เที่ยวรัสเซีย ด้วยตนเอง ชมใบไม้ร่วง 2017 Part 2

กลับมาตามคำสัญญา แม้ว่ากระทู้ที่แล้วจะเงียบเหงาตบยุงกันไปหน่อย แห่ะๆ แต่คิดว่ารีวิวของเราน่าจะมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อไปสำหรับผู้ที่จะไปเที่ยวรัสเซียด้วยตนเอง ดังนั้นมาต่อกันเลยดีกว่าค่ะ

กระทู้แรก
https://ppantip.com/topic/37040518

Part 2
Day 5 – Moscow – Vladimir – Suzdal
ตามที่เกริ่นไว้ในกระทู้ที่แล้วว่ากระทู้นี้จะพาเที่ยวต่างจังหวัดของรัสเซียกันบ้าง เมืองที่จะไปชื่อเมืองซุลดัลค่ะ ด้วยความที่เราชอบสรรหาเมืองในรัสเซียเที่ยวอยู่แล้ว และเห็นรูปสวยๆใน Instagram เลยตัดสินใจเลือกเมืองนี้ แต่ก็ต้องแลกกับความไม่สะดวกสบายในการเดินทางบ้าง เป็น back packer ของจริง เนื่องจากเมืองนี้ไม่มีสถานีรถไฟ ดังนั้นก็จะไม่มีรถไฟไปลง ต้องไปลงที่เมืองวลาดิเมียร์ก่อน แล้วต่อรถประจำทาง (รูปจากอินเตอร์เน็ต)

เรานั่ง Lastochka ซึ่งเป็นรถไฟด่วนจากมอสโคว์สู่นิซนี นอฟโกรอด แต่ว่าจอดที่เมืองวลาดิเมียร์ด้วย รถไฟมีหลายรอบตั้งแต่เช้าจรดเย็น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งก็ถึงวลาดิเมียร์ ออกตั้งแต่ 07.15 น. แต่ถ้าใครอยากประหยัดก็มีรถไฟแบบธรรมดา ซึ่งใช้เวลานานกว่าค่ะ

พอมาถึงสถานีรถไฟ ให้ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม เป็นสถานีขนส่งเล็กๆ ตอนเราไปทางเข้าติดถนนมันปิดเลยเดินเข้าอีกด้าน  ลองดูแผนที่ที่เราใส่ให้นะคะ จากเส้นเหลืองเดินข้ามถนนไปที่ Avtovokzal จะเป็นตัวอาคาร บอกเขาว่าไป Suzdal ค่ารถไปซุลดัสคนละ 95 รูเบิล ถ้าคุณได้ตั๋วที่มีหมายเลขที่นั่งแปลว่าจะได้นั่งแน่ๆ แต่ถ้าได้เลข 0 คือยืนไปนะคะ แต่ไม่ต้องกลัว หากมาไม่ทันก็ขอซื้อรอบถัดไป รถมีตลอดทั้งวัน ออกทุกๆครึ่งชั่วโมงค่ะ ใครมากันหลายคนลองเหมาแท็กซี่ดู ระยะทางจากวลาดิเมียร์ไปซุสดัลไม่ไกลมาก ประมาณ 26 กิโลเมตร

พอออกจากวลาดิเมียร์ เราก็เห็นบรรยากาศชนบทแบบรัสเซีย รูปแบบที่ไม่ค่อยมีใครนำมาเผยแพร่ ช่วงที่เราไปมีแดดสลับกับเมฆฝน ตอนแดดออกจะมองเห็นทุ่งหญ้าและใบไม้สีเหลืองของต้นเบิร์ชสองข้างทางสวยงามมากๆ นั่งเพลินๆไป 40-50 นาทีถึงซุลดัล

ซุลดัลเป็นเมืองเล็กๆทางเหนือของแคว้นวลาดิเมียร์ ในสมัยศตวรรษที่ 12 นั้นซุสดัลเคยเป็นเมืองที่อยู่ในเขตการปกครองของมอสโคว์ ปัจจุบันถือว่าเป็นเมืองที่เล็กที่สุดใน Russian Golden Ring towns  มีประชากรประมาณหมื่นกว่าคน และมีหลายสถานที่ที่ถูกขึ้นทะเบียนในฐานะมรดกโลกจาก UNESCO
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

รถจะไปจอดที่สถานีขนส่งประจำเมืองก่อน แต่เรายังไม่ต้องลงตรงนี้ คนขับจะให้จ่ายเงินเพิ่ม 17 รูเบิลเพื่อนั่งต่อไปเข้าใจกลางเมือง ทุกๆคนที่จะนั่งต่อไปต้องจ่ายเงิน อันที่จริงระยะทางจากสถานีขนส่งไปจตุรัสกลางเมืองแค่ 1.5 กิโลเมตรเท่านั้น แต่ความเหนื่อย เพลีย เราเลยเลือกขึ้นรถเมล์ และด้วยความเอ๋อ แทนที่จะนั่งรถเมล์ต่อแล้วไปลงป้ายใกล้ๆที่พัก เราดันลงมันตรงจตุรัสกลางเมือง อ้าว..ไม่รู้ route ของรถเมล์นี่นา เลยได้เดินอีก 1.2 กิโลเมตรจนถึงที่พัก

ที่พักชื่อว่า Tourist complex Art Hotel "Nicholas Posad"  เราจองที่พักกับอโกด้า คืนละ 4300 รูเบิลไม่รวมอาหารเช้า ค่าอาหารเช้าอีกคนละ 595 รูเบิล ราคาถือว่าแรงใช้ได้ ภาพที่ดูจากอโกด้าห้องกว้างขวาง พอมาถึงก็ประหลาดใจ อาจจะเพราะไม่ใช่ฤดูร้อน คนน้อย รีสอร์ทก็ใหญ่มาก reception อยู่ตึกด้านในสุด เราไปถึง 11 โมงทางโรงแรมอนุญาตให้ check-in เข้าห้องได้เลย ดีใจ ได้กำไรไป 3 ชั่วโมง
ชอบคีย์การ์ดเข้าห้อง ใส่ในพาสปอร์ตเล็กๆ น่ารักดี สภาพห้องก็สะอาดอ้านเหมือนในรูป ค่อนข้าง antique มากๆ ทั้งบรรยากาศโรงแรมและห้อง สมกับเมืองเก่าแก่อย่างซุสดัล

พักขาสักแป๊บ พอเที่ยงก็เดินไปรอรถเมล์ แต่รอนานมาก 20 นาทีแล้วไม่มีรถเมล์สักคัน ตอนนั้นอากาศก็เศร้าหมอง หดหู่ ใบไม้ร่วง ลมแรง เหงาไปหมด เครียดมากค่ะ กลัวไม่ได้กินข้าว 5555 เลยเปลี่ยนใจกินร้านตรงข้ามรีสอร์ท ชื่อร้าน огурец อ่านว่า อะ-กู-เรียท แปลว่า แตงกวาในภาษารัสเซีย ร้านนี้ดูใน tripadvisor เรตติ้งดีไม่น้อย รายการอาหารส่วนใหญ่เป็นอาหารรัสเซีย มีหลายเมนูเป็นรัสเซียเดิมที่ประยุกต์ให้เข้ากับลิ้นชาวต่างชาติ เมนูไม่มีรูปภาพแต่มีภาษาอังกฤษกำกับ ราคาค่อนข้างสูง

เราสั่งเนื้อสตากานอฟ หนึ่งในเมนูยอดนิยมที่มารัสเซียต้องลองกิน เนื้อวัวผัดกับครีมเปรี้ยว ปรุงรสให้เข้ากัน ทางร้านนำเห็ด หอมใหญ่และแตงกวาดองผัดลงไปด้วย มีมันบดวางรอง จัดจานสวยมากๆ รสชาติก็อร่อย ปริมาณเยอะ
อีกจานเป็นซี่โครงแกะชิ้นใหญ่เอาไปย่าง หอมมากๆ ซอสที่ให้มาจิ้มก็แก้เลี่ยนได้ดี
เครื่องดื่มที่ไม่ควรพลาดเลยทั้ง 2 อย่างคือน้ำแตงกวามะนาวโซดา อร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ
ชาร้อนแบบซุสดัล หอมมากๆค่ะ กลืนลงไปแล้วกลิ่นยังติดจมูกอยู่เลย

หลังจากได้อาหารอร่อยๆก็มีแรง เราขี้เกียจรอรถเมล์(ที่ไม่รู้จะมาเมื่อไหร่)เลยเดินตามแผนเที่ยวที่ตัวเองเขียนไว้ สรุปเดินรอบเมืองเป็นวงกลม โอ้โห...กล้ามขานี่เป็นมัดๆ wrist band ที่ใส่วัดระยะทางสั่นรัวๆจ้า

เมืองนี้เต็มไปด้วยโบสถ์แบบรัสเซียนออธอร์ดอกซ์ โบสถ์เยอะมากจริงๆ และไฮไลท์เด็ดๆนอกจากป้อมปราการ(เครมลิน)ประจำเมืองแล้วก็มีโบสถ์ไม้ เสียดายเราไม่ได้ตีตั๋วเข้าชมเพราะว่าทัวร์จีนมาลง แน่นมากๆ เราคิดว่าเข้าไปก็ถ่ายรูปไม่สวย เลยถ่ายแต่ด้านนอกแล้วเดินชมเมืองต่อค่ะ
บ้านเรือนก็ยังเป็นแบบเก่าๆอยู่ บางหลังทาสีใหม่ น่ารักสดใส เดินรอบเมืองแล้วถ้าในรูปไม่เห็นคนนี่ไม่ใช่เพราะว่าถ่ายหลบคนนะคะ แต่คนน้อยมากๆ ช่วงที่นักท่องเที่ยวจะมาเที่ยวมักเป็นฤดูใบไม้ผลิ-ฤดูร้อน เราดันมาช่วงที่มันโรยรา ใบไม้ก็ร่วงไปเยอะมากแล้ว เงียบเหงาพอสมควร

----------------------------------------------------------------------------
Day 6 – Suzdal – Vladimir – Moscow

ด้วยความที่กลัวจะไม่มีรถเมล์และตกรถไฟตอนบ่ายจึงรีบตื่นมากินข้าวเช้าที่โรงแรม รูปนี้เป็นวิวจากห้องนอน ก่อนพระอาทิตย์ขึ้นจะมืดครึ้มนิดหน่อย

อาหารเช้าจะมีบริกรมาแจ้งรายการอาหาร แล้วถามว่าเราเอาอะไรบ้าง(พูดภาษารัสเซียเท่านั้นค่ะ) เราก็แปลๆแล้วเลือกมา จริงๆเลือกไม่กี่อย่างแต่คุณบริกรสูงวัยใจดี ยกมาให้เกือบทุกอย่าง ตั้งแต่บลินนึย(แพนเค้กรัสเซีย) ไส้กรอก แฮม ชีส คาช่า(อาหารเช้าเหลวๆ คล้ายโจ๊กแบบรัสเซีย แปลให้เห็นภาพนะคะ) น้ำผึ้ง สุดท้ายนี่คือเด็ดมากๆ เพราะน้ำผึ้งและน้ำหมักข้าว(ควาส)เป็นสองผลิตภัณฑ์ที่นิยมซื้อไปเป็นของฝากจากเมืองนี้ น้ำผึ้งจะแตกต่างจากบ้านเรา คืออากาศเย็นก็จะเป็นไขๆ แต่ถ้าอากาศอุ่นก็จะเหลว อร่อยมากเลยค่ะ

เราเดินกลับไปรอรถเมล์ อากาศดีๆจริง แดดออก สดใส
เจอคุณป้ารัสเซียสองคนเลยถามเรื่องรถเมล์ ป้าบอกว่ามาแน่ๆแต่มันวิ่งวนเป็นวงกลมนะ พอรถมาอีกด้านก็วิ่งกลับไปขึ้นทันทีค่ะ เพราะกลัวว่ารอนานกว่าจะวนมาอีกที พอมาถึงสถานีขอส่งประจำเมือง ก็ไปซื้อตั๋วกลับวลาดิเมียร์

เรามาถึงวลาดิเมียร์เที่ยงพอดี ไม่รู้จะไปหาอะไรกิน เพราะแค่แวะมารอขึ้นรถไฟ ไม่ได้ทำการบ้านหาร้านอร่อย เหลือบไปเห็นร้านขายพวกหมูย่าง ชาชลึค(บาร์บีคิวแบบรัสเซีย)ฝั่งตรงข้ามบริเวณถนนเส้นหลักเลยแวะเข้าไป ราคาไม่แพงมาก ขายเป็นกรัม ขั้นต่ำที่ 250-300 กรัม มีเคบับด้วย ราคาทั้งหมดนี้แค่ 741 รูเบิลเท่านั้น อิ่มจนจุกเลยค่ะ

แน่นอนว่าท้องอิ่ม ก็ได้เดินชมเมืองกันต่อสักแป๊บก่อนจะขึ้นรถไฟกลับ เดินไปเรื่อยๆตามแผนที่ google maps ไปดูส่วนที่ยูเนสโก้แต่งตั้งให้เป็น The White Monuments of Vladimir and Suzdal มีบริเวณ Cathedral of Saint Demetrius ไปถึง Dormition Cathedral เราชมแต่เพียงภายนอก ไม่ได้เข้าไปข้างใน

ด้านหลัง Cathedral of Saint Demetrius จะเป็นลานชมวิว มีกล้องส่องทางไกลให้หยอดเหรียญ 10 รูเบิล ลองส่องดูก็สวยดี ถ้าเมฆไม่เยอะจะว้าวเลยค่ะ

** ตามต่อในคอมเม้นด้านล่างนะคะ **
v
v
v
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่