  หลายเดือนแล้ว ขนาดยืนซื้อผลไม้รถเข็นยืนข้างๆกันเมื่อเดือนก่อน เค้ามองมาเรายังไม่กล้าสบตาเค้าเลยค่ะ ขนหัวลุกใจเต้นแรง เหงื่อแตก มันไม่กล้ามองหน้าเค้านิคะ มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เราวิ่งเกือบทุกวันก็เจอเค้าเกือบทุกวัน ทุกครั้งที่วิ่งเสร็จเรามักจะยืดเส้นยืดสายที่สวนหย่อมข้างตึกก็จะเจอเค้าเดินผ่านเสมอ มีอยู่วันหนึ่งเราก็วิ่งปกตินะพอจะหยุดยืดเส้นยืดสายก็เจอเค้าโหนบาร์อยู่ตรงสวนหย่อมที่เราอยู่ประจำอะ เพราะปกติไม่เคยเห็นมาโหนบาร์เลยแต่วันนั้นดันมาโหนบาร์ซะงั้น สรุปคือวันนั้นเราไม่ยืดเส้นยืดสายละ กลับห้องเลยแถมวิ่งเผื่อไปอีกตั้ง 2 รอบรอว่าเมื่อไหร่เค้าจะโหนบาร์เสร็จ สรุปคือไม่เลิกซักที  ขาลากไม๊หล่ะชะนี เหมือนเด็กทำความผิดแล้วกลัวเลยเน๊อะ เคยคิดอยู่เหมือนกันค่ะว่าจะลอง ทำใจกล้าซื้อช็อคโกแลตแล้วลองทักเค้าก่อนว่า
“ นายครั้งหนึ่งเราเคยปิดประตูน้ำเซเว่นกระทบใส่หน้านายอะ เราขอโทษนะ” แล้วยื่นช็อคโกแลตให้ ยิ้มให้ทีหนึ่งแล้วเดินหนีไปเลยดีไม๊ หรือปล่อยให้เรื่องมันผ่านๆไปดี  นึกถึงเรื่องที่ทำกะเค้าบ่อยๆเข้าตอนนี้กลายเป็นหลอนแล้วค่ะ  หลอนตัวเองนึกถึงหน้าตอนที่นางจ้องด้วยดวงตาคู่นั้นโคตรรู้สึกผิดเลยค่ะ ตอนนั้นเราคงทำหน้ากวนโอ้ยเค้ามากๆแน่ ตอนนี้มีอย่างเดียวที่ยังไม่เก็บเอาไปฝันเท่านั้นเองเราคงวิ่งป่าราบT^T
หลังจากนั้นเป็นต้นมาก็แบบว่า เจอหน้ากันบ่อย ดันเผลอไปมีความรู้สึกแปลกๆกะเค้าซะงั้น ..ถามว่าชอบเค้าตั้งแต่เมื่อไหร่ อันนี้ไม่รู้เลย ครั้งแรกที่เจอ ก็ไม่ชอบหน้าเลยด้วยซ้ำมั้ง คือนางชอบมองหน้า ทำตาเล็กๆหยี๋ เหมือนไม่เป็นมิตรอะ เคยเจอกันตรงแถวฟิตเนต ในวันที่เราเดินไปร้านทำผมร้านประจำของเรา ร้านทำผมอยู่หน้าฟิตเนสค่ะ เราจะไปสระผมเตรียมตัวกลับบ้านนอกอะ เจอนางเดินถือขวดน้ำ มีผ้าขนหนูผืนเล็กพาดอยู่บนบ่าเดินมา วันนั้นแหล่ะมั้ง ที่ได้จ้องหน้ากันจังๆ แต่จำไม่ได้ว่าเจอกันก่อนหน้าที่ไปปิดประตูตู้น้ำเซเว่นใส่หน้าเค้าหรือหลัง แต่ก็อย่างว่าแหล่ะนะ ไม่ชอบขี้หน้า แต่ก็ดันบังเอิญเจอหน้ากันบ่อยเกินนน ก็เลยกลายเป็น อยากเจอ อยากคุย แต่ก็ไม่กล้าซะงั้น เพราะเราไม่สวยไง น้องคนขับรถที่บริษัทที่สนิทกัน มันมักจะบอกเราว่า “บางทีเจ้ก็ประเมินค่าตัวเองต่ำไปนะ หนุ่มที่บริษัทก็จีบเจ้เยอะแยะ ขนาดยามยังมาถามชื่อเฟสบุคเจ้จากผมเลย ผู้ชายคนอื่นยังชอบเจ้ได้ แล้วทำไมไอ้ตี๋มันถึงจะชอบเจ้ไม่ได้ ”  โคตรซึ้ง  แต่ก็ยังไม่กล้าอยู่ดี แฮ่ๆ
วันไหนไม่เจอก็มักจะไปบ่นเพ้อกับน้องคนขับรถตู้ ตลอดเลย น้องมันก็มักจะมองบนทำหน้าลำใย แล้วบอกว่า เห็นเจ้เพ้อมาเป็นเดือน สองเดือนละ ชอบเค้าก็ไปขอเบอร์เค้าขอไลน์เค้า มันคงรำคาญจริงๆ T^T เราก็มักจะทำเสียงอ่อนๆว่าแหมมแก ฉันก็บ่นก็เพ้อก็เล่าให้แกฟังคนเดียวป่าววะ แกก็เป็นคนเดียวที่รู้ว่าฉันชอบใครก็มีแกคนเดียวนะแหล่ะ
ชื่อไรก็ไม่รู้แต่เราตั้งชื่อให้เค้าเรียบร้อยแล้ว เรามักจะ เรียกนางว่า ตี๋ “ ตี๋ของเค้า ” ตี๋ของพี่ก็ว่ากันไป  เพราะหน้าตาดี ไม่ถึงกับดีมาก แต่ก็ไม่ขี้เหร่นะ ถามว่าสเป๊กไม๊ ไม่เลย คือเราชอบผู้ชายหน้าไทย ชายไทยแท้จมูกโด่งสูง  ส่วนตี๋ของเราเนี้ยไม่รู้ผ่าเหล่ามาได้ไง ชอบอยู่คนเดียวจริงๆนะ ตี๋ตัวสูงๆไม่อ้วนไม่ผอม รูปร่างดี เพราะชอบเข้าฟิตเนสดูแลตัวเองสินะ แต่ขี้เก๊กไปหน่อย *8* แต่เราชอบเปรียบตี๋เป็นคุณชายจุฑาเทพ ส่วนเราเป็นหมาปอมเมอร์เรเนียน ฮ่าๆๆเพราะเราหัวฟูๆหน่อย ๆ
“ เฮ้ยยแก ตี๋ของพี่มายังวะ” ?   ถ้าวันไหนต้องมารอรถแล้วไม่เจอนาง ก็มักจะถามน้องคนขับรถที่บริษัทเสมอ ซึ่งตอนนี้กลายเป็นประโยคติดปากไปซะแล้ว คือด้วยความที่สนิทกันกับไอ้น้องคนขับรถมากๆมาขึ้นรถสายประจำ น้องมันก็มักจะมาจอดรอเราขึ้นรถเสมอ เช้ามั่งสายมั่ง แล้วแต่ ปกติจะสายแฮ่ๆ น้องคนขับรถมันชอบบ่น... คุณนายสายตลอด.. เรา ขึ้นรถบริษัทไปทำงาน 06.10 ไง แต่ตี๋ ขึ้นรถช้ากว่าเราหน่อยหนึ่ง ประมาณ 06.20 ได้มั้ง  
ไอ้น้องคนขับรถ  มันก็มักจะพูดกวนเสมอ มีเมียมั่งหล่ะ เป็นเกย์มั่งหล่ะ ยืนคุยกะสาวมั่งแหล่ะ อินี่ก็พาลเกลียดเค้าห้ามมาคุยมายิ้มกับตี๋ของฉันนะ บางวันน้องคนขับรถก็มักจะบอกว่า
“  ไอ้ตี๋พี่เหรอวิ่งหัวเปียกหัวตั้งขึ้นรถไปละ สองคนนิเหมือนกันเลยนะ ตื่นสายกันทั้งคู่ วิ่งหน้าตั้งหัวฟูหัวเปียกกันทั้งคู่ ”  มันชอบบ่นแล้วก็หัวเราะ “ นึกสภาพไม่ออกว่า ถ้าเจ้กับไอ้ตี๋ของเจ้ ได้คบกัน ได้อยู่ด้วยกัน คงพากันตื่นสายหัวเปียกหัวฟูพากันมาขึ้น รถแน่” ..ก็บ่นก็ว่ากันไป
“แกต้องเข้าใจนะว่าฉัน ต้องได้เจอตี๋ของฉันทุกเช้าไม่งั้นฉันไม่มีกระจิตกระใจทำงานโว้ยย ”

    วันดีคืนดีเดินไปเจอเสื้อพนักงานของเค้าสีฟ้าตากอยู่ตรงระเบียงที่ตึก B6  ก็มักจะเอามาเมาส์กับน้องมัน  
“แกฉันรู้ละ ว่าตี๋ของฉันนางอยู่ชั้นไหน ฉันไปเจอเสื้อนางตากอยู่ อยู่ชั้น 4 ชั้น5 นี่แหล่ะ ชั้นเดียวกับฉันเลยนะแก เค้าต้องอยู่ชั้นเดียวกะฉัน ฉันไปยืนนับชั้นของตึกมา” ดูเพ้อถึงขั้นนี้แล้วนะ มี แอบโรคจิตเล็กน้อยด้วยฮ่าๆๆ
น้องมันชอบบอกว่าเพ้ออีกละ เมื่อวานยังบอกว่าจะตัดใจอยู่เลย สรุปจะยังไง ถ้าชอบเค้าก็ใจกล้าๆหน่อย ถ้าเจ้คุยอะ ไม่มีใครไม่ชอบเจ้หรอก ขนาดอะไรนะ ไอ้น้องที่บริษัทอะ ที่เจ้เดินไปเตือนน้องมันเรื่องเหยียบส้นรองเท้าที่ว่า เหยียบส้นรองเท้าระวังด้วยถ้าเจอคนญี่ปุ่น เค้าจะให้ใบเตือนนะ เป็นไง หลงเจ้หัวปักหัวปำ  อย่าอคติกับตัวเองเลย เชื่อผม มันชอบยุให้ไปขอเบอร์เค้าแต่จนถึงตอนนี้  ไม่มีอะไรคืบหน้าเลย เราก็มัวแต่อายใจไม่ด้านพออยู่นี่แหล่ะ เราคงดีแต่ปากเหมือนน้องมันว่าจริงๆ
อีกเรื่องหนึ่ง ตอนนั้นที่เราไม่ลงไปวิ่งอะ เพราะมี เหตุผลนะ ก็คงเป็นเพราะว่า มีอยู่วันหนึ่งที่เราไปวิ่งเราบังเอิญไปเจอ เค้าขับมอไซด์ไปรับผู้หญิงคนหนึ่ง อีกตึกหนึ่งอะ ขับรถสวนมาตอนเราวิ่งพอดี ไม่กล้ามอง หัวใจแตกสลาย เราเป็นเอามากนะช่วงนั้น กินไม่ได้นอนไม่หลับน้ำหนักไม่ยักกะลด  ฮ่าๆๆ เดาเอาคงเป็นแฟน  เราเล่าเว่อร์ไปนิสสสสไม่ถึงขั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับหรอก แค่นอยส์นิสนุงงงเท่านั้นเอง
เราจะตัดใจจากเธอละนะตี๋  แต่เธอคงห้ามให้เราบ่นๆคิดถึงเธอไม่ได้หรอก เราคงคิดถึงหน้าเธอไปอีกนานแสนนานเลยหล่ะ ต่อให้พี่ๆที่บริษัทจะเป็นแม่สื่อแม่ชักแนะนำใครต่อใครเข้ามาจีบเราก็ตาม แต่เราก็จะมองแค่ตี๋คนเดียว เรามักจะบอกพี่ๆเสมอว่าอย่าแนะนำใครให้หนูเลย หนูมีคนที่ชอบอยู่แล้ว หนูรักเดียวใจเดียวนะเว้ยเฮ้ย รักตี๋นะ อิอิ
  แต่ตอนนี้เราอ้วนขึ้นมาก เราจะกลับมาวิ่งละหล่ะ แต่เราจะไม่วิ่งเวลาเดียวกับเธอแล้วนะจะบอกว่าตอนนี้เรามักจะแอบมาวิ่งดึกๆเลย หลังจากวิ่งเสร็จเราก็ไม่แวะไปซื้อน้ำผลไม้ปั่นแถวหน้าคอนโดอีกแล้วด้วย เพราะเรามักจะเจอเธอไปนั่งกินข้าวหรือไม่ก็ เจอเธอ เข้าเซเว่นใต้ตึกเราประจำเลย เวลาเดิมเปะ เดียวเจอเธอบ่อยๆก็จะฟุ้งซ่านอีก แต่ก็มักเห็นเธอนั่งกินข้าวอยู่คนเดียวตลอดเลยนะ ไม่ยักกะมีสาวๆมานั่งกินข้าวด้วยเลย แฟนเธอคงเข้ากะดึก ฉันคิดเองเออเองอีกแล้วT^T
เอาเป็นว่า ถ้าตี๋ของเค้า เป็นสมาชิกพันทิพอะนะ ถ้าวันไหนได้เข้ามาอ่าน
เราอยากจะบอกว่า เราขอโทษนะ เราไม่ได้ตั้งใจ และถ้าวันไหน เจอหน้าเรา ไม่ต้องทำหน้าดุ ตาดุขนาดนั้นใส่เราก็ได้ จ้องแบบนี้ยิ้มให้เรามั่งก็ได้ เราสำนึกผิดแล้วหล่ะ ขอโทษอย่างแรงงงเว่อร์ ที่ปิดประตูตู้น้ำกระทบนาย แล้วยังไม่ขอโทษนายอีก พอดีเรามือหนักอะ เป็นนักกีฬา ชอบตีแบดเตะบอล ตีวอลเล่ย์เล่นบาส ด้วย  บางทีกะอยากยิ้มให้อยู่หรอกนะ แต่กลัวนายไม่ยิ้มตอบอะ เรากลัวเสียเซล์  
ชีวิตของเราก็ยังคงดำเนินต่อไป ยังอยู่คนเดียว  ยังคงชอบตี๋อยู่ทุกวัน  ยังอยากเจอหน้าตี๋อยู่ทุกวัน  นอกจากแวนเนส  F4 ที่เราชอบ  ก็มีตี๋ของเค้านี่แหล่ะ ที่เราชอบที่สุด บ้าเน๊อะ
และอยากจะขอบคุณ ที่ทำให้เราอยากจะตื่นแต่เช้าไปทำงาน
ตื่นเช้า เพื่อที่จะไปรอเจอตี๋ทุกวัน ขอบคุณนะตี๋ของเค้า
ขอบคุณจริงๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่