สนพ. ได้ร่วมจัดบูธนิทรรศการแสดงนวัตกรรม “บ้านประหยัดพลังงาน บ้านแห่งอนาคต” ยกระดับให้เป็นบ้านอยู่อาศัยเข้าสู่ยุค Energy 4.0 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “บ้านหาร 2 บ้านแห่งอนาคต” (Smart Home Smart Saving) ในงานบ้านและสวนแฟร์ 2017 ในระหว่างวันที่ 27 ตุลาคม – 5 พฤศจิกายน 2560 ณ บริเวณหน้าชาเลนเจอร์ 2 อิมแพค เมืองทองธานี ที่ผ่านมา
ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า เป้าหมายแผนอนุรักษ์พลังงาน (EEP 2015) ลดความเข้มการใช้พลังงานลงร้อยละ 30 ในปี พ.ศ.2579 และเพื่อเป็นการให้ความรู้เรื่องเทคโนโลยีการประหยัดพลังงานแก่ประชาชน สนพ. จึงได้เข้าร่วมจัดบูธนิทรรศการ “บ้านหาร 2 บ้านแห่งอนาคต” (Smart Home Smart Saving) ในงานบ้านและสวนแฟร์ 2017 ที่จัดระหว่างวันที่ 27 ตุลาคม – 5 พฤศจิกายน 2560 ณ บริเวณหน้าชาเลนเจอร์ 2 อิมแพค เมืองทองธานีที่ผ่านมา นิทรรศการในบูธประกอบไปด้วย 3 โซน
โซนที่ 1 Smart Energy Management System เป็นการนำระบบเทคโนโลยีมาช่วยบริหารจัดการความต้องการไฟฟ้าของผู้ใช้ ในช่วงเวลาต่างๆ หรือเพื่อลดความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (Peak) ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการจัดการวิกฤตและเสริมความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้า โดยที่ผ่านมาได้มีโครงการวิจัยนำร่องใน 100 ครัวเรือน เรียกว่า DR100 ซึ่งหลักการทำงานของ DR100 จะทำงานผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตซึ่งได้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่ติดตั้งไว้ภายในบ้าน และสั่งงานด้วยแท็บเล็ตซึ่งมีหน้าที่แสดงผลการใช้ไฟฟ้าที่ผู้ใช้สามารถทราบข้อมูลการใช้ไฟฟ้า และตั้งค่าการใช้งานได้ตามความต้องการ ซึ่งจะสามารถช่วยแสดงให้เจ้าของบ้านทราบว่าคุณใช้ไฟฟ้าไปแล้วกี่หน่วย ทำให้ทราบค่าไฟพีคที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือนได้ และสามารถกำหนดโควตาการใช้ไฟฟ้าที่ต้องการในแต่ละเดือน และมีระบบการแจ้งเตือนใน Facebook Messenger เมื่อถึงกำหนดของโควตาที่ตั้งไว้
โซนที่ 2 Smart Solar Rooftop การผลิตไฟฟ้าบนหลังคาบ้าน เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการผลิตไฟฟ้าใช้เอง ซึ่งจะช่วยลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าในแต่ละเดือนแล้วยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
โซนที่ 3 Smart NO. 5 มุ่งเน้นให้ความรู้และส่งเสริมให้ประชาชนเปลี่ยนมาใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าประหยัดไฟเบอร์ 5 ที่มีประสิทธิภาพสูงในการประหยัดพลังงาน ซึ่งจะช่วยประหยัดได้อย่างแท้จริง และคุ้มค่าต่อการใช้งานระยะยาว ซึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้รับฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 คือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพการประหยัดพลังที่ได้มาตราฐานตามที่ กฟผ. และกระทรวงพลังงานกำหนด โดยฉลากประหยัดไฟจะมีระดับความประหยัดตั้งแต่เบอร์ 1 ถึงเบอร์ 5 ซึ่งคือระดับที่ประหยัดไฟมากที่สุด
สุดท้ายคือมุม
e TukTuk และเป็นมุมที่ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันกระทรวงพลังงานได้มีมาตรการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อเพิ่มทางเลือกการใช้พลังงาน โดยนำร่องการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในกลุ่มรถสาธารณะ ลดการพึ่งพาน้ำมันเชื้อเพลิงและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยจะมีการนำร่องจำนวน 100 คันแรกภายในปี 2561 ทั้งยังมีการเตรียมความพร้อมรองรับการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต ทั้งด้านกฎหมาย การสนับสนุนการวิจัยเรื่องแบตเตอรี่ การเตรียมความพร้อมด้านสถานี Charging Station สนพ. ได้สนับสนุนการลงทุนสถานีอัดประจุไฟฟ้า (Charging Station) ซึ่งปีนี้จะมีสถานีอัดประจุไฟฟ้าที่ได้รับการสนับสนุนทั้งสิ้น 101 สถานี
จะเห็นได้ว่ากระแสของการ ประหยัดพลังงาน ในรูปแบบต่างๆ ประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก จะเห็นได้จากยอดการเข้าชมบูธในแต่ละวัน ซึ่งกลุ่มที่เข้ามาชมส่วนใหญ่ มีทั้งมาเป็นครอบครัว พ่อบ้าน แม่บ้าน แม้แต่นักศึกษา ซึ่งเป็นกลุ่มคนทุกเพศทุกวัย อย่างไรก็ตามจริงๆ แล้ว สำหรับการประหยัดนั้น เป็นเรื่องที่พวกเราทุกคนควรจะร่วมมือกันทำเป็นปกติอยู่แล้วในทุกๆ วัน ไม่ใช่เพียงการประหยัดแค่เฉพาะช่วงที่เกิดเหตุฉุกเฉิน เพราะว่าการประหยัดพลังงานนอกจากจะเป็นการช่วยชาติแล้ว ยังช่วยรักษาเงินในกระเป๋าของเราอีกด้วย
เพื่อให้สอดคล้องยุคสังคมดิจิตอล การกลับมาปลุกกระแสการประหยัดพลังงาน สนพ. เปิดช่องทางการสื่อสาร สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องของการประหยัดพลังงาน ไว้ครบทุกมิติ ทั้ง Facebook Instagram Website Twitter รวมพลังหาร2
สนพ.จัดบูธบ้านหาร 2 ชูนวัตกรรมบ้านประหยัดพลังงาน
สนพ. ได้ร่วมจัดบูธนิทรรศการแสดงนวัตกรรม “บ้านประหยัดพลังงาน บ้านแห่งอนาคต” ยกระดับให้เป็นบ้านอยู่อาศัยเข้าสู่ยุค Energy 4.0 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “บ้านหาร 2 บ้านแห่งอนาคต” (Smart Home Smart Saving) ในงานบ้านและสวนแฟร์ 2017 ในระหว่างวันที่ 27 ตุลาคม – 5 พฤศจิกายน 2560 ณ บริเวณหน้าชาเลนเจอร์ 2 อิมแพค เมืองทองธานี ที่ผ่านมา
ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า เป้าหมายแผนอนุรักษ์พลังงาน (EEP 2015) ลดความเข้มการใช้พลังงานลงร้อยละ 30 ในปี พ.ศ.2579 และเพื่อเป็นการให้ความรู้เรื่องเทคโนโลยีการประหยัดพลังงานแก่ประชาชน สนพ. จึงได้เข้าร่วมจัดบูธนิทรรศการ “บ้านหาร 2 บ้านแห่งอนาคต” (Smart Home Smart Saving) ในงานบ้านและสวนแฟร์ 2017 ที่จัดระหว่างวันที่ 27 ตุลาคม – 5 พฤศจิกายน 2560 ณ บริเวณหน้าชาเลนเจอร์ 2 อิมแพค เมืองทองธานีที่ผ่านมา นิทรรศการในบูธประกอบไปด้วย 3 โซน
โซนที่ 1 Smart Energy Management System เป็นการนำระบบเทคโนโลยีมาช่วยบริหารจัดการความต้องการไฟฟ้าของผู้ใช้ ในช่วงเวลาต่างๆ หรือเพื่อลดความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (Peak) ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการจัดการวิกฤตและเสริมความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้า โดยที่ผ่านมาได้มีโครงการวิจัยนำร่องใน 100 ครัวเรือน เรียกว่า DR100 ซึ่งหลักการทำงานของ DR100 จะทำงานผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตซึ่งได้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่ติดตั้งไว้ภายในบ้าน และสั่งงานด้วยแท็บเล็ตซึ่งมีหน้าที่แสดงผลการใช้ไฟฟ้าที่ผู้ใช้สามารถทราบข้อมูลการใช้ไฟฟ้า และตั้งค่าการใช้งานได้ตามความต้องการ ซึ่งจะสามารถช่วยแสดงให้เจ้าของบ้านทราบว่าคุณใช้ไฟฟ้าไปแล้วกี่หน่วย ทำให้ทราบค่าไฟพีคที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือนได้ และสามารถกำหนดโควตาการใช้ไฟฟ้าที่ต้องการในแต่ละเดือน และมีระบบการแจ้งเตือนใน Facebook Messenger เมื่อถึงกำหนดของโควตาที่ตั้งไว้
โซนที่ 2 Smart Solar Rooftop การผลิตไฟฟ้าบนหลังคาบ้าน เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการผลิตไฟฟ้าใช้เอง ซึ่งจะช่วยลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าในแต่ละเดือนแล้วยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
โซนที่ 3 Smart NO. 5 มุ่งเน้นให้ความรู้และส่งเสริมให้ประชาชนเปลี่ยนมาใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าประหยัดไฟเบอร์ 5 ที่มีประสิทธิภาพสูงในการประหยัดพลังงาน ซึ่งจะช่วยประหยัดได้อย่างแท้จริง และคุ้มค่าต่อการใช้งานระยะยาว ซึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้รับฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 คือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพการประหยัดพลังที่ได้มาตราฐานตามที่ กฟผ. และกระทรวงพลังงานกำหนด โดยฉลากประหยัดไฟจะมีระดับความประหยัดตั้งแต่เบอร์ 1 ถึงเบอร์ 5 ซึ่งคือระดับที่ประหยัดไฟมากที่สุด
สุดท้ายคือมุม e TukTuk และเป็นมุมที่ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันกระทรวงพลังงานได้มีมาตรการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อเพิ่มทางเลือกการใช้พลังงาน โดยนำร่องการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในกลุ่มรถสาธารณะ ลดการพึ่งพาน้ำมันเชื้อเพลิงและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยจะมีการนำร่องจำนวน 100 คันแรกภายในปี 2561 ทั้งยังมีการเตรียมความพร้อมรองรับการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต ทั้งด้านกฎหมาย การสนับสนุนการวิจัยเรื่องแบตเตอรี่ การเตรียมความพร้อมด้านสถานี Charging Station สนพ. ได้สนับสนุนการลงทุนสถานีอัดประจุไฟฟ้า (Charging Station) ซึ่งปีนี้จะมีสถานีอัดประจุไฟฟ้าที่ได้รับการสนับสนุนทั้งสิ้น 101 สถานี
จะเห็นได้ว่ากระแสของการ ประหยัดพลังงาน ในรูปแบบต่างๆ ประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก จะเห็นได้จากยอดการเข้าชมบูธในแต่ละวัน ซึ่งกลุ่มที่เข้ามาชมส่วนใหญ่ มีทั้งมาเป็นครอบครัว พ่อบ้าน แม่บ้าน แม้แต่นักศึกษา ซึ่งเป็นกลุ่มคนทุกเพศทุกวัย อย่างไรก็ตามจริงๆ แล้ว สำหรับการประหยัดนั้น เป็นเรื่องที่พวกเราทุกคนควรจะร่วมมือกันทำเป็นปกติอยู่แล้วในทุกๆ วัน ไม่ใช่เพียงการประหยัดแค่เฉพาะช่วงที่เกิดเหตุฉุกเฉิน เพราะว่าการประหยัดพลังงานนอกจากจะเป็นการช่วยชาติแล้ว ยังช่วยรักษาเงินในกระเป๋าของเราอีกด้วย
เพื่อให้สอดคล้องยุคสังคมดิจิตอล การกลับมาปลุกกระแสการประหยัดพลังงาน สนพ. เปิดช่องทางการสื่อสาร สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องของการประหยัดพลังงาน ไว้ครบทุกมิติ ทั้ง Facebook Instagram Website Twitter รวมพลังหาร2